φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ



(ตอนจบ) ナツユメナギサ - ฤดูร้อนอันไม่สิ้นสุด (終わらない夏) ~
เขียนเมื่อ 2010/04/29 10:38
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

ยื

ต่อจาก https://phyblas.hinaboshi.com/20100424

จากตอนที่ผ่านๆมานั้นยอมรับว่าเป็นการเขียนแบบย่อเรื่องและตัดตอนไปมาก ซึ่งการเขียนแบบนั้นคงไม่อาจทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้สึกร่วมไปกับเนื้อเรื่องได้เลย แต่ก็คงเป็นธรรมดา หากจะเขียนให้ได้อารมณ์ร่วมเต็มที่จริงก็คงจะควรเขียนอย่างละเอียดดีๆ ซึ่งก็คงไม่อาจมีเวลาทำอย่างนั้นได้

การที่มาเริ่มเขียนเนื้อเรื่องย่อนี้ เริ่มจากการที่เล่นเกมจบแล้วรู้สึกประทับใจ อยากเขียนลงให้คนอื่นได้อ่านและประทับในเนื้อเรื่องตาม ตอนแรกกะว่าจะเขียนแค่หน้าเดียวให้จบเลย แต่ก็พบว่ามันยาวไปจึงกะเปลี่ยนเป็นสองหน้า แต่แล้วก็ไม่อาจเขียนจบในสองหน้าได้สุดท้ายจึงต้องเป็นสามหน้า ซึ่งถือว่ายาวกว่าที่ตั้งใจไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเรียกว่าสั้นมากอยู่ดีสำหรับการย่อนิยายเรื่องหนึ่ง

ตอนที่ผ่านๆมานั้นเป็นการย่อตัดตอนแบบเอาแค่ใจความเท่านั้นจริงๆ แต่ว่าในตอนสุดท้ายนี้จะเป็นการย่อแบบละเอียดกว่า เนื่องจากเป็นตอนที่จะเฉลยเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นจึงอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่ไม่อาจละได้เลย และเป็นตอนที่ซึ้งที่สุดจึงอยากเขียนให้มากที่สุด ดังนั้นแม้ว่าความจริงแล้วบทจบนี้จะสั้นมากยิ่งกว่าตอนอื่นๆ แต่เมื่อเขียนออกมาแล้วมันจึงยาวกว่าตอนที่ผ่านๆมา

ในเรื่องราวของอายุมุซึ่งเป็นเนื้อเรื่องต่อเนื่อง ความยาวสี่บทนั้น รวมแล้วก็ไม่ได้สั้น แม้จะไม่ยาวมาก หากจะเขียนหมดก็คงยาวเหมือนกัน แต่เราไม่ได้เขียนลงละเอียดในนี้ เขียนไว้เพียงบทสรุปเรื่องราวเท่านั้น ความจริงแล้วเนื้อหาของสี่บทนี้วนอยู่แค่ในฤดูร้อนช่วงสั้นๆที่เพื่อนสี่คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่คงเพราะมันเป็นชีวิตที่สงบสุขและราบรื่นไปหน่อย ก็เลยไม่รู้จะมีอะไรให้เขียนเป็นพิเศษ (ไอ้เราก็ชอบเขียนเรื่องเศร้าๆซะมากกว่าด้วยสิ) ส่วนเนื้อเรื่องของมิฮามะกับมากิที่ได้ลงไปนั้นก็ตัดในส่วนที่เรื่อยเปื่อยทิ้ง เขียนแต่ช่วงที่เป็นดรามาซะเป็นหลัก

ร่ายมาเสียยาวสุดท้ายก็ขอบอกว่า ขอให้ทุกคนได้อ่านตอนสุดท้ายอย่างสนุก...

