# 17~19 ธ.ค. 2025ช่วงวันพุธที่ 17 ถึงวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคมมีเรื่องเกี่ยวข้องกับรถไฟ
สายเดนเองโทชิ (
田園都市線) ก็เลยขอรวมเรื่องเล่าของทั้ง ๓ วันนี้มาเล่าเป็นตอนเดียว
รถไฟสายเดนเองโทชิเป็นสายรถไฟของบริษัทรถไฟ
โทวกิว (
東急) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโทวกิวที่ทำหลายอย่าง รวมไปถึงห้างโทวกิว โทวกิวบริหารเส้นทางรถไฟอยู่หลายสาย ทั้งหมดอยู่ในเขตเมืองหลวง และสายเดนเองโทชินี้เป็นสายที่ยาวที่สุดของโทวกิว
เส้นทางสายเดนเองโทชิเชื่อมระหว่าง
สถานีชิบุยะ (
渋谷駅) เข้ากับ
สถานีจูโอวริงกัง (
中央林間駅)
สถานีจูโอวริงกังนี้อยู่ในย่านจูโอวริงกังทางตอนเหนือของเมืองยามาโตะ เป็นจุดเปลี่ยนรถไฟระหว่างสายเดนเองโทชิและสายเอโนชิมะของโอดะกิว จึงมีความสำคัญมากทีเดียว
ย่านจูโอวนี้เองที่เป็นสถานที่ที่บริษัทเราอยู่แล้วต้องเดินทางไปทุกวัน ดังนั้นทุกวันจึงต้องนั่งรถไฟไปกลับจากสถานีนี้ เป็นสถานีที่คุ้นเคยดี แต่ว่าทุกวันที่นั่งนั้นเป็นสายของโอดะกิว ไม่เคยมีโอกาสได้ไปนั่งสายเดนเองโทชิเลย
แต่ว่าวันที่ 17 เกิดอยากลองเดินไปดูหาอะไรกินแถวย่าน
ทสึกิมิโนะ (つきみ
野) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ
สถานีทสึกิมิโนะ (つきみ
野駅) ซึ่งเป็นสถานีถัดจากจูโอวริงกังบนสายเดนเองโทชิ
แล้วก็บังเอิญว่าวันที่ 19 ธันวาคมพอดีบริษัทจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีที่ร้านแถวสถานีชิบุยะ ต้องเดินทางไปโดยนั่งสายนี้อีก แต่คราวนี้นั่งยาวตลอดสายเลย
นอกจากนี้วันที่ 18 ตอนมาทำงานก็เกิดปัญหาขัดข้องในสายเดนเองโทชิ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปนั่งก็ตาม แต่ก็ได้รับผลกระทบเพราะทำให้สถานีจูโอวริงกังตอนเช้าเบียดเสียดไปด้วยผู้คนมากกว่าปกติมาก
ฉะนั้นก็เลยกลายเป็นว่า ๓ วันนี้มีเรื่องที่เกี่ยวพันกับรถไฟสายเดนเองโทชิมาให้เล่า
เริ่มจากวันที่ 17 หลังจากที่เลิกงานแล้วเราก็ตัดสินใจเดินไปทางตะวันออกไปยังย่านทสึกิมิโนะ บริษัทอยู่ค่อนไปทางตะวันออกอยู่แล้วจึงเดินไปโดยตรงง่ายกว่าที่จะเดินไปนั่งรถไฟจากสถานีจูโอวริงกัง ตอนกลับค่อยไปที่สถานีแล้วนั่งรถไฟกลับจากตรงนั้น

ระหว่างทางผ่านย่านที่ดูเหมือนจะเป็นย่านชุมชน ดูแล้วก็น่าอยู่ดี ถนนมีส่วนที่ลาดชันอยู่


เดินมาออกสู่ถนน
ฮาจิโอวจิไคโดว (
八王子街道) หรือทางหลวงหมายเลข 16 เป็นถนนสายสำคัญที่ลากเกือบเป็นวงแหวนรอบโตเกียว

