>> ตอนที่แล้วซุ่มโจมตีที่ธีมพาร์กหลังจากอิเกะพีแพ้พวกชมรมกลับบ้านแล้ว ก็โดนธอร์นเรียกให้มาหาพร้อมกับคนอื่นที่แพ้ไปแล้ว
เช่นเคย คราวนี้ก็เพราะชมรมกลับบ้านปล่อยข่าวว่าจะไปล่าดิจิเฮดที่ซีพาราอีโซอีก ครั้งนี้อิเกะพีถูกสั่งให้ไปด้วย ซึ่งตอนแรกเขาก็ดูจะไม่ได้เต็มใน แต่พอบอกว่านารุโกะได้เอารูปหน้าจริงของเขาไปโพสต์ลงเน็ตให้คนรู้ เขาจึงพาลไปโมโหอิซึรุเลยยอมออกไปด้วยเผื่อจะได้จัดการซะ
แล้วพวก lucid กับอิเกะพีก็เข้ามาที่ธีมปาร์ก โดยคุจินาชิเป็นคนนำทางเพราะเป็นเจ้าของสถานที่ ส่วนอีกคนที่ตามมาด้วยคือมิเรย์
ระหว่างเดินผ่านมาเจอแผ่นป้ายหินก็เจอคำถาม แต่มิเรย์เป็นคนตอบแล้วผิด
ก็เลยต้องกลับไปเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่แล้วกลับมาตอบคำถามที่นี่อีกครั้ง คราวนี้คุจินาชิเป็นคนตอบแล้วก็ผ่านมาได้เรื่อยๆ
จนเข้ามาถึงด้านในห้องที่ตอบคำถามสุดท้ายก็เจอกับกลุ่มคนน่าสงสัย พวกเขาคือ
เอโกเฮด (エゴベッド) ซึ่งหมายถึงพวกดิจิเฮดที่กลายพันธุ์จนบ้าคลั่งเป็นพิเศษ
หนึ่งในนั้นก็ชื่อ
ทาโดโกโระ (田所) ซึ่งเป็นคนที่เอย์จิและอายานะเคยพูดถึง เป็นบ่อเกิดของเรื่องร้ายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในนี้
พอพวกทาโดโกโระเห็นกลุ่มนักดนตรีแล้วก็เกิดไม่พอใจอาละวาดใส่ จนต้องสู้กับพวกเขา
พอชนะได้พวกเขาก็หนีไป
จากนั้นพอเดินเข้ามาต่อจนถึงห้องจัดคอนเสิร์ตก็เจอโชวโงะกับอิซึรุ
อิเกะพีกำลังโกรธเรื่องที่ถูกโพสต์รูปลงเน็ต แม้ว่าอิซึรุจะพยายามแก้ตัวว่าคนที่โพสต์คือนารุโกะไม่ใช่เขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่ฟัง
สุดท้ายก็ต้องปะทะโชวโงะและอิซึรุ โดยอาเรียก็ช่วยเพิ่มพลังให้
เมื่อชนะแล้วทั้ง ๒ คนก็หนีไปอีก แต่อิเกะพีดูพอใจที่ชนะอิซึรุได้
แต่หลังจากนั้นกลับมาที่ฐาน ธอร์นกลับไม่พอใจที่ปล่อยให้พวกชมรมกลับบ้านหนีไปได้
คราวนี้
ชาโดวไนฟ์ (シャドウナイフ) เลยขอเป็นคนไปจัดการพวกชมรมกลับบ้านบ้าง
ชาโดวไนฟ์
พอถามถึงว่าที่ต่อไปที่พวกชมรมกลับบ้านจะไปน่าจะเป็นที่ไหน อิเกะพีก็บอกเรื่องที่ตัวเองหลุดปากบอกไปว่ามิวมักอยู่กับชาโดว์ไนฟ์ที่แลนด์มาร์กทาวเวอร์
ชาโดว์ไนฟ์เลยบอกว่างั้นก็ดีเลย จะไปเตรียมดักรออยู่ที่แลนด์มาร์กทาวเวอร์เพื่อจัดการพวกชมรมกลับบ้าน
ล้วงลึกถึงอดีตของสมาชิกกลุ่มนักดนตรี
