# จันทร์ 2 ม.ค. 2023
ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้เดิมทีก็ไม่ได้มีแผนจะไปเที่ยวไหนนัก แต่ว่าพอดีวันนี้มีหิมะตกตั้งแต่เช้า พอตื่นขึ้นมามองนอกหน้าต่างที่พักซึ่งอยู่ชั้น ๖ เห็นรอบๆขาวโพลนสวยงามไปหมดเลย ทำให้วางแผนเที่ยว เพราะถ้าไปเที่ยวไหนตอนนี้ก็คงได้เห็นทิวทัศน์สวยงามกว่าเวลาปกติ
สถานที่ที่เลือกไปครั้งนี้ก็คือ
วัดไซโฮว (西方寺) ซึ่งเป็นวัดเล็กๆแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเขาทางตะวันตกของเซนได ที่นี่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดมิยางิที่คนนิยมไปไหว้ฮัตสึโมวเดะ (
初詣) ตอนต้นปีกันด้วย
เมื่อวานนี้ได้ไปไหว้ฮัตสึโมวเดะมาแล้วที่ศาลเจ้าทาเกโกมะดังที่ได้เล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20230101 ดังนั้นถึงไปไหว้ก็ไม่ใช่ฮัตสึโมวเดะแล้วเพราะว่าไม่ใช่ครั้งแรกในรอบปี
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จริงๆก็ไม่ได้ไปเพื่อไปไหว้อะไร แต่จุดประสงค์จริงๆคือจะไปชมทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะมากกว่า
วัดไซโฮว หรือชื่อเต็มไปว่า
วัดโกกุรากุซังไซโฮว (極楽産西方寺) ถูกสร้างขึ้นในปี 1706 เป็นวัดที่บูชาพระอามิดะเนียวไร (
阿弥陀如来) หรือพระอมิตาภพุทธะ (
अमिताभ बुद्ध) ตั้งอยู่ในเขต
โอกุระ (大倉) ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกของเมืองเซนได
โดยทั่วไปแล้ววัดนี้ยังถูกเรียกในชื่อว่า
"โจวงิเนียวไร" (定義如来) ดังนั้นบริเวณย่านชุมชนรอบๆวัดนี้ยังถูกเรียกในชื่อว่า
"โจวงิ" (定義) ด้วย
อนึ่งปกติแล้วอักษร 定義 นั้นจะอ่านว่า "เทย์งิ" (ていぎ) แปลว่า "นิยาม" แต่ว่าชื่อที่นี่อ่านแบบพิเศษเป็น "โจวงิ" (じょうぎ)
การเดินทางไปยังวัดไซโฮวนั้นทำได้โดยนั่งรถเมล์จากตัวเมืองเซนไดไปลงที่ป้ายโจวงิ (
定義) ซึ่งก็มีอยู่หลายสายที่ไปได้ ได้แก่สาย 844, S844, 845, S845, 846 โดยป้ายโจวงิก็เป็นป้ายสุดทางของทุกสายที่ไป
ครั้งนี้เราเดินทางไปโดยนั่งรถเมล์สาย 846 โดยขึ้นจากป้ายหน้าตึกพลังไฟฟ้า (
電力ビル
前) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสถานีเซนได ที่จริงตอนแรกตั้งใจจะไปขึ้นที่ป้ายหน้าสถานีรถไฟเซนได แต่ว่าหาป้ายไม่เจอ ก็เลยมาขึ้นที่ป้ายนี้ซึ่งอยู่ถัดไป
รถเมล์เที่ยวที่นั่งไปนี้ออกจากป้ายหน้าสถานีเซนไดเวลา 9:00 และตามเวลาแล้วจะต้องมาถึงป้ายที่เรารออยู่นี้เวลา 9:04 แต่ว่าถึงเวลาแล้วก็ยังไม่มา รอจนมาถึงจริงๆคือ 9:07 ช้ากว่าเวลานิดหน่อย
แล้วเราก็ขึ้นนั่งรถเมล์ไป ระหว่างทางรถเมล์ยังผ่านศาลเจ้า
โอซากิฮาจิมังงู (大崎八幡宮) ซึ่งก็เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่งในเซนไดและเป็นอีกแห่งที่คนนิยมไปไหว้ฮัตสึโมวเดะกัน แต่เรายังไม่มีโอกาสได้แวะไป ไว้โอกาสหน้า ครั้งนี้แค่นั่งรถผ่านเฉยๆ
