φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



(ต่อ) ナツユメナギサ - ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอ (君といる夏) ~
เขียนเมื่อ 2010/04/24 10:26
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

 

ต่อจาก https://phyblas.hinaboshi.com/20100422

ตอนที่แล้วบอกไปว่าจะเขียนให้จบภายในตอนนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ เพราะเขียนไปมามันยาวเกิน จึงเปลี่ยนเอาบทสรุปท้ายสุดแยกเอาไว้ตอนหน้า สำหรับตอนนี้จะเขียนเพียงบทของมิฮามะ บทของมากิ และปิดด้วยเรื่องราวของอายุมุในใจความสำคัญ

 

 

บทมิฮามะ ฮิทสึจิ

(ตั้งแต่หลังบทนำจนถึงช่วงกลางขอรวบรัดไป)

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ sunflower]

หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานในที่สุดนางิสะก็เริ่มคบกับมิฮามะ เธอเล่าว่าตอนนี้หนีออกจากบ้านอยู่ อาศัยอยู่ในโรงแรมคนเดียว นางิสะรู้สึกเป็นห่วงจึงชวนเธอมาอยู่ที่ห้องเช่าของตัวเองด้วยกัน แต่แล้วก็เจอปัญหาว่าที่ห้องเช่านี้ห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้า จึงได้ตกลงกันว่าหากเป็นไปได้จะลองไปหาห้องเช่าที่อื่นอยู่กัน นางิสะจึงเริ่มทำงานที่ร้านกาแฟเดียวกับที่มิฮามะทำอยู่

นางิสะกับมิฮามะได้ไปที่ย่านร้านค้าและได้เจอกับเวทีที่ผู้คนมาร้องเพลงกัน มิฮามะลองไปร้องดูปรากฏว่าเธอมีความสามารถมากอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งร้องได้ดีและสามารถดึงดูดใจได้ดีคนจนน่าตกใจ มีคนหนึ่งในกลุ่มผู้ชมมาถามนางิสะว่าเธอคือใคร รู้สึกเหมือนคุ้นๆเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน แต่ก็บอกว่าคงจะเป็นคนละคนกันมากกว่า

จนถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม คืนก่อนคริสต์มาส ทั้งสองคนก็ฉลองกันอย่างสนุกสนาน แต่ว่านั่นอาจเป็นครั้งสุดท้าย...

ในคืนนั้นมิฮามะก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่าเมื่อคริสต์มาสมาถึง นั่นหมายถึงทุกสิ่งได้มาถึงที่สิ้นสุดแล้ว ความจริงแล้วมิฮามะคือแมวที่นางิสะช่วยเอาไว้ในวันนั้น ความจริงเธอได้ตายตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ด้วยความรู้สึกที่อยากเจอกับนางิสะ จึงได้อธิษฐานขอให้ได้กลายร่างเป็นคนและพบกับนางิสะอีก แต่ก็อยู่ได้แค่จนวันคริสต์มาส จากนั้นเธอก็กล่าวลา

พอเช้าตื่นขึ้นมามิฮามะก็ได้หายตัวไปแล้ว เมื่อไปถามที่ร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่ เจ้าของร้านก็บอกว่าวันนี้ไม่เห็นเธอเลย

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ sleepy sea]

นางิสะได้ไปตามหาที่ย่านร้านค้าซึ่งเธอเคยไปร้องเพลงที่นั่น และได้เจอกับคนดูซึ่งเคยมาถามเรื่องมิฮามะกับเขาเมื่อวันก่อน เขาคือแมวมองนั่นเอง เขาบอกนางิสะว่าได้ไปค้นข้อมูลบางอย่างมาซึ่งน่าจะเกี่ยวกับมิฮามะและอยากให้นางิสะลองดู เขาได้ยื่นซองใบหนึ่งให้ แต่ก็ได้บอกไว้ว่าก่อนที่จะเปิดดูขอให้ทำใจให้ดีๆก่อน แล้วเขาก็จากไป

