# เสาร์ 25 พ.ย. 2023เล่าเรื่องเที่ยวฮกไกโดต่อวันที่ ๓ ต่อจากที่จบวันที่ ๒ ไปท่ามกลางหิมะ
https://phyblas.hinaboshi.com/20231209วันนี้ได้เวลาเดินทางออกจากโอตารุเพื่อไปยังซัปโปโระ และ ๒ คืนที่เหลือจะค้างที่ซัปโปโระและเที่ยวในซัปโปโระเป็นหลัก
การเดินทางระหว่างเมืองโอตารุกับเมืองซัปโปโระนั้นมีรถไฟสะดวกมาก โดยนั่งไปตาม
สายหลักฮาโกดาเตะ (
函館本線) ระหว่างสถานีหลักของทั้ง ๒ เมืองนี้คือ
สถานีโอตารุ (
小樽駅) และ
สถานีซัปโปโระ (
札幌駅) นั้นระยะทาง ๓๓.๘ กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๔๐ นาที
สายหลักฮาโกดาเตะนั้นเป็นเส้นทางรถไฟสายยาวที่เชื่อมระหว่าง
สถานีฮาโกดาเตะ (
函館駅)
เมืองฮาโกดาเตะ (
函館市) ที่อยู่ทางใต้ของเกาะฮกไกโด และ
สถานีอาซาฮิกาวะ (
旭川駅)
เมืองอาซาฮิกาวะ (
旭川市) ที่อยู่ทางเหนือของฮกไกโด โดยระหว่างทางนั้นผ่านเมืองโอตารุและซัปโปโระ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีรถไฟที่วิ่งยาวจากฮาโกดาเตะไปถึงอาซาฮิกาวะอยู่จริงๆ เราไม่สามารถเดินทางจากโอตารุไปยังฮาโกดาเตะด้วยเส้นทางสายนี้ และรถไฟที่วิ่งระหว่างซัปโปโระกับฮาโกดาเตะก็ไม่ได้ใช้เส้นทางนี้เป็นหลัก แต่มีเส้นทางสายอื่นที่ใช้เป็นหลักแทน
ช่วงระหว่างสถานีโอตารุกับสถานีซัปโปโระนั้นจะมีเที่ยวรถไฟเยอะ ประมาณ ๑๐-๒๐ นาทีต่อเที่ยว การเดินทางจึงสะดวกไม่ต้องเป็นห่วง เพียงแต่ว่าเมื่อหิมะตกจะทำให้เวลารถไฟถูกเลื่อนช้าลงไปได้ เกิดขึ้นได้บ่อย รอบรถไฟที่เราขึ้นครั้งนี้เองก็โดนเลื่อนทำให้ถึงล่าช้าเหมือนกัน แต่ก็ช่วยไม่ได้
จากโรงแรมที่เราพักอยู่นั้นที่จริงแล้วไม่ไกลจากสถานีโอตารุ สามารถเดินไปยังสถานีได้ แต่ว่าวันนี้ตั้งแต่เช้าหิมะตกตลอด และทับถมอย่างมาก เดินได้ลำบาก ยิ่งมีสัมภาระอยู่ด้วยยิ่งไม่ไหว จึงต้องยอมเรียกแท็กซี
สภาพหน้าโรงแรมตอนเช้า ก่อนที่จะออกเดินทาง แค่มาเดินเล่นหน้าโรงแรมก็ลำบากแล้ว
ทางที่จะเดินไปยังคลองโอตารุ ที่จริงก็อยากเดินไปดูคลองโอตารุที่เต็มไปด้วยหิมะในตอนกลางวันแบบนี้ แต่ก็ไม่เอาดีกว่า ดูแล้วไม่น่าไหว แม้จะใกล้แค่นี้ก็ตาม
เราเช็คเอาต์จากโรงแรมแล้วก็ให้ทางโรงแรมเรียกรถแท็กซีให้
สภาพบ้านเมืองระหว่างทางขณะอยู่ในแท็กซี
ระหว่างทางได้ผ่าน
ย่านร้านค้าโอตารุมิยาโกะโดริ (
小樽都通り
商店街) ซึ่งก็เป็นย่านที่ต่อเนื่องจากย่านร้านค้าซันมอลอิจิบังไงที่ไปมาเมื่อคืน
แล้วก็มาถึงสถานีโอตารุ
ค่าแท็กซีทั้งหมด ๖๗๐ เยน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากเกินไป เพราะระยะใกล้ อีกทั้งมีกันอยู่ ๓ คน แบบนี้ถือว่าคุ้มแล้ว
ภาพที่ถ่ายจากหน้าสถานีหลังจากลงรถแท็กซีมา บริเวณด้านหน้าสถานี
