ตามรอยจิฮายะฟุรุบนถนนซากุระในเมืองอาวาระ
เขียนเมื่อ 2018/11/21 09:09
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# พุธ 31 ต.ค. 2018
หลังจากที่ตอนที่แล้วเที่ยวปราสาทมารุโอกะเสร็จไป ก็นั่งรถเมล์ย้อนกลับทางเดิมกลับมาที่สถานีอาวาระอนเซงอีกครั้ง https://phyblas.hinaboshi.com/20181119
รถเมล์ออกจากปราสาทมารุโอกะตอน 16:20 แล้วถึงสถานีอาวาระอนเซงตอน 16:40
แต่รถไฟขบวนธรรมดาที่จะออกจากสถานีอาวาระอนเซงเพื่อกลับไปยังเมืองโคมัตสึได้นั้นมีตอน 17:30 ดังนั้นจึงต้องรอ ๕๐ นาที
นี่เป็นจังหวะเหมาะที่จะตามเก็บสถานที่ที่เป็นฉากของอนิเมะจิฮายะฟุรุที่ตอนมาครั้งแรกเมื่อเช้ายังไม่ได้ไป https://phyblas.hinaboshi.com/20181110
โดยเฉพาะถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นซากุระซึ่งเป็นฉากสำคัญของเรื่อง
รถเมล์ที่มาส่งเราจากทางปราสาทมารุโอกะ หลังลงจากรถมาก็ยังจอดอยู่ตรงนี้สักพักเพราะเป็นป้ายหลัก ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่โทวจิมโบวและเมืองมิกุนิตามเส้นทางที่ไปมาแล้วเมื่อตอนเช้า
ที่สถานีขณะนั้นมองรอบรถไฟเที่ยวถัดไปที่ไปทางคานาซาวะจะเห็นว่ามีรอบ 16:47 และ 17:12 แต่เป็นรถไฟแบบด่วนพิเศษ (特急) จึงไม่ขึ้นเพราะแพง รอรถไฟรอบธรรมดารอบถัดไปคือ 17:30 เลย
เพื่อที่จะไปเที่ยวชมถนนซากุระในเรื่องจิฮายุฟุรุครั้งนี้เราต้องลงจากอีกฝั่งของสถานี คือฝั่งตะวันออก
ทางเข้าสถานีฝั่งนี้กำลังก่อสร้างเลยดูรกๆหน่อย
ระหว่างทางเดินไป เป็นย่านเมืองที่ดูเงียบสงบ ฝนกำลังตกอยู่ทำให้เดินลำบาก แต่การได้เดินท่ามกลางสายฝนในบรรยากาศแบบนี้ที่จริงก็ไม่เลว
เดินมาไม่ไกลนัก เลี้ยวซ้ายตรงนี้ก็ถึง
ฉากคือบริเวณตรงนี้เลย
เทียบภาพกับที่ปรากฏในอนิเมะ ฉากนี้เป็นตอนที่จิฮายะมาตามหาอาราตะ เดินไปถึงบ้านแล้วไม่เจอเลยเดินย้อนกลับมา ระหว่างทางอาราระก็ขี่จักรยานสวนมาพอดีที่ตรงนี้ แล้วจิฮายะก็โดดใส่จักรยานแล้วทั้งคู่ก็ล้มลงไปด้วยกัน
เทียบภาพดู
ในเรื่องจิฮายะและอาราตะต้องร่วงลงไปตรงนี้ ในเรื่องดูเป็นทุ่งนา แต่ของจริงเต็มไปด้วยบ้าน
ทางสายนี้ไม่ยาวสักเท่าไหร่ เดินต่อไปนิดหน่อยก็เป็นบ้านคนแล้ว
เสร็จแล้วกลับมาที่สถานี ฟ้ายิ่งมืดลงเรื่อยๆ
ข้ามกลับมาด้านตะวันตกของสถานี ตรงนี้มีส่วนที่ใช้เป็นฉากในอนิเมะอยู่อีกจุด คือร้านหนังสือด้านหน้าสถานี
เทียบภาพกับในอนิเมะ ออกมาได้ใกล้เคียงมาก
