วัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกง
เขียนเมื่อ 2017/08/13 15:19
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
  # จันทร์ 10 ก.ค. 2017หลังจากที่ได้เหนื่อยจากการเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันมาทั้งวันแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20170811วันต่อมาคือวันสุดท้่ายของการเที่ยวแล้ว แผนเที่ยววันนี้สบายๆ เราตื่นมาสายๆ ๘ โมง เนื่องจากเป้าหมายมีแค่ที่เดียวคือวัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกง (北港朝天宮, 北港朝天宫) วัดโบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งเป๋ย์ก่างเฉาเทียนคงเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในตำบลเป๋ย์ก่าง (北港鎮, 北港镇) ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดหยวินหลิน (雲林, 云林) ซึ่งอยู่ทางเหนือของเจียอี้วัดนี้เป็นวัดแบบไต้หวัน บูชาเจ้าแม่มาจู่ (媽祖, 妈祖)เป๋ย์ก่างมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยย้อนไปถึงปี 1621 ซึ่งเป็นสมัยปลายยุคราชวงศ์หมิง ชาวจีนจากมณฑลฮกเกี้ยน (ฝูเจี้ยน) ได้ย้ายมาตั้งรกรากยังบริเวณแถวนี้โดยการนำของหยานซือฉี (顏思齊, 颜思齐, 1589-1625)ยุคแรกๆที่นี่ถูกเรียกว่าเปิ้นก่าง (笨港) โดยมีในบันทึกของชาวฮอลันดาที่เขียนชื่อของที่นี่ไว้ว่า Ponkanบริเวณที่เรียกว่าเปิ้นก่างนั้นยังรวมถึงพื้นที่ของตำบลข้างเคียงคือตำบลซินก่าง (新港) ด้วย ตำบลนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดเจียอี้เป๋ย์ก่างกับซินก่างถูกคั่นกันด้วยแม่น้ำเป๋ย์ก่างซี (北港溪) แม่น้ำนี้ยังเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นจังหวัดหยวินหลินกับจังหวัดเจียอี้ด้วยวัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกงถูกสร้างขึ้นในปี 1694 ซึ่งเป็นสมัยของจักรพรรดิคางซี ต้นยุคราชวงศ์ชิง ในตอนแรกชื่อว่าเปิ้นก่างเทียนเฟย์กง (笨港天妃廟, 笨港天妃庙) แล้วเปลี่ยนชื่อตอนหลังวัดนี้มีเพลงแล้วทำเป็น MV ด้วย เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนไต้หวัน ชื่อ 北港媽祖最疼我เพลงเพราะดี ดูได้ในยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=F7Mo-DcDqkk
มีแปลเอาไว้ในหน้านี้ https://phyblas.hinaboshi.com/20170827แม้ว่าจะตั้งอยู่ในจังหวัดหยวินหลิน แต่เป๋ย์ก่างก็สะดวกที่จะไปจากทางเมืองเจียอี้ โดยมีรถเมล์ไป ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงในการเดินทาง ความถี่ในการออกคือประมาณชั่วโมงละ ๒ คันเช้าวันนี้เริ่มต้นด้วยการมาทานอาหารเช้าอย่างสบายๆ โรงอาหารของโรงแรมที่เราอยู่นี้อยู่ที่ชั้น ๖ ที่จริง ๒ วันที่ผ่านมาก็มีขึ้นมาทาน แต่มาแบบรีบๆไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้ แต่เช้าวันนี้มีเวลาสบายๆจึงถ่ายสักหน่อย




