วันนี้ 28 มี.ค. 2022 ในที่สุดก็ได้ไปฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มที่ ๓ มาแล้ว หลังจากที่เข็มที่แล้วได้ฉีดไปในวันที่ 2 ธ.ค. 2021 ซึ่งก็ได้เว้นมาเป็นเวลา ๓ เดือนกว่า
บันทึกการฉีดครั้งแรก >>
https://phyblas.hinaboshi.com/20211030บันทึกการฉีดครั้งที่ ๒ >>
https://phyblas.hinaboshi.com/20211202สำหรับครั้งนี้ตัวที่ฉีดนั้นต่างจากครั้งก่อน โดย ๒ ครั้งก่อนฉีดตัว BioNTech แต่ว่าครั้งนี้วัคซีนชนิดนี้ไม่มีให้ฉีดในไต้หวันแล้ว แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องฉ๊ดตัวเดิมก็ได้ เลยเลือกฉีดวัคซีน
MVC-COV1901 หรือในภาษาจีนนิยมเรียกว่า
เกาตวาน (高端) ซึ่งเป็นวัคซีน COVID-19 ของไต้หวันเอง ใช้อยู่แค่ในไต้หวัน ผลิตเองใช้เอง เป็นวัคซีนชนิดหน่วยย่อย (蛋白質亞基)
นอกจากนี้สถานที่ก็ได้เปลี่ยนที่ฉีดจากครั้งก่อนๆ โดยลองไปฉีดในที่ไกลออกไปหน่อย ไหนๆก็ได้ออกไปข้างนอกแล้ว เลยเลือกไปฉีดที่เมืองข้างๆซะเลย นั่นก็คือเมือง
เหมียวลี่ (苗栗) ซึ่งก็อยู่ข้างๆเมืองซินจู๋ที่เราอยู่นี้ หลังจากที่ ๒ ครั้งแรกก็ฉีดแต่ในเมืองซินจู๋ แน่นอนว่าสถานที่ฉีดมีอยู่ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องฉีดในเมืองที่อยู่ก็ได้ เลยถือโอกาสเที่ยวไปด้วย
แต่เมืองเหมียวลี่ก็ไม่ใช่ว่ามีสถานที่เที่ยวอะไรเป็นพิเศษหรอก แค่อยากไปเดินเล่นดูบ้านเมืองแถวนั้นสักหน่อย เป็นเมืองที่อยู่ใกล้ๆแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินเลย อีกอย่างชื่อเมืองเหมียวลี่มอักษร 苗 เหมือนคำว่า "อี้เหมียว" (疫苗) ที่แปลว่า "วัคซีน" ด้วย ดูแล้วช่างเหมาะเจาะสำหรับที่จะเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนอยู่นะ
การฉีดวัคซีนครั้งนี้จองไว้ในระบบในเว็บตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. และได้ฉีดในวันจันทร์ที่ 28 มี.ค. รอบ 10.00 น.
ตอนเช้าออกมาตอน 8 โมง มารอรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปยังสถานีซินจู๋ วันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจเท่าไหร่ ตกอยู่ทั้งวันแบบนี้
ถึงสถานีซินจู๋ท่ามกลางสายฝน
เข้ามารอรถไฟ
บรรยากาศภายในรถไฟ คนโดยสารโล่งๆ นั่งริมหน้าต่างมองทิวทัศน์ท่ามกลางสายฝนไปพลาง
ถึงสถานีเหมียวลี่
เดินออกมาทางฝั่งตะวันออกของสถานีเพื่อไปยังเป้าหมาย
แล้วก็มาถึงสถานที่ฉีดที่จองไว้ในครั้งนี้ นั่นก็คือศูนย์อนามัยเมืองเหมียวลี่ (
苗栗市衛生所)
เข้าไปถึงก็ยื่นบัตรแล้วก็แจ้งชื่อ แล้วก็รอสักพักคุยกับหมอในห้องนี้ก่อน
ระหว่างรอก็ดูข่าวในโทรทัศน์ไป ช่วงนี้ข่าวสงครามยูเครนกำลังมาแรง สะเทือนไปทั่วโลก อยากให้สงบสุขเร็วๆจัง
หลังจากฉีดเสร็จแล้ว ที่จริงก็หมดธุระกับเมืองนี้แล้ว แต่ไหนๆก็มาถึงแล้วก็เลยขอเดินเที่ยวเล่นชมเมืองสักหน่อย
