# เสาร์ 25 พ.ค. 2019หลังจากที่ตอนที่แล้วได้ไปชมซากหอดูดาวนิชชิงกังมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20190603เป้าหมายต่อไปคือ
ปราสาทวากามัตสึ (若松城) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อด้วยกัน นอกจากชื่อปราสาทวากามัตสึแล้ว ยังรู้จักกันดีในชื่อ
ปราสาททสึรุงะ (鶴ヶ城) ชื่อนี้ใช้ทั่วไปในแผนที่นำเที่ยวของเมือง และคนท้องถิ่นจะเรียกด้วยชื่อนี้มากกว่า
เพียงแต่ว่าปราสาทที่ชื่อทสึรุงะนั้นมีอยู่หลายแห่งในญี่ปุ่น ดังนั้นชื่ออย่างเป็นทางการที่ใช้เรียกคือปราสาทวากามัตสึ
นอกจากนี้ยังอาจเรียกว่า
ปราสาทไอซึวากามัตสึ (会津若松城) ตามชื่อเมืองในปัจจุบัน และยังมีชื่อเก่าอีกชื่อว่า
ปราสาทคุโรกาวะ (黒川城)ปราสาทนี้ถือว่าเป็นปราสาทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สูงถึง ๕ ชั้น และมีจุดเด่นคือหลังคาที่เป็นสีแดง ซึ่งเป็นสีที่ไม่ค่อยเจอในปราสาทอื่นในญี่ปุ่น
แต่เนื่องจากเมืองไอซึวากามัตสึนี้เป็นสมรภูมิของสงครามไอซึปี 1868 จึงโดนถล่มอย่างหนัก ปราสาทไอซึเองก็โดนโจมตีจนเสียหายหนักจนในที่สุดก็ต้องรื้อทิ้งหลังสิ้นสุดสงคราม
ส่วนปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่เลียนแบบของเก่า โดยสร้างในปี 1965 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ในตัวปราสาททำเป็นพิพิธภัณฑ์
การเข้าชมด้านในปราสาทต้องเสียค่าเข้าชม ๔๑๐ เยน และในบริเวณสวนรอบปราสาทมีห้องชงชา
ริงกากุ (麟閣) เป็นสถานที่อีกแห่งที่ต้องเสียค่าเข้าชม ค่าเข้าชมทั้งหมดถ้ารวมส่วนของห้องชงชาริงกากุด้วยก็จะเป็น ๕๑๐ เยน
แต่เนื่องจากในครั้งนี้เขาพามาชมเป็นพิเศษ จึงไม่ต้องจ่ายค่าเข้า ช่วยให้ประหยัดไปได้หน่อย
เมืองไอซึวากามัตสึได้ปรากฏเป็นฉากสำคัญในอนิเมะ
ฮากุโอวกิ (薄桜鬼) ภาค ๒ ตอนที่ ๗
ภาพปราสาทที่วาดไว้ในอนิเมะ ในภาพที่วาดนี้บริเวณทางด้านขวาของปราสาทจะเห็นว่ามีอาคารบ้านไม้อยู่ แต่ว่าในปัจจุบันตรงส่วนนี้เป็นที่โล่ง
เขาขับรถมาจอดที่ลานจอดรถที่อยู่ทางตะวันตกของปราสาท
แล้วก็เดินเข้ามาเรื่อยๆ เริ่มมองเห็นตัวหอหลักของปราสาท
ตรงนี้เป็นส่วนทางตอนใต้ของปราสาท เป็นทางเดินยาวอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างมีประตูให้ผ่านได้
ทางใต้สุดเป็นส่วนที่เรียกว่า
โฮชิอิยางุระ (干飯櫓)มองยอดปราสาทจากทางตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนนี่เป็นภาพมุมใกล้เคียงกันที่ปรากฏในอนิเมะ ดูแล้ววาดออกมาได้เหมือน
ทางเข้าอยู่ตรงนี้ เข้าไปชมด้านในได้
บริเวณส่วนใหญ่ด้านในปราสาทเป็นส่วนจัดแสดงซึ่งห้ามถ่ายรูป จึงไม่ได้ถ่ายไว้ แต่ก็มีบางส่วนที่ให้ถ่ายได้ ดังนั้นภาพที่จะลงนี้เป็นเฉพาะส่วนที่ถ่ายรูปได้เท่านั้น
ตรงนี้เป็นส่วนของชั้น ๓ ซึ่งแสดงประวัติในช่วงปลายยุคเอโดะ การพ้ายแพ้และร่นถอยทัพของกลุ่มรัฐบาลโชกุนซึ่งพ่ายแพ้กลุ่มปฏิวัติ ตั้งแต่ที่เกียวโต จนมาถึงไอซึ และถอยต่อจนไปจบลงที่ฮาโกดาเตะ
ทางซ้ายเป็นรูป
มัตสึไดระ คาตาโมริ (松平 容保, 1836-1893
