φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอาโสะ ตามรอย "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?"
เขียนเมื่อ 2024/11/25 18:08
แก้ไขล่าสุด 2024/11/27 05:28
# จันทร์ 11 พ.ย. 2024

บันทึกการเที่ยวอาโสะต่อหลังจากที่ตอนที่แล้วเดินเล่นช่วงเช้าแล้วมาที่สถานีอาโสะ https://phyblas.hinaboshi.com/20241124

ตอนนี้จะเป็นการขึ้นไปบนเขาซึ่งเป็นที่เที่ยวหลักของอาโสะ โดยเป้าหมายแบ่งเป็น ๒ ที่คือส่วนพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอาโสะ (阿蘇火山博物館あそかざんはくぶつかん) และส่วนปากปล่องภูเขาไฟ (火口かこう)

สำหรับพิพิธภัณฑ์นั้นก็ตั้งอยู่บนระหว่างทางของเส้นทางที่ขึ้นไปชมปากปล่อง สามารถแวะไปได้ง่าย เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟอาโสะและด้านธรณีวิทยาทั่วไป แต่ราคาค่าเข้าแพงถึง ๑๑๐๐ เยน และเท่าที่ได้ชมดูก็รู้สึกว่าไม่ได้น่าสนมากเมื่อเทียบกับราคา ยกเว้นคนที่สนใจธรณีวิทยาและอยากศึกษาโดยละเอียด

เพียงแต่ว่าที่เราแวะไปที่นั่นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เสริมอีกอย่าง นั่นคือไปตามรอยอนิเมะเรื่อง "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?" (結婚するって、本当ですか) ซึ่งเพิ่งเป็นอนิเมะที่เพิ่งเริ่มฉายเมื่อเดือนตุลาคมปีนี้และตอนนี้ก็กำลังฉายอยู่



ในเรื่องนี้พระเอกบ้านเกิดอยู่ที่อาโสะ ดังนั้นอาโสะก็เลยปรากฏอยู่ในเรื่องด้วย โดยในเรื่องมีฉากที่ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ ฉายในตอนที่ ๕ สถานที่จริงได้ปรากฏในอนิเมะ ทำให้เห็นแล้วอยากไปตามรอย อุตส่าห์บังเอิญเพิ่งฉายไปพอดี จังหวะดีเลย



ทั้งพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟและส่วนปากปล่องภูเขาไฟที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถเมล์สายเดียวกันซึ่งออกจากสถานีอาโสะ รอบรถมีประมาณชั่วโมงละเที่ยวเท่านั้น ดังนั้นถ้าจะไปต้องกะเวลาให้ดี เราตัดสินใจไปเที่ยวโดยเริ่มจากพิพิธภัณฑ์ก่อน แล้วค่อยนั่งรถเมล์ต่อเพื่อไปชมปากปล่องภูเขาไฟ

อันนี้เป็นตารางเวลาเที่ยวรถ ขอมาจากศูนย์บริการท่องเที่ยวในสถานีอาโสะ รอบรถขาไปนั้นเร็วสุดก็คือรอบ 9:55 เราตัดสินใจขึ้นรอบนี้ ซึ่งไปถีงสถานีพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟเวลา 10:21 แล้วก็เที่ยวตรงนี้จนถึงเวลา 11:11 ซึ่งเป็นรอบรถถัดไปแล้วขึ้นต่อไปยังป้ายบนสุด



ราคาค่ารถจากสถานีอาโสะไปยังส่วนพิพิธภัณฑ์หรือป้ายปลายทางบนเขาคือ ๑๐๐๐ ถ้าแค่ไปกลับก็ราคา ๒๐๐๐ แล้ว แต่เราต้องนั่งรถเมล์จากพิพิธภัณฑ์ไปยังป้ายปลายทางบนเขาด้วย ซึ่งต้องจ่ายอีก ๒๑๐​ เยน ทั้งหมดก็จะรวมกันเป็น ๒๒๑๐ เยน แต่ว่าที่นี่มีขายตั๋วแบบรวม ราคา ๒๐๐๐ เยน ใช้นั่งรถเมล์สายนี้ได้ทั้งวันกี่ครั้งก็ได้ ถ้าซื้อแบบนี้ก็จะประหยัดไปได้ ๒๑๐​ เยน