เมื่อกลับมาที่ห้องพัก นางิสะก็ได้เปิดซองออกมาดู ในนั้นเป็นเรื่องราวของนักร้องที่ชื่อ มิฮามะ จิฮิโระ เมื่อเขาเห็นรูป เขาก็รู้ว่าเธอดูเหมือนกับมิฮามะที่เขารู้จักไม่มีผิด ข้อมูลบอกว่าเธอเจออุบัติเหตุไฟไหม้เนื่องจากผู้ชมอาละวาดจนได้รับแผลไฟไหม้ที่แขนและใบหน้า หลังจากนั้นก็ได้หายหน้าไปจากวงการและได้ข่าวว่าพักรักษาตัวอยู่ที่สถานพยาบาลสักแห่งที่ห่างไกลผู้คน

นางิสะนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านั้นเขาได้เจอกับสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในป่าตอนที่หลงทาง บางทีเธออาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้ ดังนั้นจึงได้เข้าป่าเพื่อตามหาสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง

 

หลังจากที่หลงทางอยู่หลายวัน ในที่สุดนางิสะก็หาจนเจอ เขาได้พบมิฮามะในสภาพที่มาผ้าพันแผลอยู่ที่ใบหน้าและแขนกำลังเล่นกับแมวซึ่งมีผ้าพันแผลอยู่เช่นกันอยู่ที่หน้าตึก แต่เมื่อเธอเห็นหน้านางิสะ เธอก็ตกใจและดูเศร้าขึ้นมา จากนั้นก็หนีเข้าไปในตึก

นางิสะไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกัน สักพักก็มีคนเดินออกมา เธอแนะนำว่าตัวเองชื่ออาริตะ เป็นนางพยาบาลของสถานพยาบาลแห่งนี้ และเล่าให้ฟังว่ามิฮามะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูร้อน เธอได้รับแผลเป็นจากไฟไหม้ จึงมาอยู่ที่นี่ แต่ละวันก็เอาแต่เล่นอยู่กับแมวตลอด ไม่ค่อยคุยกับใครเลย และวันหนึ่งเธอก็หายตัวไป โดยทิ้งโน้ตบอกไว้ว่ามีคนที่อยากเจออยู่ จะไปหา แล้วจะกลับมาในวันคริสต์มาส หลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์โทรมาหาอยู่สม่ำเสมอ แต่ละวันเธอดูร่าเริงสดใสขึ้นเรื่อยๆ บอกว่าได้เจอคนที่ชอบแล้ว และได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อาริตะบอกว่าเธอไม่อาจจะให้นางิสะเข้าไปหามิฮามะได้ตอนนี้ ให้ลองกลับมาหาอีกทีในวันพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้นนางิสะก็มาแต่เช้าและในที่สุดก็ได้เข้ามาข้างในและได้พบกับมิฮามะ เธอบอกว่าขอโทษที่หลอกเขา ความจริงก็เป็นอย่างที่เห็น นี่คือตัวจริงของเธอ ซึ่งต่างจากที่เขาเคยเห็นเคยรู้จักอย่างลิบลับ ไม่ใช่แค่เรื่องแผลเป็นที่ใบหน้ากับแขนเท่านั้น มิฮามะที่นางิสะรู้จักนั้นเป็นคนร่าเริงและเข้าหาเขาตลอด แต่ตัวเธอในตอนนี้ดูเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และพยายามหนีห่างจากเขา เพราะตัวจริงของเธอไม่ได้สวยงามเหมือนที่นางิสะรู้จัก ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะกลับไปพบเขาอีก

นางิสะบอกว่าไม่เป็นไร แต่มิฮามะก็ไม่ยอมเปิดใจ ยังคงเต็มไปด้วยความกลัว จึงไล่ให้นางิสะออกไป