เสร็จแล้วยังมีอีกจุด คือตรงฝั่งใต้ของสถานี ตรงนี้ปรากฏในฉากที่อาราตะขับจักรยานไล่ตามรถไฟที่จิฮายะนั่ง
มองข้ามไปตรงนั้นจะเห็นสะพานที่รถไฟวิ่ง
ไล่มาจนถึงสะพานตรงนี้
เทียบภาพ
ภาพจากแถวหัวเสาปลายสะพาน เทียบกันดู ที่จริงมุมในภาพในอนิเมะนั้นน่าจะต้องถ่ายจากมุมสูงกว่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้
เข้ามาถ่ายใกล้ๆหัวเสา
ทิวทัศน์บ้านเมืองริมน้ำ
ระหว่างกำลังเดินถ่ายรูปอยู่ตรงนี้ก็มีตำรวจขับรถตำรวจมาจอดแล้วทัก ถามว่าถ่ายรูปทำอะไร พอตอบไปแล้วฟังสำเนียงที่เราพูดเขาก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่นจึงขอดูพาสปอร์ตเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่คนน่าสงสัย
เขาบอกว่าเหตุผลที่ต้องมาถามก็เพราะหมู่นี้มีคนน่าสงสัยมาเดินถ่ายรูปแถวนี้ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอะไร
พอบอกว่ามาถ่ายฉากในอนิเมะเขาก็บอกว่าไม่รู้มาก่อนเลย แล้วก็ทำท่าเหมือนจะเข้าใจจึงไม่ได้ว่าอะไร
แต่ที่จริงต่อให้ไม่ได้เป็นฉากอนิเมะก็ตาม สถานีอาวาระอนเซงเองก็เป็นจุดเปลี่ยนรถสำหรับไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆแถวนี้อยู่แล้ว จะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเดินถ่ายรูปบ่อยๆก็ไม่น่าใจเรื่องแปลกอะไร ดังนั้นจึงยังรู้สึกว่าแปลกอยู่ดีที่ตำรวจมาถาม
หลังจากที่เสียเวลาไปกับตำรวจจึงกลับมาถึงสถานีก่อนเวลารถไฟออกแค่ ๑๐ นาที
ระหว่างรอมีรถไฟด่วนชิราซางิวิ่งไปยังฝั่งตรงข้าม ปลายทางอยู่ที่นาโงยะ
บังเอิญนี่เป็นขบวนเดียวกับที่จิฮายะนั่งกลับด้วย เลยเอาภาพมาเปรียบเทียบกันสักหน่อย ดูแล้วเป็นขบวนแบบเดียวกัน เขียนว่า "ชิราซางิ" (しらさぎ) เหมือนกัน ปลายทางคือนาโงยะเหมือนกันด้วย
เมื่อถึงเวลารถไฟที่รอก็มา เดินทางกลับโคมัตสึ
ตอนต่อไปจะกลับไปเล่าเรื่องในโคมัตสึ แล้วก็ตามด้วยการเดินทางไปยังคานาซาวะ https://phyblas.hinaboshi.com/20181122
วันนี้ตั้งแต่เช้าเที่ยวโดยใช้ฟรีพาสซึ่งราคาแค่ ๒๐๐๐ เยน ทำให้การนั่งรถเมล์ทั้งหมดตั้งแต่ออกจากอาวาระอนเซงไปโอชิมะจนกลับมาที่อาวาระอนเซงอีกทีไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มอีกเลย
ตรงนี้ขอสรุปรวมค่ารถเมล์ทั้งหมด กรณีที่ไม่ใช้ฟรีพาส
อาวาระอนเซง > โอชิมะ 680
โอชิมะ > โทวจิมโบว 180
โทวจิมโบว > ท่าเรือมิกุนิ 190
โรงแรมท่องเที่ยวมิกุนิ > ปราสาทมารุโอกะ 1240
ปราสาทมารุโอกะ > อาวาระอนเซง 540
รวมแล้วเป็น 2830 เยน
