# ศุกร์ 8 พ.ย. 2019ต่อจากตอนที่แล้วซึ่งเดินทางจากสนามบินมาถึง
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (香港科技大學) หรือเรียกชื่อย่อๆว่า
"ฟ้อต่าย" https://phyblas.hinaboshi.com/20191114ฟ้อต่ายเป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 1991 ขนาดไม่ใหญ่ พื้นที่แค่ประมา ๐.๖ ตร.กม. มีอยู่แค่ไม่กี่คณะ แต่ว่าแต่ละคณะก็ถือว่าโดดเด่น
ตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนเขาทางตะวันออกของฮ่องกง ในย่าน
เช้งโสยว้าน (清水灣, 清水湾) หรือแปลว่าอ่าวน้ำสะอาด (Clear Water Bay) ใน
เขตไซ้กง (西貢區, 西贡区)ข้อมูลของที่นี่เพิ่มเติมในวิกิพีเดีย
https://zh.wikipedia.org/wiki/香港科技大學ช่วงนี้ที่ฮ่องกงมีการชุมนุมประท้วงซึ่งต่อเนื่องมากเป็นเวลานานหลายเดือน เพื่อต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือมักถูกเรียกย่อๆว่า 反送中 "ฝ่านซ่งจง" ในจีนกลาง หรือ "ฝานซงจ๊ง" ในภาษากวางตุ้ง
รายละเอียดถ้าใครตามข่าวช่วงนี้ก็คงจะรู้อยู่ไม่มากก็น้อย คงไม่พูดถึงมากในนี้ แต่จะพูดถึงเฉพาะส่วนที่มีผลกระทบต่อการเดินทางในครั้งนี้
การชุมนุมนี้แม้จะมีความรุนแรง มีการทำลายข้าวของ คนบาดเจ็บกันจำนวนมาก แต่ก็ไม่เคยมีใครเสียชีวิต
แต่ว่าในวันที่เราเดินทางไปคือ 8 พฤศจิกายน 2019 นั้นเป็นวันแรกที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงครั้งนี้ คนนั้นก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟ้อต่ายที่เราไปหาเพื่อนพอดีด้วย
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นมีการชุมนุมที่ย่าน
เจิ๊งกวั๊นโอว (將軍澳, 将军澳) ในเขตไซ้กงทางตะวันออก ใกล้กับฟ้อต่าย ผู้คนรวมกันตอนดึกห้าทุ่มแถวห้างเสิ่งตั๊ก (
尚德廣場, 尚德广场)
ในช่วงนั้นตำรวจได้มีการใช้ก๊าซน้ำตาเข้าจัดการการชุมนุม หลังจากนั้นจึงพบหนุ่มคนหนึ่งนอนบาดเจ็บสาหัสเพราะตกลงมาจากที่สูง ซึ่งคาดว่าน่าตกลงมาจากชั้น ๒ หรือ ๓ ของอาคารจอดรถ
เขาเป็นนักศึกษาของฟ้อต่าย ชื่อว่า
เจ๊าจี๋หลอก (周梓樂, 周梓乐) หรือจีนกลางเรียกว่า
โจวจื่อเล่อข่าวบอกว่าเขาโดดจากตึกเพื่อหนีก๊าซน้ำตาที่ตำรวจยิง แต่ความจริงเป็นอย่างไรนั้นไม่อาจรู้แน่ชัด เพราะไม่มีใครจัดภาพตอนที่เขาตกลงมาได้ จึงไม่รู้จริงๆว่าทำไมเขาต้องโดด มีแค่ภาพในกล้องวงจรปิดในอาคารจอดรถที่เขาโดดลงมาบอกให้รู้ว่าเขาเดินเข้ามาในตึกนั้นก่อนเกิดเหตุตกลงมา
เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว แต่สมองได้รับความเสียหายหนัก ผ่านตัดสมองไป ๒ รอบอาการก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุด 8 โมงเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ก็เสียชีวิตลง
ข่าวการเสียชีวิตของเขาเป็นที่รู้กันทั่วในมหาวิทยาลัยฟ้อต่ายภายในเวลาไม่ช้า
ในวันนั้นพอดีว่ามีพิธีจบการศึกษาจัดขึ้นตอนเช้า แต่หลังจากได้ข่าวการเสียชีวิตของเจ๊าจี๋หลอก ทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจเลิกพิธีเร็วขึ้น รวมทั้งปิดการเรียนการสอนช่วงบ่าย เพื่อไว้อาลัยให้เขา
มีการเขียนรายละเอียดเรื่องนี้ไว้มากมายในวิกิพีเดีย