เข้ามาภายในสถานี ภายในดูสวยงามมากทีเดียว
ส่วนตรงกลางมีจัดแสดงงานฝีมือทำจากแก้ว ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้
ซื้อตั๋วรถไฟจากตรงนี้
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็ยังมีเวลานิดหน่อยก่อนรถไฟเที่ยวต่อไปจะออก ก็เลยลองเดินเล่นดูในตัวสถานี แต่ก็ดูจะยังเช้าไป ร้านยังไม่ค่อยเปิด
จากนั้นเดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้าไปยังชานชลา
ตั๋วเดินทางจากโอตารุไปซัปโปโระ ราคา ๗๕๐ เยน
เดินขึ้นบันไดเลื่อนมา
ถึงบริเวณชานชลา
แผ่นป้ายชื่อสถานีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
รอจนใกล้เวลา รถไฟขบวนที่เราจะขึ้นนั่งก็มาถึง
ภายในรถไฟก่อนออก
หลังจากนั้นรถไฟก็ออก ระหว่างทางก็ได้ถ่ายภาพทิวทัศน์ในตัวเมืองท่ามกลางหิมะมาด้วย
ไม่นานรถไฟก็มาจอดยังสถานีต่อไป คือ
สถานีมินามิโอตารุ (
南小樽駅)
ภายในสถานีนี้เห็นมีป้ายที่เขียนถึงสถานีชิงกันเซงในอนาคตด้วย ในอนาคตชิงกันเซงจะมาถึงซัปโปโระ คราวนี้จะได้เดินทางจากโตเกียวมาถึงที่นี่ได้สะดวกโดยไม่ต้องนั่งเครื่องบินแล้ว แต่ว่ากว่าจะถึงตอนนั้นก็คือปี 2030 กว่าโน่น ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างค่อยๆก่อสร้างไปเรื่อยๆ
ถัดมารถไฟก็มาถึง
สถานีโอตารุจิกโกว (
小樽築港駅)
สถานีนี้ที่จริงแล้วอยู่ข้างๆห้างวิงเบย์โอตารุที่ไปมาเมื่อวันแรกนั่นเอง (เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20231201) จากสถานีมองเห็นอาคารห้างด้วย
จากนั้นรถไฟก็ออกจากในตัวเมืองแล้วก็เลียบริมชายฝั่งทะเล
สถานีต่อไปคือ
สถานีอาซาริ (
朝里駅) เป็นสถานีเล็กๆริมทะเล
แล้วรถไฟก็ยังเดินทางเลียบริมทะเลต่อมา ชมทิวทัศน์ที่สวยงามไปเรื่อยๆ
มาถึงสถานีถัดไปคือ
สถานีเซนิบาโกะ (
銭函駅) นี่เป็นสถานีสุดท้ายในเขตเมืองโอตารุแล้ว ถัดจากสถานีนี้ไปก็เข้าสู่เขตเมืองซัปโปโระ
ถัดมาก็มาถึงสถานีแรกในเมืองซัปโปโระ คือ
สถานีโฮชิมิ (ほしみ
駅)
แล้วก็ตามด้วย
สถานีโฮชิโอกิ (
星置駅)
ถัดมาเป็น
สถานีอินาโฮะ (
稲穂駅)
ต่อมาคือ
สถานีเทอิเนะ (
手稲駅)
แล้วก็
สถานีอินาซึมิโควเอง (
稲積公園駅)
ตามด้วย
สถานีฮัสซามุ (
発寒駅)
และ
สถานีฮัสซามุจูโอว (
発寒中央駅)
สถานีโคโตนิ (
琴似駅)
สถานีโซวเอง (
桑園駅)
แล้วในที่สุดก็มาถึงสถานีซัปโปโระจนได้
ภายในบริเวณสถานีระหว่างเดินไปยังที่ตรวจตั๋ว
เดินผ่านที่ตรวจตั๋วออกไป
จากนั้นก็ออกมาจากสถานีทางด้านเหนือ เพื่อเดินไปยัง
โรงแรมซันรูตซัปโปโระ (ホテルサンルート