ตั๋วนี้ซื้อได้ที่เครื่องขายตรงส่วนท่ารถในสถานี



ได้มาเป็นใบแบบนี้ ตอนขึ้นลงรถเมล์ก็แค่ยื่นให้คนขับดู



หน้าป้ายรถเมล์ มีคนมารอขึ้นกันเต็มไปหมด เป็นแถวยาว



รอจนรถเมล์ที่จะขึ้นมาถึง



ขึ้นไปนั่งกันเกือบเต็มคันรถ



ระหว่างทางขึ้นเขาไปผ่านทุ่งหญ้าซึ่งทิวทัศน์สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่าเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูประหว่างทาง แล้วฟ้าก็ค่อนข้างปิด มีเมฆมาก ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีด้วย แต่ว่าเรื่องถ่ายรูประหว่างทางนั้นไว้ตอนขากลับฟ้าเปิดกว่าและได้นั่งตำแหน่งดีกว่า สำหรับตอนนี้ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องที่พิพิธภัณฑ์ก่อน



แล้วรถเมล์ก็มาถึงป้ายที่หน้าพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ ตัวอาคารดูธรรมดา ไม่ได้ออกแบบมาสวยเท่าไหร่



แต่ที่สวยงามสะดุดตามากกว่าตัวพิพิธภัณฑ์ก็คือทุ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ราบภายในปากปล่องภูเขาไฟ สวยงามน่าเดินมาก มีชื่อเรียกว่าคุซาเซนริ (草千里くさせんり) ซึ่งหมายถึง "หญ้าพันลี้"



ที่จริงแล้วทุ่งหญ้าที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้อยู่ในเขตของเมืองอาโสะแล้ว แต่อยู่ในเขตหมู่บ้านมินามิอาโสะ (南阿蘇村みなみあそむら) ซึ่งอยู่ทางใต้ของอาโสะ

แผนที่แสดงตำแหน่งอยู่บ้านมินามิอาโสะภายในจังหวัดคุมาโมโตะ เป็นสีเขียวเข้มทางขวา ส่วนสีชมพูที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือก็คือเมืองอาโสะ ที่จริงพื้นที่ภูเขาอาโสะนั้นส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองอาโสะ แต่นอกจากนั้นก็มีบางส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ในเขตหมู่บ้านมินามิอาโสะ รวมไปถึงเมืองทากาโมริ (高森町たかもりまち) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้




จุดแบ่งเขตระหว่างเมืองอาโสะและหมู่บ้านมินามิอาโสะก็คือถนนสายนี้เอง ตัวพิพิธภัณฑ์ยังถือว่าอยู่ในเมืองอาโสะอยู่ แต่ถ้าเราเดินข้ามไปก็เป็นเขตหมู่บ้านมินามิอาโสะแล้ว


ก่อนที่จะไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์เราตัดสินใจไปเดินเล่นบนทุ่งหญ้าก่อน



ตรงนี้มีม้าให้ขี่เล่นแถวนี้ได้ด้วย




เมฆหนาทำให้เห็นทิวทัศน์ไกลได้ยาก แต่ก็ยังดูสวยอยู่




ส่วนที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือทะเลสาบที่เกิดจากแอ่งของปล่องภูเขาไฟ ดูแล้วสวยงาม มีอยู่ ๒ ที่ซ้ายขวา




เดินไปเรื่อยๆข้างหน้าเป็นเนินเล็กๆที่อยู่ใจกลางทุ่งหญ้าแถบนี้ เรียกว่าเขาโคมาตาเตะ (駒立山こまたてやま)



เราเดินไปจนถึงตีนเขาโคมาตาเตะ แต่ว่าไม่ได้ขึ้นไปถึงยอด จากตรงนี้มองลงมาเห็นทะเลสาบข้างๆได้จากมุมสูงขึ้นมาหน่อย




จากนั้นก็รีบเดินกลับไปยังพิพิธภัณฑ์ ทิวทัศน์ที่มองหันกลับไปนั้นสวยงามดี




กลับมาจนถึงตรงที่มีม้า แล้วก็ข้ามฝั่งกลับไปยังฝั่งพิพิธภัณฑ์



ต่อไปก็ได้เวลาชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งโดยหลักแล้วก็คือเป็นการมาหาฉากที่ปรากฏในอนิเมะเพื่อเทียบภาพตามรอย เริ่มจากด้านหน้าตัวอาคาร พยายามถ่ายให้ได้มุมเดียวกับที่ปรากฏในอนิเมะ