วันต่อมาและต่อๆมา นางิสะมาหามิฮามะอย่างนี้ตลอดทุกๆวัน บางวันก็ได้เข้าพบ บางวันก็ไม่ได้เข้า จนผ่านไปหลายวัน วันหนึ่งอาริตะได้เล่าความจริงอย่างหนึ่งให้นางิสะรู้นั่นคือมิฮามะมักจะติดเครื่องดักฟังไว้ที่แมวเพื่อจะแอบฟังเสียงผู้คนในเมือง นางิสะได้ยินดังนั้นจึงเข้าใจว่าทำไมตอนที่เจอเธอครั้งแรกเธอถึงรู้ว่าเขาเคยเจอแมวตัวนี้มาแล้ว จากนั้นเขาก็ลองตามหาตัวแมวแล้วพูดอะไรบางอย่างเพื่อหวังว่ามิฮามะจะได้ยินผ่านทางนี้

แต่วันต่อมาเมื่อมาหา มิฮามะก็บอกว่าที่จริงเธอเลิกติดครื่องดักฟังไปตั้งนานแล้ว เพราะเหตุการณ์บางอย่าง เธอตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังถึงแผลใจของเธอ หลังจากที่เธอได้รับคำแนะนำมาว่าให้ลองมาอยู่ยังที่ห่างไกลคน เมื่อมาอยู่ก็รู้สึกเหงามาก เพราะต้องอยู่คนเดียว แต่เพราะในนิยายที่เคยอ่านนั้นมีการติดเครื่องดักฟังไว้ที่แมวเพื่อใช้ในการสืบสวน เธอจึงลองเอาอย่างบ้าง พอทำแบบนี้แล้วจึงได้ยินเสียงผู้คนในเมือง เมื่อผู้คนเจอแมวก็ต่างชื่นชมด้วยความรักและเอ็นดู เสียงเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น นั่นคือเกิดอุบัติเหตุ แมวได้รับบาดเจ็บ ในตอนนั้นผู้คนต่างพากันมองอย่างเวทนา น้ำเสียงผิดกับตอนที่แมวยังอยู่ดีเดินเล่นไปมาซึ่งได้รับความเอ็นดู ช่างเหมือนกับเธอที่ตอนแรกมีแต่ผู้คนชื่นชม แต่หลังจากอุบัติเหตุจนมีแผลไฟไหม้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป นั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ตายอีกเป็นครั้งที่สอง

แต่คนที่ได้ช่วยแมวตัวนั้นเอาไว้ก็คือนางิสะ มิฮามะจึงรู้สึกชอบเขาตั้งแต่ตอนนั้น แต่พอคิดว่าจะออกไปให้นางิสะเห็นหน้าตอนนี้ด้วยสภาพแบบนี้ก็ไม่ไหว เธอเคยได้ยินเรื่องต้นไม้ที่ลอยอยู่กลางน้ำซึ่งในตำนานบอกว่าจะสามารถทำให้ความปรารถนาของผู้คนเป็นจริงได้ จึงพยายามนั่งเรือออกไปในยามค่ำคืนนั้นเพื่อจะอธิษฐาน ในที่สุดก็ไปถึง

ช่วยคืนทุกสิ่งทุกอย่างมาให้ที!! มิฮามะไม่ต้องการทั้งปัจจุบันหรืออนาคตอะไรทั้งนั้น ขอแค่อยากกลับไปเป็นตัวเองในเวลานั้น ช่วยคืนเวลาในตอนนั้นกลับมาให้ที ช่วยทำให้กลับไปอยู่ในสภาพเหมือนตอนนั้น เพราะว่ามีคนที่อยากจะเจออยู่ มีคนที่ชอบอยู่ ขอเพียงได้พบกับเขาคนนั้น แม้เพียงเวลาช่วงสั้นๆก็พอ

