# อาทิตย์ 26 พ.ค. 2019เที่ยว
เขาอีโมริ (飯盛山) ต่อจากตอนที่แล้วที่ไปชมซาซาเอะโดวมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20190607ที่หมายต่อไปคือ
สุสานของเบียกโกะไตสิบเก้านาย (白虎隊士十九士の墓)เบียกโกะไต (
白虎隊) แปลว่า "กองกำลังเสือขาว" เป็นชื่อเรียกกลุ่มซามุไรรุ่นเยาว์ของไอซึฮังในสงครามไอซึเมื่อปี 1868
ในสงครามไอซึครั้งนั้น ไอซึฮังได้แบ่งกองกำลังเป็นกลุ่มต่างๆตามอายุดังนี้
เบียกโกะไต (
白虎隊) "กองกำลังเสือขาว" ๑๖-๑๗ ปี
สึซากุไต (
朱雀隊) "กองกำลังหงส์แดง" ๑๘-๓๕ ปี
เซย์ริวไต (
青龍隊) "กองกำลังมังกรฟ้า" ๓๖-๔๙ ปี
เกมบุไต (
玄武隊) "กองกำลังเต่าดำ" ๕๐-๕๖ ปี
เดิมทีกลุ่มเบียกโกะไตจะเกณฑ์คนที่อายุ ๑๖-๑๗ ปีเข้ามา แต่ก็มีเด็กบางคนที่อายุไม่ถึงแต่ก็ปลอมอายุตัวเองเพราะอยากร่วมรบ ดังนั้นมีสมาชิกบางส่วนที่อายุแค่ ๑๕ ปีเท่านั้น
สงครามไอซึจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของไอซึฮัง ในตอนนั้นสมาชิกกลุ่มเบียกโกะไตจำนวนหนึ่งได้ตัดสินใจทำการคว้านท้องจบชีวิตตัวเองเพื่อรักษาเกียรติของนักรบซามุไร ดีกว่าที่จะยอมอยู่อับอายอย่างผู้พ่ายแพ้
แต่ในกลุ่มที่คว้านท้องก็มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ถึงตายแต่รอดมาได้ คือ อีนุมุ ซาดากิจิ (
飯沼 貞吉, 1854-1931) เขาแทงเข้าที่คอ แต่ก็แค่ปางตายและมีคนช่วยไว้ สุดท้ายก็มีชีวิตรอดยืนยาวอยู่จนตายตอนแก่
สถานที่คว้านท้องคือบนเขาอีโมริ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมือง เป็นที่ตั้งสุสานของคนเมืองนี้ และเป็นจุดที่มองลงไปเห็นตัวเมืองได้ดี
ศพของเบียกโกะไตได้ถูกนำไปฝังไว้ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาทำการคว้านท้อง ทุกวันนี้มีผู้คนมากมายมาเยี่ยมเยือนเพื่อระลึกถึงพวกเขา
ที่ฝังศพของเบียกโกะไตนั้นอยู่ไม่ไกลจากซาซาเอะโดว หลังชมซาซาเอะโดวเสร็จเราก็เดินต่อลึกเข้าไปบนเขา
ระหว่างทางมีจุดที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์ถนนในตัวเมืองข้างล่างได้เป็นมุมเหมาะดี
ถึงบริเวณสุสานของเบียกโกะไต
ป้ายชื่อที่มีชื่อของสมาชิกเบียกโกะไตแต่ละคนไว้
ตรงนี้เป็นป้ายที่ทางอิตาลีมอบให้ตั้งแต่ปี 1928 เขียนคำสดุดีเป็นภาษาอิตาลี
ส่วนนี่คือแผ่นป้ายสลักภาษาเยอรมัน ทำขึ้นในปี 1935 เมื่อนักการทูตชาวเยอรมัน ฮัสโซ ฟอน เอตซ์ดอร์ฟ (Hasso von Etzdorf) ได้มาเยือน
เดินต่อไปจะเข้าสู่บริเวณที่พวกเบียกโกะไตทำการคว้านท้อง
คือแถวบริเวณนี้ เป็นย่านสุสานทั่วไป
จากตรงย่านสุสานนี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดี มองลงไปเห็นตัวเมือง กลุ่มเบียกโกะไตเองในตอนนั้นก็ได้มองตัวเมืองจากตรงนี้แล้วเห็นสภาพที่ถูกเผาทำลายก่อนที่จะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง
จากตรงนี้มีทางให้เดินลงไป คนละทางกับที่เดินมา
เราเดินลงผ่านทางเส้นทางนี้
แล้วก็ย้อนกลับมาถึงตรงหอที่ระลึกเบียกโกะไต (
白虎隊記念館) ซึ่งเดินผ่านมาตอนแรกสุด ตอนนี้ที่นี่เปิดแล้ว เราจึงเข้าไปชม ค่าเข้าชม ๔๐๐ เยน
รายละเอียดเกี่ยวกับที่นี่
http://www.byakkokinen.comอย่างไรก็ตาม ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ จึงไม่ได้เก็บภาพใดๆในนี้เลย
เนื้อหาภายในจัดแสดงเกี่ยวกับเบียกโกะไต มีพูดถึงนิชชิงกัง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำฮังที่พวกเบียกโกะไตเรียนจบมาด้วย มีรูปวาดแสดงการใช้ชีวิตของนักเรียนที่เรียนอยู่ในนิชชิงกังซึ่งรวมถึงส่วนของหอดูดาว แสดงฉากที่มีการใช้ลูกททรงกลมท้องฟ้าทำการสังเกตการณ์ท้องฟ้าอยู่
น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูป และเราค่อนข้างจะเร่ง ต้องรีบกลับไปยังสถานีรถไฟเพื่อให้ทันเที่ยวรถไฟที่จะนั่งไปยังที่หมายต่อไป ทำให้เก็บรายละเอียดไม่ได้มาก
เพียงแต่ว่ามีแผ่นพับที่ได้มาจากที่นั่น มีแสดงของที่จัดแสดงในนั้นไว้
แล้วก็ตั๋วเข้าชม มีภาพวาดแสดงส่วนหนึ่งของส่วนจัดแสดงที่นี่ บรรยากาศก็เป็นไปตามในภาพนี้เลย
หลังจากชมภายในหอที่ระลึกเสร็จเราก็รีบเดินกลับตามเส้นทางเดินมายังสถานีรถไฟไอซึ
เป้าหมายต่อไปคือไอซึฮังโกวนิชชิงกัง คือโรงเรียนประจำไอซึฮังที่ถูกสร้างจำลองขึ้นมาใหม่ อยู่ค่อนข้างไกลจึงต้องนั่งรถไฟไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20190618