 

 

นัทสึยุเมะ (บทส่งท้าย)

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ 終わらない夏 (owaranai natsu, ฤดูร้อนอันไม่สิ้นสุด)]

นางิสะรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังจมน้ำ จมลึกลงไปเรื่อยๆ ในตอนนั้นเขาได้นึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับอายุมุว่าจะกลับไปเจอกัน และรู้สึกขอโทษที่คงไม่อาจรักษาสัญญาได้แล้ว นางิสะได้ถอดจี้ห้อยคอที่ติดตัวอยู่กับตัวเองให้ลอยขึ้นไป หวังไว้ว่ามันจะส่งถึงอายุมุ

พอรู้สึกตัวอีกทีนางิสะกลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ริมชายหาดของเกาะที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง เมื่อไปถึงก็ได้พบกับอายุมุ แต่นางิสะในตอนนี้กลับนึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นคนที่รู้สึกคิดถึงอย่างมากเท่านั้น เธอยื่นโปสต์การ์ดใบหนึ่งให้จากนั้นก็เดินจากไป

นางิสะกลับขึ้นไปที่ห้องพักตัวเอง เขารู้สึกว่าความทรงจำตอนนี้ของตัวเองดูขาดๆหายๆไป พยายามจะนึกว่าสาวน้อยที่เจอเมื่อครู่คือใคร เขานึกย้อนไปเรื่อยๆจนเริ่มนึกออกขึ้นมาทีละนิด ในที่สุดก็นึกออกว่าเธอคืออายุมุ รวมทั้งเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้คืออะไร ตัวเองน่าจะจมลงสู่ก้นทะเลแล้วแต่กลับมานอนอยู่ที่ชายหาดได้ยังไงกัน เขาหยิบโปสต์การ์ดที่อายุมุให้เมื่อครู่ขึ้นมาดูก็พบว่าในนั้นเขียนว่า จะรออยู่ในวันคริสต์มาสอีฟ

นางิสะออกมาเดินรอบๆเมืองก็พบว่าในเมืองไม่มีใครอยู่เลยสักคน ราวกับเป็นเมืองร้าง แต่แล้วในที่สุดเขาก็ได้เจอกับเนเนะเข้า ในที่สุดเธอก็บอกให้รู้ว่าความจริงแล้วตอนนี้พวกเราอยู่ในความฝันของอายุมุ เธอเข้ามาในนี้ด้วยกันกับยุเมะ ที่จริงทสึกิชิมะก็เข้ามาด้วยแต่ว่าคลาดกัน และถามนางิสะว่าได้เจอทสึกิชิมะหรือเปล่า พอนางิสะบอกว่าไม่เจอ เนเนะก็บอกว่าสงสัยทสึกิชิมะเองก็คงจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นอย่างอื่นด้วยแน่เลย ทำให้นางิสะงงว่าหมายถึงอะไร ดังนั้นเนเนะจึงแปลงร่างให้ดู...

แล้วเนเนะก็กลายร่างเป็นราชันแห่งภูต และบอกว่าก่อนหน้านี้เธอต้องอยู่ในร่างนี้ตลอด แต่แล้วตอนนี้ก็กลับเกิดความผิดปกติขึ้น อยู่ดีๆก็กลับร่างเดิมได้ เนเนะบอกว่าน่าจะเป็นเพราะอายุมุปฏิเสธตัวตนของพวกเธอในโลกนี้ ดังนั้นทุกคนจึงไม่อาจมีตัวตนอยู่อย่างปกติได้

ระหว่างที่นางิสะกำลังงงกับที่เนเนะพูด ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เธอคือโรวงิ มากิ แต่นางิสะในตอนนี้จำเธอไม่ได้ แค่จำได้ว่าเคยพบที่ไหนมาก่อนเท่านั้น มากิเข้ามาคุยกับเนเนะอย่างสนิทสนมจนแม้แต่เนเนะยังงงว่าเธอคือใคร สุดท้ายเธอจึงเผยร่างที่แท้จริงออกมาว่าที่จริงแล้วเธอก็คือ...

ทสึกิชิมะ มาซากิ... ที่เนเนะกำลังตามหาอยู่นั่นเอง เธอสารภาพว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นผู้หญิง แต่ต้องปิดบังตัวเองแล้วแต่งเป็นชายมาตลอด  เธอบอกว่าต้องขอบคุณโลกนี้มากที่ทำให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตอยู่ในฐานะโรวงิ มากิ ได้มาพบกับนางิสะ ได้ทำในสิ่งที่ใจตัวเองต้องการ แม้ว่านางิสะในตอนนี้จะจำอะไรไม่ได้แล้วก็ตาม

(สรุปแล้วเรื่องที่มากิเล่าให้ฟังในตอนที่แล้วบอกว่าเป็นเรื่องของเพื่อน ที่แท้แล้วก็คือเรื่องของตัวเองนั่นเอง)