ตรงหัวมุมนี้มีร้านราเมง
ทสึกิมิโนะไทโชวเกง (つきみ
野大勝軒) ซึ่งเราเลือกแวะมากิน

ร้านนี้ขายทสึเกเมงเป็นหลัก แล้วก็มีราเมงธรรมดาด้วย สามารถเลือกขนาดได้

เราสั่งราเมงธรรมดาขนาดธรรมดา ๘๕๐ เยน ราเมงที่นี่เป็นซุปอาหารทะเล


สภาพภายในร้าน จากที่นั่งเคาน์เตอร์ที่นั่งอยู่

หลังจากกินเสร็จก็เดินไปทางเหนือไปตามถนนฮาจิโอวจิไคโดวเพื่อไปยังสถานีทสึกิมิโนะเพื่อนั่งรถไฟกลับ


ระหว่างทางก็เห็นพวกร้านราเมงและร้านอื่นๆอยู่ประปราย


แล้วก็มาถึงส่วนที่ถนนตัดกับทางรถไฟสายเดนเองโทชิ ตรงนี้ถนนเป็นทางยกระดับในขณะที่รถไฟวิ่งอยู่ข้างล่างจึงผ่านได้โดยไม่ต้องใช้ทางข้ามรถไฟ และยังมองจากด้านบนนี้ลงไปเห็นทางรถไฟได้ด้วย สถานีทสึกิมิโนะก็อยู่ตรงหน้าโน้น

ระหว่างอยู่บนสะพานข้ามรางรถไฟ มีรั้วกั้น

เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปทางตะวันตก

ก็มาถึงสถานีทสึกิมิโนะ


เดินเข้ามาในสถานี

มาขึ้นรถไฟกลับสถานีจูโอวริงกัง

สถานีอยู่ใกล้กันห่างแค่ ๑.๒ กิโลเมตร รถไฟวิ่งแค่ ๒ นาทีก็ถึงแล้ว มาลงที่สถานีจูโอวริงกัง

พอเดินออกมาจากชานชลายังไม่แตะบัตรออกก็เห็นมีร้าน
ชิบุโซบะ (しぶそば) เป็นร้านโซบะที่พบได้ตามสถานีของโทวกิวเป็นหลัก แต่ว่าร้านที่อยู่ภายในด้านในที่ตรวจตั๋วแบบนี้ถ้าไม่ซื้อตั๋วรถไฟหรือแตะบัตรผ่านเข้ามาก็เข้ามากินไม่ได้

เดินออกจากที่ตรวจตั๋วตรงนี้ไปก็เป็นบริเวณส่วนของอาคารสถานีจูโอวริงกังที่เราคุ้นเคยผ่านอยู่ทุกวันแล้ว

จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับห้องพักด้วยสายเอโนชิมะของโอดะกิวเหมือนอย่างทุกวัน

จากนั้นวันต่อมาก็นั่งรถไฟสายเอโนชิมะเพื่อมาบริษัทตามปกติ ตอนอยู่บนรถไฟก็ไม่ได้พบอะไรผิดปกติ แต่พอลงรถไฟมาที่สถานีจูโอวริงกังก็กลับพบว่าคนเยอะแน่นผิดปกติจนแทบจะขยับเดินไม่ได้เลย พอลองพยายามเดินเบียดคนออกมาก็พบว่าต้นตอของปัญหานั้นอยู่ที่สายเดนเองโทชินั่นเอง

เดินมาถึงหน้าทางเข้าที่ตรวจตั๋วของสายเดนเองโทชิฟังประกาศก็พบว่ามีปัญหาที่
สถานีทามะพลาซา (たまプラーザ
駅) ในเมืองโยโกฮามะซึ่งอยู่บนสายนี้ รายละเอียดไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร บอกแค่ว่ากำลังตรวจประตูรถไฟ แต่ตั้งแต่อยู่มาเกือบจะ ๔ เดือนไม่เคยเจอแบบนี้เลย น่าจะเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยมาก

ยังดีที่ครั้งนี้เราไม่ได้ต้องขึ้นรถไฟสายนี้ แต่ลองนึกถึงคนที่ต้องมาขึ้นเพื่อไปทำงาน กว่าจะได้ขึ้นต้องเบียดเสียดแทบแย่ และรอนานกว่าปกติ ยังไงวันนี้ไปทำงานสายแน่
ออกมาจากสถานี ค่อยสบายหน่อย คนที่อยู่ข้างในก็พยายามกันต่อไป