 ทานเสร็จก็ยังนั่งปั่นงานต่อไปสักพักจนถึงราวๆ 11 โมง จากนั้นก็ออกจากโรงแรมมาถึงที่หน้าสถานีรถไฟมาถึงก็พบว่ารถที่จะไปสามารถนั่งสาย 7201 หรือ 7202 ก็ได้ก็จริง แต่สาย 7201 จะไม่ผ่านสถานีรถไฟและรอบสาย 7201 รอบต่อไปจะออกตอน 11:50 แต่ที่เร็วหน่อยคือ 7202 ที่ออกตอน 11:20 แต่ก็พลาดเพราะที่สถานีรถไฟไม่ผ่านหลังจากถามคนแถวนั้นจนได้ความแล้วเราจึงตัดสินใจเดินไปที่ท่ารถเพื่อขึ้นสาย 7202 แต่เนื่องจากหลงเดินไปผิดทาง กว่าจะเดินไปถึงก็เลยเวลาไปแล้ว สุดท้ายจึงต้องรอนั่ง 7201 รอบ 11:50 อยู่ดีแต่เราก็เดินมาจนถึงท่ารถ
ทานเสร็จก็ยังนั่งปั่นงานต่อไปสักพักจนถึงราวๆ 11 โมง จากนั้นก็ออกจากโรงแรมมาถึงที่หน้าสถานีรถไฟมาถึงก็พบว่ารถที่จะไปสามารถนั่งสาย 7201 หรือ 7202 ก็ได้ก็จริง แต่สาย 7201 จะไม่ผ่านสถานีรถไฟและรอบสาย 7201 รอบต่อไปจะออกตอน 11:50 แต่ที่เร็วหน่อยคือ 7202 ที่ออกตอน 11:20 แต่ก็พลาดเพราะที่สถานีรถไฟไม่ผ่านหลังจากถามคนแถวนั้นจนได้ความแล้วเราจึงตัดสินใจเดินไปที่ท่ารถเพื่อขึ้นสาย 7202 แต่เนื่องจากหลงเดินไปผิดทาง กว่าจะเดินไปถึงก็เลยเวลาไปแล้ว สุดท้ายจึงต้องรอนั่ง 7201 รอบ 11:50 อยู่ดีแต่เราก็เดินมาจนถึงท่ารถ
 และนี่คือตารางเวลาของรถที่จะไปเป๋ย์ก่าง
และนี่คือตารางเวลาของรถที่จะไปเป๋ย์ก่าง แล้วพอถึงเวลารถก็ออก
แล้วพอถึงเวลารถก็ออก ระหว่างทางผ่านบริเวณที่ดูแล้วค่อนข้างเป็นธรรมชาติร่มรื่น แต่ก็มีหมู่บ้านชนบทอยู่ตามทางประปราย
ระหว่างทางผ่านบริเวณที่ดูแล้วค่อนข้างเป็นธรรมชาติร่มรื่น แต่ก็มีหมู่บ้านชนบทอยู่ตามทางประปราย

 รถเมล์วิ่งผ่านตำบลซินก่าง ซึ่งที่นั่นก็มีวัดเก่าแก่ที่มีชื่ออยู่เหมือนกัน ชื่อวัดซินก่างเฟิ่งเทียนกง (新港奉天宮, 新港奉天宫) แต่เราไม่ได้แวะเที่ยวที่นี่ด้วย จึงได้แต่ถ่ายรูปขณะที่รถวิ่งผ่าน
รถเมล์วิ่งผ่านตำบลซินก่าง ซึ่งที่นั่นก็มีวัดเก่าแก่ที่มีชื่ออยู่เหมือนกัน ชื่อวัดซินก่างเฟิ่งเทียนกง (新港奉天宮, 新港奉天宫) แต่เราไม่ได้แวะเที่ยวที่นี่ด้วย จึงได้แต่ถ่ายรูปขณะที่รถวิ่งผ่าน แล้วก็มาถึงเป๋ย์ก่าง
แล้วก็มาถึงเป๋ย์ก่าง ลงรถเมล์มาแล้วก็เดินอีกนิดก็เห็นตัววัดแล้ว ไกลๆข้างบนยังเห็นรูปสลักหินของมาจู่ด้วย รูปสลักนั้นไม่ได้อยู่ในตัววัดแต่อยู่บนตึกด้านหลังตัววัด ซึ่งจะแวะไปตอนหลัง
ลงรถเมล์มาแล้วก็เดินอีกนิดก็เห็นตัววัดแล้ว ไกลๆข้างบนยังเห็นรูปสลักหินของมาจู่ด้วย รูปสลักนั้นไม่ได้อยู่ในตัววัดแต่อยู่บนตึกด้านหลังตัววัด ซึ่งจะแวะไปตอนหลัง
 แผนที่ท่องเที่ยวเมืองนี้
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองนี้ ก่อนอื่นเราเดินมาจนถึงหน้าตัววัดแล้ว แต่ตัดสินใจว่าจะยังไม่เข้าไป แต่เดินในบริเวณก่อน
ก่อนอื่นเราเดินมาจนถึงหน้าตัววัดแล้ว แต่ตัดสินใจว่าจะยังไม่เข้าไป แต่เดินในบริเวณก่อน สถานที่เที่ยวที่นี่นอกจากตัววัดแล้วถนนหน้าวัดก็เป็นย่านเก่าแก่ที่คับคั่ง ปัจจุบันทำเป็นลักษณะแหล่งท่องเที่ยวเต็มที่
สถานที่เที่ยวที่นี่นอกจากตัววัดแล้วถนนหน้าวัดก็เป็นย่านเก่าแก่ที่คับคั่ง ปัจจุบันทำเป็นลักษณะแหล่งท่องเที่ยวเต็มที่
 ระหว่างทางถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า มีของขายมากมาย
ระหว่างทางถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า มีของขายมากมาย