~เนื้อเรื่องเสริมต่อไปของกลุ่มนักดนตรี~
หลังจากผ่านเนื้อเรื่องซุ่มโจมตีที่ซีพาราอีโซไปแล้วก็สามารถเข้าสู่เนื้อเรื่องของสมาชิกกลุ่มนักดนตรีที่แพ้ไปแล้วได้ โดยคราวนี้เพิ่มอิเกะพีกับมิเรย์เข้ามา
ครั้งนี้เรื่องของ stork คุจินาชิ สวีตพี ดำเนินไปถึงขั้นล้วงลึกไปถึงปมในอดีต
stork นั้นตั้งแต่ครั้งก่อนที่คุยกันที่หอสมุดเขาก็แปลกไป พอไปคุยกับเขาอีกคราวนี้ได้โอกาสที่จะถามล้วงลึกถึงปมในอดีตของเขา
เมื่อตัดสินใจที่จะรู้เรื่องราวของ stork เขาก็เล่าให้ฟังว่าสมัยที่เป็นตำรวจอยู่นั้นเมื่อ ๖ ปีก่อนมีวันหนึ่งได้ไปแอบถ้ำมองสาวมัธยมปลายในบ้านหลังหนึ่ง แต่วันนั้นบังเอิญเห็นคนน่าสงสัยเข้าไปจุดไฟเผาบ้าน คนร้ายมองเห็นหน้า stork แต่ก็ยังเริ่มจุดไฟโดยไม่สน
stork อยากจะเข้าไปจับ แต่ตอนนั้นเขาเข้าไปในฐานะนักถ้ำมอง ไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ และกลัวที่จะเปิดเผยตัวเอง จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ส่งเสียงตะโกนเรียกให้คนรอบข้างได้ยิน
แต่สุดท้ายไฟก็ไหม้บ้านจนทำให้สาวที่เขามาแอบมองเสียชีวิตพร้อมทั้งพ่อแม่ รวม ๓ ชีวิต คนที่รอดมีเพียงลูกสาวซึ่งอยู่มัธยมต้นซึ่งตอนนั้นไปทัศนศึกษาอยู่เลยไม่ได้อยู่บ้าน
นั่นทำให้ stork รู้สึกเสียใจและฝังใจอยู่จนถึงตอนนี้ ว่าถ้าวันนั้นตัวเองพยายามช่วยคงจะยับยั้งเหตุการณ์แบบนี้ได้ แถมยังรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร แต่กลับไม่กล้าบอกใครเพราะจะเป็นการเปิดเผยว่าตัวเองไปถ้ำมองบ้านนั้น
คุจินาชินั้นหลังจากที่วันก่อนได้ชวนไปกินข้าวกับพ่อแม่และพี่สาวมาแล้ว ครั้งนี้เธอเล่าเรื่องราวของตัวเองเพิ่มเติมให้ฟังว่าทั้งพ่อแม่และพี่สาวของเธอได้เสียชีวิตไปหมดแล้วเมื่อ ๖ ปีก่อนเพราะเจอวางเพลิง แต่ตัวเองไปทัศนศึกษาอยู่ก็เลยรอดมาได้ ตั้งแต่นั้นมาก็สูญเสียทุกอย่าง และเริ่มมีอาการแพ้ควันไฟ ดังนั้นเมื่อมาอยู่ที่เมอบิอุสจึงมีความปรารถนาที่จะได้อยู่กับพ่อแม่และพี่สาว แม้จะรู้ว่านั่นไม่ใช่ตัวจริงก็ตาม
ต่อมาเธอได้เล่าถึงเรื่องที่วันก่อนไปหอสมุดแล้วเจอเอย์จิไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีทำร้ายไอดอล ซึ่งคนร้ายชื่อทาโดโกโระ แต่คนร้ายนั้นกลับรอดโทษมาได้เพราะทนายเก่ง และทนายคนที่ช่วยทาโดโกโระก็คือเอย์จินั่นเอง