ในวันนั้นตอนเย็นเราได้ตัดสินใจไปหาอะไรกินแถว
สถานีฮิงาชิริงกัง (
東林間駅) กับเพื่อน สถานีนี้อยู่บนสายเอโนชิมะของโอดะกิวถัดจากสถานีจูโอวริงกังไปอีกสถานี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสายเดนเองโทชิ แต่ก็ขอถือโอกาสเล่าไปด้วย


ออกมานอกสถานี ตัวอาคารสถานีนี้ก็ดูสวยดี

ที่จริงแค่อยากมาเดินดูแถวสถานีนี้โดยไม่ได้วางแผนก่อนว่าจะกินอะไร พอลองดูก็เจอร้าน
โซบะโดโกโระทากามัตสึ (そば
処高松)

สั่งโซบะสุกี้ยากี้ (すき
焼きそば) ราคา ๑๐๑๐ เยน

กินเสร็จก็กลับสถานีมาขึ้นรถไฟกลับห้องพัก


แล้วก็วันต่อมา 19 ธันวาคม วันนี้ก็เกิดเรื่องผิดปกติขึ้นอีก คราวนี้เป็นที่สายเอโนชิมะที่เราขึ้นทุกวัน เกิดเหตุรถไฟล่าช้าเป็นพิเศษ ตามเวลาบอกว่าช้าไป ๑๐ นาที แถมพอรถไฟมาก็แน่นจนต้องดันเบียดจึงเข้าไปในรถไฟได้ และตอนเบียดเข้ามือเราไปขูดโดนอะไรในรถไฟเข้าจนเป็นแผลไปด้วย

ที่จริงแล้วบังเอิญว่าวันนั้นกำลังคิดว่าอยากไปที่ที่ว่าการเมืองเพื่อทำเรื่องขอย้ายออกอยู่พอดี เพราะว่าเวลาจะย้ายที่อยู่ต้องมาติดต่อที่ที่ว่าการเมืองของเมืองที่อยู่เดิม ดังนั้นไหนๆก็เป็นแบบนี้แล้ว พอมาถึงแถว
สถานีทสึรุมะ (
鶴間駅) ที่มีที่ว่าการเมืองยามาโตะตั้งอยู่เราก็ตัดสินใจลงมาจากรถไฟเพราะไม่อยากเบียดเสียดบนรถไฟให้ทรมานต่อแล้ว


แล้วก็รีบเดินหน้าไปยังที่ว่าการเมืองทันทีเพื่อให้เสร็จโดยเร็วจะได้ไม่ต้องไปทำงานสายมาก ที่ทำงานเป็นแบบเวลายืดหยุ่นอยู่แล้ว แม้ว่าเวลาทำงานจะเริ่ม 9:00 แต่ว่าขอแค่ไปให้ทัน 10:00 ก็ไม่มีปัญหา แค่วันอื่นมาให้เร็วขึ้นหรือกลับช้าลงสั่งสมชดเชยส่วนที่ไปสายก็ได้แล้ว

มาถึงที่ว่าการเมือง ทำเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย

ตอนขอยื่นเรื่องนั้นเสร็จอย่างรวดเร็วเพราะใช้มายนัมเบอร์การ์ด แต่ว่าต้องนั่งรอกว่า ๒๐ นาทีจึงจะทำเรื่องเสร็จเรียบร้อย

หลังจากนั้นก็ไปที่บริษัทตามปกติ
ตอนกลางวันที่โรงอาหารของที่ทำงานมีโซบะหม้อไฟแบบนี้ ลองสั่งกินดูครั้งแรก เป็นหม้อที่ต้องจุดไฟเอง มีเครื่องจุดไฟมาให้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวด้วย ทั้งที่มีเส้นโซบะอยู่แล้ว ที่นี่เขากินทั้งข้าวและเส้นกันเป็นปกติ

ตอนเย็นจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีที่แถวสถานีชิบุยะดังที่ได้เขียนถึงไปข้างต้น จึงได้เดินทางไปตามสายเดนเองโทชิ จากสถานีจูโอวริงกังถึงสถานีชิบุยะนั่งรถไฟแบบด่วนใช้เวลา ๓๘ นาที

