# เสาร์ 22 พ.ย. 2025ช่วงนี้กำลังจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับรถยนต์ แล้วก็พบว่าที่เมืองฟุจิซาวะใกล้กับที่อาศัยอยู่ตอนนี้ก็มี
อิสึซึพลาซา (いすゞプラザ) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับรถยนต์ของอิสึซึ รวมไปถึงให้ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์โดยทั่วไปด้วย จึงตัดสินใจชวนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันไปที่นั่นสักหน่อย
บริษัทรถยนต์อิสึซึ หรือชื่อไทยว่า "อีซูซุ" เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1916 โดยเดิมใช้ชื่อว่า
อู่ต่อเรือโตเกียวอิชิกาวาจิมะ (
東京石川島造船所) แล้วจึงเริ่มตั้งชื่อยี่ห้อรถที่ผลิตว่าอิสึซึในปี 1934 และได้เปลี่ยนเป็นชื่อบริษัทเป็นอิสึซึตั้งแต่ปี 1949
ชื่ออิสึซึมีที่มาจากชื่อแม่น้ำอิสึซึที่ไหลผ่านศาลเจ้าอิเสะจิงงู ในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ถ้าเขียนเป็นคันจิก็คือ 五十鈴 แต่ชื่อทางการเขียนด้วยอักษรฮิรางานะเป็น いすゞ โดยอักษร ゞ นั้นมาจาก ゝ ที่เติม ゛(เสียงขุ่น) สำหรับอักษร ゝ นั้นเป็นสัญลักษณ์คล้ายไม้ยมกของญี่ปุ่นที่เอาไว้ใช้กับอักษรฮิรางานะโดยเฉพาะ ปัจจุบันไม่ได้มีการใช้ทั่วไป จึงเจออักษรนี้แค่ในชื่อเฉพาะดังเช่นอิสึซึเป็นหลัก
อิสึซึมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโยโกฮามะ แต่ว่าโรงงานผลิตหลักตั้งอยู่ในเมืองฟุจิซาวะ นอกจากนี้ก็ยังมีโรงงานตั้งอยู่ในเมืองโทจิงิ จังหวัดโทจิงิด้วย
อิสึซึพลาซานั้นตั้งอยู่ข้างๆโรงงานฟุจิซาวะนี้เอง โดยเปิดให้ใครก็ได้เข้าชมได้ฟรี แต่ว่าต้องจองผ่านเว็บก่อนจึงจะสามารถเข้าชมได้ แต่การจองก็ทำได้ไม่ยาก สามารถจองก่อนไปวันนึงก็ได้ แต่ถ้าคนเต็มแล้วก็จองไม่ได้ ถ้ามีแผนจะไปช่วงวันหยุดจึงอาจต้องจองล่วงหน้าหลายวันไว้ดีกว่า
เว็บของอิสึซึพลาซา สำหรับจอง
https://www.isuzu.co.jp/plaza/สำหรับเวลาเปิดคือ 10:00 ~ 16:30 ไม่ว่าจะจองเวลาไหนก็อยู่ได้จนถึงเวลาปิด ดังนั้นถ้าอยากอยู่ทั้งวันก็จองเวลาเร็วไว้ก่อนได้ เพียงแต่ว่าภายในไม่มีที่ให้กินอาหาร และห้ามเอาอาหารเข้ามากินด้วย ดังนั้นหาอะไรกินก่อนเข้าไปดีกว่า
การเดินทางไปทำได้โดยนั่งรถไฟไปลงที่
สถานีโชวนันได (
湘南台駅) แล้วเดินไปทางตะวันตกประมาณ ๑.๓ กิโลเมตร
เรานัดเจอเพื่อนท่สถานีโชวนันไดตอน 11:30 จากนั้นก็ไปหาอะไรกินก่อนที่จะไปอิสึซึพลาซา โดยจองเอาไว้ที่รอบเวลา 13:00 กะดูเวลากำลังดี

ตอนแรกออกจากสถานีมาทางฝั่งตะวันออก

แต่ที่จริงแล้วอิสึซึพลาซาอยู่ทางฝั่งตะวันตก เลยตัดสินใจเดินกลับไปหาอะไรกินฝั่งตะวันตกดีกว่า แล้วก็มาเจอแถวนี้