คำอธิษฐานนั้นช่วยให้มิฮามะได้กลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งแมวเองก็หายจากอาการบาดเจ็บด้วยเช่นกัน วันต่อมาเธอก็ได้มาทำงานที่ร้านกาแฟ และได้เจอกับนางิสะอีกครั้ง แต่ก็รู้ว่ามีข้อจำกัดคืออยู่ได้ถึงแค่วันคริสต์มาสเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ระหว่างนั้นเธอได้อยู่ร่วมกับนางิสะอย่างมีความสุขมาก แม้จะมีความสุขแค่ไหนแต่เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกอย่างก็จบลง มิฮามะกลับไปอยู่เหมือนเดิม และไม่ได้เจอกับนางิสะอีก เธอแต่งเรื่องหลอกว่าตัวเองเป็นแมวเพื่อที่นางิสะจะได้ไม่ไปตามตัวเธออีก แต่นางิสะก็ค้นหาจนเจอเธอจนได้

นางิสะบอกมิฮามะว่าถ้าเธอรักเขาจริงๆละก็ ขอให้เชื่อใจ อย่าพูดว่าไม่ต้องการปัจจุบันและอนาคตอีกเลย เพราะเขาก็อยากที่จะก้าวไปพร้อมกับเธอ มาที่นี่เพื่อจะตามหาเธอ และกลับไปด้วยกัน

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ 君といる夏 (kimi to iru natsu, ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอ)]

นางิสะหยิบกุญแจขึ้นมาและยื่นส่งให้มิฮามะ นั่นคือกุญแจของหอพักที่ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน คราวนี้มิฮามะเริ่มใจอ่อนลงแล้ว เธอบอกว่าตอนนี้ยังไม่สามารถออกไปได้ แต่ถามว่าพรุ่งนี้จะมาหาอีกมั้ย นางิสะบอกว่าไม่เป็นไรพรุ่งนี้จะมาอีกแน่นอน ในตอนนั้นเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มของเธอกลับมาอีกครั้ง

-จบบทมิฮามะ ฮิทสึจิ-

 

บทโรวงิ มากิ

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ 渚 (นางิสะ)]

นางิสะได้มาหามากิในป่าอีกครั้งและพบว่าเธอกำลังวิจัยเรื่องเพนกวินในป่าอยู่ เธอกำลังซ่อมหุ่นยนต์เพนกวินที่ขอยืมมาจากพ่อซึ่งเป็นนักวิจัยอยู่เพื่อจะนำมาใช้หาเพนกวิน ในระหว่างนั้นก็ได้เจอเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนกับเพนกวินตัวใหญ่ๆ คล้ายๆกับชุดที่มากิใส่วันก่อน เพนกวินพูดชื่อนางิสะเหมือนคุ้นเคยรู้จักมาก่อน และบอกว่าตัวเองคือราชันแห่งภูตมางิ กำลังตามหาเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่แต่ไม่พบเลย มากิพยายามหาซิปหรือรอยเปิดที่ตัวเพนกวินเพื่อจะค้นว่าเป็นใครปรากฏว่าไม่พบเลยทำให้เชื่อว่านี่เป็นเพนกวินจริงๆ ไม่ใช่ชุดสวมใส่เหมือนของเธอ มากิพยายามที่จะสำรวจร่างกายของเพนกวินดูทำให้เพนกวินตกใจและหนีไป ก่อนจากไปได้ให้วงแหวนเอาไว้ ซึ่งบอกไว้ว่าเป็นวงแหวนที่จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้

จากวันนั้นมากิก็ง่วนกับการวิจัยเพนกวินโดยมีนางิสะช่วยอีกแรง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเริ่มรักกัน วันหนึ่งนางิสะถามมากิว่าทำไมถึงสนใจที่จะวิจัยเพนกวินมากขนาดนี้ เธอบอกว่าไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แค่รู้สึกว่ามีความว่างเปล่าในจิตใจ รู้สึกอะไรบางอย่างเหมือนกับรู้สึกสงสัยว่าตัวเองนั้นเป็นใครกัน เธอต่างจากนางิสะซึ่งไม่มีความทรงจำวัยเด็ก แต่ทั้งที่มีพ่อมีแม่มีความทรงจำวัยเด็กอยู่แต่กลับรู้สึกเหมือนกับสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น ไม่แน่ใจว่าตัวตนของตัวเองนั้นคือสิ่งที่เป็นอยู่จริงๆแน่หรือ

