# จันทร์ 11 พ.ย. 2024บันทึกการเที่ยวอาโสะต่อหลังจากที่ตอนที่แล้วเดินเล่นช่วงเช้าแล้วมาที่สถานีอาโสะ
https://phyblas.hinaboshi.com/20241124ตอนนี้จะเป็นการขึ้นไปบนเขาซึ่งเป็นที่เที่ยวหลักของอาโสะ โดยเป้าหมายแบ่งเป็น ๒ ที่คือส่วน
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอาโสะ (
阿蘇火山博物館) และส่วน
ปากปล่องภูเขาไฟ (
火口)
สำหรับพิพิธภัณฑ์นั้นก็ตั้งอยู่บนระหว่างทางของเส้นทางที่ขึ้นไปชมปากปล่อง สามารถแวะไปได้ง่าย เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟอาโสะและด้านธรณีวิทยาทั่วไป แต่ราคาค่าเข้าแพงถึง ๑๑๐๐ เยน และเท่าที่ได้ชมดูก็รู้สึกว่าไม่ได้น่าสนมากเมื่อเทียบกับราคา ยกเว้นคนที่สนใจธรณีวิทยาและอยากศึกษาโดยละเอียด
เพียงแต่ว่าที่เราแวะไปที่นั่นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เสริมอีกอย่าง นั่นคือไปตามรอยอนิเมะเรื่อง "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?" (結婚するって、本当ですか) ซึ่งเพิ่งเป็นอนิเมะที่เพิ่งเริ่มฉายเมื่อเดือนตุลาคมปีนี้และตอนนี้ก็กำลังฉายอยู่
ในเรื่องนี้พระเอกบ้านเกิดอยู่ที่อาโสะ ดังนั้นอาโสะก็เลยปรากฏอยู่ในเรื่องด้วย โดยในเรื่องมีฉากที่ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ ฉายในตอนที่ ๕ สถานที่จริงได้ปรากฏในอนิเมะ ทำให้เห็นแล้วอยากไปตามรอย อุตส่าห์บังเอิญเพิ่งฉายไปพอดี จังหวะดีเลย
ทั้งพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟและส่วนปากปล่องภูเขาไฟที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถเมล์สายเดียวกันซึ่งออกจากสถานีอาโสะ รอบรถมีประมาณชั่วโมงละเที่ยวเท่านั้น ดังนั้นถ้าจะไปต้องกะเวลาให้ดี เราตัดสินใจไปเที่ยวโดยเริ่มจากพิพิธภัณฑ์ก่อน แล้วค่อยนั่งรถเมล์ต่อเพื่อไปชมปากปล่องภูเขาไฟ
อันนี้เป็นตารางเวลาเที่ยวรถ ขอมาจากศูนย์บริการท่องเที่ยวในสถานีอาโสะ รอบรถขาไปนั้นเร็วสุดก็คือรอบ 9:55 เราตัดสินใจขึ้นรอบนี้ ซึ่งไปถีงสถานีพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟเวลา 10:21 แล้วก็เที่ยวตรงนี้จนถึงเวลา 11:11 ซึ่งเป็นรอบรถถัดไปแล้วขึ้นต่อไปยังป้ายบนสุด
ราคาค่ารถจากสถานีอาโสะไปยังส่วนพิพิธภัณฑ์หรือป้ายปลายทางบนเขาคือ ๑๐๐๐ ถ้าแค่ไปกลับก็ราคา ๒๐๐๐ แล้ว แต่เราต้องนั่งรถเมล์จากพิพิธภัณฑ์ไปยังป้ายปลายทางบนเขาด้วย ซึ่งต้องจ่ายอีก ๒๑๐ เยน ทั้งหมดก็จะรวมกันเป็น ๒๒๑๐ เยน แต่ว่าที่นี่มีขายตั๋วแบบรวม ราคา ๒๐๐๐ เยน ใช้นั่งรถเมล์สายนี้ได้ทั้งวันกี่ครั้งก็ได้ ถ้าซื้อแบบนี้ก็จะประหยัดไปได้ ๒๑๐ เยน
ตั๋วนี้ซื้อได้ที่เครื่องขายตรงส่วนท่ารถในสถานี
ได้มาเป็นใบแบบนี้ ตอนขึ้นลงรถเมล์ก็แค่ยื่นให้คนขับดู
หน้าป้ายรถเมล์ มีคนมารอขึ้นกันเต็มไปหมด เป็นแถวยาว
รอจนรถเมล์ที่จะขึ้นมาถึง
ขึ้นไปนั่งกันเกือบเต็มคันรถ
