#จันทร์ 18 มี.ค. 2024 เมื่อ 18-22 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยี่ยมญาติที่ซัวเถาอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่ ๓ หลังจากที่เคยไปมาแล้วเมื่อปี 2012 และ 2018 (ดูจากระยะห่างที่เว้นแต่ละครั้งแล้วคิดว่าอาจได้ไปอีกตอนปี 2030)
ครั้งนี้นอกจากไปอยู่บ้านญาติที่ซัวเถาแล้วก็ยังได้ไปเที่ยวเมือง
กิ๊กเอี๊ย (เจียหยาง,
揭阳) และ
โผวเล้ง (ผู่หนิง,
普宁) และก่อนกลับก็ยังแวะเที่ยว
เซินเจิ้น (
深圳) ด้วย
เนื่องจากว่าตอนช่วงเดือนมีนาคมซึ่งไปมานั้นไม่มีเวลาเพราะกำลังเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายไปอาศัยอยู่ฟุกุโอกะ แต่ก็ตั้งใจว่ายังไงก็จะต้องหาเวลามาเขียนให้ได้สักวัน แล้วก็ผ่านมาถึงครึ่งปี คิดว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้เดี๋ยวก็คงจะลืมไปหมดแล้วเขียนไม่ออกแล้ว ดังนั้นแม้ว่าช่วงนี้จะยังคงยุ่งอยู่แต่ก็คงได้เวลาต้องเขียนแล้ว
เนื่องจากผ่านมาแล้วครึ่งปี ทำให้บางอย่างลืมไปแล้ว อาจไม่สามารถเล่ารายละเอียดบางอย่างได้ทั้งหมด แต่ยังไงก็จะพยายามเล่าให้ละเอียดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะส่วนของเมืองกิ๊กเอี๊ยและโผวเล้งซึ่งเป็นถิ่นคนจีนแต้จิ๋วซึ่งคนไทยรู้จักเป็นอย่างดีและคงจะให้ความสนใจ คงอยากรู้ว่ามีเป็นที่ยังไง มีสถานที่เที่ยวอะไร
ครั้งนี้เราเดินทางมาลงที่
สนามบินไป๋หยวิน (
白云机场) ของ
กว่างโจว (
广州) แล้วจึงนั่งรถไฟความเร็วสูงไปซัวเถา ซึ่งต่างจากครั้งที่แล้วที่ลงสนามบินนานาชาติกิ๊กเอี๊ยเตี่ยซัว (เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20180219)
ดังนั้นจึงหมดเวลาไปกับการเดินทางมาก แม้จะมีรถไฟความเร็วสูงก็ตาม แต่ระหว่างกว่างโจวกับซัวเถาก็ต้องใช้เวลาถึง ๓ ชั่วโมง ไม่ใช่ระยะที่ใกล้สักเท่าไหร่ แม้ว่าจะอยู่ในมณฑลเดียวกันก็ตาม ไหนๆก็เดินทางแล้วเราเลยถือโอกาสแวะไปเที่ยวเมืองเซินเจิ้นด้วยวันนึง
รายการเที่ยวเป็นดังนี้
18 มี.ค. |
จันทร์ |
13:55 เครื่องบินลงที่สนามบินไป๋หยวิน กว่างโจว 17:55~20:57 นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่ซัวเถา |
19 มี.ค. |
อังคาร |
เที่ยวในเมืองกิ๊กเอี๊ย |
20 มี.ค. |
พุธ |
เที่ยวในเมืองโผวเล้ง |
21 มี.ค. |
พฤหัส |
9:56~11:39 นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่เซินเจิ้น ตอนบ่าย เที่ยวในเมืองเซินเจิ้น |
22 มี.ค. |
ศุกร์ |
9:37~10:59 นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่กว่างโจว 14:50 นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ |
สำหรับตอนแรกนี้จะเล่าถึงเรื่องในวันแรกซึ่งเครื่องบินมาถึงก็บ่ายแล้ว และแทบจะหมดไปกับการเดินทางอย่างเดียว ยังไม่ได้เที่ยวอะไร
ที่เที่ยวจริงๆคือตั้งแต่ตอนต่อไป โดยเริ่มจากเมืองกิ๊กเอี๊ยก่อน แล้ววันถัดไปก็เป็นเมืองโผวเล้ง
เราค้างอยู่บ้านญาติที่ซัวเถาทั้งหมด ๓ คืน คือวันที่ 18~20 ส่วนวันที่ 21 นั้นแวะเที่ยวเซินเจิ้นก็พักที่โรงแรมในเซินเจิ้น รวมทั้งหมด ๔ คืน
เซินเจิ้นครั้งนี้เหมือนเป็นของแถม แวะไปเดินๆนิดหน่อยดูความเจริญ เที่ยวนี้ยังไงเป้าหมายหลักก็คือไปอยู่กับญาติที่ซัวเถา แล้วก็เที่ยวในกิ๊กเอี๊ยและโผวเล้ง
ที่ครั้งนี้ตัดสินใจไปกิ๊กเอี๊ยและโผวเล้งก็เพราะว่ายังไม่เคยไปมาก่อนเลย ครั้งก่อนๆที่แวะมาก็ไปเที่ยวทั้งในซัวเถาและแต้จิ๋วหลายเมืองแล้ว แต่ว่าแถวกิ๊กเอี๊ยยังไม่เคยไปเลย ฉะนั้นแม้ว่าจะพักที่ซัวเถา แต่ก็ไม่ได้เที่ยวในซัวเถา แม้ว่าที่จริงแล้วจะยังมีสถานที่ที่ยังอยากไปอยู่ แต่คิดว่าไปเมืองที่ไม่เคยไปดีกว่า
สำหรับที่มาที่ไปของการเที่ยวครั้งนี้ก็มาจากการที่เราเปลี่ยนงาน ย้ายจากที่เดิมอยู่เซนได ไปอยู่ฟุกุโอกะ โดยเริ่มงานเดือนเมษายน ระหว่างนั้นก็เลยแวะกลับไทยตอนช่วงเดือนมีนาคม แล้วพอดีช่วงนั้นจีนยกเลิกวีซ่าคนไทยพอดี เราเองก็อยากกลับไปจีนอยู่แล้วด้วย ตั้งแต่มีโควิดก็ไม่ได้ไปจีนอีกเลย ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดี
พอสามารถไปจีนได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าแล้วก็สบายเลย ไม่งั้นเราอาจต้องรีบกลับไทยมาเร็วก่อนเผื่อเวลาทำวีซ่า หรือไม่ก็ต้องทำตั้งแต่ตอนอยู่ญี่ปุ่น ยิ่งยุ่งยากไปอีก
ส่วนที่เลือกเป้าหมายเป็นซัวเถาก็เพราะว่าเดิมทีก็ตั้งใจอยากหาโอกาสไปเยี่ยมญาติอยู่แล้ว ไม่ได้ฟังภาษาจีนแต้จิ๋วมานานด้วยสิ ก็อยากจะฟังอีก แม้ว่าเราจะฟังไม่ค่อยออกก็ตาม ครั้งนี้ที่ไปก็ไปกัน ๒ คนกับแม่อีกเช่นเคยเหมือนครั้งที่แล้ว มีอะไรก็ให้แม่คุยให้แทนเป็นหลัก
และที่เลือกไปลงกว่างโจวก็เพราะว่าแม่มีไมค์สะสมของการบินไทย ซึ่งเที่ยวบินมันมีแค่ไปลงที่กว่างโจว ไม่มีลงที่ซัวเถา ก็เลยตัดสินใจเลือกแผนนี้ ยังไงก็คิดถึงกว่างโจวเหมือนกัน เป็นเมืองที่เมื่อก่อนเคยอาศัยอยู่ แม้ว่าครั้งนี้จะแค่แวะมาลงเครื่อง ไม่ได้เที่ยวเมืองนี้เลยก็ตาม
อีกอย่างคืออยากได้ลองนั่งรถไฟความเร็วสูงในมณฑลกวางตุ้งด้วย เมื่อก่อนตอนที่เรามาซัวเถาครั้งแรกนั้นแถวนี้ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงเลย รถไฟความเร็วสูงจึงผ่านซัวเถาตอนปี 2013 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟ
สายเซี่ยเซิน (
