# เสาร์ 9 พ.ย. 2024บันทึกการเที่ยวเบปปุต่อจากตอนที่แล้วที่ไปตระเวณบ่อนรกทั้ง ๗ มา
https://phyblas.hinaboshi.com/20241118ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของวัน เป็นการไปเที่ยวที่ต่างๆช่วงเย็นถึงกลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจุดชมทิวทัศน์
เริ่มจาก
ปราสาทคิฟุเนะ (
貴船城) ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นบนเนินเขากลางย่านอนเซงของเบปปุ เปิดเป็นจุดชมทิวทัศน์ ที่เรียกว่าปราสาทเพราะสร้างเป็นอาคารคล้ายปราสาทญี่ปุ่น แต่ว่าไม่ใช่ปราสาทโบราณจริงที่มีประวัติศาสตร์
ที่จริงแล้วปราสาทนี้เปิดจนถึงแค่เวลา 17:00 แต่ตอนที่เราเที่ยวตระเวณชมบ่อนรกจนทั่วก็เกือบจะปิดแล้ว ยังไงก็ไปไม่ทันปราสาทนี้ปิด ก็น่าเสียดายแต่ก็ตั้งใจว่าอย่างน้อยขอแค่ได้ขึ้นไปเห็นตัวปราสาทก็ยังดี แม้จะไม่ได้เข้าก็ตาม ก็เลยตัดสินใจเดินไป
จากบ่ออุมิจิโงกุซึ่งเป็นบ่อสุดท้ายที่เข้าชมไปนั้นจะไปยังปราสาทคิฟุเนะต้องเดินไปไกลพอสมควร และยังเป็นทางลาดเขาด้วย แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปได้ ไม่ต้องขึ้นรถไป และไม่มีรถเมล์ไปถึงได้ด้วย
ระหว่างทางผ่านทางลาดที่รอนบ่ายนั่งรถเมล์ผ่านมา แต่คราวนี้เราเดินจึงสามารถมาค่อยๆถ้ายรูปได้ ได้ทิวทัศน์สวยๆของเมืองนี้ที่มีเอกลักษณ์คือมีควันพวยพุ่ง ฟ้าก็เริ่มใกล้จะมืดแล้ว

เดินมาเรื่อยๆถึงทางแยกตรงนี้เห็นป้ายชี้ไปยังปราสาทคิฟุเนะ

แล้วก็มาถึงตรงหน้าทางปีนขึ้นไปยังปราสาท ซึ่งขณะนั้นก็เลยเวลาปิดแล้ว เลยมีป้ายเขียนอยู่ว่าปิดไปแล้ว และบอกว่าห้ามเข้าปราสาทตอนกลางคืนด้วย

แม้จะปิดแล้วและเข้าปราสาทไม่ได้ แต่เราก็รู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นอย่างนี้ แต่ก็ยังอยากขึ้นไปเห็นตัวปราสาทอยู่ดี ดังนั้นก็เดินขึ้นไป เส้นทางไม่ได้ไกลมาก แต่ว่าเป็นทางลาดเขาก็เลยเหนื่อยเหมือนกัน ยิ่งเดินมาทั้งวันแล้วด้วย แต่ก็ยังไหวอยู่ ระหว่างทางมีบ้านอุปถัมภ์อยู่ด้วย

แล้วก็เดินต่อขึ้นมา ตอนที่ใกล้จะถึงมีรถวิ่งสวนไปแล้วคนในรถก็บอกเราว่าปราสาทปิดแล้ว เขาก็ใจดีอุตส่าห์มาเตือนด้วย เขาก็คงคิดว่าเราไม่รู้ว่าปราสาทปิดแล้ว แต่ยังไงเราก็จะขึ้นมาดูอยู่ดี
แล้วก็ขึ้นมาถึงด้านบน ได้เห็นตัวปราสาทจนได้ ซึ่งก็ปิดอยู่และไม่มีใคร ดูเงียบเหงาเลย

จากข้างๆปราสาทมองลงไปเห็นทิวทัศน์สวยได้ แต่ว่ามีเชือกกั้นอยู่เลยไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ ได้แต่ถ่ายจากระยะนี้

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว เราขึ้นมาเพื่อจะแค่เห็นตัวปราสาทแค่นั้นจริงๆ ระหว่างทางมองลงไปก็พอเห็นทิวทัศน์ได้ แต่ก็ไม่ได้ชัด ระหว่างทางที่เดินมายังเห็นได้ชัดกว่าเลย

แล้วก็กลับลงไปจนถึงด้านล่าง

จากนั้นเป้าหมายต่อไปของเราก็คือไปกินอาหารเย็น โดยเพื่อนเราได้ค้นหาร้านที่อยากกินดูในแผนที่ แล้วก็พบว่ามีร้าน
คาเมโชวคุรุกุรุซูชิ (
亀正くるくる
寿司) ซึ่งเห็นบอกว่าเป็นร้านซูชิชื่อดัง อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ เดินลงเขาไปอีกหน่อยก็ถึง เลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังร้านนั้น

