φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



เบปปุจิโงกุเมงุริ เที่ยวชมอนเซงบ่อนรกที่มีสีสันสวยงามแปลกตาทั้ง ๗ แห่งในเบปปุ
เขียนเมื่อ 2024/11/18 22:00
แก้ไขล่าสุด 2024/11/19 21:49
# เสาร์ 9 พ.ย. 2024

บันทึกการเที่ยวจังหวัดโออิตะต่อจากตอนที่แล้วที่ขึ้นไปชมทิวทัศน์มุมสูงจากบนรถกระเช้าแล้วก็นั่งรถเมล์ต่อมายังตัวเมืองเบปปุ https://phyblas.hinaboshi.com/20241117

ในตอนนี้จะเป็นการเที่ยวชมสถานที่เที่ยวหลักของเมืองเบปปุ นั่นคือการเที่ยวชมบ่ออนเซงที่สวยงามแปลกตาทั้งหลาย เรียกรวมๆว่า เบปปุจิโงกุเมงุริ (別府地獄べっぷじごくめぐり) แปลตรงๆก็คือการวนเวียนไปในนรกของเบปปุ

บ่ออนเซงนรกที่เปิดให้เข้าชมในเมืองเบปปุนั้นโดยหลักแล้วมีอยู่ ๗ แห่ง ทั้งหมดนี้สามารถเข้าชมได้โดยใช้ตั๋วเข้าชมแบบเหมารวม ราคา ๒๒๐๐​ เยน ที่จริงจะซื้อแยกก็ได้ถ้าอยากเข้าแค่บางบ่อ แต่ถ้าซื้อแยกทีละบ่อจะแพงกว่า ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อรวม โดยบ่อแต่ละบ่อก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันมาก โดยหลักแล้วแบ่งเป็น ๕ บ่ออยู่ใกล้กันในระยะที่เดินได้ และอีก ๒ บ่ออยู่ไกลออกไป ต้องนั่งรถเมล์ไป

ทั้ง ๗ บ่อมีดังนี้ เรียงตามลำดับที่เราได้ไปมา

ชื่อญี่ปุ่น อ่านว่า แปล
龍巻地獄たつまきじごく ทัตสึมากิจิโงกุ นรกพายุหมุน
池地獄いけじごく จิโนะอิเกะจิโงกุ นรกบ่อเลือด
白池地獄しらいけじごく ชิราอิเกะจิโงกุ นรกบ่อขาว
鬼山地獄おにやまじごく โอนิยามะจิโงกุ นรกภูเขาอสูร
かまど地獄じごく คามาโดะจิโงกุ นรกเตาเผา
鬼石坊主地獄おにいしぼうずじごく โอนิอิชิโบวซึจิโงกุ นรกพระหินอสูร
海地獄うみじごく อุมิจิโงกุ นรกทะเล


นอกจากนี้แล้วจริงๆยังมีบ่ออื่นที่ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในนี้มาด้วย แต่ว่าเราไปมาแค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็เวลาเฉียดฉิวแล้ว จริงๆก็ใช้เวลาน้อยกว่าที่คิดด้วย เดิมทียังคิดว่าถ้าวันนี้เที่ยวได้ไม่ครบก็จะไปเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้น เพราะว่าตั๋วเข้าชมสามารถใช้ได้ ๒​ วัน ไม่จำเป็นต้องชมทั้งหมดในวันเดียวก็ได้

ระยะเวลาที่ใช้โดยรวมคือ ๒ ชั่วโมง ตั้งแต่เริ่มไปถึงบ่อแรกจนเที่ยวบ่อสุดท้ายเสร็จ บ่อทั้งหมดปิดเวลา 5 โมงเย็น เราเริ่มเที่ยวก็เวลา 14:50 แล้ว เลยไปแบบรีบๆ สุดท้ายก็เที่ยวหมดทันก่อนปิดด้วย