 รวมทั้ง 7-11 ก็มี
รวมทั้ง 7-11 ก็มี แล้วก็ร้านที่มีเกมคีบตุ๊กตา
แล้วก็ร้านที่มีเกมคีบตุ๊กตา เดินไปเรื่อยๆจนสุดท้ายจะเจอสะพาน
เดินไปเรื่อยๆจนสุดท้ายจะเจอสะพาน
 สะพานนี้ชื่อว่าเป่ย์ก่างกวานกวางต้าเฉียว (北港觀光大橋, 北港观光大桥) สร้างไว้เป็นจุดชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำ แต่รูปร่างของสะพานกลับดูไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศย่านโบราณแบบนี้เท่าที่ควร
สะพานนี้ชื่อว่าเป่ย์ก่างกวานกวางต้าเฉียว (北港觀光大橋, 北港观光大桥) สร้างไว้เป็นจุดชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำ แต่รูปร่างของสะพานกลับดูไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศย่านโบราณแบบนี้เท่าที่ควร ทิวทัศน์จากบนสะพาน
ทิวทัศน์จากบนสะพาน


ฝั่งตรงข้ามสะพานก็คือฝั่งจังหวัดเจียอี้ซึ่งเราข้ามมา ตรงนั้นก็มีบ้านเมือง แล้วก็มีวัดเล็กๆให้เข้าชมได้ แต่ก็ไม่ได้สำคัญ เราจึงไม่ได้เดินข้ามไปต่อ แต่เดินไปได้ครึ่งสะพานแล้วก็เดินกลับ แผนที่ท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนสะพาน
แผนที่ท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนสะพาน มองกลับมาที่ฝั่งเป่ย์ก่างโดยย้อนผ่านสะพาน
มองกลับมาที่ฝั่งเป่ย์ก่างโดยย้อนผ่านสะพาน ค่อยๆเดินย้อนกลับมา
ค่อยๆเดินย้อนกลับมา
 เดินตามถนนสายเดิมเพื่อกลับไปยังวัด ระหว่างทางเดินย้อนกลับลองสังเกตดูแต่ละร้านละเอียดมากขึ้น ก็พบว่าบางแห่งเปิดให้เข้าชมได้รูปปั้นคุณลุงแว่นที่เห็นอยู่นี้คือเป้าหมาไจ่ (報馬仔, 報马仔) เป็นคนที่คอยทำหน้าที่เบิกทางเวลาเดินขบวนในพิธีทางศาสนาพุทธแบบไต้หวัน มักจะแต่งตัวประมาณนี้ ปกติขบวนเดินพิธีจะประกอบไปด้วยคนที่ทำหน้าที่ต่างๆมากมาย แต่คนที่อยู่หน้าสุดก็คือเป้าหมาไจ่ จึงมีบทบาทเด่น