ระหว่างทางก็ผ่านย่านที่ดูจะเป็นแหล่งชุมชนบนทางลาดเขา

มองลงไปก็เห็นทิวทัศน์ได้เรื่อยๆ ฟ้าเริ่มมืดแล้วด้วย

แล้วระหว่างทางยังผ่าน
จุดชมทิวทัศน์ยุเกมุริ (
湯けむり
展望台) ซึ่งเป็นที่ที่ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะแวะมา แต่บังเอิญว่าผ่าน แล้วก็พบว่ามันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีทีเดียว

จากตรงนี้มีรั้วกั้นอยู่แต่ว่ามองออกไปก็เห็นทิวทัศน์ได้ดี

เพื่อจะไม่ให้มีรั้วบัง จึงต้องปีนขึ้นมาด้านบน แล้วก็เห็นทิวทัศน์สวยจริงๆ

แล้วก็เดินต่อมา ตอนนี้ฟ้ามืดสนิทไปแล้ว

ในที่สุดก็มาถึงร้านที่เป็นเป้าหมาย แล้วก็ต้องพบว่ามีคนรอต่อคิวเข้ากินเต็มไปหมด ซึ่งที่จริงก็เป็นเรื่องปกติสำหรับร้านซูชิชื่อดังในญี่ปุ่นที่จะต้องรอนานแบบนี้ ดูท่าแล้วเราคงรอไม่ไหวจึงได้แต่ตัดใจ

แต่ว่าแถวนั้นก็มีร้านอยู่หลายร้านก็เลยลองเดินดู แล้วก็พบร้าน
ซูชิเมย์จิง (
寿司めいじん) ซึ่งเป็นร้านซูชิจานหมุนของจังหวัดโออิตะ มีสาขาหลักอยู่ในเมืองโออิตะ สำหรับที่เราเจอนี้เรียกว่าเป็นสาขาเบปปุทสึรุมิ

เราก็เลยตัดสินใจเลือกมากินร้านนี้

สายพานที่นี่แบ่งเป็น ๒ ส่วน ด้านล่างเป็นจานที่เขาปล่อยหมุนให้หยิบได้อิสระ ส่วนด้านบนเป็นสายพานรูปรถไฟหัวจรวดที่วิ่งอย่างรวดเร็ว เอาไว้ส่งซูชิที่สั่งเพิ่มเติมจากหน้าจอแทบเล็ตสำหรับเลือกเมนู

ราคาคิดตามจานที่กินไป จานขาว ๑๑๕ เยน จานเหลือง ๑๕๐ เยน เราเริ่มหยิบจาก ๕ จานก่อน

แล้วรู้สึกว่ายังไม่พอเลยปิดท้ายด้วยหอยอากานิชิ (アカニシ)

รวมทั้งหมด ๖ จาน ราคา ๘๖๕ ถือว่าไม่แพงเลย
จากนั้นเดินดูแถวนั้นต่อ ใกลๆยังมีร้านเบปปุอามามิจายะ (
別府甘味茶屋) ซึ่งดูแล้วก็คิดว่าไม่เลว แต่ก็มาเจอตอนกินไปแล้ว

หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับโดยไปขึ้นรถเมล์ที่ป้าย
ฮารุกิ (
春木) ซึ่งต้องเดินไปทางตะวันออกอีกหน่อย ระหว่างทางไม่ได้ถ่ายภาพอะไรมาเพราะมืดแล้ว และตอนถึงป้ายรถเมล์ก็ต้องตามหาที่ขึ้นอยู่พักนึงจึงจะเจอแล้วรถเมล์ก็มาพอดีแล้วก็ขึ้นมาโดยไม่ได้ถ่ายเลย
เรานั่งรถเมล์กลับมายังป้ายหน้า
เบปปุทาวเวอร์ (
別府タワー) ซึ่งอยู่ใกล้เกสต์เฮาส์ที่เราพักที่สุด ค่ารถเมล์ ๒๓๐ เยน
ก่อนอื่นแวะกลับเข้าไปเพื่อเช็กอินเสร็จแล้วก็รีบออกมาเพื่อเที่ยวชมเบปปุทาวเวอร์ ที่นี่เห็นหอคอยเก่าแก่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ความสูงถึงยอดคือ ๑๐๐ เมตรพอดี แต่ว่าตรงส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมนั้นสูงแค่ ๕๕ เมตร ถือว่าก็ไม่ได้สูงอะไรมากเมื่อเทียบกับหอคอยอีกหลายแห่งหรือตึกระฟ้าในเมืองอื่นของญี่ปุ่น แต่สำคัญตรงที่เป็นหอคอยสมัยใหม่แห่งที่ ๓ ของญี่ปุ่น สร้างเสร็จในปี ๑๙๕๗ ก่อนหอคอยโตเกียวปีนึง