พอพูดถึงชื่อทาโดโกโระก็ทำให้จำได้เหมือนว่าเพิ่งเคยได้ยินชื่อทาโดโกโระที่ไหนมาก่อน แล้วก็นึกได้ว่าเขาคือเอโกเฮดที่ไปเจอที่ซีพาราอีโซเมื่อวันก่อน
แล้วมิวก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่เธอแอบมองความทรงจำของเอย์จิเมื่อตอนที่จับตัวชมรมกลับบ้านได้ที่ซีพาราอีโซนั้น ก็เห็นคนเดียวกันนี้อยู่ด้วย แสดงว่าเอย์จิรู้จักกับทาโดโกโระ ถ้าหาตัวทาโดโกโระมาได้อาจจะช่วยสาวไปถึงความลับของเอย์จิได้
ถึงตรงนี้เมื่อตัดสินใจล้วงลึกถึงอดีตของคุจินาชิต่อ เธอก็เล่าเรื่องให้รู้เพิ่มเติมว่าเอย์จินั้นเป็นทนายที่ถูกจ้างให้มาช่วยดูแลสมบัติของครอบครัว แต่เขากลับยักยอกเงิน วันหนึ่งเขาถูกจับได้ แต่ไม่นานก็เกิดเหตุวางเพลิงที่บ้านของคุจินาชิขึ้นมา ดังนั้นจึงเชื่อว่าเอย์จิต้องเป็นคนร้ายแน่นอน แต่ไม่มีหลักฐานที่จะสาวไปถึงตัวเขาได้ แถมเขายังมีพยานบุคคลว่าขณะเกิดไฟไหม้เขาไปเที่ยวผู้หญิงอยู่โดยทำทีเหมือนจงใจให้คนเห็นชัดว่าเขาอยู่ที่นั่นในเวลานั้นจริงๆ
ดังนั้นเมื่อคิจินาชิเจอเอย์จิที่ซีพาราอีโซวันก่อน จึงได้ให้มิวช่วยแอบดูความทรงจำของเอย์จิให้ จึงยืนยันได้ว่าเอย์จิและทาโดโกโระเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงนั้นจริง เพราะฉะนั้นเธอถึงตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้เอย์จิกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้เด็ดขาด
ทางด้านสวีตพี ช่วงนี้พยายามจะอดอาหาร แต่น้ำหนักและไขมันกลับไม่ลดลงเลย เมื่อชั่งแล้วน้ำหนักเป็นร้อยกิโลเหมือนกับตัวเองในโลกจริงที่ตัวอ้วน ดูเหมือนว่าแม้จะเปลี่ยนรูปร่างภายนอกให้เป็นสาวน้อยแบบนี้ได้แต่น้ำหนักกลับไม่สามารถเปลี่ยนได้
เมื่อเลือกที่จะล้วงลึกถึงอดีตของสวีตพี จึงได้รู้ว่าสวีตพีในโลกจริงนั้นเป็นพนักงานบริษัททำงานเครียดมาและพอได้กินราเมงก็รู้สึกผ่อนคลาย จึงกินเป็นประจำแล้วก็อ้วน
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบของสวยงามซึ่งไม่เข้ากับรูปลักษณ์พอจะใส่ชุดแบบสาวสวยๆก็กลับถูกมองว่าแปลก วิตถาร ก็เลยจินตนาการว่าตัวเองเป็นสาวน้อยน่ารักตามแบบที่ต้องการ สร้างตัวเองขึ้นมาในโลกเสมือน และพอมาเมอบิอุสก็ได้เป็นตามแบบที่ต้องการ แต่ถึงยังไงตัวจริงของตัวเองก็ยังไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อยู่ดี ถ้ากลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงก็ยังต้องเผชิญกับตัวตนจริงๆของตัวเอง
