# อาทิตย์ 22 ต.ค. 2023
วันนี้ได้ไปเที่ยว
เมืองโอวชู (奥州市) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะ
ตำแหน่งเมืองโอวชูในจังหวัดอิวาเตะ เป็นสีชมพูเข้ม
เมืองโอวชูนี้จริงๆแล้วเป็นเมืองเกิดใหม่จากการควบรวมเมืองและหมู่บ้านต่างๆทั้งหมด ๕ แห่งทางตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะในปี 2006 ได้แก่
- เมืองมิซึซาวะ (
水沢市)
- เมืองเอซาชิ (
江刺市)
- เมืองมาเอซาวะ (
前沢町)
- เมืองอิซาวะ (
胆沢町)
- หมู่บ้านโคโรโมงาวะ (
衣川村)
คำว่าโอวชูนั้นเดิมทีเป็นอีกชื่อของแคว้นมุตสึ (
陸奥国) ซึ่งกินพื้นที่จังหวัดทางตะวันออกของภูมิภาคโทวโฮกุ แต่ว่าได้ถูกนำมาใช้เป็นชื่อเมืองใหม่นี้
ส่วนที่ไปเที่ยวมานั้นคือบริเวณที่เดิมเป็นเมืองมิซึซาวะ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและกลายมาเป็นศูนย์กลางของเมืองโอวชูในปัจจุบัน โดยสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็อยู่ภายในพื้นที่เมืองนี้ ซึ่งอยู่ในระยะที่สามารถเดินเที่ยวได้ไม่ต้องนั่งรถ และนอกจากนี้แล้วตอนช่วงบ่ายเราก็ยังได้นั่งรถเมล์ไปเที่ยวที่บริเวณที่เดิมเป็นเมืองเอซาชิด้วย
เป้าหมายหลักจริงๆก็คือ
หอสังเกตการณ์ VLBI มิซึซาวะ (水沢VLBI観測所) ส่วนสถานที่อื่นเพิ่งรู้และก็ถือโอกาสแวะไปด้วย แถวนั้นมีสถานที่เที่ยวเยอะกว่าที่คิด โดยเฉพาะหอที่ระลึกของบุคคลสำคัญต่างๆ
มิซึซาวะมีบุคคลสำคัญอยู่ ๓ คนที่ถูกเรียกรวมว่าเป็นสามบุคคลสำคัญแห่งมิซึซาวะ (
水沢の
三偉人) ได้แก่
- ทากาโนะ โจวเอย์ (
高野 長英, ปี 1804-1850) แพทย์และนักรังงากุ
- โกโตว ชิมเปย์ (
後藤 新平, ปี 1857-1929) แพทย์และนักการเมือง
- ไซโตว มาโกโตะ (
齋藤 實, ปี 1858-1936) อดีตนายกรัฐมนตรี ปี 1932-1934
แต่ละคนมีหอที่ระลึกอยู่ในเขตใจกลางเมืองโอวชู กลายเป็นสถานที่เที่ยวของเมืองนี้ ซึ่งเราก็ได้แวะไปเที่ยวมาทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีอีกคนคือ คิมุระ ฮิซาชิ (
木村 榮, ปี 1870-1943) ซึ่งแม้จะไม่ได้เกิดที่เมืองนี้ แต่เพราะเป็นนักดาราศาสตร์ที่ทำงานที่หอสังเกตการณ์มิซึซาวะและได้สร้างผลงานสำคัญจึงกลายเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของเมืองนี้และมีหอที่ระลึกของเขาตั้งอยู่ที่เมืองนี้ด้วย
เมืองนี้สามารถเดินทางโดยนั่งชิงกันเซงไปได้ โดยลงที่
สถานีมิซึซาวะเอซาชิ (水沢江刺駅) โดยจากเซนไดไปใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที
สถานีนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองมิซึวาวะเก่า แต่ก็อยู่ห่างจากใจกลางตัวเมืองไปมาก และค่อนไปทางเมืองเอซาชิ จึงได้ชื่อเป็นชื่อทั้ง ๒ เมืองนี้รวมกัน แม้หลังจากที่ทั้ง ๒ เมืองนี้ถูกยุบรวมกันเป็นเมืองโอวชูแล้ว ชื่อสถานีก็ยังคงใช้ชื่อนี้อยู่
เพียงแต่ว่าสถานีนี้อยู่ห่างจากตัวเมือง ทำให้ต้องนั่งรถเมล์ต่อไปอีกเพื่อจะเข้าเมือง แต่รอบรถเมล์มีไม่ได้มากนัก โดยวันธรรมดาจะมีชั่วโมงละรอบ และถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์จะยิ่งน้อยลงไปอีกเหลือแค่ครึ่งเดียว
ดังนั้นการเดินทางมายังเมืองโอวชูนั้น แทนที่จะนั่งชิงกันเซงมาลงที่สถานีมิซึซาวะเอซาชิ อาจนั่งไปลงที่สถานีของเมืองใกล้ๆอย่าง
สถานีอิจิโนเซกิ (一ノ関駅) หรือ
สถานีคิตากามิ (北上駅) แล้วจึงค่อยนั่งรถไฟสายหลักโทวโฮกุมายัง
สถานีมิซึซาวะ (水沢駅) ซึ่งเป็นสถานีใจกลางเมือง จะสะดวกกว่า
สำหรับในการเดินทางครั้งนี้ขาไปเราเลือกที่จะไปลงที่สถานีมิซึซาวะเอซาชิแล้วต่อรถเมล์เข้าเมือง ส่วนขากลับนั้นไม่ได้วางแผนไว้แน่ชัดเพราะขึ้นอยู่กับว่าใช้เวลาเที่ยวไปแค่ไหน ซึ่งกะจะปล่อยตามสถานการณ์ไป แต่สุดท้ายก็ได้กลับโดยไปขึ้นชิงกันเซงจากสถานีคิตากามิ
ตารางสรุปเวลาและค่าใช้จ่ายของการเดินทางในวันนี้
เวลา |
สถานที่ |
ค่าใช้จ่าย |
8:00~8:45 |
ชิงกันเซง: สถานีเซนได-สถานีมิซึซาวะเอซาชิ |
4620 |
9:15~9:27 |
รถเมล์: สถานีมิซึซาวะเอซาชิ-ป้ายจูโอวโดริซันโจวเมะ |
350 |
|
หอที่ระลึกทากาโนะโจวเอย์ ศาลเจ้าโคมางาตะ |
200 |
หอสังเกตการณ์ VLBI มิซึซาวะ หอที่ระลึกคิมุระ ฮิซาชิ พิพิธภัณฑ์อวกาศโอวชู |
300 |
🍚มินิโอวชูดงฮัตโตะเซต |
900 |
พิพิธภัณฑ์บ้านเรือนซามุไรเมืองโอวชู บ้านเก่าของโกโตว ชิมเปย์ |
- |
หอที่ระลึกโกโตว ชิมเปย์ |
200 |
หอที่ระลึกไซโตว มาโกโตะ |
200 |
ศาลเจ้าฮิดากะ |
- |
14:20~14:41 |
รถเมล์: สถานีมิซึซาวะ-ป้ายนากามาจิ |
470 |
|
สวนประวัติศาสตร์ถิ่นฐานฟุจิวาระเอซาชิ |
1000 |
16:11~16:41 |
รถเมล์: ป้ายคาวาระมาจิ-สถานีมิซึซาวะ |
470 |
16:51~17:06 |
รถไฟ: สถานีมิซึซาวะ-สถานีคิตากามิ |
330 |
17:30~18:20 |
ชิงกันเซง: สถานีคิตากามิ-สถานีเซนได |
4950 |
รวม |
=14190 |
การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีเซนได โดยนั่งชิงกันเซงรอบ 8:00 ซึ่งมุ่งหน้าไปยังโมริโอกะ
ตั๋วราคา ๔๖๒๐ จากสถานีเซนไดไปสถานีมิซึซาวะเอซาชิ
ระหว่างทางผ่านแถว
เขาคุริโกมะ (栗駒山) ที่วันก่อนเคยไปปีนมา เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20231008 พอมองดูแล้วเห็นภูเขาเริ่มมีสีขาว หิมะปกคลุมอยู่ แม้จะยังแค่เล็กน้อยก็ตาม