ที่หน้าทางเข้าหอคอย

การจะขึ้นไปต้องเสียค่าเข้าชมโดยจ่ายที่เครื่องขายอัตโนมัติ ค่าขึ้นไปราคา ๘๐๐ เยน

แล้วก็ขึ้นมาชมด้านบน โดยเริ่มจากชั้น ๑๗ ที่นี่ดูแล้วก็มีคนมาเดินอยู่พอสมควร

อันนี้น่ารักดี

ร้านขายของ

ทิวทัศน์ที่มองเห็นจากหอคอยนี้ ทิศใต้ เห็นทะเลอยู่ทางซ้าย

ทิศตะวันออกเป็นทะเล แต่ตอนนี้มืดจึงมองไม่เห็นอะไร

ทิศเหนือ เห็นหาดทรายด้วย ตรงนั้นเดี๋ยวจะไปเดินเล่นตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

จากนั้นเดินลงบันไดไปชั้น ๑๖ แล้วจึงค่อยลงลิฟต์จากตรงนั้น

ภายในชั้น ๑๖ ก็มีอะไรให้ดูอยู่หน่อย เริ่มจากห้องตรงนี้

เข้าไปข้างในเดินผ่านห้องนี้ก็สวยดี

ผนังตรงนี้มีรูปหอคอยต่างๆบอกวันที่สร้างและความสูง ญี่ปุ่นมีหอคอยแบบนี้อยู่ไม่น้อยเลย

ภาพบริเวณอื่นๆภายในชั้น ๑๖

การเที่ยวบนหอคอยก็จบเท่านี้ หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวนั้นแล้วก็ผ่านร้านข้าวหน้าปลาไหล เมย์ได อุนาโตโตะ (
名代宇奈とと) เพื่อนอยากกินปลาไกลก็เลยแวะไป แต่ว่าเราอิ่มแล้วเลยไม่ได้กินด้วย แค่มานั่งเฉยๆ

หลังจากนั้นก็ยังมีแวะร้านดอน กีโฆเต สาขาเบปปุ สาขานี้ดูแล้วเป็นตึกใหญ่ แต่พอลองเข้าไปดูก็เป็นร้านแค่ชั้นเดียว ส่วนด้านบนเป็นแค่ลานจอดรถ

เสร็จแล้วเราก็กลับเข้ามาที่
เกสต์เฮาส์ดันรัง (ゲストハウス
団欒) ที่เราพักคืนนี้ สำหรับที่นี่ก็ได้เกริ่นไปหน่อยแล้วในตอนที่แล้วว่ารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ราคาถือว่าถูกและตำแหน่งดีอยู่ระหว่างสถานีเบปปุและเบปปุทาวเวอร์ทำให้สะดวกทีเดียว แต่ปัญหาคืออาคารดูโทรมๆ คับแคบ บางส่วนดูสกปรก แล้วก็มี ๔ ชั้นแต่ไม่มีลิฟต์ เราต้องเดินขึ้นลงเพราะห้องพักอยู่ชั้น ๔ แต่ห้องน้ำอยู่ชั้น ๒ และห้องนั่งเล่นอยู่ชั้น ๑ ไม่สะดวก
ภาพนี้เป็นหน้าประตูเข้าห้องพัก

ภายในห้องเป็นแบบนี้ โล่งๆไม่มีเตียง มีที่นอนวางไว้ให้ปูที่นอนเอาเอง

ที่แย่ที่สุดก็คือห้องอาบน้ำ ดูแล้วสกปรกมากทีเดียว เห็นแล้วไม่คิดว่าเขาจะกล้าเปิดให้แขกใช้ทั้งในสภาพแบบนี้

สำหรับการอาบน้ำถ้าใครไม่ได้เตรียมผ้าเช็ดตัวมาก็สามารถยืมได้ จ่ายเพิ่ม ๑๐๐ เยน เราเองก็ไม่ได้เตรียมมา ก็ยืมเอา แต่พอยืมก็พบว่าเขาให้ผืนเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับผ้าเช็ดตัวที่โรงแรมหรือที่พักทั่วไปให้ฟรีแล้วก็ยังถือว่าเล็กกว่า ขนาดพอๆกับผ้าเช็ดหน้าเท่านั้นเอง
เนื่องจากห้องพักไม่มีโต๊ะให้ ตอนกลางคืนเราเลยมานั่งที่ห้องนั่งเล่นเป็นหลัก จะนอนค่อยขึ้นไปที่ห้องพัก

ที่นี่มีกาแฟให้ชงดื่มฟรีด้วย เราก็หยิบมาชงดื่มไปห่อนึง แต่มาเห็นเอาภายหลังว่าที่หลังซองมีเขียนวันที่ 2018.12.24 นั่นคือผ่านมาเกือบ ๖ ปีแล้ว หวังว่าตัวเลขนี้จะไม่ใช่วันหมดอายุ ไม่งั้นถือว่าแย่มากเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีที่ดื่มไปแล้วก็ไม่มีอาการอะไร

ก็จบการเที่ยวไปอีกวัน เป็นวันที่ ๒ ของการเที่ยว ยังเหลือเรื่องอะไรให้เล่าอีกยาวเลยกว่าจะจบทั้งหมดสำหรับเที่ยวนี้
ตอนต่อไป เข้าสู่วันที่ ๓ ของการเที่ยว
https://phyblas.hinaboshi.com/20241120