ดังนั้นการที่ซื้อฟรีพาส 2000 เยนจึงประหยัดไปได้ 830 เยน
ที่จริงฟรีพาสนี้ใช้ได้ ๒ วัน หากอีกวันจะไปเที่ยวสถานที่มากกว่านี้ก็จะยิ่งคุ้ม เช่นไปถึงเอย์เฮย์จิ (永平寺) แต่เราเผื่อเวลามาเที่ยวแค่นี้จึงพอแล้ว
เดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะซื้อพาสนี้ เพิ่งมารู้เอาตอนที่มาถึงเพราะเพื่อนบอก ตอนแรกแผนการเที่ยวก็ยังไม่แน่นอน ยังลังเลอยู่ด้วย เช่นคิดว่าอาจแวะไปยังตัวเมืองฟุกุอิ แต่พอตัดสินใจซื้อพาสแล้วก็แน่นอนว่าต้องไปตามเส้นทางที่ใช้พาสได้จึงจะคุ้ม ดังนั้นแผนจึงกำหนดแน่นอนตรงนั้น
พาสพวกนี้มีข้อดีคือทำให้ประหยัดเงินได้ แต่ข้อเสียคือทำให้แผนการเดินทางมีความยืดหยุ่นน้อยลง ดังนั้นจึงต้องพิจารณาตรงนี้ด้วยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อใช้
ข้อมูลเส้นทางและราคาดูได้จากนี่ https://bus.keifuku.co.jp/timetable/search_rosen_jikoku.php?updown=1&rid=87&rnm=芦原丸岡永平寺線
------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "จิฮายุฟุรุ" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "จิฮายุฟุรุ"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「ちはやふる」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「ちはやふる」の製作者に帰属します。
หลังจากที่ตอนที่แล้วเที่ยวปราสาทมารุโอกะเสร็จไป ก็นั่งรถเมล์ย้อนกลับทางเดิมกลับมาที่สถานีอาวาระอนเซงอีกครั้ง https://phyblas.hinaboshi.com/20181119
รถเมล์ออกจากปราสาทมารุโอกะตอน 16:20 แล้วถึงสถานีอาวาระอนเซงตอน 16:40
แต่รถไฟขบวนธรรมดาที่จะออกจากสถานีอาวาระอนเซงเพื่อกลับไปยังเมืองโคมัตสึได้นั้นมีตอน 17:30 ดังนั้นจึงต้องรอ ๕๐ นาที
นี่เป็นจังหวะเหมาะที่จะตามเก็บสถานที่ที่เป็นฉากของอนิเมะจิฮายะฟุรุที่ตอนมาครั้งแรกเมื่อเช้ายังไม่ได้ไป https://phyblas.hinaboshi.com/20181110
โดยเฉพาะถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นซากุระซึ่งเป็นฉากสำคัญของเรื่อง
รถเมล์ที่มาส่งเราจากทางปราสาทมารุโอกะ หลังลงจากรถมาก็ยังจอดอยู่ตรงนี้สักพักเพราะเป็นป้ายหลัก ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่โทวจิมโบวและเมืองมิกุนิตามเส้นทางที่ไปมาแล้วเมื่อตอนเช้า
ที่สถานีขณะนั้นมองรอบรถไฟเที่ยวถัดไปที่ไปทางคานาซาวะจะเห็นว่ามีรอบ 16:47 และ 17:12 แต่เป็นรถไฟแบบด่วนพิเศษ (特急) จึงไม่ขึ้นเพราะแพง รอรถไฟรอบธรรมดารอบถัดไปคือ 17:30 เลย
