φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ



อาเตอลีเยของโทโทริ ตอนที่ ๑๒ : นักผจญภัยมือหนึ่งก็เหงาเป็นเหมือนกัน
เขียนเมื่อ 2014/09/15 15:42
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
>> อ่านตอนแรก
>> อ่านตอนที่แล้ว




โทโทริก็กลับมาที่หมู่บ้านอาลันยาเพื่อบอกข่าวดีกับเปียนญา เธอตัดสินใจที่จะอยู่ที่บ้านโทโทริต่อไปเหมือนอย่างที่ผ่านมา



หลังจากนั้นโทโทริก็ครุ่นคิดอยู่สักพักว่าต่อจากนี้ไปจะทำอะไรดี เพราะเรื่องที่ค้างคาก็ทำจนหมดแล้ว แต่แล้วก็คิดได้ทันทีว่าเธอเป็นนักผจญภัยดังนั้นก็ต้องผจญภัยต่อไป ยังมีที่ที่ยังไม่ได้ไปอีกมากมายรอให้ค้นหาอยู่


พอเดินออกไปยังลานกว้างของหมู่บ้านก็จะพบว่าผู้คนกำลังอออยู่หน้าร้านเหมือนจะเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลในนั้น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป สักพักพาเมลาในร่างวิญญาณก็บินเข้ามาทำให้ทุกคนตกใจหนีกันไปหมด มีแต่โทโทริที่รู้อยู่แล้วว่าพาเมลาเป็นวิญญาณก็เลยไม่ตกใจนัก หลังจากที่ออกเดินทางไปกับโทโทริเป็นเวลานานตอนนี้เธอกลับมาเปิดร้านต่อตามปกติแล้ว



เมื่อกลับเข้าไปยังอาเตอลีเยอีกทีเพเตอร์ก็เข้ามาหาอย่างรีบร้อนแล้วบอกว่าจะจัดงานเทศกาลประมงอุดมสมบูรณ์ขึ้นให้จึงขอร้องแกมบังคับให้ช่วยรวบรวมสาวสวย ๘ คนมาให้ที ทำให้โทโทริต้องหาทางไปชวนคนอื่นอีก ๗ คน



เมื่อไปชวนพาเมลาเธอก็ตกปากรับคำทันที



พอไปชวนแมร์เวียเธอก็พูดเหมือนกับว่าจะรู้ทันว่าเพเตอร์คิดอะไรอยู่ แต่ก็ยอมเพราะรู้สึกว่าน่าสนใจดี แต่เธอก็ไม่ยอมบอกโทโทริว่าเธอคิดอะไรออก



ส่วนเซซีดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมตกลงในไม่ช้า



หลังจากนั้นโทโทริเดินทางไปยังอาร์แลนด์ พอคุยกับโรโรนาเธอก็ตกลงอย่างง่ายดาย



แต่พอไปชวนทีฟานาเธอกลับปฏิเสธทำให้ต้องหาคนอื่นต่อไป



หลังจากนั้นจึงไปชวนคูเดเรีย พอเธอรู้ว่าโรโรนาร่วมด้วยก็ตกลงรับปากทันที แต่ก็กำชับว่าอย่าให้ทำอะไรแปลกๆเด็ดขาดเลย



พอชวนฟิลลีตอนแรกเธอทำท่าจะปฏิเสธเพราะไม่ชอบเจอคนเยอะ แต่พอบอกว่ามีสาวสวยๆคนอื่นอีก ๗ คนไปด้วยเธอก็เปลี่ยนใจตกลงทันที



สุดท้ายพอลองไปชวนมิมิเธอก็ทำท่าไม่ยอมแต่พอโทโทริบอกว่าถ้าเข้าร่วมจะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเธอและตระกูลได้เธอก็ยอมทันที



ตอนนี้ชวนครบทั้งหมด ๗ คนแล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาอีก ๒ เดือนให้หลังก็คือวันที่ 17 เดือน 8 ระหว่างนั้นก็ทำอย่างอื่นไปก่อน

พอกลับมาที่บ้านโทโทริก็เห็นโรโรนากำลังสอนวิชาเล่นแร่แปรธาตุให้เปียนญา เธอทำสำเร็จตั้งแต่รอบแรกจนโรโรนาชมว่าเก่งกว่าโทโทริอีก ทำให้โทโทริรู้สึกน้อยใจว่าเปียนญากำลังจะแย่งโรโรนาไปจากเธอเสียแล้ว



พอเข้าไปที่ร้านเหล้าจะพบว่าเกราร์ดกำลังกลุ้มใจที่ร้านยังคงเงียบเหงาไม่ค่อยมีคนมา พอคุยด้วยเขาจึงบอกว่าเหล้าที่ใช้ปลาระดับธรรมดาทำคงจะไม่เพียงพอ ต้องไปลองจับปลานุชิซึ่งเป็นปลาในตำนานมาทำเป็นเหล้าดู แล้วเขาก็เริ่มเล่าเรื่องความหลังว่าเคยเจอกับปลาตัวนั้นแต่ว่าปล่อยให้หลุดมือไป