厦深铁路) ซึ่งเชื่อมระหว่างเซินเจิ้นกับเมืองเซี่ยเหมินในมณฑลฝูเจี้ยน แต่ตอนที่เรามาเยี่ยมเมื่อปี 2018 ลงเครื่องที่ซัวเถาอยู่แล้วจึงไม่มีโอกาสได้นั่ง
แล้วในวันที่ 26 ธันวาคม 2023 ก็ได้มีการเปิดทางรถไฟสายใหม่ขึ้นคือ
สายซ่านซ่าน (
汕汕铁路) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองซัวเถากับซัวบ้วย (ซ่านเหว่ย์,
汕尾) และเชื่อมตรงไปถึงเซินเจิ้นและกว่างโจวได้ เส้นทางสายนี้ต่างไปจากสายเดิมที่มีอยู่ โดยค่อนไปทางใต้ และมี
สถานีเตี่ยนั้ม (
潮南站) ซึ่งอยู่ในเขต
เตี่ยนั้ม (เฉาหนาน,
潮南) ทางตะวันตกสุดของซัวเถา อยู่ใกล้กับเมืองกิ๊กเอี๊ยและโผวเล้ง และเป็นเขตที่บ้านญาติเราตั้งอยู่
บ้านญาตินั้นแม้จะบอกว่าอยู่ซัวเถา แต่ก็ไม่ใช่ในตัวเมืองซัวเถา แต่ห่างออกไปไกลเป็นบ้านนอก แถวนั้นเรียกว่าตำบล
หับซัว (เสียซาน,
峡山) ถือเป็นตำบลใหญ่ที่สุดของเขตเตี่ยนั้ม ซึ่งก็คือว่าค่อนข้างเจริญแล้วเมื่อเทียบกับส่วนอื่นของเขตนี้ แต่ยังไงก็ถือเป็นเขตบ้านนอก และก็ห่างไกลจากตัวเมืองซัวเถา
ในการเดินทางด้วยรถไฟนั้นต่อให้ลงที่สถานีซัวเถาก็คือว่าไกลจากบ้านมากอยู่ดี ดังนั้นการที่มีการสร้างสถานีเตี่ยนั้มอยู่ใกล้ๆแบบนี้จึงถือว่าช่วยให้สะดวกขึ้นมาก ถ้าเราเดินทางจากกว่างโจวละก็ สถานีนี้ถึงก่อนสถานีกลางเมืองซัวเถาด้วย จึงประหยัดเวลาไปได้อีก
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม จริงๆแล้วก็ยังต้องใช้เวลานั่งรถกว่า ๒๐ นาทีจากสถานีนี้มาถึงบ้าน เพราะตัวสถานีค่อนไปทางใต้เกือบเลียบริมทะเลเลย
และนอกจากสถานีนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสถานีที่ใกล้ คือ
สถานีเตี่ยเอี๊ย (
潮阳站) ซึ่งอยู่ในเขต
เตี่ยเอี๊ย (เฉาหยาง,
潮阳) ซึ่งเป็นเขตข้างๆ สถานีนี้เป็นส่วนหนึ่งของสายเซียเซินซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว
ไม่ว่าจะลงที่สถานี้เตี่ยนั้มหรือสถานีเตี่ยเอี๊ยก็ต้องใช้เวลานั่งรถอีกกว่าง ๒๐ นาทีกว่าจะถึงบ้าน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี เพราะมีสถานีตรงนี้ทำให้การเดินทางไปมาสู่กว่างโจวและเซินเจิ้นทำได้สะดวกมาก
เนื่องจากจะขึ้นลงที่สถานีไหนก็ได้ ดังนั้นเที่ยวนี้เราจึงตั้งใจว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้ขาไปและขากลับเป็นคนละสถานีกัน แล้วครั้งนี้จังหวะเวลาตอนไปที่สถานีจองได้ตั๋วที่ไปลงสถานีเตี่ยเอี๊ย ดังนั้นครั้งนี้สรุปว่าขาไปลงสถานีเตี่ยเอี๊ย ขากลับขึ้นจากสถานีเตี่ยนั้ม
ส่วนทางกว่างโจวเองก็มีสถานีรถไฟอยู่หลายสถานี ไม่ใช่ว่าจะขึ้นจากสถานีไหนก็ได้ สำหรับสายรถไฟที่เชื่อมต่อกับเมืองทางตะวันออกของมณฑลกวางตุ้งอย่างเช่นซัวเถานั้น ต้องไปขึ้นที่
