φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ



ชมซากุระบานที่ปราสาทริฟุในสวนสาธารณะทาเตยามะเมืองริฟุ
เขียนเมื่อ 2023/04/08 23:18
แก้ไขล่าสุด 2023/09/24 09:02
# เสาร์ 8 เม.ย. 2023

วันนี้สุดสัปดาห์ก็ออกไปหาที่เทียวชมดอกซากุระที่กำลังบานอยู่อีก โดยช่วงนี้ภายในจังหวัดมิยางิกำลังบานสวย จึงเที่ยวภายในจังหวัดนี้ ไม่ได้ไปไหนไกล

ที่วางแผนไปคราวนี้มีหลายที่ เริ่มจากเที่ยวเมืองริฟุ (利府町りふちょう) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดกับเมืองเซนไดทางเหนือ สามารถเดินทางไปด้วยรถไฟได้ง่าย

แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองริฟุภายในจังหวัดมิยางิ แสดงเป็นสีเหลืองเข้มอยู่ตรงกลางในแผนที่ ทางเหนือของสีม่วง (เมืองเซนได)




เมืองริฟุมีสายรถไฟเป็นของตัวเอง คือสายริฟุ (利府線りふせん) ซึ่งเป็นสายที่แตกจากสายหลักโทวโฮกุ (東北本線とうほくほんせん) โดยแยกที่สถานีอิวากิริ (岩切駅いわきりえき) และมีอยู่แค่ ๒ สถานีคือ สถานีชินริฟุ (新利府駅しんりふえき) และ สถานีริฟุ (利府駅りふえき)

สายริฟุนั้นเชื่อมต่อโดยตรงจากเซนได โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๕ นาที เที่ยวรถมีประมาณครึ่งชั่วโมงต่อขบวน

เป้าหมายหลักในการไปเที่ยวริฟุคราวนี้คือ สวนสาธารณะทาเตยามะ (館山公園たてやまこうえん) ซึ่งอยู่บนเขากลางเมืองริฟุ เป็นบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทริฟุ (利府城りふじょう) ซึ่งเป็นปราสาทโบราณของญี่ปุ่นอีกแห่งที่มีประวัติศาสตร์

ปราสาทริฟุนั้นเชื่อว่าถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยคามากุระ โดยเป็นของตระกูลมุราโอกะ (村岡むらおか) แต่ว่าตระกูลมุราโอกะมีปัญหากับตระกูลรุสึ (留守るす) แล้วก็พ่ายแพ้แล้วปราสาทก็ตกเป็นของตระกูลรุสึตั้งแต่ปี 1570 แต่ว่าในช่วงปลายยุคเซงโงกุ รุสึ มาซากาเงะ (留守るす 政景まさかげ) ผู้นำของตระกูลขณะนั้นไม่ให้ความร่วมมือกับโทโยโตมิ ฮิเดโยชิในศึกที่ปราสาทโอดาวาระ ก็เลยถูกยึดเขตแดน แล้วปราสาทริฟุก็ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ปี 1590

แม้ว่าปัจจุบันไม่เหลือตัวปราสาทอยู่แล้ว แต่ก็กลายมาเป็นสวนสาธารณะบนเขา โดยมีซากุระอยู่มาก พอถึงฤดูใบไม้ผลิก็บานเป็นสีชมพูสวยงาม



ตอนเช้าเรามาขึ้นรถไฟที่สถานีเซนได รถไฟออก 8:05 และถึงริฟุเวลา 8:21 ค่าโดยสาร ๒๔๐ เยน



ขบวนรถไฟที่ไปริฟุนั้นขึ้นที่ชานชลาหมายเลข ๑



ระหว่างทางผ่านสถานีอิวากิริซึ่งเป็นทางแยก เดี๋ยวเราก็จะย้อนกลับมาลงที่สถานีนี้อีกทีในตอนหลัง แต่ว่าตอนนี้ผ่านไปก่อน จากตรงนี้ไปจะเข้าสู้สายริฟุแล้ว



ถัดมาเป็นสถานีชินริฟุ



จากนั้นจึงมาจอดที่สถานีริฟุ



เดินแตะบัตรออกจากสถานี



ภาพถ่ายด้านหน้าสถานี



อนุสาวรีย์หน้าสถานี




จากหน้าสถานีมองไปไกลๆก็เห็นผู้เขาที่เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะทาเตยามะ เห็นที่ยอดเป็นสีชมพูของซากุระ



ระหว่างทางผ่านวัดโจวริว (長龍寺ちょうりゅうじ) เป็นวัดเล็กๆในนิกายสุขาวดี



จากนั้นต้องข้ามถนนใหญ่สายเซนไดมัตสึชิมะ (仙台松島線せんだいまつしま)