แล้วก็มุมนี้ จากด้านหน้าตรงๆ




อีกมุม หน้าทางเข้า ปรากฏตอนท้ายตอน




จากนั้นก็เดินเข้ามาด้านใน


ก่อนอื่นมาดูตรงส่วนจัดแสดงฟรีตรงชั้น ๑ ซึ่งมาเดินดูได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม






ตรงนี้ก็มีปรากฏในอนิเมะให้เทียบภาพ




มุมเดียวกันขยายห่างออกมาหน่อย




จากนั้นก็ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปด้านในส่วนจัดแสดงชั้น ๒ แต่ว่าตอนที่ไปบันไดเลื่อนกำลังปิดซ่อมอยู่เลยทำให้ดูไม่เรียบร้อย รู้สึกไม่น่าเดินเท่าไหร่



เดินขึ้นมาเริ่มชมชั้น ๒



ตรงนี้เป็นแบบจำลองแสดงการก่อตัวของภูเขาไฟตรงนี้ กดปุ่มแล้วข้างในมีการขยับจริงๆด้วย



ซึ่งตรงนี้ก็ได้ปรากฏในอนิเมะด้วย ลองเทียบภาพ




จากนั้นก็เดินต่อเข้าไปตามทางนี้



ตรงมุมนี้ก็มีปรากฏในอนิเมะให้เทียบ




ลองดูส่วนจัดแสดงภายในนี้ แต่ว่าเนื่องจากไม่มีเวลามากเราจึงแต่ได้รีบดูแบบผ่านๆไป ไม่ได้เก็บรายละเอียดเลย








ส่วนจัดแสดงชั้น ๒ ก็จบเท่านี้ ต่อไปก็ขึ้นไปดูชั้น ๓ ต่อ



ที่ชั้น ๓ ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่





ตรงนี้เป็นห้องฉายหนัง ซึ่งตอนที่เราไปถึงก็กำลังฉายอยู่แล้ว แต่ว่าประตูก็เปิดอยู่ สามารถเข้าไปได้



ตอนที่เข้าไปถึงก็กำลังฉายจบพอดี ฉากภายในนี้ปรากฏในอนิเมะด้วย เป็นอีกจุดที่ถ่ายมาเทียบได้




นอกจากนี้แล้วในอนิเมะยังมีฉากที่มองออกไปจากบนอาคารนี้ไปยังทุ่งคุซาเซนริและเขาโคมาตาเตะด้วย แต่ว่าเราไม่ได้มองจากตรงนี้ ไม่ได้ถ่ายภาพมาเทียบด้วยมุมเดียวกัน



ชั้น ๓​ ก็หมดแค่นี้ ส่วนจัดแสดงภายในนี้ก็มีแค่นี้จริงๆ ก็ถือว่าไม่ใหญ่ ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจด้านธรณีวิทยาโดยละเอียดจริงๆละก็แป๊บเดียวก็น่าจะเดินหมด



ขาลงยังเห็นคนกำลังซ่อมบันไดเลื่อนอยู่ด้วย



แล้วก็กลับลงมาเดินชั้นล่างต่อด้วยเวลาที่เหลือ



ในนี้ยังมีร้านขายพวกของที่ระลึก



แล้วก็ร้านกาแฟ



ภายในร้าน



จากตรงนี้สามารถนั่งดื่มไปมองทิวทัศน์ไป ดูจะไม่เลวเลย



จากนั้นก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ มองขึ้นไปด้านบนเป็นจุดชมทิวทัศน์ เห็นทางเดินขึ้นไปได้แต่เราไม่ได้ขึ้นไปเพราะว่ารอไม่นานรถเมล์ก็จะมาแล้ว




ใกล้ๆกันนั้นยังมีร้านอาหารอีกนิดหน่อยด้วย แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดู



แล้วพอถึงเวลารถเมล์ก็มา ขณะนั้นเป็น 11:11 และเป็นวันที่ 11 เดือน 11 พอดีเลยด้วย เลยรู้สึกว่าเลขสวย ดูเป็นรถเมล์ที่พิเศษขึ้นมาเลย



จากนั้นเราก็นั่งรถเมล์นี้เพื่อขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20241126


------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "
แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「結婚するって、本当ですか」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて結婚するって、本当ですか」の製作者に帰属します。





-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> คุมาโมโตะ
-- บันเทิง >> อนิเมะ
-- ท่องเที่ยว >> ตามรอย
-- ท่องเที่ยว >> พิพิธภัณฑ์ >> พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
-- ท่องเที่ยว >> ภูเขาไฟ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