สถานีกว่างโจวตะวันออก (
广州东站)
การเดินทางภายในกว่างโจวนั้น เมื่อเรามาลงที่สนามบินกว่างโจวไป๋หยวินก็มีญาติคนนึงมารอรับแล้วขับรถไปส่งถึงสถานีกว่างโจวตะวันออก
ที่จริงแล้วญาติเราในเมืองจีนมีอยู่หลายคนมาก เกือบทั้งหมดอาศัยอยู่ที่ตำบลหับซัวเถา หรือต่อให้มีไปอยู่ตำบลอื่นก็ยังอยู่ในเขตพูดแต้จิ๋ว ไม่ค่อยมีย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่นไกลมาก แต่ก็พอดีมีอยู่คนนึงเขาย้ายมาตั้งตัวอยู่ที่กว่างโจว เราเองก็ไม่เคยเจอญาติคนนี้มาก่อนเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ตอนมาครั้งก่อนเขาก็อยู่กว่างโจวแล้ว ก็เป็นโอกาสที่ได้มารู้จักเอาครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่เขาก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี ไม่ต่างจากญาติคนอื่นที่อยู่ซัวเถาเลย
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นจากสนามบินไป๋หยวิน ภาพนี้ถ่ายหลังจากลงเครื่องมา มองออกไปเห็นเครื่องการบินไทยที่เรานั่งมา
เดินออกไปรอรับกระเป๋า
พอรับกระเป๋าแล้วออกมาก็เจอญาติที่มารอรับ ก็เดินไปลานจอดรถเพื่อขึ้นรถ แล้วก็ออกเดินทางมุ่งสู่สถานีกว่างโจวตะวันออก
ระหว่างทางรถติดพอสมควร ทำให้ใช้เวลาถึงชั่วโมงกว่ากว่าจะถึง
ตัวสถานีอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
จากนั้นก็จอดรถที่ลานจอดรถในสถานีแล้วก็เดินมาเข้าสถานี ภายในสถานีนี้ดูกว้างขวางทีเดียว
ก่อนอื่นต้องมาซื้อตั๋วก่อน ต้องมาต่อคิวซื้อ ที่จริงมีระบบให้ซื้อผ่านเน็ต คนจีนส่วนใหญ่ก็ซื้อผ่านทางนั้นสะดวกดี แต่ว่าสำหรับคนต่างชาติดูเหมือนว่าจะยุ่งยากกว่า จำเป็นต้องแสดงพาสปอร์ตเป็นหลักฐานเพื่อซื้อ จึงต้องมาซื้อเองที่สถานี ก็ต้องเสียเวลาหน่อย
แล้วในที่สุดก็ซื้อตั๋วได้ ตั๋วที่ได้เป็นเที่ยว
C6813 รอบเวลา 17:55 เดินทางไปลงที่สถานีเตี่ยเอี๊ย เวลาถึงคือ 20:57 ก็ ๓ ชั่วโมงนิดๆ
ตอนซื้อตั๋วเสร็จเป็นเวลาประมาณ 16:40 เหลืออีกชั่วโมงนิดๆ ระหว่างนั้นก็ไปหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นแล้วค่อยไปขึ้นรถไฟ ก็มาเจอร้าน
เหมิงจื้อหยวน (
蒙自源) เป็นร้านเส้นหมี่ยูนนาน
การสั่งอาหารร้านนี้ทำผ่านแอปมือถือ ญาติเป็นคนช่วยจัดการให้แล้วก็ยังเป็นคนออกเงินเลี้ยงค่าอาหารให้ด้วย รู้สึกขอบคุณเขามากจริงๆ อุตส่าห์ขับรถไปรับแล้วก็พามารอซื้อตั๋วตั้งนาน และรอส่งเราจนถึงขึ้นรถไฟเลย เรียกได้ว่าโชคดีจริงๆที่มีเขาอยู่ที่นี่
กินเสร็จก็เข้าไปยังห้องรอขึ้นรถไฟ
