# ศุกร์ 6 ม.ค. 2023
ช่วงนี้เนื่องจากว่าพาสปอร์ตกำลังจะหมดอายุ จึงต้องมาทำพาสปอร์ตใหม่ แต่ว่าช่วงนี้อาศัยอยู่ญี่ปุ่น การทำพาสปอร์ตจึงต้องทำผ่าน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว (在東京タイ王国大使館)ที่ผ่านมาเราก็เคยอาศัยอยู่ในจีนและไต้หวันมาก่อน เลยทำพาสปอร์ตที่ต่างประเทศมาโดยตลอด
ครั้งแรกคือเมื่อปี 2013 ได้ทำพาสปอร์ตในปักกิ่ง เขียนเล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20131203ส่วนครั้งต่อมาในปี 2018 อาศัยอยู่ใต้หวันก็เลยทำพาสปอร์ตที่ไทเป ก็ได้เขียนเล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20180612ส่วนคราวนี้ปี 2023 อยู่ญี่ปุ่น ก็เลยต้องทำพาสปอร์ตที่โตเกียว ดังนั้นครั้งนี้ที่ได้ไปทำจึงถือโอกาสเขียนเล่าประสบการณ์ไว้ตรงนี้
รายละเอียดการทำพาสปอร์ตใหม่สำหรับคนไทยในญี่ปุ่นอ่านได้ใน
https://site.thaiembassy.jp/th/services/passport/สำหรับการทำพาสปอร์ตในญี่ปุ่นนั้นต้องมายื่นเรื่องที่สถานีทูตซึ่งอยู่ที่โตเกียวเท่านั้น แต่เราอาศัยอยู่เมืองเซนได จึงต้องเดินทางไกลมาถึงโตเกียวเพื่อจะมาทำ
โชคดีว่าเนื่องจากวันนี้ 6 มกราคม 2023 เรามีงานที่หอดูดาวแห่งชาติต้องเข้ามาโตเกียว จึงถือโอกาสมาทำวันนี้เลย
การทำต้องจองล่วงหน้าผ่านทางเว็บ
https://site.thaiembassy.jp/th/services/passport/9126/เราเลือกจองรอบเวลา 10:30-11:30 แต่ว่ามาถึงจริงๆก่อนเวลาที่จองไว้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เอกสารที่ต้องใช้มีแค่ ๓ อย่างเท่านั้น คือ
- พาสปอร์ตเล่มเดิม
- บัตรประชาชน
- บัตรประจำตัวผู้พำนักอยู่ญี่ปุ่น ไซริวการ์ด (
在留カート)
ค่าทำพาสปอร์ตคือ ๑๓๐๐๐ เยน ทำเสร็จแล้วต้องใช้เวลารอนานประมาณเดือนถึงเดือนครึ่ง โดยเขาจะส่งพาสปอร์ตใหม่ไปให้ทางไปรษณีย์ ไม่ต้องกลับมาเอาที่โตเกียวแล้ว
สถานทูตไทยตั้งอยู่ที่ย่าน
คามิโอซากิ (上大崎) ใน
เขตชินางาวะ (品川区) การเดินทางไปนั้นไปได้สะดวกโดยขึ้นรถไฟไปลงที่
สถานีเมงุโระ (目黒駅)อนึ่ง ในโตเกียวมีเขตเมงุโระ (
目黒区) สถานีเมงุโระเองก็ตั้งอยู่ในเขตชินางาวะ นอกจากนี้แล้วก็มีสถานีชื่อสถานีชินางาวะ (
品川駅) แต่กลับไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตชินางาวะ แต่อยู่ในเขตมินาโตะ (
港区) จึงทำให้เกิดความสับสนได้ง่าย ดังนั้นอย่างเข้าใจผิด ที่ถูกต้องคือให้มาลงที่สถานีเมงุโระซึ่งอยู่ในเขตชินางาวะ
ต่อไปจะเริ่มเล่าการเดินทางไปยังสถานทูตไทย
เราเริ่มออกเดินทางจาก
สถานีเซนได (仙台駅) ตอนเช้า ตอนที่ไปถึงหน้าสถานีเห็นมีกลุ่มคนชูป้ายสนับสนุนสันติภาพ มีป้ายเขียนถึงสงครามในยูเครนด้วย รายละเอียดและวัตถุประสงค์ไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกัน
จากนั้นเข้ามาในตัวสถานี ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ โดยนั่งชิงกันเซงจากสถานีเซนไดไปลง
สถานีโตเกียว (東京駅) จากนั้นก็ต่อไปยังสถานีเมงุโระ
ราคาตั๋วรวมทั้งหมด ๑๑๘๑๐ เยน ใช้ตั๋วใบนี้ใบเดียวนั่งจากเซนไดไปลงที่สถานีเมงุโระได้เลย ชิงกันเซงที่นั่งคือขบวน
ฮายาบุสะ (はやぶさ) รอบเวลา 7:53 ระหว่างทางจะผ่านแค่
สถานีโอมิยะ (大宮駅) ในจังหวัดไซตามะ แล้วก็มาถึงโตเกียวตอนเวลา 9:23 ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งพอดี
ที่ชานชลาขึ้นชิงกันเซงในสถานีเซนได
แล้วก็เดินทางมาถึงสถานีโตเกียวตามเวลา
จากนั้นก็ไม่ต้องออกจากสถานี แต่เดินมาหาจุดขึ้นรถไฟ
สายยามาโนเตะ (山手線) ซึ่งเป็นสายวงกลมย่านใจกลางเมืองโตเกียว สามารถนั่งจากสถานีโตเกียวไปสถานีเมงุโระได้โดยตรงเลย แต่ตอนที่เราไปถึงนั้นรถไฟขบวนต่อไปที่จะออกนั้นไปสุดถึงแค่ที่
สถานีโอซากิ (大崎駅)ดังนั้นจึงต้องมาลงที่สถานีโอซากิ แล้วจึงรอเปลี่ยนรถไฟขบวนต่อไปเพื่อไปให้ถึงสถานีเมงุโระ ซึ่งอยู่ถัดจากสถานีโอซากิไป ๒ สถานี
ระหว่างมาเปลี่ยนรถที่สถานีโอซากิ
จากนั้นก็ขึ้นรถไฟมาแล้วก็มาจนถึงสถานีเมงุโระ
เดินออกจากสถานีมาทางประตูตะวันออก
แล้วก็เดินลงไปทางตะวันออก
ระหว่างทางผ่าน
ศาลเจ้าทันโจวฮาจิมัง (誕生八幡神社) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเล็กๆในย่านนี้
แล้วก็เดินต่อไปอีกหน่อย
เลี้ยวขวาลงใต้เข้าซอยนี้
ตอนแรกก็สงสัยว่ามาถูกทางแน่หรือ ทำไมสถานทูตจึงมาตั้งอยู่ในซอยแคบๆแบบนี้ แต่ว่าแผนที่ google map ซึ่งชี้บอกให้มาทางนี้
พอเดินเข้ามาก็พบสถานทูตไทยอยู่ตรงนี้จริง
จากนั้นก็เข้าไปยื่นเรื่องทำพาสปอร์ตด้านในนี้ ภายในห้ามถ่ายรูป ดังนั้นจึงเก็บภาพมาถึงแค่บริเวณหน้าสถานีทูตเท่านั้น
ข้างในมีพนักงานคนไทยคอยบอกขั้นตอนต่างๆเป็นภาษาไทยโดยละเอียด ไม่มีปัญหาอะไร สามารถทำเสร็จได้โดยง่าย ใช้เวลาไม่นาน เริ่มจากยื่นเอกสารให้ แล้วก็ถ่ายสแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูป จ่ายค่าทำ ๑๓๐๐๐ เยน เขียนที่อยู่ที่จะให้เขาส่งพาสปอร์ตใหม่ที่ทำเสร็จให้
หลังยื่นเรื่องเสร็จแล้วเขาจะคืนพาสปอร์ตเล่มเดิมมาให้ แต่จะประทับตราว่ายกเลิกแล้ว ดังนั้นก็ใช้งานไม่ได้ ระหว่างนี้เราจะเดินทางออกนอกญี่ปุ่นไม่ได้ ต้องรอเดือนถึงเดือนครึ่งจนกว่าพาสปอร์ตเล่มใหม่จะทำเสร็จ
หลังจากทำพาสปอร์ตเสร็จแล้วยังมีเวลาอยู่ไหนๆก็มาแถวนี้แล้ว จึงวางแผนไปเที่ยวใกล้ๆนี้ต่อ
https://phyblas.hinaboshi.com/20230107