เดินตามถนนสายเดิมเพื่อกลับไปยังวัด ระหว่างทางเดินย้อนกลับลองสังเกตดูแต่ละร้านละเอียดมากขึ้น ก็พบว่าบางแห่งเปิดให้เข้าชมได้รูปปั้นคุณลุงแว่นที่เห็นอยู่นี้คือเป้าหมาไจ่ (報馬仔, 報马仔) เป็นคนที่คอยทำหน้าที่เบิกทางเวลาเดินขบวนในพิธีทางศาสนาพุทธแบบไต้หวัน มักจะแต่งตัวประมาณนี้ ปกติขบวนเดินพิธีจะประกอบไปด้วยคนที่ทำหน้าที่ต่างๆมากมาย แต่คนที่อยู่หน้าสุดก็คือเป้าหมาไจ่ จึงมีบทบาทเด่น อาคารนี้เป็นโรงละครเจิ้นซิง (振興戲院, 振兴戏院) เป็นโรงละครเก่าแก่ แต่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1970 ปัจจุบันเปิดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชมได้
อาคารนี้เป็นโรงละครเจิ้นซิง (振興戲院, 振兴戏院) เป็นโรงละครเก่าแก่ แต่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1970 ปัจจุบันเปิดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชมได้

 ที่นี่มีชั้น ๒ ด้วย แต่ไม่ได้ขึ้นไป แค่ดูในนี้แบบผ่านๆ
ที่นี่มีชั้น ๒ ด้วย แต่ไม่ได้ขึ้นไป แค่ดูในนี้แบบผ่านๆ ชั้นหนังสือตรงนี้เป็นของมูลนิธิฉือจี้ (慈濟基金會, 慈济基金会) เป็นองค์กรทางพุทธศาสนาของไต้หวัน
ชั้นหนังสือตรงนี้เป็นของมูลนิธิฉือจี้ (慈濟基金會, 慈济基金会) เป็นองค์กรทางพุทธศาสนาของไต้หวัน
 ที่นี่ยังเป็นร้านขนมไปด้วยในขณะเดียวกัน
ที่นี่ยังเป็นร้านขนมไปด้วยในขณะเดียวกัน ไท่หยางปิ่ง ของฝากขึ้นชื่อของเมืองไถจงก็ยังมีขายที่นี่ด้วย
ไท่หยางปิ่ง ของฝากขึ้นชื่อของเมืองไถจงก็ยังมีขายที่นี่ด้วย จากนั้นเห็นว่าเหลือเวลาแล้วอาหารที่นี่ก็ถูกๆทั้งนั้นก็เลยเดินหาร้านอาหารเพื่อจะนั่งกิน
จากนั้นเห็นว่าเหลือเวลาแล้วอาหารที่นี่ก็ถูกๆทั้งนั้นก็เลยเดินหาร้านอาหารเพื่อจะนั่งกิน
 แล้วก็เลือกร้านนี้ ดูดีหน่อย แต่หายังไงก็ไม่เจอชื่อร้าน เหมือนจะไม่มีชื่อ
แล้วก็เลือกร้านนี้ ดูดีหน่อย แต่หายังไงก็ไม่เจอชื่อร้าน เหมือนจะไม่มีชื่อ เข้ามานั่งข้างใน
เข้ามานั่งข้างใน เปิดแอร์อยู่ด้วย
เปิดแอร์อยู่ด้วย อาหารที่นี่ แต่ละอย่างราคาถูกกว่าในเมือง
อาหารที่นี่ แต่ละอย่างราคาถูกกว่าในเมือง ที่สั่งทานไปก็คือ เซียเหรินเกิงเมี่ยน (蝦仁庚麵, 虾仁庚面) ๖๐ หยวน
ที่สั่งทานไปก็คือ เซียเหรินเกิงเมี่ยน (蝦仁庚麵, 虾仁庚面) ๖๐ หยวน เสร็จแล้วก็กลับมาที่วัดเพื่อเข้าไปชมด้านใน
เสร็จแล้วก็กลับมาที่วัดเพื่อเข้าไปชมด้านใน ชมภายในวัด
ชมภายในวัด