ริมถนนมีสุสานอยู่



การข้ามถนนใหญ่ต้องข้ามด้วยสะพานลอย




ทิวทัศน์จากบนสะพานลอย




เมื่อข้ามมาก็เจอโรงเรียนประถมริฟุ (利府小学校りふしょうがっこう) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าสวนสาธารณะทาเตยามะ



ที่หน้าโรงเรียนมีป้ายที่เขียนอธิบายเกี่ยวปราสาทริฟุด้วย



ที่จริงแล้วทางขึ้นไปยังปราสาทก็อยู่ตรงซอยหลังโรงเรียนนี้เอง ถ้าเดินต่อไปก็ถึงได้ง่าย แต่เราดูแผนที่ใน google แล้วเส้นทางแนะนำให้ไปเข้าทางอื่นที่อ้อมไปหน่อย ก็เลยไม่ได้ขึ้นจากตรงนี้ แต่เดินไปทางตะวันตกต่อนิดหน่อย



ระหว่างทางเห็นมีทางปีนขึ้นเขา ดูแล้วเป็นศาลเจ้าเล็กๆ เราเลยลองขึ้นไปดู เผื่อว่าอาจมีทางเชื่อมต่อขึ้นไปยังตัวปราสาทได้




แต่ขึ้นมาแล้วก็เห็นมีแค่ศาลเจ้าเล็กๆ แล้วก็ไม่มีทางเชื่อมไปไหนต่อ เลยปีนบันไดขึ้นมาเหนื่อยเปล่า



จากนั้นก็ต้องเดินกลับลงไป



แล้วก็เดินต่อมาตามทางถนน








ระหว่างทางตรงนี้เห็นมีป้ายที่เขียนบอกว่าแถวนี้เป็นบริเวณที่ขุดพบซากเครื่องมือสมัยโบราณ แต่ก็ไม่ได้หลงเหลืออะไรให้ดู



ส่วนตรงนี้เป็นสุสาน ริฟุทาเตยามะเรย์เอง (利府りふたてやま霊園れいえん)



ตรงข้ามสุสานนี้เองมีทางให้เดินขึ้นไปยังสวนสาธารณะได้



เดินเข้ามาผ่านเส้นทางนี้ ปีนขึ้นไปเรื่อยๆ




แล้วก็ขึ้นมาถึงบริเวณที่เต็มไปด้วยซากุระ




จากตรงนี้ยังต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยจึงจะถึงส่วนยอดที่เป็นที่ตั้งปราสาท





แล้วก็ขึ้นมาถึงส่วนด้านบน บริเวณนี้มีซากุระอยู่เยอะที่สุด







นอกจากซากุระแล้ว ก็ยังมีป้ายที่เขียนอธิบายว่าบริเวณนี้เคยเป็นปราสาทริฟุ แต่ก็ไม่ได้เหลือซากอะไรที่ให้สังเกตเห็นได้







ที่นี่อยู่บนเขา จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้ แต่ว่าช่วงนี้ซากุระบานเต็มบดบังทำให้มองไม่ค่อยเห็นอะไร




ชมด้านบนนี้เสร็จก็เดินกลับลงมาอีกทาง



ทางที่ลงมานี้ก็คือด้านหลังโรงเรียนประถม ซึ่งตอนแรกผ่านมาแล้วนั่นเอง ขาขึ้นไม่ได้มาทางนี้ แต่ใช้ตอนขาลงแทน



การเที่ยวชมซากุระที่ปราสาทจบลงแค่นี้ แต่ว่าเป้าหมายการเที่ยวในเมืองนี้ยังไม่ได้หมดแค่นี้ เราเดินไปยังเป้าหมายต่อไป นั่นคือหาฝาท่อโปเกมอนประจำเมืองนี้ ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าที่ว่าการเมืองริฟุ (利府町役場りふちょうやくば)

ระหว่างทางเดินไป





แล้วก็มาถึงหน้าอาคารที่ว่าการ



ก่อนที่จะเจอฝาท่อโปเกมอนอันเป็นเป้าหมาย เราได้เจอฝาท่อรูปชิงกันเซง



ที่จริงแล้วเมืองริฟุนี้แม้ว่าจะไม่มีสถานีที่ชิงกันเซงจอด แต่ก็มีทางชิงกันเซงผ่าน และยังมีศูนย์ซ่อมบำรุงขบวนรถชิงกันเซงอยู่ในเมืองนี้ด้วย จึงถือว่าเป็นสถานที่มีความเกี่ยวพันกับชิงกันเซงอยู่