มากิยังถามนางิสะว่าที่เขาไม่พยายามที่จะหาความทรงจำก่อนหน้าเพราะว่าไม่ต้องการเจ็บปวดใช่มั้ย เพราะตัวเองตอนที่มีความทรงจำอยู่กับไม่มีอยู่ น่าจะเหมือนเป็นคนละคนกันไปเลย หากวันไหนที่ค้นความทรงจำเจอแล้ว ตัวเองที่อยู่ตรงนี้อาจจะต้องหายไป ถ้าเธอเป็นเขาเธอจะคิดเช่นนั้น แต่นางิสะบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนี้หรอก แค่เพราะไม่มีเบาะแสอะไรเลยก็เลยไม่รู้จะทำยังไงเท่านั้น

จากนั้นมากิได้พยายามที่จะช่วยนางิสะหาความทรงจำ แต่ก็ไม่เจออะไรเลย นางิสะกับมากิมาเจอราชันแห่งภูตที่ป่าอีกครั้งจึงถามว่าทำไมตอนนั้นถึงรู้จักชื่อนางิสะได้ เพนกวินก็ตอบว่าแค่รู้จักคนที่เหมือนกับเขามากคนนึง แต่ว่าไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับนางิสะตอนนี้หรอก นางิสะถามอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เขารู้สึกเหมือนวันเวลาถูกวนกลับ เหมือนเหตุการณ์วันเดิมขึ้นซ้ำๆกันสองครั้ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นพลังของวงแหวนที่ได้รับมา แต่ราชันแห่งภูตก็ตอบว่านั่นเป็นแค่วงแหวนธรรมดา นั่นน่าจะเป็นพลังของคริสต์มาสที่ส่งผ่านคำอธิษฐานมาทางวงแหวนมากกว่า

วันที่ ๒๑ ธันวาคม นางิสะกับมากิได้ไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน แต่ตอนเย็นตอนเดินกลับ เธอบอกว่ามีธุระจะต้องออกจากเกาะไปแต่จะกลับมาในวันมะรืน แต่ก็พูดบอกว่ามีลางสังหรณ์หมือนว่าพอได้ออกจากเกาะนี้ไปแล้ว อะไรบางอย่างอาจจะต้องสิ้นสุดลง

ตอนนั้นนางิสะก็ไม่ได้คิดอะไรแต่เมื่อถึงวันที่ ๒๓ ธันวาคมวันที่มากิควรจะกลับมา เธอก็ไม่ได้กลับมา โทรศัพท์ไปก็ติดต่อไม่ได้ จนในที่สุดก็พบจดหมายของมากิวางอยู่ที่ห้องพัก เธอเขียนบอกว่าดูเหมือนตอนนี้เธอจะรู้แล้วว่าตัวเองจริงๆคือใคร ดังนั้นได้เวลาแยกจากกันแล้วจริงๆ ถ้าหากเขายังรักเธออยู่ละก็ ช่วยตามหาตัวเธอให้พบด้วย ณ สถานที่แห่งการเริ่มต้น

นางิสะต้องตกใจเพราะเมื่อถามถึงเรื่องมากิกับคนอื่น ไม่มีใครจำเธอได้เลย เหมือนกับว่าโรวงิ มากิ นั้นไม่มีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว... ราวกับเป็นเพียงความฝัน...

-จบ?!-

...

...

...

(เมื่อเล่นบทของทสึคาสะ มิฮามะ ฮารุกะจบ แล้วกลับมาเริ่มใหม่จะสามารถเข้าสู่บทสรุปของมากิได้)

วันที่ ๒๓ ธันวาคม เมื่อนางิสะเห็นว่ามากิยังไม่กลับมา ทั้งยังทิ้งจดหมายเอาไว้ เมื่อถามผู้คนดูก็ได้พบว่าทุกคนต่างลืมมากิไปแล้ว... สุดท้ายเขาจึงได้มาถามยุเมะ เธอบอกว่าตัวเองก็ไม่รู้เช่นกัน และบอกว่าอาจเป็นนางิสะที่สับสนใจความทรงจำเองก็เป็นได้ ก่อนหน้านี้เขาเองก็เพิ่งความจำเสื่อมมา ให้ลืมมันไปซะ แต่นางิสะบอกว่าความทรงจำที่ได้พบกับมากินี่คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา จะไม่มีวันลืมมันเด็ดขาด