 หลังคาและเพดานสวยงามโดดเด่น
หลังคาและเพดานสวยงามโดดเด่น

 ชมในวัดเสร็จแล้ว แต่ยังเหลืออีกที่ให้เข้าไปชม ก็คือสวนที่มีรูปสลักมาจู่ขนาดใหญ่ทางด้านหลังวัด
ชมในวัดเสร็จแล้ว แต่ยังเหลืออีกที่ให้เข้าไปชม ก็คือสวนที่มีรูปสลักมาจู่ขนาดใหญ่ทางด้านหลังวัด เรามาถึงหน้าตึกแต่ไม่แน่ใจว่าไปยังไงเลยถามคนแถวนั้น ตอนนั้นเห็นคนแก่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าตึกเลยถามเขา แต่เขาตอบกลับมาเป็นภาษาไต้หวัน (ฮกเกี้ยน) ไม่ใช่จีนกลาง ยังดีที่เป็นคำที่พอฟังออก
เรามาถึงหน้าตึกแต่ไม่แน่ใจว่าไปยังไงเลยถามคนแถวนั้น ตอนนั้นเห็นคนแก่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าตึกเลยถามเขา แต่เขาตอบกลับมาเป็นภาษาไต้หวัน (ฮกเกี้ยน) ไม่ใช่จีนกลาง ยังดีที่เป็นคำที่พอฟังออก คำที่เขาพูดคือ "คี่เหล่าติ้ง" 去樓頂 ซึ่งใช้คำเดียวกับสำเนียงแต้จิ๋วเลย ดังนั้นเราจึงฟังออก ถ้าเป็นแต้จิ๋วจะเป็น "คื้อเหล่าเต้ง" จะเห็นว่าคล้ายความหมายก็คือ "ไปชั้นบน" แล้วก็ชี้ไปที่ทางเข้าตึก ดังนั้นจึงรู้ได้ว่าจะขึ้นไปยังไงคนแก่ในไต้หวันบางคนจะพูดจีนกลางไม่ค่อยได้ ยิ่งชนบทยิ่งมีแนวโน้ม ดังนั้นรู้ภาษาไต้หวันไว้บ้างก็อาจพอใช้ประโยชน์ได้เวลาที่ไปตามบ้านนอกตึกนี้เป็นตึกที่ดาดฟ้าถูกทำเป็นสวน ส่วนรูปสลักมาจู่ก็อยู่ตรงกลางสวนนี้เอง
คำที่เขาพูดคือ "คี่เหล่าติ้ง" 去樓頂 ซึ่งใช้คำเดียวกับสำเนียงแต้จิ๋วเลย ดังนั้นเราจึงฟังออก ถ้าเป็นแต้จิ๋วจะเป็น "คื้อเหล่าเต้ง" จะเห็นว่าคล้ายความหมายก็คือ "ไปชั้นบน" แล้วก็ชี้ไปที่ทางเข้าตึก ดังนั้นจึงรู้ได้ว่าจะขึ้นไปยังไงคนแก่ในไต้หวันบางคนจะพูดจีนกลางไม่ค่อยได้ ยิ่งชนบทยิ่งมีแนวโน้ม ดังนั้นรู้ภาษาไต้หวันไว้บ้างก็อาจพอใช้ประโยชน์ได้เวลาที่ไปตามบ้านนอกตึกนี้เป็นตึกที่ดาดฟ้าถูกทำเป็นสวน ส่วนรูปสลักมาจู่ก็อยู่ตรงกลางสวนนี้เอง ที่ฐานมีการแกะสลักสวยงาม
ที่ฐานมีการแกะสลักสวยงาม จริงๆแล้วข้างใต้เป็นห้อง เข้าไปได้ แต่ก็ไม่มีอะไร
จริงๆแล้วข้างใต้เป็นห้อง เข้าไปได้ แต่ก็ไม่มีอะไร
 เดินดูในบริเวณสวน
เดินดูในบริเวณสวน
 มีพระแบบไทยอยู่ด้วย
มีพระแบบไทยอยู่ด้วย จากข้างบนมองลงไปเห็นวัดจากมุมสูง
จากข้างบนมองลงไปเห็นวัดจากมุมสูง มองดูบริเวณรอบๆ
มองดูบริเวณรอบๆ