ซึ่งมีร้าน
โทริโซบะโตะทันตัมเมงอิสเซกินิโจว (
鶏そばと
担々麺一石二鶏) ร้านนี้ขายโทริโซบะ (ราเมงไก่) และทันตัมเมง (ราเมงเผ็ด) และคำว่า "อิสเซกินิโจว" ในชื่อร้านมีความหมายว่า "ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว" แต่ถ้าดูตัวอักษรจะเห็นว่าใช้อักษร 鶏 ที่แปลว่าไก่ แทน 鳥 ที่แปลว่านก

ที่สั่งคือโชวยุโทริโซบะ ๑๒๐๐ เยน อร่อยดีไม่ผิดหวัง

กินเสร็จก็เดินไปทางตะวันตกมุ่งหน้าไปยังอิสึซึพลาซา ระหว่างทางผ่านสะพานข้าม
แม่น้ำฮิกิจิ (
引地川) ทิวทัศน์สวย

แล้วก็เดินมาจนเจอโรงงานฟุจิซาวะของอิสึซึ

ทางซ้ายตลอดแนวเป็นโรงงานของอิสึซึ จากตรงนี้เดินขึ้นเหนือไปนิดหน่อย

ก็เจออิสึซึพลาซา

ทางเข้า

ก่อนอื่นมาที่เคาน์เตอร์แล้วให้เขาดูอีเมล์ที่ได้รับตอนจอง แค่นี้ก็เข้าชมภายในได้ ข้างๆเคาน์เตอร์มีเส้นเวลาที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ จากตรงนี้เดินต่อเข้าไปชมประวัติศาสตร์ของอิสึซึไปเรื่อยๆได้

ประวัติศาสตร์แรกเริ่มของอิสึซึตั้งแต่ปี 1916 นั้นเริ่มมาจากการผลิตรถยนต์ยี่ห้อวูซเลย์ (Wolseley) ของอังกฤษสำหรับขายในญี่ปุ่น ก่อนที่จะมาเริ่มทำรถของตัวเองขายในภายหลัง


เดินไล่ดูตามผนังที่เขียนเส้นเวลาเข้ามาเรื่อยๆเห็นรถยนต์ที่วางขายในยุคต่างๆ


ส่วนนี่คือรุ่น D-MAX ซึ่งผลิตในไทย ไม่ได้มีขายที่ญี่ปุ่น โดยตั้งแต่ช่วงปลายยุคปี 1990 กว่าที่ญี่ปุ่นนั้นอิสึซึขายเฉพาะรถบัสและรถบรรทุกเป็นหลัก พวกรถส่วนบุคคลอย่างรถกระบะนั้นจึงทำตลาดในไทยเป็นหลัก

เดินถัดเข้ามาเจอแบบจำลองที่สร้างขึ้นมาเป็นเมืองโดยมีรถอิสึซึวิ่งอยู่ มีภาพฉายด้านบนแสดงภาพรถที่วิ่งอยู่ในเมืองนี้ด้วย โดยรวมดูทำออกมาได้ดีอยู่

แผนที่แสดงการแบ่งเขตในเมือง

เดินต่อเข้ามาข้างในมีจัดแสดงพวกรถจำนวนหนึ่ง รวมถึงรถบัสด้วย นี่คือ
อิสึซึเอร์กา (
ERGA) โดยชื่อมาจากภาษาละติน erga แปลว่า "มุ่งหน้าไปสู่..." เป็นรถเมล์ที่ใช้ทั่วไปในญี่ปุ่นปัจจุบัน ตอนที่เห็นรถเมล์นี้เราก็คิดในใจว่าถึงไม่ต้องมาดูในนี้ก็มีโอกาสได้นั่งอยู่บ่อยๆอยู่แล้ว

รถบรรทุก อิสึซึเอลฟ์ (
ELF)

อิสึซึฟอร์เวิร์ด (
FORWARD) นี่ก็เป็นรถบรรทุก

รถ SKW ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น เอาไว้สำหรับขนทหารหรือสิ่งของ

สามารถเข้ามาชมภายในได้


ตรงส่วนด้านหลัง


ตรงนี้มีให้ดูเรื่องราวของอิสึซึในประเทศต่างๆ

กำแพงนี้มีเขียนพวกชื่อรุ่นต่างๆของอิสึซึ

จากนั้นเดินขึ้นไปชมชั้นบนต่อ

ตรงส่วนนี้ของชั้น ๒ จัดแสดงขั้นตอนการผลิตรถยนต์ ซึ่งที่จริงแล้วนี่ถือเป็นเป้าหมายหลักในการมาครั้งนี้จริงๆ เราใช้เวลาเดินดูตรงส่วนนี้อย่างละเอียด เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการผลิตและพัฒนารถยนต์ไปเรื่อยๆทีละขั้นตอน
เริ่มแรกคือการออกแบบ


