>> ตอนที่แล้วเผชิญหน้ากับอิเกะพีหลังจากที่แผนซุ่มโจมตีจบก็ได้ข่าวใหม่เข้ามาว่ามิวจะจัดคอนเสิร์ตที่หน้าสถานี จึงตัดสินใจพากันไปดู คนจัดงานคราวนี้คือนักดนตรีออสตินาโตคนหนึ่งชื่อ
อิเกะพี (イケP)เมื่อมาถึงอิซึรุได้เห็นหน้าอิเกะพีก็รู้ว่านั่นคือเพื่อนห้องเดียวกันชื่อ
โคอิเกะ โทโมยะ (小池 智也)
อิเกะพี
เพลงของอิเกะพีชื่อว่า
เพลงของเทวดา (天使の歌)♫ ฟังเพลงนี้ใน youtubeระหว่างคอนเสิร์ตครั้งนี้มิวดูแปลกๆ ได้มีการดูดความรู้สึกด้านลบจากผู้คนที่มาชมจนเห็นเป็นก้อนพลังอะไรบางอย่าง
หลังจบคอนเสิร์ต อาเรียก็บอกว่าเห็นท่าทางมิวแล้วดูจะท่าไม่ค่อยดีแล้ว ปล่อยไว้แบบนี้มิวจะยิ่งผิดเพี้ยนขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องรีบห้าม
แต่พอคอนเสิร์ตจบมิวก็หายไปอย่างรวดเร็ว นารุโกะหาข้อมูลในเน็ตอีกทีจึงรู้ว่าคราวนี้จะไปจัดคอนเสิร์ตต่อที่ปาปิโกะ
เมื่อตามมาถึงย่านปาปิโกะก็เจออิเกะพีทันที เขาดูเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกแอบตามมาจึงมาดักรออยู่แล้ว เขาดูจะมีความแค้นกับอิซึรุ เพราะหน้าตาดีเลยดึงความสนใจจากสาวๆที่เป็นพวกแฟนๆของอิเกะพีไป
แต่อิซึรุเองกลับไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำให้อิเกะพียิ่งแค้น
แล้วอิเกะพีก็หนีไป
ในขณะที่มีดิจิเฮดบุกเข้ามาทำให้ต้องสู้
พอสู้จบอิเกะพีก็หายไปแล้ว จึงพยายามจะไปตามหา
แต่ระหว่างที่ตามหาอยู่ก็ไปเจอกับฟลาเวอร์พรินเซส ๓ คนเข้า
พวกเธอดูเหมือนจะต้องการตามตัวอิซึรุ จึงต้องสู้กับทั้ง ๓ คน
แต่หลังจากสู้ชนะแล้วทั้ง ๓ คนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้สติ ยังคงไล่ตามอิซึรุต่อ อาเรียเห็นแล้วก็คิดว่าคงโดนอิเกะพีทำอะไรแปลกๆเข้าให้ แบบนี้ทำยังไงก็ไม่ฟื้นสติ หนีดีกว่า
แล้วก็เล่นไล่จับและซ่อนแอบไปทั่วย่านปาปิโกะ
จนหลังจากที่หลบที่ร้านแห่งหนึ่งก็เจอแฟนเพลงของอิเกะพีคนหนึ่งเข้ามาหา เขาก็ดูจะหลงไหลอิซึรุเช่นกัน พอคุยด้วยเธอก็มีพูดถึงร้านชื่อ
เมนส์ฟิสต์ (メンズフィスト) บอกว่าอิเกะพีชอบไปที่นั่นเป็นประจำ
ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าน่าจะลองมุ่งหน้าไปยังร้านนั้นดู
แต่ระหว่างนั้นก็ยังต้องเล่นซ่อนแอบกับฟลาเวอร์พรินเซสไปเรื่อยๆ
บ้างก็หาที่หลบซ่อนไม่ได้จนต้องให้สึซึนะแกล้งตะโกนว่ามีร้านจัดบุฟเฟต์เพื่อล่อดึงความสนใจของฟลาเวอร์พรินเซส
ระหว่างนั้นอิซึรุก็ดูเหมือนจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนเขาจะกำลังรู้สึกสนุกเพราะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้ก็เดินทางมาถึงร้านที่เป็นเป้าหมาย
เมื่อมาถึงแล้วก็ไม่พบอิเกะพี แต่พอให้นารุโกะลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับร้านนี้ดูก็พบว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีอยู่ในโลกจริง ถูกจำลองมาทั้งๆอย่างนั้น แล้วในโลกจริงอิเกะพีทำงานเป็นพนักงานร้านนี้อยู่ด้วย