ยุเมะถามนางิสะว่าให้ลองคิดดูให้ดีๆอีกทีสิ ว่าความทรงจำของนางิสะนั้นแท้จริงแล้วเริ่มต้นจากจุดไหน นางิสะก็นึกย้อนไปว่า ตอนแรกเขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลในช่วงเดือนกันยายน แต่เมื่อยุเมะถามในรายละเอียดเขาก็ตอบได้ไม่ตรงเลย หลายอย่างกลับนึกไม่ออก

นางิสะนึกทบทวนไปว่าวันที่เขามีความทรงจำอยู่ชัดเจนแน่นอนนั้น มันเริ่มจากวันไหนกันแน่ ในที่สุดเขาก็พบคำตอบว่านั่นก็คือวันที่ ๒๔ พฤจิกายน เริ่มจากตอนที่เขาฝันว่าตัวเองเป็นเพนกวินและคุยอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่ง และก็ตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาลโดยมียุเมะอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ตั้งแต่เดือนกันยายนที่เขาเข้าใจว่าเป็นวันที่ตัวเองฟื้นขึ้นมา

จากนั้นนางิสะก็หยิบวงแหวนที่ได้มาจากเพนกวินขึ้นมาแล้วบอกว่าขอให้เขาได้ย้อนกลับไปในวันนั้นอีกครั้ง ในที่สุดเวลาก็หมุนกลับ เขาได้ย้อนกลับมาในวันนั้นในที่สุด เขาได้พบโปสการ์ดที่โต๊ะซึ่งเรียกให้ไปหาที่ห้องดนตรีเช่นเดียวกับเมื่อครั้งก่อน

เมื่อเขาไปถึงห้องดนตรี ก็ได้ยินเสียงเด็กสาวลึกลับพูดเหมือนเดิม แต่คราวนี้เขากลับเป็นฝ่ายถามเองว่ามากิอยู่ที่ไหน เธอบอกว่าเธอก็ไม่รู้ เพราะคนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นนางิสะเอง เธอบอกได้แค่เพียงแต่ว่ามากิยังอยู่ในโลกนี้ เพียงแต่อีกไม่นานก็จะหายไปแล้ว ให้รีบไปตามหาเธอให้เจอก่อนที่เธอจะหายไป

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ hope]

นางิสะไปที่ป่าบริเวณที่มากิเคยตั้งแคมป์อยู่ และในที่สุดก็ได้พบ เธอบอกว่าเธอไม่ใช่โรวงิ มากิ ที่นางิสะรู้จัก ตัวเธอนั้นได้หายไปแล้ว ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนหลอกลวง รวมทั้งตัวเธอเองด้วย ความทรงจำของนางิสะเองก็เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่แต่แรกแล้ว แต่นางิสะไม่เข้าใจและก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว และบอกว่าดูยังไงเธอก็คือมากิ คนที่เขารักคนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ในที่สุดมากิก็เลิกที่จะห้ามใจตัวเอง เธอบอกว่ารักนางิสะมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะรู้จักเธอซะอีก คำพูดนี้ทำให้นางิสะสงสัยนิดหน่อยว่าหมายความว่ายังไง แต่ตอนนี้ในใจเขาไม่ได้คิดอะไรนอกจากความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้แล้ว

สุดท้ายนางิสะและมากิจึงลงเอยกันได้ ทั้งคู่ไปเดินเล่นที่ชายหาด มากิเล่าให้นางิสะฟังว่าตัวเองมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้หญิงแต่ถูกพ่อบังคับให้ปิดบังตัวเองและใช้ชีวิตอย่างผู้ชายมาตลอดโดยไม่มีใครรู้ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้รักกับเพื่อนชายคนหนึ่งเข้า แต่ก็ไม่สามารถสารภาพรักได้เพราะเขาไม่รู้ตัวตนจริงๆของเธอ ได้แต่แอบรักข้างเดียวมาโดยตลอดเท่านั้น...