เมืองนี้ก็ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไร แต่ก็พอจะมีจุดให้ชมอยู่บ้าง เช่นพอดีตรงใกล้ศูนย์อนามัยที่ไปมาครั้งนี้มีวัดเล็กๆแห่งหนึ่งอยู่
นี่คือวัดเหมียวลี่ยวี่ชิงกง (
苗栗玉清宮) อยู่ในย่านยวี่ชิง (
玉清里) ในเมืองเหมียวลี่ เห็นชื่อแบบนี้แล้วก็ชวนให้สงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับนักร้องชื่อดัง เฟ่ย์ยวี่ชิง (
費玉清) หรือเปล่า แต่ดูแล้วเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรหรอกแค่บังเอิญเหมือนกัน
แค่เดินชมจากด้านนอก ไม่ได้เข้าไปในตัววัด เดินเสร็จก็ลงมาทางใต้ ผ่านซุ้มประตูวัด
จากนั้นก็เดินต่อไปทางตะวันออก โดยเป้าหมายก็คือตั้งใจว่าจะเดินไปให้ถึงสุดแม่น้ำแล้วค่อยกลับมา ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ
แล้วก็เดินมาจนถึงริม
แม่น้ำโฮ่วหลง (後龍溪) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเหมียวลี่ สะพานข้างหน้านี้คือ
สะพานใหญ่ยวี่ชิง (玉清大橋) ถ้าข้ามไปก็จะเป็นเขตนอกเมืองแล้ว
แต่เราไม่ได้กะจะไปต่อไกลกว่านี้แล้ว ดังนั้นก็เดินย้อนกลับมา แต่เปลี่ยนทางสักหน่อย ระหว่างทางก็เดินผ่านทุ่งนาทั้งที่อยู่กลางเมือง ทุ่งนากลางเมืองท่ามกลางสายฝน ดูแล้วสวยงามบรรยากาศดีจนได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้มากมาย
เดินต่อมาเรื่อยๆก็กลับมาถึงแถวตรงที่ข้ามรางรถไฟ
เมื่อลดใต้รางรถไฟข้ามมาฝั่งตะวันตกแล้ว ก็มุ่งไปเป้าหมายอีกแห่งที่ตั้งใจว่าจะเดินไปดูตั้งแต่แรก
นั่นก็คือที่ว่าการจังหวัดเหมียวลี่ (
苗栗縣政府) เป็นอาคารสูงใหญ่ดูโดดเด่นท่ามกลางเมืองเล็กแห่งนี้ ภาพนี้ถ่ายจากด้านหน้า พื้นกำลังเปียกเห็นเงาสะท้อนน้ำสวยดี
มีเดินอ้อนไปถ่ายจากด้านหลังของอาคารด้วย
ตรงด้านหลังของที่ว่าการเมืองมีจงเจิ้งถาง (
中正堂)
แล้วก็เดินขึ้นเหนือมาอีกหน่อยก็กลับมาถึงสถานีเหมียวลี่ แต่เป็นด้านตะวันตก ต่างจากตอนแรกที่ออกจากด้านตะวันออก
ไม่รู้ทำไม family mart ในสถานีดูเหมือนกลังจะปิดแล้ว ของหายหมดเลย
เข้ามาถึงเวลา 12:32 ก็จังหวะกำลังดี รถไฟที่จะกลับซินจู๋ได้เป็นรอบ 12:40
ระหว่างรอ มองออกไปผ่านหน้าต่างของสถานีที่เปียกชุ่มด้วยน้ำฝน
สักพักรถไฟก็มา ได้เวลาขึ้นเพื่อเดินทางกลับ
เมื่่อกลับมาถึงซินจู๋ก็แวะร้านสึกิยะที่ใกล้สถานีซินจู๋กินมื้อเที่ยงก่อนจะกลับ
การเดินทางไปฉีดวัคซีนครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้ เหมือนได้เป็นการไปเที่ยวไปด้วยนิดหน่อย แม้ว่าจะไม่ได้ไปสถานที่เที่ยวอะไรเป็นพิเศษอีกทั้งยังต้องเดินท่ามกลางสายฝนเลยค่อนข้างลำบากทีเดียว แต่ก็ก็ได้เห็นบ้านเมืองชนบทสวยๆ ยิ่งบรรยากาศกลางสายฝนแบบนี้ก็ยิ่งดูสวยงามด้วย แถมได้ฉีดวัคซีนด้วย จึงถือได้ว่าเป็นเที่ยวคุ้มค่าทีเดียว