) ผู้ครองไอซึฮังคนสุดท้าย เขายืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มรัฐบาลใหม่อยู่ที่ปราสาทจนถึงที่สุด
นี่คือภาพคาตาโมริที่ปรากฏในอนิเมะ โผล่มาแค่นิดเดียวตอนต้นตอนที่ ๗
มีบทพูดในอนิเมะว่า
"เราจะไม่มีวันทอดทิ้งไอซึอย่างเด็ดขาด จะขออยู่เคียงข้างทหารร่วมสู้กับพวกซัจโจวให้ถึงที่สุด" 余はこの会津では決して後には引かぬ。最後まで兵と共に薩長と戦い抜くภาพกลุ่มซามุไรเด็ก เบียกโกะไต ๑๙ คน ซึ่งอายุระหว่าง ๑๕ ถึง ๑๗ ปี ทุกคนคว้านท้องฆ่าตัวตายหลังแพ้สงครามไอซึ
ในสงครามไอซึปราสาทนี้ถูกโจมตีถล่มด้วยปืนใหญ่ติดต่อกันจนเสียหายย่อยยับ นี่เป็นภาพที่ถ่ายหลังสงคราม ก่อนที่จะต้องรื้อปราสาททิ้งเพราะง่ายกว่าการซ่อมแซม
จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบนสุด
ลองเทียบกับภาพด้านในปราสาทจากในอนิเมะ ตอนที่ไซโตว ฮาจิเมะมาเข้าเฝ้าคาตาโมริ
ทิวทัศน์รอบๆปราสาทที่มองเห็นจากชั้นบนสุด
ทางเดินยาวทางส่วนใต้ของปราสาท
มองไปแล้วเห็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมด้วย เห็นเขาบอกว่าหิมะบนยอดเขาจะอยู่ไปตลอดปีเพราะสูงมาก เช่นเดียวกับภูเขาฟุจิ
ต่อมามีร้านขายของที่ระลึกในปราสาท
เจอภาพจากฮากุโอวกิติดอยู่ในร้านด้วย
อันนี้เป็นคุกกีที่ใส่ในกล่องรูปปราสาท ชื่อว่า 鶴ヶ城を観光してきました = "ไปเที่ยวชมปราสาททสึรุงะมาแล้วจ้ะ" ราคา ๕๔๐ เยน ดูสวยดีเลยซื้อกลับไปเป็นของฝาก
ส่วนนี่เป็นมันจู
ไอซึมันจู (會津饅頭) ดูเหมือนจะเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ เลยซื้อกลับไปเป็นของฝากให้คนที่ห้องทำงาน ราคา ๑๐๘๐ เยน
รวมแล้วจ่ายไป ๑๖๒๐ เยน นี่น่าจะเป็นการซื้อของฝากที่แพงที่สุดครั้งนึง
ถัดจากร้านขายของ เดินลึกต่อเข้ามาด้านใน เป็นบริเวณที่ห้ามใส่รองเท้าเข้าไป ต้องถอดแล้วถือเดิน
เดินเข้าไปเป็นทางเดินยาว ซึ่งจะเห็นว่าที่ผนังมีรู เอาไว้สำหรับมองข้าศึก และยิงปืนผ่านรูได้
ส่วนตรงนี้มีช่องที่ใช้โยนหินเพื่อโจมตีศัตรูที่ปีนขึ้นมา
ชั้นบนตรงนี้ไม่ให้ขึ้น
ส่วนตรงนี้เป็นวีดีโอแนะนำตัวปราสาทและตัวเมืองนี้ในอดีต
ในปราสาทก็หมดเท่านี้ ต่อมาก็ไปชมห้องชงชาริงกากุที่อยู่ทางตะวันออกของปราสาท
อาคารห้องชมชาเป็นอาคารเล็กๆ ประตูก็เตี้ย เห็นเขาบอกว่าประตูถูกทำให้เล็กเพื่อคนจะได้ต้องก้มเวลาจะเข้าไป เป็นการให้ความเคารพต่อสถานที่ไปในตัว
ส่วนรอบอาคารเป็นสวนสวยดี
จากนั้นเดินมาทางตะวันออก เป็นซากปราสาทส่วนที่เรียกว่า
จัตสึโบะยางุระ (茶壺櫓) หรือยางุระกาน้ำ
มองไปทางเหนือเห็น
สะพานโรวกะ (廊下橋)มองดูปราสาทจากมุมนี้ จะเห็นทั้งส่วนยอด และส่วนทางเดินยาวที่ยื่นไปทางใต้
จากนั้นก็หมดเท่านี้ เราใช้เวลาไปสองชั่วโมงกว่าในการชมที่นี่ทั้งหมด ต่อมาเขาก็พาเราดินกลับไปยังที่จอดรถ ระหว่างทางผ่านปราสาทก็ถ่ายตัวปราสาทเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไป
สุดท้ายยังเหลือสถานที่เที่ยวอีกแห่งที่จะแวะไปในวันนี้ คือ
สุสานตระกูลมัตสึไดระ (松平家墓所) จะเขียนถึงต่อในตอนต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20190606