โชวเนนดอลนั้นพยายามจะฝึกเข้าหาผู้คนมากขึ้น จึงปรึกษาอิเกะพี แล้วเขาก็ชวนไปซื้อเสื้อผ้า แม้จะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายโชวเนนดอลก็เหมือนจะยอมฟังอะไรมากขึ้น เริ่มใจอ่อนลง
หลังจากนั้นจึงตัดสินใจไปจัดคอนเสิร์ตที่ซีพาราอีโซ แต่พอถึงเวลาโชวเนนดอลกลับไม่กล้าออกมาแล้วเอาแต่หลบในห้องน้ำ จนมิเรย์ต้องมารับหน้าที่แทน
มิเรย์นั้นพยายามจะท้า lucid แข่งอะไรต่างๆเพื่อจะพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ แต่ไม่ว่าจะแข่งอะไร lucid ก็เก่งเกินไปจนชนะหมด ทั้งเรื่องความรู้และเรื่องสู้
สุดท้ายก็มาที่การแข่งขันจับสลากชิงรางวัลซึ่งใช้แต่โชค ปรากฏว่ามิเรย์ชนะ เธอดูจะพอใจมาก แต่พอลองถามมิวจึงรู้ว่ามิวแอบช่วยโกงสลากให้เพราะอยากให้มิเรย์ดีใจ
ส่วนอิเกะพีนั้นมีปัญหาน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองในโลกจริงหน้าตาไม่ดีเลยอิจฉาอิซึรุ แม้จะมาถึงโลกนี้แล้วได้เป็นรูปหล่อแต่อิซึรุก็กลับยังได้รับความนิยมมากกว่าอยู่
แต่มิวพยายามปลอบว่าที่สำคัญจริงๆไม่ใช่หน้าตาแต่เป็นนิสัย ถ้าหล่อที่หน้าตาไม่ได้ก็ลองพยายามเป็นคนหล่อที่จิตใจก็ได้
ดังนั้นอิเกะพีจึงพยายามทำตัวดี โดยเริ่มจากการที่ทำตัวให้สนิทกับใครก็ได้
ข้อต่อมาคือชอบช่วยเหลือคนอื่น เขาจึงพยายามหาเรื่องช่วยธอร์น มิเรย์ คุจินาชิ ซึ่งเป็นผู้หญิงในกลุ่ม แต่กลับถูกเมิน
และข้อต่อมาอีกคือต้องเป็นคนตั้งใจทำงาน เขาจึงไปที่ร้านที่ตัวเองไปประจำเพื่อจะช่วยเหลือคนที่เลือกชุดเหมือนตอนที่อยู่ในโลกจริง แต่ก็เจออิซึรุเข้า เขามาลองซื้อเสื้อผ้าด้วยตัวเอง แต่ไม่รู้จะเลือกยังไง
พอเจอกันอิเกะพีก็พยายามเอาผิดเรื่องที่ภาพของเขาถูกโพสต์ลงเน็ต แม้ว่าคนทำจะเป็นนารุโกะก็ตาม แต่อิซึรุก็ยอมก้มหัวขอโทษในฐานะที่สมาชิกชมรมเดียวกันไปทำให้เดือดร้อน
พอสาวๆในร้านเห็นเข้าก็หันไปชมอิซึรุแล้วกลับหาว่าอิเกะพีรังแกเขา เลยกลายเป็นว่ากลายเป็นอิซึรุที่ทั้งหล่อและนิสัยดี
สุดท้ายอิเกะพีก็ท้อแท้และเลิกล้มความคิดที่จะเป็นคนใจหล่อไป
>> ตอนถัดไป