แล้วก็มาเจอฝาท่อรูปโปเกมอนตั้งอยู่ตรงนี้



ฝาท่อโปเกมอนของเมืองนี้เป็นรูปลาปลาส   และไมนัน (รายละเอียดดูได้ที่ https://local.pokemon.jp/manhole/desc/51/)



หลังจากนั้นที่จริงก็หมดแผนเที่ยวในเมืองริฟุที่วางแผนไว้ในตอนแรกแล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินกลับสถานีริฟุเพื่อขึ้นรถไฟไป แต่จังหวะไม่เหมาะเพราะถึงกลับไปตอนนี้ก็ต้องรอรถอีกนาน ก็เลยคิดว่าไหนๆแล้วก็เดินเล่นภายในเมืองไปไกลจนถึงสถานีชินริฟุเลย ระยะทางเดินจากตรงนี้ไปประมาณ ๒ กม. กะเวลาเดินแล้วก็กำลังดี



ระหว่างทางได้ผ่านห้างอิออนสาขาชินริฟุ (イオンモール新利府しんりふ) ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่ห้างอิออนธรรมดาที่เมืองไหนก็มี แต่ดูแล้วตัวอาคารไม่ธรรมดา เพราะมีลักษณะเป็นแนวยาวเฟื้อย พอลองกลับมาแล้วหาข้อมูลทีหลังจึงได้รู้ว่าห้างอิออนนี้ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทวโฮกุ และใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศด้วย ก็น่าแปลกในที่เมืองเล็กๆแบบนี้สร้างห้างขนาดใหญ่มากแบบนี้



ตัวอาคารห้างนี้ยาวจนพาดผ่านถนน มีการสร้างสะพานเชื่อมอาคารข้ามผ่านถนน




ข้ามมาดูฝั่งใต้ของอาคารแล้วก็ยังเห็นตัวอาคารยืดยาวออกไปจนสุดตรงโน้น




เราไม่ได้แวะเข้าไปดูในห้าง แต่เดินผ่านใกล้ๆตามเส้นทางที่มุ่งไปยังสถานีชินริฟุ



ระหว่างทางผ่านอาคารยาวเฟื้อยอีกหลัง ที่จริงแล้วที่นี่คือศูนย์บำรุงซ่อมแซขบวนรถชิงกันเซง ตั้งอยู่ข้างๆสถานีชินริฟุ



ตรงนี้เป็นทางเข้า ที่จริงที่นี่ก็เป็นที่เที่ยวนึงที่สามารถเข้าชมได้ด้วย แต่ว่าไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก



จากนั้นเดินต่อมาก็ถึงหน้าทางเข้าสถานีชินริฟุ



ตรงนี้มีประตูทางเข้าศูนย์ชิงกันเซงอยู่ด้วย แต่ว่าปิดอยู่



ส่วนทางเข้าสถานีชินริฟุนั้น ดูสภาพแล้วไม่ค่อยเหมือนกับเป็นสถานีเท่าไหร่ ไม่มีตัวอาคาร



เดินเข้ามาก็เป็นชานชลา ไม่มีค้นเฝ้า มีที่ให้แตะบัตร



จากชานชลามองออกไปก็เป็นท้องทุ่ง



แล้วรถไฟก็มาตอนเวลา 10:04 เราขึ้นรถไฟขบวนนี้เพื่อไปยังสถานีอิวากิริ



ระหว่างทางบนรถไฟนั้นได้ถ่ายบริเวณรอบๆซึ่งมีตู้ขบวนรถไฟอยู่มากมายด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ซ่อมบำรุงชิงกันเซง ซึ่งกินพื้นที่ครอบคลุมไม่ใช่แค่เมืองริฟุ แต่ยังอยู่ในส่วนของเมืองเซนได และเมืองทางาโจวซึ่งอยู่ข้างๆด้วย





หลังจากนั้นรถไฟก็ใช้เวลาแค่ ๓ นาที มาจอดที่สถานีอิวากิริเวลา 10:07 ค่าโดยสารทั้งหมด ๑๕๐ เยน เราลงที่สถานี้นี้เพื่อไปเที่ยวเป้าหมายต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20230409




-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> มิยางิ
-- ท่องเที่ยว >> ดอกซากุระ
-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น
-- บันเทิง >> เกม >> โปเกมอน
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目次

日本による名言集
モジュール
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
機械学習
-- ニューラル
     ネットワーク
javascript
モンゴル語
言語学
maya
確率論
日本での日記
中国での日記
-- 北京での日記
-- 香港での日記
-- 澳門での日記
台灣での日記
北欧での日記
他の国での日記
qiita
その他の記事

記事の類別



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  記事を検索

  おすすめの記事

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文