นางิสะพอเข้าใจแล้วว่าโลกที่อยู่ตอนนี้คือในความฝันของอายุมุ ดังนั้นตัวเองจึงยังมีชีวิตอยู่ในนี้ได้ ทั้งๆที่น่าจะตายไปแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองที่อยู่ตรงนี้คือใครอยู่ดี และทำไมถึงมาอยู่ในนี้ได้ นางิสะถามต่อ แต่ทสึกิชิมะบอกว่าตอนนี้คงไม่มีเวลาแล้ว การที่นางิสะกลับมาเป็นนางิสะคนเดิม ไม่ใช่นางิสะคนที่ความจำเสื่อมอย่างก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่าโลกนี้กำลังสูญเสียสมดุลลงแล้ว

 

ทันใดนั้นร่างของทสึกิชิมะก็เริ่มจางหายไป ตามด้วยร่างของเนเนะ ก่อนจากเธอบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องทุกอย่างให้ไปหายุเมะ นางิสะจึงรีบไปที่โรงเรียนและขึ้นไปยังห้องพยาบาลที่ยุเมะอยู่

ยุเมะเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าหลังจากที่นางิสะเกิดอุบัติเหตุ อายุมุก็จมอยู่ในความเศร้า ทุกคนช่วยปลอบจนรู้สึกดีขึ้นได้นิดหน่อยแล้ว แต่พอผ่านไปราวๆหนึ่งปีก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น จี้ของนางิสะซึ่งในนั้นมีรูปของอายุมุอยู่ได้ลอยมาติดที่ชายหาดบนเกาะ พออายุมุเห็นก็เริ่มมีอาการแปลกไป จนสุดท้ายถูกส่งเข้ารักษาที่สถานพักฟื้นผู้ป่วย แต่แล้ววันที่ ๒๔ ธันวาคม เธอก็เข้าสู่สภาวะหลับไม่ตื่น

ยุเมะเล่าให้ฟังว่าในวันนั้นเป็นช่วงกลางฤดูหนาว นางพยาบาลชื่ออาริตะจากสถานพักฟื้นผู้ป่วยได้โทรมาหาและเรียกยุเมะให้ไปดูอาการของอายุมุที่นั่น ระหว่างทางที่ไปยุเมะเห็นภูตตัวใสๆคล้ายผีเสื้อบินอยู่เต็มไปหมด

อาริตะเล่าให้ฟังว่าผีเสื้อใสๆเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นมาหลังจากที่อายุมุหลับไป ดังนั้นจึงน่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับอายุมุ เพราะพอเธอหลับไป หลังจากนั้นใครที่ได้มองผีเสื้อเหล่านั้นก็จะหลับตาม ตอนนี้ในสถานพักฟื้นแห่งนี้จึงมีคนหลับอยู่เต็มไปหมด

ยุเมะจ้องมองดูอายุมุที่กำลังหลับอยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าสติตัวเองเริ่มเลือนรางลง

จากนั้นพอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าคนอื่นในห้องได้หายไปหมดแล้ว พอออกมาด้านนอกก็พบว่าสภาพตอนนี้ดูเหมือนเป็นหน้าร้อนไม่มีผิด ทั้งๆที่จะถึงวันคริสต์มาสแล้วแท้ๆ ยุเมะได้พบกับเนเนะซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างของเพนกวินยักษ์ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แต่ยุเมะยังคงเป็นปกติอยู่ จากนั้นยุเมะจึงเดินออกไปเดินดูรอบๆ ในระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา

คนที่โทรมานั้นคือคนที่ยุเมะไม่คาดคิดว่าจะยังคงมีชีวิตอยู่... นางิสะนั่นเอง เขาเรียกให้เธอกลับไปหาที่โรงเรียน บอกว่าวันนี้มีนัดกันไว้ไม่ใช่เหรอ ทำให้ยุเมะงงมาก แต่พอไปถึงนางิสะที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้กลับดูเหมือนไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก เขาพูดเหมือนกับว่าตัวเองความจำเสื่อมอยู่และยุเมะก็เป็นที่ปรึกษาของเขา เป็นคนตั้งชื่อนางิสะนี้ให้กับเขา