การที่เที่ยวเสร็จทุกบ่อภายในวันเดียวทำให้วันต่อไปมีเวลาว่างในเบปปุจนได้ไปเที่ยวที่อื่นเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากแผนที่วางไว้แต่แรกด้วย ซึ่งก็จะเล่าถึงต่อไป



รถเมล์ที่เรานั่งมาลงที่สถานีเบปปุ (別府駅べっぷえき) เวลา 13:42



จากนั้นก่อนอื่นเราก็เดินไปยังที่พักสำหรับคืนนี้เพื่อจะวางของจะได้เที่ยวสบายสักหน่อย หลังจากที่แบกประเป๋าเที่ยวมาตั้งแต่เช้าตั้งแต่ตอนอยู่ยุฟุอิงแล้ว



ที่พักแรมคืนนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานี แค่ต้องเดินมานิดหน่อย



ตรงแถวนี้เป็นย่านที่พักแรม มีพวกเรียวกังหรือโรงแรมอยู่มากทีเดียว



แล้วก็มาถึงที่พักคืนนี้ เกสต์เฮาส์ดันรัง (ゲストハウス団欒だんらん) เห็นสภาพตึกจากภายนอกก็คงพอดูออกว่าเป็นที่พักถูกๆ ห้องที่เราพักคืนนี้เป็นแบบพัก ๒ คน ไม่มีห้องน้ำในตัว ราคาค่าพักคือ ๙๘๐๐ เยน แต่ว่าเพราะนี่เป็นวันเสาร์ก็เลยแพงกว่าวันปกติ ราคาวันปกติจริงๆจะถูกกว่านี้



ตอนที่ไปถึงนั้นยังไม่ถึงเวลาเช็กอิน จึงได้แต่เอาของไปวางฝากไว้ตรงห้องนั่งเล่นก่อน



สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับภายในโรงแรมนี้แล้วก็ความรู้สึกหลังได้พักจะไปเขียนถึงในตอนต่อไป เพราะว่าตอนแรกแค่มาวางของ ยังไม่ได้เห็นอะไรมาก เห็นแค่ห้องรับแขกเห็นว่าสวยดี ตอนแรกก็เลยไม่คาดคิดว่าเมื่อพักจริงๆแล้วจะรู้สึกผิดหวัง

หลังวางของเสร็จเราก็เดินออกจากโรงแรมไปทางตะวันออกต่อ เจอหอคอยเบปปุทาวเวอร์ (別府べっぷタワー) ซึ่งก็เป็นสถานที่เที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง เดี๋ยวเราจะมาแวะเที่ยวที่นี่ทีหลัง แต่ตอนนี้ที่มาที่นี่ก็เพื่อขึ้นรถเมล์ไปยังจุดชมบ่อนรก



ป้ายรถเมล์ที่มาขึ้น ชื่อป้ายก็คือเบปปุทาวเวอร์นั่นเอง



รถเมล์สายที่นั่งเพื่อไปคือสาย ๒๖ ตอนที่เราไปเริ่มรอนั้นเป็นเวลา 14:06 แต่ว่ารถเมล์รอบต่อไปคือ 14:21 ทำให้ต้องรอนานอยู่



ระหว่างทางรถเมล์วิ่งเลียบทะเล ก็เห็นทิวทัศน์เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่สวยเพราะฟ้าครึ้ม



ระหว่าทางยังผ่านท่าเรือซันฟลาวเวอร์ (さんふらわあターミナル) ซึ่งเอาไว้ใช้ขึ้นเรือท่องเที่ยวเพื่อไปยังเมืองต่างๆเช่นโอซากะได้



รถเมล์ยังผ่านสถานีคาเมงาวะ (亀川駅かめがわえき) ด้วย ซึ่งจริงๆแล้วนี่เป็นสถานีที่อยู่ใกล้บ่อนรกมากที่สุด ถ้าแค่อยากเที่ยวบ่อนรกแบบวันเดียวไม่ได้ไปค้างแรมละก็นั่งรถไฟมาลงสถานีนี้จะเร็วกว่าสถานีเบปปุ เพียงแต่ว่าแถวนี้ไม่ได้มีโรงแรมหรือสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่า