สุดท้ายมากิก็บอกว่าอยากให้ฤดูร้อนนี้ ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอนี้คงอยู่ตลอดไป แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ฤดูร้อนที่มีตัวตนอยู่แต่แรก แค่ประเดี๋ยวเดียวมันก็จะจางหายไปคล้ายกับฟองสบู่ แต่เธอก็ชอบฤดูร้อนนี้มากเพราะทำให้เธอได้สมหวัง

จากนั้นร่างของมากิก็เริ่มเลืองลางลง

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ นางิสะคุง

-จบบทโรวงิ มากิ-

 

บทของทสึคาสะกับฮารุกะ

ต้องขออภัยผู้อ่านทุกคนที่อาจต้องตัดไม่ได้เขียนถึงส่วนนี้ไป บทของทสึคาสะกับฮารุกะนั้นมีความสำคัญใกล้เคียงกับบทของมิฮามะ อย่างไรก็ตามครั้งนี้คงได้แต่ยกบทของมิฮามะขึ้นมาและบอกให้รู้ว่าบทของสองคนนี้เองก็คล้ายๆกัน ที่เลือกบทของมิฮามะเพราะชอบโดยส่วนตัว คิดว่าเนื้อหาเข้มข้น เป็นดรามาหนักที่สุดนั่นเอง

ต่อไปจะเป็นเนื้อเรื่องแยกต่างหากที่เรียกว่ารื่องราวของอายุมุ ซึ่งจะเล่นจนจบได้ต่อเมื่อจบบทของมากิแบบสมบูรณ์แล้ว และเมื่อจบเรื่องราวของอายุมุก็จะเข้าสู่บทสรุป ซึ่งจะเขียนในตอนหน้าซึ่งเป็นตอนสุดท้าย

 

เรื่องราวของอายุมุ

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ 君がいた夏 (kimi ga ita natsu, ฤดูร้อนที่มีเธออยู่)]



ในฤดูร้อนเมื่อครั้งหนึ่ง นางิสะ อายุมุ เนเนะ ทสึกิชิมะ กลุ่มเพื่อนสี่คนได้ซึ่งอยู่ชมรมดำน้ำด้วยกันและสนิทกันมากได้ใช้ชีวิต ใช้วันเวลาร่วมกันอย่างมีความสุข แต่สำหรับนางิสะกับอายุมุแล้วมีความสัมพันธ์ที่มากไปกว่านั้น ทั้งสองคนได้รักกันเข้าและตกลงใจคบกันในที่สุด

แต่แล้ววันหนึ่งนางิสะก็กำลังจะต้องย้ายไปอยู่บราซิล ทำให้เขาจำต้องแยกจากเพื่อนๆไป ก่อนจากนางิสะได้ชวนอายุมุไปที่โบสถ์ จากนั้นก็ขอเธอแต่งงาน นางิสะบอกว่าจะสามารถกลับมาได้อีกครั้งนึงในช่วงวันคริสต์มาส ให้เธอรออยู่ที่นี่ ทั้งคู่ได้ให้สัญญากันเอาไว้

แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช้าไม่กี่วันหลังจากที่นางิสะได้นั่งเรือออกจากเกาะไป เนเนะกับทสึกิชิมะได้มาหาอายุมุที่บ้านแล้วบอกว่า...

 

อามุจัง ทำใจดีๆไว้นะ เรือที่นางิสะนั่งไปเกิดอุบัติเหตุน่ะ

...

...

...

...

...

...

...

...

...

...

ทั้งๆที่สัญญากันเอาไว้แล้วแท้ๆ ทำไมกัน...

...

...

...

...

 

[กดเพื่อเล่นเพลงประกอบ squall]

อ่านต่อ https://phyblas.hinaboshi.com/20100429

つづく



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文