ระหว่างที่เธอกำลังงงอยู่นี้ ก็รู้สึกว่ามีคนปลุกให้ตื่นขึ้น เธอกลับมาอยู่ในสถานพักฟื้นหน้าเตียงของอายุมุตามเดิม และอากาศข้างนอกก็กลับมาเป็นหน้าหนาว เมื่อมองดูรอบๆก็จึงได้รู้ว่าเมื่อครู่ทั้งสี่คนคือ ยุเมะ เนเนะ ทสึกิชิมะ และ อาริตะ ได้หลับไป แต่คนที่ตื่นขึ้นมามีแค่ยุเมะกับเนเนะเท่านั้น ส่วนทสึกิชิมะกับอาริตะยังคงไม่ตื่น เมื่อยุเมะถามเนเนะดูก็พบว่าทั้งคู่ฝันเหมือนกัน

ยุเมะจึงเริ่มผูกเรื่องราวขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่ตัวยุเมะเองและเนเนะ ได้เข้าไปยังความฝันของอายุมุมา ส่วนทสึกิชิมะกับอาริตะ รวมทั้งคนอื่นๆที่หลับไปก่อนหน้านั้นก็คงจะเข้าไปอยู่ในนั้นเช่นกัน นั่นน่าจะเป็นโลกความฝันที่อายุมุสร้างขึ้นด้วยความคิดที่ปฏิเสธโลกของความเป็นจริง ยุเมะเชื่อว่าหากปลุกอายุมุได้ทุกคนก็คงจะตื่นเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปยังความฝันของอายุมุอีกครั้งเพื่อหาทางแก้จากในนั้น เนเนะก็ขอตามไปด้วย

 

ยุเมะบอกว่าดูเหมือนอายุมุจะเป็นโรคกลุ่มอาการโรบินสัน(ロビンソン症候群) คือได้รับผลกระทบทางจิตใจจนทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งกันในสองสิ่งขึ้นมา ในกรณีของอายุมุนั่นก็คือเรื่องที่เธอรักนางิสะ กับเรื่องที่รู้สึกว่าหากไม่ได้มาเจอกับนางิสะ นางิสะก็คงไม่ต้องมาเจออุบัติเหตุ ความรู้สึกที่ว่าอยากพบ แต่ก็ไม่อาจพบได้ ดังนั้นอายุมุจึงไม่น่าจะอยู่ในโลกนี้ แต่ยังไงนี่ก็เป็นความฝันของอายุมุเอง ดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่าคงจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง และหากจะมีใครที่ช่วยทำให้อายุมุตื่นได้ นั่นก็ต้องเป็นนางิสะเท่านั้น

ตอนนี้มีปัญหาอยู่สองอย่างที่ยุเมะพบ อย่างแรกก็คือหากไม่ทำให้คนที่หลับไปนั้นตื่นขึ้นมาก่อนที่อายุมุจะตื่นละก็ อาจจะไม่ได้คืนสติและอาจเป็นอันตรายได้ ส่วนอีกอย่างก็คือตัวตนของนางิสะ ยุเมะได้พยายามค้นหามาตลอดระหว่างที่วนเวียนเข้าๆออกๆโลกความจริงกับโลกความฝันนี้อยู่นับครั้งไม่ถ้วน

ยุเมะบอกว่าปัญหาแรกนั้นคลี่คลายไปแล้ว เพราะทุกคนที่หลับไปนั้นได้ตื่นขึ้นมาหมดแล้ว พวกเธอเหล่านั้นคือคนที่มีปัญหาเป็นกลุ่มอาการโรบินสันเช่นเดียวกับอายุมุ ดังนั้นหากรักษาปัญหาทางใจนั้นได้ก็จะหลุดออกจากความฝันของอายุมุได้ และที่พวกเธอนั้นสามารถรักษาปัญหาทางใจได้นั้น ก็เพราะนางิสะ แม้ว่านางิสะในตอนนี้จะจำอะไรไม่ได้แล้วก็ตาม

ทุกคนที่หลับไปต่างฝันเห็นโลกเดียวกัน ฤดูร้อนที่ไม่สิ้นสุด เพนกวินที่เดินไปมาท่ามกลางแดดร้อนจ้า คริสต์มาสกลางฤดูร้อน บางทีโลกนี้อาจเป็นสภาพดังที่พวกเธอเหล่านั้นได้วาดฝันเอาไว้ก็เป็นได้ แต่ว่าตอนนี้พวกเธอนั้นได้ตื่นขึ้นแล้ว ความฝันก็มุ่งสู่จุดจบ ตอนนี้คนที่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้ก็มีเพียงอายุมุคงซึ่งเป็นตัวต้นเรื่อง กับเธอและก็ฉันเท่านั้น