จากนั้นรถเมล์ก็เดินทางมาถึงที่หมาย คือบ่อแรกที่จะไปเที่ยว ชื่อป้ายว่าจิโนะอิเกะจิโงกุมาเอะ (池地獄前いけじごくまえ) แต่ว่าอยู่ใกล้กับบ่อทัตสึมากิจิโงกุที่อยู่ข้างๆมากกว่า ดังนั้นเราจึงเริ่มเที่ยวจากทัตสึมากิจิโงกุก่อน



ทางเข้าบ่อทัตสึมากิจิโงกุ



ที่ขายตั๋วเข้าชมก็อยู่ข้างในนี้ นี่คือตั๋วรวม ๗ บ่อ ราคา ๒๒๐๐ เยน เวลาใช้ก็ค่อยๆฉีกส่วนปลายที่มีชื่อบ่อต่างๆตามบ่อที่ไป



มีแผนที่ให้มาด้วย



ภายในอาคารทางเข้าเป็นร้านขายของเล็กๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกของที่ระลึกแล้วก็ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น



เดินทะลุอาคารเข้ามาจึงเห็นที่นั่งซึ่งผู้คนมารอชมน้ำร้อนพวยพุ่ง



เราก็เข้ามานั่งตรงนี้เพื่อชมด้วย น้ำร้อนบ่อนี้จะพวยพุ่งขึ้นมาเป็นระยะๆ น้ำพุแบบนี้เรียกว่า "กีย์เซอร์" (geyser) ถ้ามาผิดจังหวะก็อาจไม่ได้เห็น จึงมีที่ให้นั่งรอ ตอนที่เราเข้ามานั้นน้ำร้อนกำลังพวยพุ่งพอดีเลยได้เห็นทันทีไม่ต้องรอ




ลองขยายเข้ามาดูใกล้ๆ



หลังชมสักพักจนน้ำหยุดพุ่งแล้วคนก็เริ่มสลายตัว



หลังชมเสร็จเราแวะซื้อน้ำคาโบสึซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะของจังหวัดโออิตะดื่มด้วย ราคา ๑๙๐ เยน หาซื้อได้แค่ในจังหวัดโออิตะเป็นหลักดังนั้นระหว่างอยู่โออิตะเจออะไรที่เป็นคาโบสึก็ลองไว้ก่อน



เสร็จเล้วเราก็เดินไปยังบ่อจิโนะอิเกะจิโงกุซึ่งอยู่ข้างๆกัน



บ่อนี้ก็เริ่มเดินเข้ามาต้องผ่านอาคารที่เป็นร้านขายของเช่นกัน แต่ว่าร้านใหญ่กว่ามาก มีของมากมาย




ของตรงนี้เกี่ยวข้องกับอสูรจากนรกที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่




แล้วก็ผ่านเข้ามา บ่อนี้เป็นบ่อที่มีสีออกแดงๆส้มๆของโคลน ดูแล้วคล้ายเลือด ก็เลยได้ชื่อว่าเป็นบ่อเลือด




ตรงนี้มีทางให้เดินขึ้นไปชมจากมุมสูงด้วย




ขึ้นมาแล้วมองลงไป แบบนี้ก็สวยดี



ก็หมดเท่านี้ เสร็จแล้วก็ออกมา เห็นข้างๆมีร้านอาหารที่มีสูตรเฉพาะของที่นี่ที่ทำเป็นรูปเหมือนบ่อนรกนี้ แต่ว่าเพราะเป็นนรกก็เลยเป็นของเผ็ด ก็เลยไม่สนเท่าไหร่



แล้วก็กลับมายังป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถเมล์ไปยังบ่อที่เหลือ เพราะว่าบ่ออื่นที่เหลืออีก ๕ บ่อนั้นอยู่ห่างจาก ๒ บ่อที่ชมเสร็จไปมาก เดินไปไม่ไหว