เพื่อที่จะไปเที่ยวชมถนนซากุระในเรื่องจิฮายุฟุรุครั้งนี้เราต้องลงจากอีกฝั่งของสถานี คือฝั่งตะวันออก
ทางเข้าสถานีฝั่งนี้กำลังก่อสร้างเลยดูรกๆหน่อย
ระหว่างทางเดินไป เป็นย่านเมืองที่ดูเงียบสงบ ฝนกำลังตกอยู่ทำให้เดินลำบาก แต่การได้เดินท่ามกลางสายฝนในบรรยากาศแบบนี้ที่จริงก็ไม่เลว
เดินมาไม่ไกลนัก เลี้ยวซ้ายตรงนี้ก็ถึง
ฉากคือบริเวณตรงนี้เลย
เทียบภาพกับที่ปรากฏในอนิเมะ ฉากนี้เป็นตอนที่จิฮายะมาตามหาอาราตะ เดินไปถึงบ้านแล้วไม่เจอเลยเดินย้อนกลับมา ระหว่างทางอาราระก็ขี่จักรยานสวนมาพอดีที่ตรงนี้ แล้วจิฮายะก็โดดใส่จักรยานแล้วทั้งคู่ก็ล้มลงไปด้วยกัน
เทียบภาพดู
ในเรื่องจิฮายะและอาราตะต้องร่วงลงไปตรงนี้ ในเรื่องดูเป็นทุ่งนา แต่ของจริงเต็มไปด้วยบ้าน
ทางสายนี้ไม่ยาวสักเท่าไหร่ เดินต่อไปนิดหน่อยก็เป็นบ้านคนแล้ว
เสร็จแล้วกลับมาที่สถานี ฟ้ายิ่งมืดลงเรื่อยๆ
ข้ามกลับมาด้านตะวันตกของสถานี ตรงนี้มีส่วนที่ใช้เป็นฉากในอนิเมะอยู่อีกจุด คือร้านหนังสือด้านหน้าสถานี
เทียบภาพกับในอนิเมะ ออกมาได้ใกล้เคียงมาก
เสร็จแล้วยังมีอีกจุด คือตรงฝั่งใต้ของสถานี ตรงนี้ปรากฏในฉากที่อาราตะขับจักรยานไล่ตามรถไฟที่จิฮายะนั่ง
มองข้ามไปตรงนั้นจะเห็นสะพานที่รถไฟวิ่ง
ไล่มาจนถึงสะพานตรงนี้
เทียบภาพ
ภาพจากแถวหัวเสาปลายสะพาน เทียบกันดู ที่จริงมุมในภาพในอนิเมะนั้นน่าจะต้องถ่ายจากมุมสูงกว่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้
เข้ามาถ่ายใกล้ๆหัวเสา
ทิวทัศน์บ้านเมืองริมน้ำ
ระหว่างกำลังเดินถ่ายรูปอยู่ตรงนี้ก็มีตำรวจขับรถตำรวจมาจอดแล้วทัก ถามว่าถ่ายรูปทำอะไร พอตอบไปแล้วฟังสำเนียงที่เราพูดเขาก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่นจึงขอดูพาสปอร์ตเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่คนน่าสงสัย
เขาบอกว่าเหตุผลที่ต้องมาถามก็เพราะหมู่นี้มีคนน่าสงสัยมาเดินถ่ายรูปแถวนี้ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอะไร
พอบอกว่ามาถ่ายฉากในอนิเมะเขาก็บอกว่าไม่รู้มาก่อนเลย แล้วก็ทำท่าเหมือนจะเข้าใจจึงไม่ได้ว่าอะไร
แต่ที่จริงต่อให้ไม่ได้เป็นฉากอนิเมะก็ตาม สถานีอาวาระอนเซงเองก็เป็นจุดเปลี่ยนรถสำหรับไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆแถวนี้อยู่แล้ว จะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเดินถ่ายรูปบ่อยๆก็ไม่น่าใจเรื่องแปลกอะไร ดังนั้นจึงยังรู้สึกว่าแปลกอยู่ดีที่ตำรวจมาถาม