เมื่อยุเมะเล่าจบนางิสะก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง แม้ว่าตัวเองในตอนนี้จะจำสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาได้เพียงลางๆก็ตาม แต่สิ่งที่เขาสงสัยมากสุดในตอนนี้ก็คือ แล้วตัวเขาเองล่ะเป็นใครกัน เขาไม่ใช่คนที่หลับอยู่ที่สถานพักฟื้นนั่นแน่นอน และนางิสะตัวจริงก็น่าจะตายไปแล้ว นางิสะถามยุเมะเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ยุเมะก็ตอบว่าใช่ นางิสะน่ะได้ตายไปแล้ว ส่วนตัวเขาเป็นใครนั้น ขอให้ไปลองคิดดูเอาเองดีกว่า

จากนั้นยุเมะก็ยื่นกุญแจอันหนึ่งให้นางิสะ บอกว่าเป็นกุญแจสำหรับเปิดหีบในโบสถ์ และบอกนางิสะว่าตัวเองก็ได้เวลาต้องจากโลกแห่งความฝันนี้ไปแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นกับนางิสะและอายุมุเองเท่านั้นแล้ว ว่าจะทำให้โลกแห่งความฝันนี้จบลงยังไง ยุเมะกล่าวส่งท้ายว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้เข้ามายังโลกแห่งความฝันนี้และได้พบนางิสะ เธอได้วนเวียนอยู่ในฤดูร้อนนี้คอยเฝ้าดูนางิสะตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนี้มาแล้วหลายรอบจนรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมาก

นางิสะ ฉันได้เข้ามาเกี่ยวข้องยังโลกนี้เพราะอยากช่วยผู้คนที่เข้ามาติดอยู่ในความฝันนี้ แต่แล้วฉันก็เริ่มคิดว่าอยากที่จะได้เฝ้ามองเธอจนไปถึงยังจุดหมายปลายทางอีกด้วยเช่นกัน เพียงเท่านี้ก็ไม่เหลืออะไรให้เสียดายอีกแล้ว ลาก่อนนางิสะ ฟากโน้นฉันคงไม่อาจได้เจอกับเธออีกแล้วคงรู้สึกเหงา แต่ฉันจะไม่ลืมฤดูร้อนนี้ที่ได้อยู่ร่วมกับเธอเลย

จากนั้นยุเมะก็หายไป นางิสะเดินออกมาและมุ่งไปยังโบสถ์ ระหว่างทางเขาก็นึกความทรงจำที่เกิดขึ้นในหน้าร้อนที่วนเวียนมาหลายๆรอบแล้วนี้ ความทรงจำที่เขาได้เจอกับเด็กสาวทั้งหลาย ได้อยู่อย่างมีความสุขด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้เขาจะนึกชื่อพวกเธอไม่ออกแล้วก็ตาม

เมื่อมาถึงโบสถ์และเปิดหีบออกมาเขาก็ได้พบจี้อันหนึ่งอยู่ เมื่อเขาได้ลองมองมันดูจึงเข้าใจทุกอย่าง นี่คือจี้ของนางิสะ ตัวเขานั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่ใครเลย เพราะนางิสะตัวจริงนั้นได้จมสู่ก้นทะเลไปแล้ว เหลือไว้เพียงจี้อันนี้ เป็นสิ่งเดียวที่จะส่งถึงอายุมุได้ เป็นสิ่งที่ใส่ความรู้สึกของนางิสะที่อยากส่งถึงอายุมุ จี้อันนี้เป็นเพียงความฝันของนางิสะ และตัวตนของเขาตอนนี้ก็คือความฝันของจี้อันนี้ เป็นเพียงความฝันของความฝัน ต่างจากคนอื่นในสถานพักฟื้นที่หลุดเข้ามาในความฝันนี้ซึ่งทุกคนต่างมีร่างอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ตัวเขาเท่านั้นที่ต่างจากคนอื่น

นางิสะตัดสินใจได้แล้วว่าเขาควรจะทำให้เรื่องนี้จบลงยังไง เขาเดินทางไปยังโบสถ์ในวันคริสต์มาสอีฟ ที่ซึ่งนางิสะเขียนเอาไว้ในโปสต์การ์ดว่าให้ไปพบ