รถเมล์ที่ขึ้นนี้ก็เป็นสาย ๒๖ เช่นเดียวกับที่นั่งมาตอนแรก แต่คราวนี้นั่งไปจนสุดสายเลย



ระหว่างทางรถเมล์ผ่านทางลาดที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์เมืองด้านล่างได้สวยงามด้วย จะเห็นว่ามีควันพุ่งขึ้นมาจากตรงโน้นตรงนี้ นี่เป็นความพิเศษของเมืองนี้เลย เห็นแบบนี้ก็ดูแปลกตาดี



แล้วก็มาลงป้ายรถเมล์คันนาวะ (鉄輪かんなわ) ซึ่งเป็นปลายทาง ที่นี่เป็นศูนย์รถเมล์ที่มีรถเมล์ไปยังหลายแห่ง มีไปยังฟุกุโอกะด้วย



ชื่อคันนาวะนั้นจริงๆแล้วเป็นชื่อย่านบริเวณนี้ซึ่งมีบ่อนรกทั้งหมด แต่ว่าตรงป้ายและท่ารถเมล์นี้ถือเป็นศูนย์กลางของย่านนี้

จากจุดที่ลงรถเมล์ เดินต่อมาอีกหน่อยเพื่อไปยังบ่อต่อไป



แล้วก็มาถึงบ่อต่อไป คือบ่อชิราอิเกะจิโงกุ ซึ่งแปลว่านรกบ่อขาว



แม้จะชื่อว่าบ่อขาว แต่ว่าพอลองมาดูแล้วสีของน้ำบ่อนี้ก็ไม่ได้เป็นสีขาวดั่งชื่อ แต่เป็นสีออกเขียวอ่อนมากกว่า




นอกจากตัวบ่อแล้ว บริเวณรอบบ่อก็เป็นสวนญี่ปุ่นสวยดี



ภายในนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเล็กๆอยู่ด้วย ซึ่งจัดแสดงปลาต่างๆ




แล้วก็ออกมา เห็นฝั่งตรงข้ามของบ่อนี้เป็นสถานที่ที่เรียกว่า พิพิธภัณฑ์จิโงกุอนเซง (地獄温泉じごくおんせんミュージアム) ซึ่งมีทั้งส่วนจัดแสดงและเป็นร้านกาแฟด้วย แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปเพราะดูแล้วไม่ได้น่าสนขนาดนั้นและไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือ ตั้งใจจะรีบไปเก็บให้ครบทุกบ่อก่อนถึงเย็น



เดินต่อไปยังบ่อถัดไป



ถัดมาคือบ่อโอนิยามะจิโงกุ



บ่อที่นี่มีควันพุ่งออกมาตลอดจนมองเห็นผิวน้ำได้ไม่ชัด



รูปปั้นอสูรที่มีสะดือจุ่นตั้งอยู่เด่น



จุดเด่นของบ่อนี้ก็คือมีการเลี้ยงจระเข้ไว้จำนวนมาก อยู่ทางนี้




ส่วนอาคารตรงนี้จัดแสดงเกี่ยวกับจระเข้




เสร็จแล้วก็เดินมาบ่อถัดไป คือบ่อคามาโดะจิโงกุ



คำว่าคามาโดะนั้นหมายถึงเตาเผาแบบญี่ปุ่น มีลักษณะประมาณนี้นั่นเอง อันนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า