แต่พอได้ดูข้อมูลพนักงานแล้วเห็นรูปกลับพบว่าหน้าตาไม่ได้หล่อเหมือนอย่างอิเกะพีที่เห็นอยู่ที่นี่ จึงเริ่มเดาไว้ว่าอิเกะพีกลุ้มใจที่ตัวเองหน้าตาไม่หล่อ พอมาอยู่เมอบิอุสก็เลยขอให้เปลี่ยนหน้าให้หล่อแบบนี้ แต่อิซึรุกลับยังหล่อเด่นกว่าถึงได้ผูกใจเจ็บ
ในที่สุดก็หาเจอสถานที่ที่อิเกะพีอยู่จนได้
เมื่อเข้าไปก็พบว่าอิเกะพีกำลังถูกล้อมไปด้วยสาวๆ
แต่สาวๆดูเหมือนจะแค่หลงในหน้าตาอิเกะพีเท่านั้น ในขณะที่พวกเรารู้ความจริงแล้วว่านั่นไม่ใช่หน้าตาที่แท้จริง จึงมองว่าแบบนี้เข้าข่ายหลอกลวง จึงบุกเข้าไปเอาภาพอิเกะพีในโลกจริงให้ดู พอพวกผู้หญิงเห็นก็รู้ว่าตัวเองถูกหลอกแล้วไม่พอใจแล้วหนีไป
มิวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย อิเกะพีจึงฟ้องมิวว่าพวกเรามีเจตนากลั่นแกล้งทำลายความฝันของคนอื่นอย่างหน้าตาเฉย
แล้วมิวก็หนีไปแล้วเราก็ต้องสู้กับอิเกะพี
หลังจากล้มเขาได้แล้วเขาก็ยังมีท่าทีโกรธแค้นอิซึรุอยู่ แต่ก็ยอมฟังอะไรมากขึ้น
เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้อิเกะพี อิซึรุได้ให้อาเรียช่วยทำให้หน้าเขากลับเป็นเหมือนอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง เขาได้แสดงหน้าให้อิเกะพีเห็นคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่ได้มองเห็นด้วยจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่พอเห็นแล้วอิเกะพีก็ตกใจแล้วบอกว่าถ้าหน้าแบบนี้ทำไมยังอยากจะกลับไปโลกแห่งความเป็นจริงอีก
แล้วอิเกะพีก็เริ่มสงบลง แล้วบอกเบาะแสใหม่อีกว่ามิวน่าจะอยู่ที่
แลนด์มาร์กทาวเวอร์ (ランドマークタワー) ซึ่งเป็นตึกสูงที่กำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมกับนักดนตรีอีกคนคือ
ชาโดวไนฟ์ (シャドウナイフ) จึงกำหนดได้ว่าน่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปที่จะลองไปดู
แต่ระหว่างทางจู่ๆโชวโงะก็ทำท่าไม่อยากให้ไปแล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปทำแผนซุ่มโจมตี
หลังจากนั้นจึงกลับมาที่ห้องชมรมแล้วก็ตกลงกันได้ว่าต่อไปจะไปซุ่มโจมตีที่สวนสนุกซีพาราอีโซ
ล้วงลึกถึงอดีตของสมาชิกชมรมกลับบ้าน
~เนื้อเรื่องเสริมของสมาชิกชมรมกลับบ้าน~
หลังจากจบเนื้อเรื่องไปอีกส่วน คราวนี้ก็เข้าสู่เนื้อเรื่องเสริมของสมาชิกชมรมกลับบ้านแต่ละคนต่อได้อีก ซึ่งครั้งนี้เรื่องของหลายคนดำเนินไปได้ไกลจนถึงขั้นที่ล้วงลึกเข้าไปถึงอดีตได้ มีทั้งหมด ๕ คน คือโคโตโนะ นารุโกะ เคนสึเกะ มิฟุเอะ สึซึนะ รวมกับอายานะที่ไปถึงตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็เป็น ๖ คน
โคโตโนะพูดถึงเรื่องที่วันก่อนที่โดนดิจิเฮดดักโจมตี อาเรียถามว่านึกออกหรือยังว่าเด็กผู้หญิงคนที่มาทักเหมือนรู้จักเธอนั่นคือใคร โคโตโนะก็บอกว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งจะมารู้จักกันในเมอบิอุสนี้ แต่ไม่รู้จักในโลกจริงมาก่อน แต่ฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนจะรู้เรื่องของตัวเอง แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นใครบางคนที่รู้จักที่เปลี่ยนหน้าตาไปจนจำไม่ได้ เพราะในเมอบิอุสนี้บางคนก็ไม่ได้หน้าเหมือนกับในโลกจริง