เมื่อไปถึง นางิสะก็ได้พบอายุมุอยู่ตรงนั้น เขายื่นจี้อันนี้ให้กับอายุมุ แต่อายุมุทำท่ากลัวและปฏิเสธไม่ยอมรับ นางิสะพยายามเกลี้ยกล่อมอายุมุ พยายามอธิบายให้อายุมุเข้าใจว่าตัวนางิสะในตอนนี้ไม่ได้มีอยู่อีกแล้ว ตัวเขามีตัวตนอยู่ได้เพียงในโลกนี้ ในโลกนี้ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งลวง มีเพียงจี้อันนี้เท่านั้นที่เป็นความจริง มันคือความรู้สึกของเขาที่อยากส่งถึงเธอ

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ 君といる夏 (kimi to iru natsu, ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอ)]

ขอโทษนะอายุมุ ที่ฉันไม่อาจกลับไป... ไม่อาจทำตามสัญญาได้

ไม่หรอกน่ะ นางิสะก็กลับมาแล้วนี่ จากนี้ไปก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปใช่มั้ย? จะไม่ไปไหน อยู่ด้วยกันตลอดไปใช่มั้ย?

ขอโทษนะ... อายุมุ

ไม่นะ ไม่...

ฉันไม่อาจทำให้ความปรารถนาของอายุมุเป็นจริงได้

ไม่หรอกน่ะ ถ้าเป็นที่นี่... ถ้าอยู่ที่นี่ล่ะก็...

เป็นไปไม่ได้หรอก อายุมุเองก็น่าจะเข้าใจดีนี่นา

ไม่เข้าใจ! ฉันไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น! ตอนเช้าถ้าไม่มีนางิสะคอยปลุก... ถ้าไม่มีนางิสะคอยทำกับข้าวให้ทานละก็... ถ้าไม่มีนางิสะอยู่ด้วยละก็ไม่เอา... ที่ไหนก็ได้ ขอเพียงได้อยู่กับนางิสะ... แล้วนางิสะล่ะ ไม่ได้อยากอยู่กับฉันเหรอ...

จะไม่อยากอยู่ได้ยังไงกันล่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่ด้วยกัน แต่ว่านะอายุมุ ที่อยู่ตรงนี้น่ะไม่ใช่ตัวฉันจริงๆ และที่ตรงนี้ก็ไม่อาจมีความสุขที่แท้จริงอยู่

ถ้าไม่มีนางิสะอยู่เคียงข้างฉันก็ไม่อาจยิ้มได้ ไม่อาจมีความสุขได้หรอก... ถ้าไม่มีนางิสะอยู่ละก็... ฉัน...

...ฉันคอยปกป้องอายุมุอยู่เสมอ แต่ว่าไม่ใช่ที่นี่ ถ้ายังอยู่ที่นี่ละก็ อายุมุก็จะกลายเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง ฉันไม่อยากเห็นอายุมุเป็นแบบนั้น

ถ้านางิสะไม่อยู่สิจะยิ่งแย่ไม่ใช่เหรอ...

อย่างอายุมุน่ะ ไม่เป็นไรหรอก เพราะอายุมุเป็นคนเข้มแข็ง จะต้องยืนหยัดได้แน่นอน

ไม่ได้เข้มแข็งสักหน่อย ไม่ได้เข้มแข็งเลย เพราะงั้นถึงต้องมีนางิสะอยู่...

อายุมุ ถึงจะหนีเข้ามายังโลกแห่งความฝันแล้วได้มาพบฉันมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก ฉันน่ะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว แต่อายุมุน่ะยังสามารถเปลี่ยนได้ และจะต้องเปลี่ยนแปลงด้วย

ถ้านางิสะไม่อยู่ก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก

ฉันจะคอยอยู่ข้างๆปกป้องคุ้มครองอายุมุอยู่ไงล่ะ

ฮือ... นางิสะ... นางิสะ...