https://zh.wikipedia.org/wiki/周梓樂墮樓事件จบการเท้าความเพียงเท่านี้ก่อน ต่อไปเริ่มเล่าเรื่องการเดินทางต่อ
นั่งรถเมล์จากสถานีฉอยห่งมาจนถึงฟ้อต่าย
เดินจากป้ายรถเมล์เข้าไปหน้ามหาวิทยาลัย
ถึงลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัย ผู้คนเต็มแน่นไปหมดเพราะเป็นวันที่มีพิธีรับปริญญา
นี่เป็นตึกหลักหน้่ามหาวิทยาลัย และเป็นตึกที่มีพิธีรับปริญญา เรานัดเจอเพื่อนตรงนี้
พอเจอเพื่อนแล้วเขาก็เริ่มพาเข้าชมในบริเวณ
เริ่มจากโถงในอาคารหลัก ซึ่งเป็นที่จัดงานรับปริญญา แต่ว่าตอนนี้งานเพิ่งเสร็จไป คนส่วนใหญ่ก็ไปเดินถ่ายรูปกันอยู่
ตอนแรกตั้งใจจะไปหาอะไรกิน เลยลองเดินไปทางโรงอาหาร
แต่ตามร้านต่างๆเต็มไปด้วยผู้คนจนเต็ม เลยไม่ไหว ไปเดินก่อนแล้วค่อยหาอะไรง่ายๆกินทีหลังดีกว่า
โถงบันไดเลื่อนในอาคาร
ขึ้นบันไดมาด้านบน ก็เจอจุดที่เห็นทิวทัศน์ริมทะเลสวยงาม ทะเลที่นี่ไม่ใช่ทะเลเปิด แต่เป็นอ่าวซึ่งเต็มไปด้วยหมู่เกาะสวยงาม ดูไม่โล่ง
แล้วเขาก็พามาดูตรงห้องคอม
ตรงนี้มีคนมาถ่ายรูปรับปริญญา
อาคารนี้ใหญ่มาก เดินต่อไปก็ยังไม่สิ้นสุด แต่เข้าไปยังอีกส่วนของอาคาร
ตรงนี้ก็มีร้านอาหาร แต่ก็คนแน่นอีกเช่นเคยเลยไม่ได้เข้า
เดินขึ้นมา เป้าหมายต่อไปคือภาควิชาที่เพื่อนอยู่
บรรยากาศตามทางเดิน ดูแล้วอับอยู่ เป็นทางแคบๆและซับซ้อน เดินไปมาก็งงอยู่ไม่น้อย
แล้วก็มาถึงภาควิชาของเพื่อน คือสาขาอิเล็กทรอนิกและคอมพิวเตอร์ ได้มีแวะเข้าชมห้องที่เพื่อนนั่งทำวิจัยอยู่ด้วย
จากนั้นก็ออกจากอาคารมาอีกฝั่ง แล้วไปด้านในต่อ เดินไปทางใต้
เดินขึ้นเขาโดยบันไดเลื่อน มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาทำให้ต้องเดินขึ้นลงเพื่อไปยังตึกต่างๆ แต่ก็มีบันไดเลื่อนตลอดเลยไม่ลำบากมาก
ขึ้นมาก็เจออีกตึก คือตึกบริหารธุรกิจเหลย์สิ่วเก๊ย์ (
李兆基商學大樓)
เข้ามาดูด้านในตึก
ที่นี่ก็มีโรงอาหาร แต่ก็คนแน่นเต็มอีกเช่นกัน
เดินผ่านออกมาอีกด้านของตึก
เดินขึ้นเขาต่อ
เจออาคารเรียนรวมโหล่วก๊าช้ง (
盧家驄薈萃樓)
ในนี้เป็นตึกที่มีห้องประชุมใหญ่ บางทีก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รางวัลโนเบลมาพูดด้วย
ตรงนี้เป็นที่นั่งรอนอกห้องประชุม ระหว่างนั่งรอก็ชมทิวทัศน์ไปได้
เดินถัดจากตึกนี้ไปก็สุดทาง ด้านหน้าเป็นหน้าผา มองออกไปเป็นทะเล
ข้างๆนั้นมีอาคารโรงแรม
ชั้นล่างเป็นร้านอาหาร แต่เป็นระดับแพง เลยดูโล่งๆกว่าที่อื่น
จากนั้นก็เดินย้อนกลับลงมา แล้วไปทางเหนือ
ตรงนี้ผ่านร้านอาหารอีกร้าน แต่ปิดแล้วทั้งๆที่ปกติเวลานี้ไม่น่าจะปิด แต่เพื่อนบอกว่าเป็นเพราะมหาวิทยาลัยสั่งเลิกเร็วเพื่อไว้อาลัยให้เจ๊าจี๋หลอก นักศึกษาที่เสียชีวิตเมื่อเช้า ร้านต่างๆจึงปิดกันไปด้วย
ตรงนี้เป็นจุดที่ลงไปชมทิวทัศน์ได้ เห็นคนถ่ายรูปรับปริญญากันอยู่
ทิวทัศน์จากตรงนั้น
จากนั้นเดินถัดมาอีกหน่อย เจอจุดที่ชมทิวทัศน์ได้ดีกว่าอีก
มองจากตรงนี้ไปเห็นอาคารทางตะวันออกพร้อมกับทะเลสวยงาม
เดินต่อมายังทางเดินที่เชื่อมระหว่างอาคาร
ในนี้มีพีคาชูตัวใหญ่ตั้งอยู่เด่น