เมื่อพยายามถามถึงเรื่องแม่และเรื่องคนที่ชื่อทักคุง โคโตโนะก็ลังเลที่จะบอก เพราะกลัวว่ารู้เรื่องนี้ไปแล้วอาจจะรังเกียจเธอได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อยังยืนกรานตัดสินใจที่จะล้วงลึกอดีตของโคโตโนะเธอก็ยอมเล่าความจริงให้ว่าที่จริงแล้วทักคุงก็คือลูกของตัวเอง ซึ่งตอนนี้น่าจะ ๔ ขวบแล้ว โดยเธอเริ่มตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ ๑๘ แล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่สุดท้ายกลับทิ้งให้แม่ช่วยเลี้ยงให้แทน แล้วตัวเองก็ได้ฟังเพลงของมิวแล้วหลงมาอยู่เมอบิอุส แต่ตอนนี้รู้สึกเสียใจและอยากกลับไปหาทักคุงให้ได้
โคตาโรวได้ตัดสินใจเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนรู้จักที่ชื่อยูโตะที่ไปเจอวันก่อนให้ฟังว่าเขาคือญาติลูกพี่ลูกน้อง แต่พอมาเจอกันที่นี่ยูโตะก็ยังบ่นถึงเรื่องที่บ้านแล้วบอกว่าตอนนี้นี้พ่อแม่เขาก็ล้มป่วยลง
หลังจากยูโตะก็จากไป แล้วโคตาโรวก็พูดต่อว่าจริงๆแล้วพ่อแม่ตัวเองเจออุบัติเหตุตายไปแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ประถม เลยต้องไปอาศัยอยู่บ้านยูโตะ แต่ยูโตะไม่ชอบหน้าโคตาโรวจึงกลั่นแกล้งอยู่ตลอด
หลังจากนั้นชายที่ใช้ชื่อว่าสไลม์ก็เขียนข้อความขอความช่วยเหลือในเว็บอีก พอรีบตามไปก็เจอยูโตะกลายเป็นดิจิเฮดแล้วกำลังอาละวาดใส่สไลม์ จึงเข้าไปช่วยไว้ หลังชนะได้แล้วเขาก็เริ่มคืนสติ แต่ก็ยังไม่ยอมพูดดีด้วย โคตาโรวพยายามเตือนว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะโดนจับไปล้างสมองแล้วกลับมาเป็นดิจิเฮดอีก แต่เขาก็ไม่ฟังคำเตือนแล้วหนีไป
นารุโกะบ่นถึงเรื่องนิยายที่แต่งอยู่ ว่ามีคนไปแสดงคอมเมนต์โจมตีเสียๆหายๆจนทำให้เสียกำลังใจ พออาเรียไปปลอบว่าพวกคนที่โจมตีคนอื่นแบบนี้ยังไงก็เป็นพวกไม่มีเพื่อน แต่นารุโกะได้ยินแล้วกลับบอกว่าอยากอยู่คนเดียวแล้วก็เดินจากไป
หลังจากนั้นเมื่อคุยอีกทีนารุโกะก็บอกว่าเลิกเขียนนิยายไปแล้ว จากนั้นพอลองตัดสินใจที่จะล้วงลึกถึงอดีตของนารุโกะไปอีกเธอจึงยอมเปิดใจว่าจริงๆแล้วเธอก็ไม่มีเพื่อน แล้วก็เคยโจมตีป่วนคนอื่นในเน็ตเหมือนกัน มีแต่ศัตรูเต็มไปหมด เพราะมีพ่อเป็นนักข่าวเลยถูกเพื่อนตั้งเป้ารังเกียจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยไปหันไปคบเพื่อนในเน็ต เจอคนที่รู้ใจเล่าเรื่องทุกอย่างแต่กลับถูกหักหลังขึ้นมา จนทำให้ไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก แล้วก็หันไปโพสต์โจมตีป่วนคนอื่นในเน็ต พอมาอยู่เมอบิอุสก็พยายามจะทำตัวให้เป็นที่สนใจเลยโพสต์อะไรลงเน็ตเรียกยอดชม จนไม่นานนี้ก็เริ่มเขียนนิยาย แต่ตอนนี้เริ่มท้อใจอยากจะเลิก