ตรงนี้ต้องผ่านด่านตรวจสัมภาระ
เข้ามาด้านในก็กว้างขวาง แต่ก็เต็มไปด้วยผู้คนแน่น
ป้ายแสดงเที่ยวรถไฟ บอกว่าเที่ยวที่เราจะขึ้นคือรอบ 17:55 นั้นเริ่มตรวจตั๋วแล้ว
จากนั้นก็ได้เวลาบอกลาญาติที่ช่วยมาส่ง เราก็เดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้ามาด้านใน ในนี้ก็ยังต้องเดินอีกพอสมควร
แล้วก็ออกมาถึงชานชลา
หัวจรวดรถไฟความเร็วสูงที่จะขึ้น
แต่ว่าที่นั่งที่อยู่ในตั๋วเราเป็นตู้หมายเลข 8 ซึ่งอยู่อีกปลายของขบวน เลยต้องเดินไกล
สุดท้ายก็มาถึงตู้ที่นั่ง
ภายในรถไฟ
แล้วรถไฟก็ออกเดินทาง ตอนนั้นฟ้าเริ่มครึ้มลงแล้ว
หลังออกจากสถานีกว่างโจวตะวันออก รถไฟก็มาจอดอีกทีที่
สถานีตงกว่านใต้ (
东莞南站) ซึ่งอยู่ในเมืองตงกว่านซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างกว่างโจวและเซินเจิ้น
จากนั้นต่อมารถไฟจึงเดินทางมาจอดที่
สถานีเซินเจิ้นเหนือ (
深圳北站) ของเซินเจิ้น ตอนนั้นฟ้าได้มือลงแล้วเลยไม่ค่อยจะเห็นอะไร
ต่อมามาจอดที่
สถานีฮุ่ยหยาง (
惠阳站) ในเมือง
ฮุ่ยโจว (
惠州) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตที่พูดภาษาจีนฮากกา คั่นกลางระหว่างเขตที่พูดภาษากวางตุ้งกับเขตที่พูดภาษาแต้จิ๋ว
ต่อมาก็จอดที่
สถานีเหล็กฮง (
陆丰站) ตั้งอยู่ในอำเภอ
เหล็กฮง (ลู่เฟิง,
陆丰) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมืองซัวบ้วย บริเวณนี้เป็นเขตที่พูดภาษาแต้จิ๋วแล้ว แต่ก็มีไม่น้อยที่พูดภาษาจีนฮากกา มีอยู่ปนกันไป ยังไม่ได้เข้าสู่เขตแต้จิ๋วเต็มตัว
แล้วหลังจากนั้นเวลา 20:57 รถไฟก็มาจอดที่สถานีเตี่ยเอี๊ยอันเป็นเป้าหมายที่เราจะมาลง หลังจากนั้นรถไฟยังมุ่งต่อไปยังสถานีปลายทาง คือสถานีซัวเถา โดยจะถึงตอน 21:26
เดินออกจากชานชลาไป
ภายในอาคารก็ใหญ่ ต้องเดินไปตามทางอีกระยะนึง
ทางนี้มองไปเห็นห้องโถงสำหรับคนที่มารอขึ้นรถไฟ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเราตอนนี้ แต่ถ้าขากลับเขาขึ้นรถไฟกลับจากสถานีนี้ก็คงต้องมารอที่นั่น
ทางเดินออกจากอาคารสถานี
เดินออกมาแล้วมองหันกลับไปยังประตูที่ออกมา
เดินออกมาตามทางสักหน่อยแล้วก็มองกลับไปเห็นตัวอาคารและป้ายชื่อสถานี
บริเวณหน้าสถานีเป็นลานกว้าง มีที่นั่งเล่นด้วย
จากนั้นเราก็เจอกับญาติที่มารอรับ แล้วก็นั่งรถไปยังบ้าน เข้าพักภายในบ้านญาติ
เท่านี้ก็จบวันแรกลง แค่เดินทางก็หมดวันแล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหน สำหรับการเที่ยวจะเริ่มในวันรุ่งขึ้น
แต่ก่อนจะเล่าเรื่องการเที่ยว ตอนต่อไปขอเขียนถึงภาพรวมช่วงที่พักอยู่บ้านญาติก่อน
https://phyblas.hinaboshi.com/20240922