แต่มองไปตามผนังกลับเห็นถูกขีดสี ซึ่งดูแล้วเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง
ข้อความที่เขียนตรงนี้คือ
光復香港時代革命 หมายความว่า "กอบกู้ฮ่องกง ปฏิวัติยุคสมัย"
ส่วนตรงนี้คือ
黑警謀殺學生 "ตำรวจมืดจงใจฆ่านักศึกษา" คาดว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกเขียนหลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของเจ๊าจี๋หลอก ซึ่งทางผู้ประท้วงเชื่อว่าตำรวจเป็นต้นเหตุ
ทางตะวันตกก็คือตึกอาคารหลักซึ่งเราผ่านตอนแรกสุด แต่ว่าเป็นคนละมุม ฝั่งนี้เป็นสวนด้านหลัง
เดินเข้ามาทางนี้เป็นโรงอาหาร คนก็ไม่แน่น กำลังเหมาะที่จะกิน
การสั่งอาหารก็กดที่เครื่องตรงนี้ได้
แต่ดูแล้วไม่มีเวลาแล้วก็เลยตัดสินใจไม่แวะกินในโรงอาหารแล้วดีกว่า
ข้างๆโรงอาหารเป็นซูเปอร์
จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาตรงพีคาชู คราวนี้เดินไปทางตะวันออก
ลงผ่านตรงนี้
จากตรงนี้ยังต้องลงลิฟต์แล้วไปข้างล่างเพื่อไปทางตะวันออกต่อเพื่อไปยังทะเล
ลูกทรงกลมท้องฟ้าแบบโบราณของจีน เรียกว่า หุนอี๋ (
渾儀, 浑仪) ถ้าอ่านแบบกวางตุ้งก็คือ "
หวั่นหยี่"
แถวๆนี้เป็นย่านหอพักนักศึกษา
ทางนี้เป็นทางไปพวกโรงยิมและสระว่ายน้ำ
อาคารตรงนี้เป็นสระว่ายน้ำ
ที่เพื่อนชวนให้มาตรงนี้ไม่ใช่เพราะจะมาเล่นอะไร แต่เพราะว่าเป็นจุดที่ชมทิวทัศน์ได้สวยอีกจุด จากระเบียงตึกมองลงไปก็เห็นถนนที่อยู่ติดริมฝั่งทะเลแล้ว
ทางขวา (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) นี้คือสนามกีฬาในศูนย์กีฬาฝอกเย้งต๊ง (
霍英東體育中心, 霍英东体育中心)
มองไปทางเหนือเป็นหาดทราย แต่ก็ไม่ใช่บริเวณที่จะมีใครมาเล่นน้ำทะเล
จากตรงนี้หากเดินลงไปอีกนิดก็จะไปเดินริมทะเลได้ แต่ว่าต้องใช้เวลาเดินลงไปอีก ดูเวลาแล้วไม่มีเวลาแล้ว ขณะนั้น 13:45 ถึงเวลาควรเตรียมตัวเดินทางกลับได้แล้ว
ส่วนตรงนั้นเป็นหอพักนักศึกษาที่อยู่ใกล้ทะเลที่สุด ดูแล้วถ้าได้พักตรงนี้น่าจะบรรยากาศดีทีเดียว
จากนั้นเราก็เดินกลับขึ้นไปเพื่อไปขึ้นรถเมล์เพื่อจะกลับ แต่ว่าระหว่างทางตอนที่เดินผ่านทางเดินที่มีพีคาชูตัวใหญ่และมีคนมาฉีดสีที่ผนังไว้นั้น มัวแต่มองผนังจนเดินสะดุดตอ หกล้ม เป็นแผลถลอก ทำให้ต้องเดินไปซื้อยามาทา เสียเวลาไปพอสมควร แต่ได้ยาทาแผลมาเป็นที่ระลึก เพื่อนซื้อให้ ราคา ๒๐.๘ มั้น
นอกจากนี้กล้องถ่ายรูปก็ตกกระแทกพื้นจนฝาหน้ากล้องบิ่น เปิดปิดไม่ได้
เราเดินไปขึ้นรถเมล์ พยายามจะถ่ายรูปด้วยกล้องนี้ แต่ว่าฝาเปิดไม่สนิทจนทำให้ได้ภาพที่โดนฝาบังอยู่ซ้ายบนขวาล่างแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นปัญหาสำหรับการเที่ยวต่อจากนี้ไปมากนัก เพราะใช้กล้องมือถือถ่ายแทนได้ ส่วนบาดแผลก็ไม่ได้หนัก ระหว่างที่อยู่นี่ยังไม่ได้มีอาการอะไร แม้ทำให้ต้องมาปวดหนักในวันรุ่งขึ้น
ขอตัดจบตอนเท่านี้ ต่อไปเป็นตอนสุดท้ายในการเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ จะเขียนเรื่องที่สถานีรถไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมประท้่วงในฮ่องกง และเรื่องช่วงท้ายในระหว่างการเดินทางกลับ
https://phyblas.hinaboshi.com/20191116