เข้ามาด้านใน ก็เริ่มจากผ่านร้านขายของในอาคาร



พอทะลุเข้ามาถึงส่วนด้านใน ก็พบร้านขายของกินแล้วก็ที่ให้นั่งเล่นพักกินด้วย




สำหรับบ่อภายในนี้มีหลายบ่อ ที่โดดเด่นที่สุดก็คือบ่อสีฟ้าสวยสดใสขนาดใหญ่



แล้วก็มีบ่อสีฟ้าอีกบ่อเป็นขนาดเล็กลงมาด้วย



นอกจากนี้ก็มีบ่อโคลนที่พุ่งปุดๆ ซึ่งตอนที่เราไปนั้นมีพนักงานยืนอยู่คอยอธิบายด้วย แต่ว่าที่น่าแปลกใจคือเขาอธิบายเป็นภาษาเกาหลี เพราะขณะนั้นคณะนักท่องเที่ยวเกาหลีผ่านมาพอดี ที่นี่ดูจะมีคนเกาหลีมาเที่ยวเยอะ เขาก็เลยเตรียมพนักงานที่พูดภาษาเกาหลีได้ไว้ด้วย



ตรงนี้ยังมีก๊อกให้เปิดดื่มน้ำจากอนเซงได้ด้วย แต่เราไม่ได้ลอง



ส่วนตรงนี้สำหรับให้สูดดมควันจากอนเซง



บนนั้นมีอสูร มีคนมาถ่ายรูปด้วย



เสร็จแล้วก็เดินต่อมา ไปยังบ่อถัดไป ระหว่างทางยังเดินผ่านบ่อยามะจิโงกุ (山地獄やまじごく) ซึ่งหมายถึงนรกภูเขา แต่ว่าบ่อนี้ไม่ได้อยู่ใน ๗ บ่อหลัก และก็ปิดชั่วคราวอยู่ด้วย เลยได้แค่เดินผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้เข้าชม



แล้วก็เดินมาถึงบ่อถัดไปคือบ่อโอนิอิชิโบวซึจิโงกุ



เดินผ่านเข้ามาชมด้านใน



บ่อที่นี่มีสีขาวขุ่น แบบนี้ก็ดูสวยดี



เดินเข้ามาถึงด้านในสุดมีบ่อที่ปุดๆเป็นสีขาว ๓ จุด




แล้วก็มีบ่อที่มีเสียงออกมาพร้อมกับควันพวยพุ่ง คนโบราณเรียกมันว่าเป็นเสียงกรนของอสูร



ในนี้ยังมีบ่ออนเซงแช่เท้าด้วย



เสร็จแล้วก็ไปยังบ่อถัดไปซึ่งเป็นบ่อสุดท้ายแล้ว นั่นคือบ่ออุมิจิโงกุ ซึ่งแปลว่านรกทะเล ที่นี่ดูจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อทั้งหมดแล้ว เหมาะที่จะเก็บไว้สุดท้าย



เมื่อเข้ามาภายในก็เจอสระบัวก่อน




ส่วนตรงนั้นเป็นร้านขายของ ขนาดใหญ่พอสมควร แต่ว่าเราไปถึงตอนใกล้จะปิดแล้ว ก็เลยไม่ได้แวะเข้าไปดูของด้านใน




จากนั้นก็มีทางให้เดินขึ้นไป



ข้างบนนี้มีบ่ออากาอิเกะ (赤池あかいけ) แปลว่าบ่อสีแดง ดูแล้วคล้ายกับที่บ่อจิโนะอิเกะแต่ว่าไม่ขุ่นเท่า และมีขนาดเล็ก แต่ดูแล้วสีของบ่อนี้ดูจะสวยกว่า ดูใสๆดี




ข้างๆนั้นมีเรือนกระจกซึ่งอาศัยความร้อนจากไอร้อนจากใต้ดิน




บ่อสุดท้ายก็มีเท่านี้ ในที่สุดก็เที่ยวเสร็จครบทุกบ่อทันก่อนที่จะปิด เวลา ๒ ชั่วโมงดูจะเพียงพอสำหรับการวนเที่ยวครบทั้งหมด สำหรับคนที่ไม่ได้แวะกินหรือซื้อของอะไรมาก

ขอจบตอนเพียงเท่านี้ สำหรับตอนต่อไปจะเป็นการเที่ยวในเบปปุต่อตอนช่วงค่ำจนถึงกลางคืน https://phyblas.hinaboshi.com/20241119



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> โออิตะ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