หลังจากที่เสียเวลาไปกับตำรวจจึงกลับมาถึงสถานีก่อนเวลารถไฟออกแค่ ๑๐ นาที
ระหว่างรอมีรถไฟด่วนชิราซางิวิ่งไปยังฝั่งตรงข้าม ปลายทางอยู่ที่นาโงยะ
บังเอิญนี่เป็นขบวนเดียวกับที่จิฮายะนั่งกลับด้วย เลยเอาภาพมาเปรียบเทียบกันสักหน่อย ดูแล้วเป็นขบวนแบบเดียวกัน เขียนว่า "ชิราซางิ" (しらさぎ) เหมือนกัน ปลายทางคือนาโงยะเหมือนกันด้วย
เมื่อถึงเวลารถไฟที่รอก็มา เดินทางกลับโคมัตสึ
ตอนต่อไปจะกลับไปเล่าเรื่องในโคมัตสึ แล้วก็ตามด้วยการเดินทางไปยังคานาซาวะ https://phyblas.hinaboshi.com/20181122
วันนี้ตั้งแต่เช้าเที่ยวโดยใช้ฟรีพาสซึ่งราคาแค่ ๒๐๐๐ เยน ทำให้การนั่งรถเมล์ทั้งหมดตั้งแต่ออกจากอาวาระอนเซงไปโอชิมะจนกลับมาที่อาวาระอนเซงอีกทีไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มอีกเลย
ตรงนี้ขอสรุปรวมค่ารถเมล์ทั้งหมด กรณีที่ไม่ใช้ฟรีพาส
อาวาระอนเซง > โอชิมะ 680
โอชิมะ > โทวจิมโบว 180
โทวจิมโบว > ท่าเรือมิกุนิ 190
โรงแรมท่องเที่ยวมิกุนิ > ปราสาทมารุโอกะ 1240
ปราสาทมารุโอกะ > อาวาระอนเซง 540
รวมแล้วเป็น 2830 เยน
ดังนั้นการที่ซื้อฟรีพาส 2000 เยนจึงประหยัดไปได้ 830 เยน
ที่จริงฟรีพาสนี้ใช้ได้ ๒ วัน หากอีกวันจะไปเที่ยวสถานที่มากกว่านี้ก็จะยิ่งคุ้ม เช่นไปถึงเอย์เฮย์จิ (永平寺) แต่เราเผื่อเวลามาเที่ยวแค่นี้จึงพอแล้ว
เดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะซื้อพาสนี้ เพิ่งมารู้เอาตอนที่มาถึงเพราะเพื่อนบอก ตอนแรกแผนการเที่ยวก็ยังไม่แน่นอน ยังลังเลอยู่ด้วย เช่นคิดว่าอาจแวะไปยังตัวเมืองฟุกุอิ แต่พอตัดสินใจซื้อพาสแล้วก็แน่นอนว่าต้องไปตามเส้นทางที่ใช้พาสได้จึงจะคุ้ม ดังนั้นแผนจึงกำหนดแน่นอนตรงนั้น
พาสพวกนี้มีข้อดีคือทำให้ประหยัดเงินได้ แต่ข้อเสียคือทำให้แผนการเดินทางมีความยืดหยุ่นน้อยลง ดังนั้นจึงต้องพิจารณาตรงนี้ด้วยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อใช้
ข้อมูลเส้นทางและราคาดูได้จากนี่ https://bus.keifuku.co.jp/timetable/search_rosen_jikoku.php?updown=1&rid=87&rnm=芦原丸岡永平寺線
------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "จิฮายุฟุรุ" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "จิฮายุฟุรุ"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「ちはやふる」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「ちはやふる」の製作者に帰属します。