แล้วรถเมล์ก็เริ่มออกจากเขตตัวเมือง เข้าสู่เขตภูเขา ยิ่งห่างจากตัวเมืองไปก็ยิ่งเห็นทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะมากขึ้นดูแล้วสวยงาม
ระหว่างทางจอดตามป้ายต่างๆในย่านชุมชนบนเขา
แล้วรถเมล์ก็มาจอดป้ายหน้าที่จอดรถบัสชิราซาวะ (
白沢車庫前) ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเก็บรถ เห็นมีรถเมล์จอดอยู่เต็มไปหมด ก็เลยดูจะจอดนานกว่าป้ายอื่น
หลังจากนั้นรถเมล์ก็วิ่งผ่านแถวเขื่อนโอกุระ (
大倉ダム)
ทิวทัศน์ริมเขื่อนท่ามกลางหิมะ ดูแล้วสวยงามมาก
ผ่านบริเวณริมเขื่อนมาก็เริ่มเห็นป้ายบอกทางว่าจะไปถึงโจวงิแล้ว
แล้วในที่สุดก็เดินทางมาถึงป้ายรถเมล์โจวงิ ค่ารถ ๑๑๖๐ เยน จ่ายด้วยบัตร Suica
นี่เป็นป้ายบอกเวลารถเมล์ที่มาจอดตรงป้ายนี้ ดูแล้วเที่ยวรถมีไม่มากนัก จึงต้องกะเวลาวางแผนให้ดีถ้าจะมา เที่ยวรถที่เรานั่งมานี้ถึงที่นี่เวลา 10:07 และเที่ยวรถที่จะออกจากที่นี่มีรอบเวลา 11:18 เป็นสาย S844 ถ้านั่งรถเมล์เที่ยวนี้ก็จะมีเวลาเที่ยวที่นี่ประมาณชั่วโมงกว่า กำลังดี
ตรงจุดที่ป้ายรถเมล์ตั้งอยู่นี้มีอาคารที่นั่งพักและมีห้องน้ำด้วย
หน้าอาคารมีแผนที่แนะนำสถานที่เที่ยวที่นี่
สะพานด้านหน้าป้ายรถเมล์ ซึ่งรถที่เข้ามาที่นี่ก็วิ่งผ่านมาจากทางนั้น
จากนั้นเราก็เดินออกมา ขณะนั้นหิมะก็ตกโปรยปรายลงมาเรื่อยๆ เที่ยวนี้จึงเป็นการเดินเที่ยวท่ามกลางหิมะ รู้สึกพอดูเลย แต่ได้เห็นทิวทัศน์แล้วก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้มา แบบนั้นหนาวแค่นี้ทนได้อยู่แล้ว
เดินมานิดหน่อยก็เจอที่จอดรถหน้าวัด คนที่นั่งรถส่วนตัวมาก็มาจอดกันตรงนี้ ดูแล้วมีรถเยอะมากทีเดียว ทำให้รู้ว่ามีนักท่องเที่ยวมาที่นี่ไม่น้อยเลย
ถนนก็เปียกแฉะ ต้องเดินระวังด้วย
ทางตะวันออกเฉียงเหนือตรงโน้นดูเหมือนจะมีอาคารหอคอยห้าชั้น (
五重塔) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดไซโฮว แต่ตอนแรกไม่ได้สังเกตเห็น เลยไม่ได้แวะไป น่าเสียดายเหมือนกัน
ทางเข้าตัวอาคารหลักของวัดอยู่ทางนี้
เดินเข้ามาด้านใน
นี่คือตัวอาคารหลัก ฮนโดว (
本堂) ของวัด
ศาลาล้างมือหน้าวัด
ตรงนี้เป็นที่ให้ผู้คนมาจุดธูปไหว้กัน
แผ่นป้ายเขียนคำอธิษฐาน เอมะ (
絵馬)
ที่หน้าวัดมีกล่องหยอดเงินบริจาคและเป็นที่ให้ยืนไหว้
ส่วนการจะเข้าไปในตัวอาคารนั้นต้องเข้าผ่านตัวอาคารที่อยู่ด้านข้างตรงนั้น
เดินเข้ามาในอาคาร
ทางเข้านั้นต้องเดินขึ้นไป
บริเวณชั้น ๒
จากตรงนี้ต้องถอดรองเท้าก่อนจึงเข้ามาได้
ทิวทัศน์ที่มองจากชั้น ๒
ตัวอาคารหลัก
จากนั้นเดินต่อเข้ามาด้านใน มีห้องที่ดูเหมือนเป็นที่ให้เด็กพักนั่งเล่น