เริ่มก่อสร้างแบบขึ้นด้วยดินเหนียว


แล้วก็มีการพิจารณาและตรวจสอบ เมื่อผ่านจึงเริ่มสร้างจริง


ส่วนตรงนี้เข้าสู่ขั้นตอนการผลิตภายในโรงงาน

การประกอบเครื่องยนต์

ประกอบตัวรถ

ตกแต่ง

ติดตั้งอุปกรณ์ (
艤装)

นอกจากจะแค่จัดแสดงแล้วก็ยังมีเกมที่เกี่ยวข้องให้เล่นด้วย



ตู้ที่วางอยู่กลางห้องนี้มีแบบจำลองย่อส่วนที่เรียงยาวแสดงกระบวนการผลิตยนต์ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนเสร็จ


เมื่อผลิตเสร็จก็เข้าสู่กระบวนการทดสอบ แล้วจึงนำมาวางขายได้

ตรงนี้มีอธิบายการทำงานของเบรก มีให้ลองกดเพื่อลองเบรกดูด้วย เข้าใจได้ง่าย

ตรงนี้อธิบายเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์สี่จังหวะ

มีให้จำลองการขับรถด้วย

เครื่องยนต์ RZ4E-TC ที่ใช้ใน D-MAX

เราเดินดูอยู่ตรงส่วนนี้จนถึงเวลาประมาณ 16:20 จึงได้ยินประกาศว่าที่นี่กำลังปิด ก็เลยไม่มีเวลาดูส่วนที่เหลืออย่างละเอียดแล้ว แต่ว่าส่วนที่เหลืออยู่ก็คือแค่ส่วนที่จัดแสดงรถที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของอิสึซึ

ตรงนี้เราก็เข้ามาดูผ่านๆถ่ายรูปอย่างไว






เครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนาโดยอิสึซึ


เส้นเวลาและแบบจำลองย่อส่วนของรถยนต์ที่ผลิต


ดูเสร็จก็ได้เวลากลับแล้ว เดินลงไป


กลับมายังห้องแรกที่เข้ามา ก่อนออกก็เดินดูอะไรต่ออีกหน่อย มีขายพวกของที่ระลึก


มีชากับแกงกะหรี่ด้วย

ตรงนี้อธิบายเกี่ยวกับประวัติของโรงงานที่ฟุจิซาวะที่อยู่ข้างๆนี้

ตอนที่ออกมาฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีแดงแล้ว

มองไปทางโน้นเป็นโรงงานอิสึซึ

เดินกลับสถานี


มีผ่านร้านมารุงาเมะเซย์เมง

กลับมาถึงสถานีโชวนันได

เข้ามานั่งรถไฟกลับ

ก่อนกลับเราตัดสินใจมาลงที่สถานียามาโตะเพื่อกินมื้อเย็น ในขณะที่เพื่อนกลับก่อน จึงแยกกันตรงนี้
ตอนมาถึงสถานียามาโตะได้เจอนักการเมือง
ฟุโตริ ฮิเดชิ (
太栄志) ที่กำลังหาเสียงอยู่ด้วย เราเห็นรูปหาเสียงของคนนี้มานานตั้งแต่ย้ายมาอยู่เมืองยามาโตะแล้ว ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นตัวจริงคราวนี้

มากินที่ร้านอาหารจีน
โฮวโกวเอง (
芳香園) สาขายามาโตะ

ข้าวผัดอาหารทะเล ๙๙๐ เยน

จากนั้นจึงนั่งรถไฟกลับ

วันนี้ได้มาชมทั้งประวัติศาสตร์ของอิสึซึ และได้เรียนรู้อะไรต่างๆเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ ถือเป็นการมาเที่ยวที่คุ้มมากทีเดียว
การเดินทางมาก็ไม่ไกลด้วยเพราะอยู่เมืองข้างๆ ดีที่มีโอกาสได้อยู่เมืองยามาโตะใกล้ๆ นอกจากที่นี่แล้วก็ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจให้ไปได้อีกเยอะ ระหว่างที่ยังอาศัยอยู่จังหวัดคานางาวะก็อยากแวะไปอีกหลายที่เท่าที่จะมีเวลา ก่อนที่จะต้องย้ายไปอยู่จังหวัดโทจิงิ