เนื่องจากครั้งนี้ไปกับเพื่อนร่วมงานจึงคุยกันตลอดและไม่ได้ถ่ายภาพอะไรระหว่างทางเลยจนมาถึงร้าน
เอาต์แบ็กสเต็กเฮาส์ (Outback Steakhouse) สาขาชิบุยะ เป็นร้านสเต็กที่มีหลายสาขาในญี่ปุ่น วันนี้บริษัทเหมาร้านนี้ทั้งร้าน กินได้ไม่อั้น

อาหารภายในร้าน


งานเริ่ม 19:00 และเลิกตอน 21:30 แต่ว่าหลังเลิกแล้วก็ยังอยู่คุยกันต่อได้ จึงอยู่จนถึง 22:00 ค่อยออกจากร้านมาเพื่อเดินทางกลับ เราต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดจึงกลับได้ ถ้าช้ากว่านั้นมากเดี๋ยวต้องไปลุ้นรถไฟรอบสุดท้ายอีก

ระหว่างทางเดินกลับไปยังสถานี

หน้าทางเข้าสถานี คนมหาศาลต้องเดินเบียดจนแทบขยับไม่ได้ แต่ว่าที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะมีเหตุการณ์ผิดปกติอะไร แต่ชิบุยะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ดูเหมือนนี่จะเป็นชีวิตประจำวันของคนโตเกียว ผู้คนมากมายต้องเบียดเสียดเพื่อขึ้นรถไฟทั้งเช้าและเย็น พอเห็นสภาพแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองคงจะไม่ไหว ดีแล้วที่เราอยู่จังหวัดคานางาวะที่คนน้อยสบายลงมาหน่อย

ภายในสถานี

ครั้งนี้ตัดสินใจไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีชินจุกุแล้วกลับทางสายโอดาวาระของโอดะกิว เส้นเดียวกับที่ขึ้นตอนครั้งก่อนที่ไปกินกันแถวคาบุกิโจว
https://phyblas.hinaboshi.com/20251118ในชานชลาของ JR ระหว่างรอรถไฟสายยามาโนเตะเพื่อไปสถานีชินจุกุ

พอได้ขึ้นรถไฟภายในก็เบียดเสียดจนแทบขยับตัวไม่ได้ สายยามาโนเตะเวลานี้เป็นอะไรที่ทรมานมาก ยังดีที่ครั้งนี้แค่นั่งไปสถานีชินจุกุซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็ลงมาเปลี่ยนรถเพื่อไปนั่งรถไฟด่วนของสายโอดาวาระของโอดะกิวกลับ

สายโอดาวาระคนโล่งกว่าสายยามาโนเตะ ไมได้เบียดจนขยับไม่ได้ แต่ก็ไม่มีที่นั่ง ต้องยืนตลอดทางเหมือนกัน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนรถไฟที่สถานีซางามิโอโนะเพื่อเข้าสู่สายเอโนชิมะ

ก็จบเรื่องเล่า ๓ วันที่วุ่นวายกับรถไฟลง
ทั้งรถไฟเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของญี่ปุ่น ดังนั้นจึงต้องเบียดเสียดคนมากมาย โดยเฉพาะในเมืองที่คนมหาศาลอย่างโตเกียว และยิ่งถ้าเกิดมีปัญหาบางอย่างทำให้รถไฟเกิดล่าช้าหรือขัดข้องขึ้นมาก็ยิ่งลำบาก
แต่ถึงจะลำบากแต่ยังไงก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้เพื่อจะใช้ชีวิตประจำวันกันต่อไป
งานเลี้ยงส่งท้ายปีของบริษัทจัดไปแล้ว แต่ว่าวันทำงานของปีนี้ยังเหลืออีกสัปดาห์นึงคือวันที่ 22~26 และนี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่เราได้อยู่ในจังหวัดคานางาวะแล้ว ก่อนที่จะได้ไปเริ่มที่จังหวัดโทจิงิตั้งแต่ต้นปีหน้า ก็หวังว่าชีวิตที่นั่นจะสบายกว่านี้ อย่างน้อยก็เรื่องรถไฟ