เกราร์ดอยากไหว้วานให้โทโทริช่วยไปจับปลานั้นมาให้ที เขาบอกว่าการจะจับปลานั้นได้ต้องใช้เบ็ดตกปลาซึ่งให้ไปยืมเอาจากกวีดได้ แล้วก็ต้องใช้เหยื่อที่จำเพาะซึ่งเขาลืมไปแล้วว่าคืออะไรให้ไปหาเอาเอง และยังต้องหาคนที่มีกำลังแขนแข็งแรงมากมาช่วยดึงเบ็ดด้วย และที่สำคัญที่สุดก็คือมันจะปรากฏตัวเฉพาะวันสิ้นเดือนเท่านั้น เดือนไหนก็ได้



พูดถึงคนที่แข็งแรงโทโทริก็นึกถึงแมร์เวีย แต่พอชวนเธอก็ปฏิเสธโดยบอกว่าเธอแพ้ปลาคงไปช่วยไม่ไหว แต่ก็เสนอให้ลองไปชวนสแตร์คดู



โทโทริจึงไปที่อาร์แลนด์เพื่อชวนสแตร์ค เขาก็รับปากแม้จะบอกว่าไม่เคยตกปลามาก่อนอย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรมาก



จากนั้นกลับมาที่หมู่บ้านมาหากวีดซึ่งนั่งตกปลาอยู่ที่ท่าเรือเพื่อขอยืมเบ็ดตกปลา



จากหมู่บ้านอาลันยาไปยังจุดตกปลาใช้เวลาเดินทาง ๔ วัน ดังนั้นถ้าเริ่มออกเรือวันที่ 26 ของเดือนก็จะไปถึงวันที่ 30 พอดีตามกำหนด ช่วงระหว่างรอก็สร้างหินวิญญาณ (精霊石) ซึ่งเป็นอาวุธโจมตีรุนแรงอย่างหนึ่ง โดยโจมตีธาตุดินใส่ศัตรูเป็นกลุ่ม คู่มือทำซื้อมาจากหมู่บ้าน ณ ขอบปลาย



พอถึงวันที่ 26 เดือน 6 ก็เริ่มออกเดินทางไปยังที่อยู่ของนุชิ (ぬしの棲家) พร้อมกับสแตร์ค ไปถึงก็ใช้ซอนเนฟรุต (ゾンネフルーツ) เป็นเหยื่อ



ตกอยู่สักพักในที่สุดก็มีอะไรบางอย่างติดเบ็ด แต่สิ่งที่ขึ้นมานั้นกลับไม่ใช่ปลาแต่เป็นหมึก ทั้งสองคนเลยลำบากแทบแย่กว่าจะจัดการกับมันและหั่นเป็นชิ้นๆได้



พอกลับมาถึงแล้วไปหาเกราร์ดเขาก็ได้กลิ่นของนุชิที่ติดมากับตัวโทโทริจึงรู้ทันทีว่าโทโทริไปจับมันมาแล้วก็ดีใจใหญ่แล้วก็เร่งให้โทโทริรีบเอาไปทำเป็นเหล้ามาให้เร็วๆ โทโทริโกรธที่เกราร์ดไม่ยอมบอกว่านุชิไม่ใช่ปลาแต่เป็นหมึก แต่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมฟัง



จากนั้นพอโทโทริทำเหล้ามาให้ก็พบว่ามันขายดีเกินคาดมากจนเกราร์ดรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก



แต่พอวันต่อมากลับมาก็พบว่าไม่มีลูกค้าแล้ว กลับมาเงียบเหงาเหมือนเดิม เพราะว่าเหล้าที่ทำจากนุชิขายหมดอย่างรวดเร็ว เกราร์ดพยายามขอร้องให้โทโทริไปจับนุชิมาให้อีกแต่เธอปฏิเสธทันทีอย่างไม่ใยดี



เมื่อจบเรื่องแล้วก็มารอวันจัดงานเทศกาลประมงค์อุดมสมบูรณ์ต่อไป ระหว่างนี้ยังเหลือเวลาก็ได้สร้างอุปกรณ์ป้องกันดีๆขึ้นมาอย่างหนึ่งคือมิธิคัลริง (ミシカルリング) เอามาใส่ให้กับทุกคนทำให้สู้เก่งขึ้นมาก



โทโทริเตรียมตัวจะออกเดินทางไปผจญภัยอีกครั้ง ในตอนนั้นพอมาคุยกับมิมิเธอก็ถามว่าต่อจากนี้ไปจะทำอะไรต่อ เมื่อจบเรื่องของแม่แล้วก็เท่ากับวัตถุประสงค์ที่เธอมาเป็นนักผจญภัยก็หมดไปแล้วด้วย แต่โทโทริตอบว่าต่อจากนี้ก็อยากจะไปสำรวจโลกกว้างต่ออีก ยังมีที่ที่ยังไม่ได้ไปอีกมากมาย ต่อไปต้องตั้งเป้าเป็นนักผจญภัยมือหนึ่งของโลกให้ได้