ระหว่างทางขึ้นเขาไปผ่านทุ่งหญ้าซึ่งทิวทัศน์สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่าเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูประหว่างทาง แล้วฟ้าก็ค่อนข้างปิด มีเมฆมาก ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีด้วย แต่ว่าเรื่องถ่ายรูประหว่างทางนั้นไว้ตอนขากลับฟ้าเปิดกว่าและได้นั่งตำแหน่งดีกว่า สำหรับตอนนี้ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องที่พิพิธภัณฑ์ก่อน
แล้วรถเมล์ก็มาถึงป้ายที่หน้าพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ ตัวอาคารดูธรรมดา ไม่ได้ออกแบบมาสวยเท่าไหร่
แต่ที่สวยงามสะดุดตามากกว่าตัวพิพิธภัณฑ์ก็คือทุ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ราบภายในปากปล่องภูเขาไฟ สวยงามน่าเดินมาก มีชื่อเรียกว่าคุซาเซนริ (
草千里) ซึ่งหมายถึง "หญ้าพันลี้"
ที่จริงแล้วทุ่งหญ้าที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้อยู่ในเขตของเมืองอาโสะแล้ว แต่อยู่ในเขต
หมู่บ้านมินามิอาโสะ (
南阿蘇村) ซึ่งอยู่ทางใต้ของอาโสะ
แผนที่แสดงตำแหน่งอยู่บ้านมินามิอาโสะภายในจังหวัดคุมาโมโตะ เป็นสีเขียวเข้มทางขวา ส่วนสีชมพูที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือก็คือเมืองอาโสะ ที่จริงพื้นที่ภูเขาอาโสะนั้นส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองอาโสะ แต่นอกจากนั้นก็มีบางส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ในเขตหมู่บ้านมินามิอาโสะ รวมไปถึง
เมืองทากาโมริ (
高森町) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้
จุดแบ่งเขตระหว่างเมืองอาโสะและหมู่บ้านมินามิอาโสะก็คือถนนสายนี้เอง ตัวพิพิธภัณฑ์ยังถือว่าอยู่ในเมืองอาโสะอยู่ แต่ถ้าเราเดินข้ามไปก็เป็นเขตหมู่บ้านมินามิอาโสะแล้วก่อนที่จะไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์เราตัดสินใจไปเดินเล่นบนทุ่งหญ้าก่อน
ตรงนี้มีม้าให้ขี่เล่นแถวนี้ได้ด้วย
เมฆหนาทำให้เห็นทิวทัศน์ไกลได้ยาก แต่ก็ยังดูสวยอยู่
ส่วนที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือทะเลสาบที่เกิดจากแอ่งของปล่องภูเขาไฟ ดูแล้วสวยงาม มีอยู่ ๒ ที่ซ้ายขวา
เดินไปเรื่อยๆข้างหน้าเป็นเนินเล็กๆที่อยู่ใจกลางทุ่งหญ้าแถบนี้ เรียกว่า
เขาโคมาตาเตะ (
駒立山)
เราเดินไปจนถึงตีนเขาโคมาตาเตะ แต่ว่าไม่ได้ขึ้นไปถึงยอด จากตรงนี้มองลงมาเห็นทะเลสาบข้างๆได้จากมุมสูงขึ้นมาหน่อย
จากนั้นก็รีบเดินกลับไปยังพิพิธภัณฑ์ ทิวทัศน์ที่มองหันกลับไปนั้นสวยงามดี
กลับมาจนถึงตรงที่มีม้า แล้วก็ข้ามฝั่งกลับไปยังฝั่งพิพิธภัณฑ์
ต่อไปก็ได้เวลาชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งโดยหลักแล้วก็คือเป็นการมาหาฉากที่ปรากฏในอนิเมะเพื่อเทียบภาพตามรอย เริ่มจากด้านหน้าตัวอาคาร พยายามถ่ายให้ได้มุมเดียวกับที่ปรากฏในอนิเมะ