ในที่สุดอายุมุก็ยอมรับจี้ของนางิสะ ในที่สุดเขาก็เกลี้ยกล่อมเธอสำเร็จแล้ว แม้จะรู้สึกเสียดายว่าจากนี้ตัวเองจะต้องหายไป แต่ก็ดีแล้วเพราะทุกอย่างนี้ก็เป็นเพียงแค่ความฝัน

ดีแล้วล่ะ ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่นี่ จากนี้ไปก็ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในโลกแห่งความเป็นจริง

อายุมุมีสิ่งที่อยากขอนางิสะเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือสิ่งที่ทั้งสองคนเคยได้สัญญากันเอาไว้ ที่ว่าจะแต่งงานกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงจัดงานแต่งงานขึ้นโดยลำพังสองคน

นี่ นางิสะ ถ้าหากฉันกลับมาหลงทางอีกล่ะ ถึงตอนนั้น...

อื้อ ถึงตอนนั้นก็ขอให้นึกถึงหน้าร้อนนี้ขึ้นมาอีกก็ได้ จะฝันถึงอีกก็ได้ ขอให้นึกถึงฤดูร้อนที่มีฉันอยู่นี้ขึ้นมา รวมถึงสัญญาของเรา จากนั้นแล้วฤดูร้อนครั้งใหม่ก็จะมาถึง แม้มันคงจะไม่เหมือนกับตอนนี้ แต่ว่าฤดูร้อนที่แสนสนุกยิ่งกว่าจะต้องมาถึง

อื้อ นั่นสินะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน... เอาล่ะ คงจะได้เวลาแล้ว

อื้อ

นางิสะ ลาก่... ไม่สิ ขอบคุณนะ

อื้อ ฉันเองก็ขอบคุณเช่นกัน

จากนั้นโลกนี้ก็ค่อยๆเริ่มเลือนหายลง ความรู้สึกของนางิสะได้ค่อยๆเลือนหายไป เสียงคลื่นกระทบฝั่งก็ค่อยๆเงียบลง...

อายุมุได้ตื่นขึ้นมาโดยมีเนเนะ ทสึกิชิมะ ยุเมะ และอาริตะ อยู่ข้างๆ ทุกคนดีใจเป็นอย่างมากและบอกว่าจะไปฉลองคริสต์มาสกัน อายุมุบอกว่าตัวเองได้ฝันเห็นอะไรบางอย่างที่มีความสุขมาก แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าฝันเรื่องอะไร

ยุเมะได้ยื่นจี้ของนางิสะให้อายุมุดูอีกทีและบอกว่าขอโทษที่เปิดดูมันหมดแล้ว ในนี้มีข้อความสั้นๆจากนางิสะที่เขียนเอาไว้

ถึงนานาเสะ อายุมุ...  ไม่ว่าฤดูร้อนจะหมุนเวียนกลับมาอีกสักกี่หน ฉันก็จะยังคอยนึกถึงใบหน้าอันยิ้มแย้มราวดอกทานตะวันของเธอตลอดไป... ด้วยความรักอันเปี่ยมล้นจากนางิสะ

...

...

...

 

-จบบริบูรณ์-

 

 

เกี่ยวกับเรื่องเสียงพากย์

ก่อนจะจบไป มีเรื่องนึงที่อาจจำเป็นต้องบอกสักหน่อย นั่นคือหากใครได้เล่นในเกมละก็ เสียงของนักพากย์ก็ทำให้เดาอะไรได้มากขึ้นพอควรเหมือนกัน เพราะเสียงพากย์ของทสึกิชิมะเป็นคนเดียวกับมากิ ดังนั้นหากฟังออกแต่แรกละก็ อาจพอเดาออกได้อยู่แล้วว่าสองคนนี้คือคนเดียวกัน หรือไม่ก็ต้องเกี่ยวอะไรกัน

ส่วนเนเนะนั้น เสียงพากย์ตอนเป็นเพนกวินยักษ์ก็ยังใช้เสียงเดิม และเสียงพากย์เนเนะพากย์โดยคุณนารุเสะ มิอะ ซึ่งเป็นนักพากย์ที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์มาก ดังนั้นหากได้เล่นก็อาจรู้ได้แต่แรกว่าเนเนะน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับราชันแห่งภูต

เสียงพากย์อาเรียกับอาริตะดูเหมือนจะเป็นคนเดียวกัน บางทีสองคนนี้ก็น่าจะเป็นคนเดียวกัน หากได้เล่นบทฮารุกะก็จะรู้เกี่ยวกับเรื่องของอาเรีย ชักรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้นำมาเขียนเหมือนกัน