แล้วก็มาถึงสถานีที่หมาย
จากบนชานชลาที่อยู่ด้านบน มองออกไปชมทิวทัศน์รอบๆ
เดินลงมาออกมาจากชานชลา
ออกจากที่ตรวจตั๋วมา
ภาพถ่ายด้านหน้าสถานี
ตรงนี้มีแผนที่แนะนำการท่องเที่ยวเมืองโอวชู
มีเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่รถเมล์ที่ต้องการนั่งจะมา ระหว่างนั้นก็เดินดูรอบๆและภายในสถานีไปเรื่อยๆ ที่นี่มีอะไรน่าสนใจให้ดูมากกว่าที่คิด
ด้านหน้าสถานีมีอนุสาวรีย์ต่างๆวางตั้งอยู่หลายอย่าง
นี่คือกาเหล็กจัมโบ้ (ジャンボ
鉄瓶) สูง ๔.๖๕ เมตร หนก ๑.๘ ตัน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งผลิตภาชนะเหล็กที่มีชื่อเสียงมาแต่อดีต เรียกว่าภาชนะเหล็กนัมบุ (
南部鉄器)
รูปปั้นของโกโตว ชิมเปย์ หนึ่งใน ๓ บุคคลสำคัญแห่งมิซึซาวะยืนอยู่กับเด็กคนหนึ่ง
แผ่นแสดงแผนที่บริเวณสถานี ซึ่งเขียนว่าทังโกวเป็นหนึ่ง (
胆江は一つ) โดยทังโกวเป็นชื่อเรียกอีกชื่อของพื้นที่บริเวณที่เป็นเมืองโอวชูในปัจจุบัน โดยชื่อมากจากชื่อเมืองอิซาวะ (胆沢) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกสุดและเอซาชิ (江刺) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุด แล้วเอามารวมกันโดยอ่านแบบอนโยมิ
จากตรงนี้ลอดข้ามไปอีกฝั่งของสถานี
มองสถานีจากทางฝั่งตะวันออก
ยังเหลือเวลาเลยกลับเข้ามาเดินเล่นในสถานีต่ออีกหน่อย ตรงนี้เป็นร้านที่มีพวกของฝากหรือของที่ระลึกขาย
ลายมือของพวกคนดังที่เคยมาเยือนที่นี่
ส่วนตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่มีอะไรให้ดูนิดหน่อย
เราเข้ามาดูแบบผ่านๆ ไม่ได้เก็บรายละเอียด แต่ก็มีอะไรมากกว่าที่คิดอยู่
แบบจำลองเกี้ยวในงานเทศกาลฮิดากะฮิบุเสะมัตสึริ (
日高火防祭) เป็นเทศกาลที่จัดตอนเดือนเมษายนในเมืองมิซึซาวะ
พวกภาชนะเหล็กของขึ้นชื่อของแถบนี้
และอื่นๆ
จากนั้นพอใกล้เวลาก็มารอที่ป้ายรถเมล์ ตรงนี้มีตารางเวลาเดินรถ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเที่ยวรถน้อยมาก
แล้วรถเมล์ก็มาตามเวลา
รถเมล์ที่นี่ใช้ Suica ไม่ได้จึงต้องหยิบบัตรสำหรับคิดเงินตอนที่ขึ้นรถมา แล้วจึงจ่ายเงินสดตอนลง ค่าโดยสาร ๓๕๐ เยน
รถเมล์นี้มีปลายทางอยู่ที่สถานีมิซึซาวะ แต่เราเลือกมาลงที่ป้ายรถเมล์จูโอวโดริซันโจวเมะ (
中央通り
三丁目) ซึ่งอยู่ก่อนถึงสถานีไปนิดหน่อย จากตรงนี้เดินไปยังสถานที่เที่ยวเป้าหมายได้ใกล้กว่า
การท่องเที่ยวเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เรื่องการเที่ยวในเมืองนี้จะเล่าถึงในตอนต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20231023