แล้วก็มุมนี้ จากด้านหน้าตรงๆ
อีกมุม หน้าทางเข้า ปรากฏตอนท้ายตอน
จากนั้นก็เดินเข้ามาด้านใน
ก่อนอื่นมาดูตรงส่วนจัดแสดงฟรีตรงชั้น ๑ ซึ่งมาเดินดูได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม
ตรงนี้ก็มีปรากฏในอนิเมะให้เทียบภาพ
มุมเดียวกันขยายห่างออกมาหน่อย
จากนั้นก็ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปด้านในส่วนจัดแสดงชั้น ๒ แต่ว่าตอนที่ไปบันไดเลื่อนกำลังปิดซ่อมอยู่เลยทำให้ดูไม่เรียบร้อย รู้สึกไม่น่าเดินเท่าไหร่
เดินขึ้นมาเริ่มชมชั้น ๒
ตรงนี้เป็นแบบจำลองแสดงการก่อตัวของภูเขาไฟตรงนี้ กดปุ่มแล้วข้างในมีการขยับจริงๆด้วย
ซึ่งตรงนี้ก็ได้ปรากฏในอนิเมะด้วย ลองเทียบภาพ
จากนั้นก็เดินต่อเข้าไปตามทางนี้
ตรงมุมนี้ก็มีปรากฏในอนิเมะให้เทียบ
ลองดูส่วนจัดแสดงภายในนี้ แต่ว่าเนื่องจากไม่มีเวลามากเราจึงแต่ได้รีบดูแบบผ่านๆไป ไม่ได้เก็บรายละเอียดเลย
ส่วนจัดแสดงชั้น ๒ ก็จบเท่านี้ ต่อไปก็ขึ้นไปดูชั้น ๓ ต่อ
ที่ชั้น ๓ ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่
ตรงนี้เป็นห้องฉายหนัง ซึ่งตอนที่เราไปถึงก็กำลังฉายอยู่แล้ว แต่ว่าประตูก็เปิดอยู่ สามารถเข้าไปได้
ตอนที่เข้าไปถึงก็กำลังฉายจบพอดี ฉากภายในนี้ปรากฏในอนิเมะด้วย เป็นอีกจุดที่ถ่ายมาเทียบได้
นอกจากนี้แล้วในอนิเมะยังมีฉากที่มองออกไปจากบนอาคารนี้ไปยังทุ่งคุซาเซนริและเขาโคมาตาเตะด้วย แต่ว่าเราไม่ได้มองจากตรงนี้ ไม่ได้ถ่ายภาพมาเทียบด้วยมุมเดียวกัน
ชั้น ๓ ก็หมดแค่นี้ ส่วนจัดแสดงภายในนี้ก็มีแค่นี้จริงๆ ก็ถือว่าไม่ใหญ่ ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจด้านธรณีวิทยาโดยละเอียดจริงๆละก็แป๊บเดียวก็น่าจะเดินหมด
ขาลงยังเห็นคนกำลังซ่อมบันไดเลื่อนอยู่ด้วย
แล้วก็กลับลงมาเดินชั้นล่างต่อด้วยเวลาที่เหลือ
ในนี้ยังมีร้านขายพวกของที่ระลึก
แล้วก็ร้านกาแฟ
ภายในร้าน
จากตรงนี้สามารถนั่งดื่มไปมองทิวทัศน์ไป ดูจะไม่เลวเลย
จากนั้นก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ มองขึ้นไปด้านบนเป็นจุดชมทิวทัศน์ เห็นทางเดินขึ้นไปได้แต่เราไม่ได้ขึ้นไปเพราะว่ารอไม่นานรถเมล์ก็จะมาแล้ว
ใกล้ๆกันนั้นยังมีร้านอาหารอีกนิดหน่อยด้วย แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดู
แล้วพอถึงเวลารถเมล์ก็มา ขณะนั้นเป็น 11:11 และเป็นวันที่ 11 เดือน 11 พอดีเลยด้วย เลยรู้สึกว่าเลขสวย ดูเป็นรถเมล์ที่พิเศษขึ้นมาเลย
จากนั้นเราก็นั่งรถเมล์นี้เพื่อขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20241126------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "แต่งงานที่ว่านี่เรื่องจริงเหรอครับ?"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「結婚するって、本当ですか」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「結婚するって、本当ですか」の製作者に帰属します。