ส่วนเสียงของเด็กสาวที่ปรากฏตัวในห้องดนตรีตอนแรกสุดแน่นอนว่าคือเสียงของอายุมุ ไม่ใช่ใครอื่น

 

ความเห็นส่วนตัวส่งท้ายหลังเล่นจบ

ในที่สุดก็จบลงแล้ว จบลงได้อย่างดีมาก แม้ว่าจะจบอย่างเศร้า แต่ก็เป็นบทลงเอยที่ดี ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกนับแต่เล่นวิชวลโนเวลมาเลย ที่เนื้อหาลงเอยอย่างเศร้าเช่นนี้ เพราะเกมอื่นแม้จะเศร้าแค่ไหน แต่ปลายทางก็จะมีความสุข พระเอกนางเอกได้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างเศร้า แต่ทุกคนที่เหลือก็มีความสุขดี บางทีหากตอนจบแล้วนางิสะกลับมาได้เรื่องก็อาจจะไม่ได้ซึ้งถึงขนาดนี้ และเราก็คงจะไม่ได้รู้สึกติดใจตอนจบมากถึงขนาดนี้ ต้องยอมรับว่าในนิยายบางเรื่องชอบพยายามให้จบลงอย่างมีความสุข ทั้งที่การจบแบบเศร้าบางครั้งก็ให้ความกินใจได้มากกว่า ยังดีที่เกมนี้เลือกฉากจบแบบเศร้าอย่างสมเหตุสมผล นี่คือความรู้สึกหลังจากเล่นจบไป

ตลอดเรื่องมีปริศนาให้คิดและรู้สึกสงสัยอยู่ตลอด แต่ก็เฉลยหมดในบทสุดท้ายอย่างดี แม้ว่าจะยังไม่ได้เข้าใจทั้งหมดก็ตาม เนื่องจากบางช่วงก็ข้ามๆมา อาจจะซึมซับเนื้อเรื่องได้ไม่ทั้งหมด แต่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะซึ้งกับมันและพอที่จะนำมาเล่า ส่วนรายละเอียดบางอย่างไม่ได้ลงเนื่องจากเวลาจำกัดก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน

สุดท้ายนี้หวังว่าการเขียนครั้งนี้คงจะทำให้คนที่อ่านได้สนุกตาม แม้ว่าจะเขียนได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่ก็พยายามให้ละเอียดที่สุดเท่าที่เวลาอำนวย ถึงตรงนี้คนที่อ่านอาจมีอะไรงงอยู่อีกที่ยังไม่ได้อธิบายทั้งหมด หากสงสัยก็ถามในนี้ได้

ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์เสียเวลาอ่านยาวมาจนจบ~~~

 

---------------

 

ของแถมท้าย ซีจีเกมนี้ทั้งหมด ซึ่งอัปโหลดไว้ที่ Mediafire

โหลดซีจี http://tenshi.2dmaniac.com/Natsuyumenagisa.rar

 

และก็เพลงประกอบทั้งหมด http://www.mediafire.com/?dmqneomrzmb

เกมนี้เป็นเกมนึงที่เรียกได้ว่าเพลงประกอบเพราะมากทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นเพลงช้าๆ ได้อารมณ์ความรู้สึกหวนระลึกซึ่งเข้ากับบรรยากาศในเรื่องดีมาก

ชื่อเพลงสามเพลงในนี้ยังถูกนำมาตั้งเป็นชื่อตอนสำหรับเขียนบล็อกนี้ คือ

君がいた夏(ฤดูร้อนที่มีเธออยู่)
君といる夏(ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอ)
終わらない夏(ฤดูร้อนอันไม่สิ้นสุด)

สามคำนี้เป็นคำสำคัญที่ปรากฏบ่อยๆในเกม เพราะมันคือใจความสำคัญ สำหรับเพลง 君がいた夏 นั้น ถือเป็นเพลงที่เพราะที่สุด ปรากฏขึ้นมาเมื่อไรก็ทำให้ใจสงบซึ้งไปตามเรื่องได้ตลอด



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目次

日本による名言集
モジュール
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
機械学習
-- ニューラル
     ネットワーク
javascript
モンゴル語
言語学
maya
確率論
日本での日記
中国での日記
-- 北京での日記
-- 香港での日記
-- 澳門での日記
台灣での日記
北欧での日記
他の国での日記
qiita
その他の記事

記事の類別



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  記事を検索

  おすすめの記事

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文