 เสร็จแล้วก็กลับลงมา
เสร็จแล้วก็กลับลงมา จากนั้นก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อกลับ
จากนั้นก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อกลับ ตอนที่กลับไปถึงยังเหลือเวลาอีกหน่อยรถเมล์จึงมา ดังนั้นเลยไปเดินดูรอบๆ ก็เจออนุสาวรีย์ที่ระลึกหยานซือจี้ คนจีนฮกเกี้ยนจากจางโจวซึ่งนำชาวจีนเดินทางข้ามมาสร้างชุมชนที่นี่ ถือเป็นผู้บุกเบิกที่สำคัญ
ตอนที่กลับไปถึงยังเหลือเวลาอีกหน่อยรถเมล์จึงมา ดังนั้นเลยไปเดินดูรอบๆ ก็เจออนุสาวรีย์ที่ระลึกหยานซือจี้ คนจีนฮกเกี้ยนจากจางโจวซึ่งนำชาวจีนเดินทางข้ามมาสร้างชุมชนที่นี่ ถือเป็นผู้บุกเบิกที่สำคัญ

 จากนั้นเดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์ ก็เห็นร้านหนังสือเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย
จากนั้นเดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์ ก็เห็นร้านหนังสือเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย


 จากนั้นก็กลับมารอรถเมล์จนมาก็นั่งกลับเจียอี้
จากนั้นก็กลับมารอรถเมล์จนมาก็นั่งกลับเจียอี้ พอกลับถึงเจียอี้ก็ไปนั่งพักที่โรงแรมจนถึงตอนเย็น กินข้าวเสร็จก็ไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปเถาหยวนเพื่อไปขึ้นสนามบินกลับขากลับเราไม่มีความจำเป็นต้องรีบอะไรแล้ว จึงนั่งรถไฟธรรมดา ซึ่งจะต้องใช้เวลา ๓ ชั่วโมงรถไฟออกจากเจียอี้ 18:51 ไปถึงสถานีเถาหยวนตอน 22:04พอถึงแล้วก็ไปขึ้นรถเมล์จากหน้าสถานีไปยังสนามบิน ค้างคืนที่สนามบิน แล้วก็บินกลับไทยอ้างอิงhttp://www.matsu.org.tw/index2.aspxhttp://blog.xuite.net/mr.coffee/diary/49876595-囧https://5imazu.com/team.html
พอกลับถึงเจียอี้ก็ไปนั่งพักที่โรงแรมจนถึงตอนเย็น กินข้าวเสร็จก็ไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปเถาหยวนเพื่อไปขึ้นสนามบินกลับขากลับเราไม่มีความจำเป็นต้องรีบอะไรแล้ว จึงนั่งรถไฟธรรมดา ซึ่งจะต้องใช้เวลา ๓ ชั่วโมงรถไฟออกจากเจียอี้ 18:51 ไปถึงสถานีเถาหยวนตอน 22:04พอถึงแล้วก็ไปขึ้นรถเมล์จากหน้าสถานีไปยังสนามบิน ค้างคืนที่สนามบิน แล้วก็บินกลับไทยอ้างอิงhttp://www.matsu.org.tw/index2.aspxhttp://blog.xuite.net/mr.coffee/diary/49876595-囧https://5imazu.com/team.html
 
  
  
    
  
    
    
    
  
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
  
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