คราวนี้ออกมาผจญภัยที่ออร์โทกาลักเซนซึ่งเป็นดันเจียนแห่งสุดท้ายที่ยังไม่เคยได้แวะไป ที่นี่มีมอนสเตอร์โหดๆมากมาย



เมื่อไปถึงชั้น ๔ ก็จะเจอกับบอสที่เก่งกาจปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกัน ๓ ตัว พวกมันสวมหน้ากากประหลาดดูแล้วน่าสงสัย



ศึกนี้เป็นไปอย่างยากลำบากและยืดเยื้อเพราะศัตรูค่อนข้างเกาะหนาและยัง HP สูงด้วย สิ่งที่โจมตีได้แรงที่สุดในตอนนี้คือหินวิญญาณซึ่งเรียกภูตมาช่วยโจมตีใส่ศัตรูด้วยธาตุดิน ฉากโจมตีอลังการมากแต่ก็เป็นสาเหตุให้กินเวลามาก



สแตร์คนั้นเมื่อฟื้นหลังจากหมดสภาพต่อสู้แล้วก็จะเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันมากเป็นพิเศษ



ศึกยืดเยื้อจนทั้งสแตร์คและมิมิมีโอกาสได้ใช้ท่าไม้ตายถึง ๒ ครั้ง ช่วยลด HP ของศัตรูได้มาก



ท่าไม้ตายของสแตร์คดูกี่ทีก็เท่สุดๆไปเลย



สุดท้ายก็ชนะจนได้ ในที่สุดโทโทริก็เลเวลถึง ๕๐ ซึ่งสูงสุดแล้ว



เมื่อเอาชนะมันได้ก็จะได้คู่มือสำคัญซึ่งเอาไว้ใช้สร้างของดีเพิ่มได้อีก



หลังจากนั้นลุยต่ออยู่ในนั้นสักพักแล้วมิมิก็เลเวลเป็น ๕๐ ตามมาติดๆ



เมื่อเลเวลถึง ๕๐ โทโทริก็ชวนมิมิคุยว่าตอนนี้พวกเราเก่งขึ้นมากแล้ว มิมิเลยบอกว่าแบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่แต่ในประเทศนี้ต่อไปแล้ว ในเมื่อตั้งเป้าจะเป็นนักผจญภัยมือหนึ่งของโลก ถ้าอยู่แต่ที่นี่ก็ได้แค่เป็นมือหนึ่งของประเทศเท่านั้น ไว้สักวันมาออกผจญภัยสู่โลกกว้างกันดีกว่า



หลังจากนั้นก็เดินทางกลับสู่หมู่บ้านอาลันยา เมื่อโทโทริกลับมาถึงอาเตอลีเยก็พบโรโรนากำลังสอนวิชาเล่นแร่แปรธาตุให้เปียนญาอีกแล้ว คราวนี้เธอสามารถสร้างลูกระเบิดขึ้นมาได้จนโรโรนาชมใหญ่เลย ทำให้โทโทริน้อยใจแล้วระบายอารมณ์ใส่ไป จากนั้นเธอจึงรู้ตัวว่าตัวเองพูดไม่ดีออกไปจึงรู้สึกผิดแล้วก็เดินหนีจากไป



โทโทริไปนั่งคนเดียวอยู่ที่ท่าเรือ เซซีตามมาปลอบแล้วก็ขอโทษว่าตั้งแต่เปียนญาทั้งเธอและโรโรนาก็เอาแต่สนใจเปียนญาจนไม่ได้ใส่ใจโทโทริเลย คงทำให้โทโทริรู้สึกเหงา แต่โทโทริบอกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เหงาอะไรหรอก แต่สุดท้ายเธอก็ขอเข้าไปกอดเซซีแล้วร้องไห้ แม้โทโทริจะเติบโตจนเป็นนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กอยู่ดี ยังต้องการความอบอุ่น ต้องการให้คนเอาใจใส่



ตอนนี้พวกโทโทริก็ไปถึงเลเวลสูงสุดกันแล้ว สิ่งที่ควรทำก็ทำไปเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่เหลือที่ยังต้องทำอยู่อีก



>> อ่านตอนต่อไป


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> อาเตอลีเย

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目次

日本による名言集
モジュール
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
機械学習
-- ニューラル
     ネットワーク
javascript
モンゴル語
言語学
maya
確率論
日本での日記
中国での日記
-- 北京での日記
-- 香港での日記
-- 澳門での日記
台灣での日記
北欧での日記
他の国での日記
qiita
その他の記事

記事の類別



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  記事を検索

  おすすめの記事

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文