ถัดมาก็เป็นทางเข้าไปสู่ห้องสวดภายในตัวอาคารหลัก พอเข้ามาถึงเห็นคนกำลังนั่งสวดกันอยู่
เราก็เข้ามานั่งด้านในฟังพระสวดไปด้วย รอจนจบแล้วจึงออกไป
การเที่ยวในส่วนอาคารหลักของวัดก็จบเท่านี้ หลังจากนั้นก็เดินออกมาแล้วไปชมอาคารซาดาโยชิโดว (
貞能堂) ซึ่งอยู่ทางใต้
หน้าอาคารมีรูปปั้นโชวงุนจิโซว (
勝軍地蔵) ตั้งอยู่
ด้านหลังมีทางให้ปีนขึ้นไป
ขึ้นมาด้านบนนี้เป็นเทนโนวซึกะ (
天王塚) ซึ่งบูชาจักรพรรดิอันโตกุ (
安徳天皇, ปี 1178-1185) จักรพรรดิคนที่ ๘๑ ของญี่ปุ่นซึ่งครองราชย์ในปลายยุคเฮย์อังช่วงปี 1180-1185 เป็นจักรพรรดิที่อายุสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ทิวทัศน์ที่มองลงไปจากตรงนี้
ตรงนี้มีแผ่นป้ายเอมะด้วย
ส่วนตรงนี้เป็นสุสานของเจ้าอาวาสคนต่างๆในอดีตของวัดนี้
เดินต่อเข้าไปด้านในยังมีศาลเจ้าอินาริ (
稲荷神社)
แล้วก็ศาลเจ้าคุมาโนะ (
熊野神社)
ทิวทัศน์ที่มองลงไปจากตรงนี้
หลังจากนั้นก็เดินกลับลงมาชมส่วนตัวอาคารซาดาโยชิโดว
ตรงนี้เป็นที่ขายเครื่องราง
ภาพถ่ายอื่นๆภายในบริเวณนี้
ตรงนี้มีร้านขายของที่ระลึก
ในร้านมีของต่างๆมากมาย เช่นตุ๊กตาโคเกชิ
ส่วนตรงนี้มีขายขนม เราได้ซื้อโจวงิโมโรโกชิ (
定義諸越) ราคา ๓๐๐ เยน ไว้เป็นของฝากแจกเพื่อน
จากนั้นเดินออกมาดูตรงบริเวณหน้าทางเข้าซาดาโยชิโดว เห็นมีร้านค้าขายของที่ระลึกอีกมากมาย
เราได้แวะร้านนี้ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ (
月餅) และขนมคุริตาโรว (くり
太郎) อย่างละ ๓๘๐ เยน
ภาพถ่ายรวมของที่ซื้อมา ทางขวาคือโจวงิโมโรโกชิที่ซื้อมาจากร้านก่อนที่แวะไปก่อนหน้า
จากนั้นเดินต่อไปตามทางยังเจอร้านขายขนมต่างๆอีกมาก
ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นร้านชื่อดัง โจวงิโตวฟุ (
定義とうふ) เห็นคนเข้าแถวรอซื้อกันเต็มไปหมด
โจวงิโทวฟุเป็นอาบุราอาเงะ (
油揚げ) รูปสามเหลี่ยมแบบนี้ ดูแล้วน่าอร่อยดี แต่เราไม่ได้ไปเข้าแถวซื้อด้วย เพราะว่าไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบกลับไปยังป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถกลับ
เดินย้อนกลับไปตามทางต่อเพื่อกลับไปยังป้ายรถเมล์
ระหว่างทางก็เจอร้านน่าอร่อยอีก มีขายพิซซาด้วย แต่ก็ไม่มีเวลาแวะเหมือนกัน
แล้วก็เดินกลับมาจนถึงอาคารพักที่มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้า
จากนั้นก็รอจนถึงเวลา 11:18 รถเมล์ก็มาตามเวลา เราก็ขึ้นรถเมล์เพื่อนั่งกลับตัวเมืองเซนได เป็นอันจบการเที่ยววัดไซโฮวท่ามกลางหิมะแต่เพียงเท่านี้
แต่การเที่ยววันนี้ยังไม่ไ้ดจบลงแค่นี้ หลังจากนั้นยังแวะไปเที่ยวที่อื่นต่ออีก
https://phyblas.hinaboshi.com/20230103