札幌) ที่เราจองไว้สำหรับพักคืนนี้ สถานที่นั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานี สามารถเดินไปได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหิมะตกและสภาพถนนเต็มไปด้วยหิมะที่ทับถมแถมยังละลายบางส่วนทำให้ลื่น เดินแล้วล้มง่าย การเดินจึงลำบากไม่น้อย ยิ่งมีสัมภาระด้วยยิ่งทรหดใหญ่
ถึงจะลำบากแต่ยังไงก็ต้องเดินไปเรื่อยๆ แม้จะช้าหน่อยก็ตาม
แล้วก็เดินมาจนเห็นอาคารสีแดงที่โรงแรมตั้งอยู่ แต่ว่าตรงนี้เป็นด้านหลัง ไม่มีทางเข้าไป ต้องเดินอ้อมไปเข้าด้านหน้า
แล้วก็เดินอ้อมมาจนเจอทางเข้าโรงแรม จากนั้นก็เข้าไปในโรงแรม ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเช็คอินได้เพราะยังเช้าอยู่ ทำได้แค่ฝากของเอาไว้ จากนั้นไปเดินข้างนอกแล้วค่อยกลับมาตอนบ่ายเพื่อเช็คอินอีกที
ก่อนอื่นเราจึงตัดสินใจไปเดินห้างที่อยู่แถวๆสถานีซัปโปโระ และเนื่องจากสภาพถนนตอนนี้เดินลำบากจึงตัดสินใจนั่งรถแท็กซีไปแม้ว่าจะระยะใกล้ก็ตาม ค่าโดยสารก็คือ ๖๗๐ เยนเหมือนที่นั่งจากโรงแรมในโอตารุ
รถแท็กซีมาส่งที่หน้าห้าง
ไดมารุ (
大丸) ซึ่งเป็นอาคารทางตะวันตกของสถานีซัปโปโระ
จากในห้างไดมารุนั้นมีทางเดินข้ามไปยังห้างใหญ่อีกแห่งคือ
ซัปโปโระสเตลลาร์เพลซ (
札幌ステラプレイス)
ตัวห้างนั้นเชื่อมอยู่กับสถานีซัปโปโระอยู่แล้ว พอเดินไปมาก็มาโผล่หน้าสถานีโดยไม่รู้ตัว
ภาพถ่ายตัวอาคารสถานีจากด้านหน้า
พื้นบางส่วนได้มีการกวาดหิมะไปแล้ว และตอนนี้หิมะก็หยุดตกแล้ว ทำให้เดินง่ายขึ้นบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็ยังมีหิมะอยู่ เดินยากอยู่ดี
จากนั้นจากหน้าสถานีเดินลงไปตามถนนไปทางใต้ ตั้งใจจะไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังสถานที่เที่ยวที่อยู่ไกล แต่ว่าสภาพพื้นก็อย่างที่เห็น เดินยากมาก เดินนิดเดียวก็จะล้มแล้ว กว่าจะไปถึงป้ายรถเมล์ได้ก็กินเวลาไปเยอะกว่าที่ควรเป็นมากทีเดียว
แล้วก็มาถึงบริเวณป้ายรถเมล์ที่คิดว่าจะขึ้น แต่พอลองค้นหาดูก็ไม่พบรถเมล์ที่ต้องการ ส่วนที่จอดอยู่นี้ก็เป็นรถเมล์เส้นทางอื่น แต่ว่าเห็นรถกำลังจอดนิ่งอยู่ไม่ได้ไปไหนเลยลองเข้าไปถามคนขับเกี่ยวกับรถเมล์ที่หาอยู่ก็พบว่าจุดขึ้นอยู่ตรงที่อื่น ไม่ใช่ตรงนี้ จริงๆตอนแรกค้นจากกูเกิลแมป แต่ดูเหมือนว่าจะมีข้อผิดพลาด
เมื่อรู้ว่าจะต้องเดินต่อไปอีกเพื่อไปขึ้นรถเมล์ แล้วก็คิดว่าพอไปถึงก็คงเจอพื้นแบบนี้แล้วเดินลำบากอีก ก็เลยตัดสินใจเลิกล้มแผนที่จะไป แล้วเปลี่ยนแผนเป็นไปนั่งรถไฟใต้ดินแทน
พอดีตรงนั้นมีทางเข้ารถไฟใต้ดินอยู่ ทางเข้าอยู่ที่ตึกนานาชาติซัปโปโระ (
札幌国際ビル)
จากตรงนี้เดินมุดลงใต้ดินได้ ดังนั้นจึงเข้าไปในนี้ แล้วก็ไปนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อไปเที่ยวต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20231211