แต่พอเราและอาเรียเข้าไปปลอบใจแล้วบอกว่ากำลังตามอ่านนิยายของเธออยู่เธอก็กลับมาดูมีกำลังใจขึ้นมา
ส่วนเคนสึเกะกำลังคิดมากถึงเรื่องที่คนที่ชื่อบลูมันที่เจอกันวันก่อนนั้นได้พูดใส่และเริ่มท้อที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริง
พอตัดสินใจล้วงลึกอดีตของเคนสึเกะ เขาก็เล่าระบายความในใจให้ฟังว่าตัวเองรู้สึกกลัวที่จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องใช้ชีวิตน่าเบื่อแบบผู้ใหญ่ที่ตัวเองเคยรู้จักเพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์อะไร แม้แต่เรื่องแต่งเพลงเองก็เป็นเพราะได้มิวช่วยไม่งั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่อยากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
แต่เมื่อพยายามปลอบใจว่าถึงจะหนียังไงก็ต้องยอมรับความเป็นจริงอยู่ดีและเคนสึเกะก็ไม่ได้เป็นคนไม่ได้เรื่องหรอก เพราะถึงขนาดตัดสินใจที่จะออกจากกลุ่มนักดนตรีมาอยู่กับชมรมกลับบ้านทั้งที่รู้ว่ามีแต่ความเสี่ยงแบบนี้ก็แสดงว่ามีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แบบนี้ดูดีออก ไม่ต้องท้อแท้ไป
สุดท้ายเคนสึเกะก็ขอบคุณที่มาคุยด้วยและทำให้รู้สึกใจสบายขึ้นมาหลังจากที่ได้คายความในใจออกมาแล้ว
มิฟุเอะชวนไปตามหา NPC ที่เป็นแม่ของเธอในเมอบิอุสต่อ แต่อยู่ๆก็เหมือนจะไม่สบายขึ้นมาเพราะไม่ได้กินอะไรมานาน พอจะพาไปโรงพยาบาลก็กลับปฏิเสธเต็มที่
พอตัดสินใจถามล้วงลึกเข้าไปมิฟุเอะก็ยอมเล่าให้ฟังว่าตัวเธอจริงๆก็เข้าโรงพยาบาลอยู่ เพราะอดอาหารจนผอมแห้งไม่มีแรง พอคิดแล้วก็เริ่มไม่อยากจะกลับสู่โลกเดิมขึ้นมา
แต่เรากับอาเรียก็ปลอบใจโดยบอกว่าจริงๆแล้วมิฟุเอะออกจะเข้มแข็งออก เพราะอุตส่าห์ได้มาอยู่เมอบิอุสแล้วมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์สามารถกินอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ยังคิดที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงอีก
หลังจากได้ฟังแล้วมิฟุเอะก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา อาเรียเองก็บอกว่ายังไงก็จะช่วยหาแม่ให้เจอเพื่อเธอ
สึซึนะชวนมากินข้าวอีก คราวนี้ชวนนารุโกะมากินด้วย
แต่ต่อสึซึนะไปลองชวนโคตาโรวกินข้าวด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธ จึงรู้สึกเสียใจรู้สึกว่าตัวเองคงไม่มีใครอยากคุยด้วย
พอตัดสินใจถามล้วงลึกเข้าไปไปสึซึนะเธอก็เล่าให้ฟังว่า ตัวเธอในโลกจริงตอนที่ขึ้นมัธยมปลายมาก็ไม่มีเพื่อนเก่าจากโรงเรียนเดียวกัน แล้วตอนที่แนะนำตัวว่างานอดิเรกคืออ่านหนังสือกับร้องเพลงประสานเสียงก็กลับถูกหัวเราะเยาะ ทำให้พลาดโอกาสที่จะคบเพื่อนและเข้าชมรมร้องเพลงประสานเสียงด้วย
แต่แม้จะได้ระบายความในใจแล้วก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาในใจเธอได้ แถมอาเรียยังเผลอพูดอะไรซ้ำเติมให้แย่ลง เรื่องเลยจบไปแบบค้างคาไป
>> ตอนถัดไป