# พฤหัส 21 มี.ค. 2019ต่อจากตอนที่แล้วที่เดินผ่านย่านชุมชนบนเนินเขามาจนถึงชายฝั่งทางตะวันตก
https://phyblas.hinaboshi.com/20190331เดินต่อมาเลียบริมทะเลไปเรื่อยๆ
มองข้ามทะเลที่อยู่ทางตะวันตกไปก็เห็นฝั่งเมืองจูไห่ ที่เต็มไปด้วยตึกสูง
ส่วนทางตะวันออกมี
พิพิธภัณฑ์ทางทะเล (海事博物馆, 海事博物館)แต่พอลองมาดูแล้วที่นี่กำลังปิดเพราะมีการก่อสร้างอยู่ จึงเข้าไปชมไม่ได้
ส่วนข้างๆเป็น
วัดอามา (Templo de A-Má) หรือ
มาเก๋อเมี่ยว (妈阁庙, 媽閣廟) วัดเก่าแก่ที่สำคัญของมาเก๊า
วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1488 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่โปรตุเกสจะเข้ามา ว่ากันว่าชาวโปรตุเกสได้มาขึ้นฝั่งที่นี่ และชื่อวัดนี้ได้กลายมาเป็นที่มาของชื่อมาเก๊า ชื่อวัดนี้ออกเสียงตามสำเนียงกวางตุ้งว่า "ม้ากอก" หรือ "หมากอก" (อักษรตัวแรก 妈/媽 นั้นตามมาตรฐานควรอ่าน "ม้า" แต่ชื่อวัดนี้เป็นข้อยกเว้น คนที่นี่อ่านเป็น "หมากอก")
วัดนี้เป็นวัดมาจู่ (妈祖, 媽祖) เทพีแห่งท้องทะเลที่คนจีนภาคใต้บางส่วนนิยมนับถือกัน คำว่า 妈/媽 ในชื่อ A-Má ซึ่งเป็นชื่อเรียกวัดในภาษาโปรตุเกสนี้ก็หมายถึงมาจู่
แต่คนไทยบางคนเรียกที่นี่ว่า "วัดอาม่า" ซึ่งชวนให้เข้าใจผิดว่าหมายถึงอาม่าที่แปลว่าคุณย่าหรือยายในภาษาแต้จิ๋วหรือฮกเกี้ยน จริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และในภาษากวางตุ้งก็ไม่ได้ใช้คำว่าอาม่าด้วย
เข้ามาด้านในวัด ที่นี่ไม่ได้ใหญ่มาก
มองตัววัดไกลออกมาหน่อยจากทางฝั่งพิพิธภัณฑ์ทางทะเล
จากนั้นเดินต่อไปทางใต้
ก็เจอ
ศูนย์ศิลปะร่วมสมัย (当代艺术中心, 當代藝術中心, Centro De Arte Contemporânea)จังหวะที่เดินมาตรงนี้เห็นแสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านช่องที่เป็นชื่อสถานที่เกิดเป็นตัวหนังสือเงาบนพื้นดูสวยงาม
เดินมาถึงตรงนี้ วกกลับขึ้นไปทางเหนือขึ้นไปตามทางลาดเขาเพื่อขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์บน
เนินเขาเปญญา (Colina da Penha) หรือ
ซีว่างหยางซาน (西望洋山)เดินขึ้นเขามาตลอดตามทางทำให้เหนื่อยมากทีเดียว ตอนที่ขึ้นมาถึงตรงแถวนี้ก็ยืนพักหอบ พอดีมีเจ้าหน้าที่มาเห็นเข้าเลยทักขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขากลัวว่าจะมาเป็นลมตรงนี้
ตอนต่อไปจะไปชมทิวทัศน์จากบนเนินเขา
https://phyblas.hinaboshi.com/20190402แผนที่เส้นทางเดินตั้งแต่ตลาดนักบุญโลวเรงซูจนถึงทางขึ้นเขา
A ตลาดนักบุญโลวเรงซู
B วัดอามา
C พิพิธภัณฑ์ทางทะเล
D ศูนย์ศิลปะร่วมสมัย
E เนินเขาเปญญา