>> ตอนที่แล้วผู้หลับไหลในโลกแห่งความเป็นจริงหลังจากปะทะกับสวีตพีเสร็จก็เดินออกมา แต่นารุโกะก็ตามมาเจอ เธอกำลังโมโหที่โดนหลอกให้ไปหน้าสถานี
แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือ นารุโกะได้ใช้มือถือซึ่งอาเรียได้ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลในโลกจริงได้ทำให้รู้แล้วว่าสถานการณ์เป็นยังไง
ผู้ที่ถูกมิวพาเข้ามายังเมอบิอุสนั้นจะมาแต่วิญญาณ ส่วนตัวจริงจะยังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยหลับไหลไปโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการนี้ถูกเรียกว่าเป็น
อัสตรัลซินโดรม (アストラルシンドローム)แต่อย่างน้อยร่างกายก็ยังคงมีชีวิตอยู่แน่นอน เพราะคนที่ตายแล้วจะไม่มีวิญญาณ ไม่สามารถเข้ามาที่เมอบิอุสแห่งนี้ได้ ดังนั้นอย่างน้อยก็สบายใจว่าทุกคนในที่นี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็หลับไหลไม่มีใครตื่นขึ้นมา
เมื่อรู้ความจริงขึ้นมานารุโกะก็รู้สึกเป็นห่วงว่าร่างของตัวเองในโลกแห่งความจริงจะเป็นยังไงบ้างแล้ว เลยอยากจะหาทางกลับไปให้ได้ จึงขอเข้าร่วมชมรมกลับบ้านด้วย
แม้ว่าโคตาโรวจะทำท่าไม่ไว้ใจเพราะก่อนหน้านี้เธอเป็นคนทำให้ข้อมูลของกลุ่มชมรมกลับบ้านรั่วไหลไปถึงกลุ่มนักดนตรี แต่คนอื่นก็ยินดีต้อนรับนารุโกะเพราะเธอเป็นคนช่วยหาข้อมูลทำให้รู้เรื่องสวีตพี สุดท้ายจึงเข้าร่วมชมรมด้วย ได้สมาชิกใหม่เป็นคนที่ ๘
ตามหาร่องรอยจากตั๋วหลังจากกลับมาที่ห้องชมรมแล้ว นารุโกะพยายามช่วยหาร่องรอยจากตั๋วที่สวีตพีทำตกไว้ แต่ร่องรอยน้อยเกินไป ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
ดังนั้นทุกคนจึงตัดสินใจแยกย้ายกันไปหาข้อมูลในเมืองดู
แต่ในขณะที่เรากำลังแยกจากพรรคพวกคนอื่นมาอยู่คนเดียวก็พบนักเรียนหญิงคนหนึ่งจู่ๆปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า
เธอก็คือธอร์น หัวหน้ากลุ่มนักดนตรีออสตินาโต บอกว่าอยากชวนเราไปเป็นพวก เพราะเรากำลังถูกพวกโชวโงะหลอกใช้อยู่ ให้ลองคิดดูว่ามีผู้คนที่ไม่อยากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่อยากให้ทำลายความฝันของคนเหล่านั้น อยากให้เข้าใจว่าสิ่งที่พวกนักดนตรีกำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งถูกต้อง
แล้วก็มีประตูสีชมพูปรากฏขึ้นมาตรงหน้า ให้เราตัดสินใจว่าจะยอมลองเข้ามาเป็นพวกแล้วเข้าประตูนี้ไปกับเธอหรือไม่ ถ้ายอมไปก็จะให้ได้พบกับมิว
※ เนื้อเรื่องทางแยกที่เพิ่มเข้ามา: ตรงนี้เป็นทางแยกจุดเปลี่ยนที่สำคัญจุดหนึ่งในเกม ซึ่งถูกเพิ่มเข้ามาในภาค overdose
โดยเดิมทีในภาคเก่าจะไม่มีฉากที่ธอร์นเข้ามาหาแล้วชวนให้เราเข้าเป็นพวกด้วยแบบนี้ แต่ตลอดเนื้อเรื่องจะอยู่กับกลุ่มชมรมกลับบ้าน
แต่ในภาค overdose จะมีฉากนี้ปรากฏขึ้น ให้เราเลือกว่าจะลองไปเข้าร่วมกับกลุ่มนักดนตรีหรือไม่ ถ้าเลือกที่จะไปด้วยก็จะสามารถได้เห็นเนื้อเรื่องของทางฝั่งนักดนตรีได้
และถึงแม้ว่าจะเลือกเข้าร่วมกลุ่มนักดนตรี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหักหลังพวกชมรมกลับบ้าน แค่จะไปเพิ่มเนื้อเรื่องส่วนที่เราไปสู้ร่วมกับกลุ่มนักดนตรี แล้วก็ต้องกลับไปกลับมา
แล้วตอนท้ายสุดจึงมีให้เลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ถ้าเลือกอยู่กับชมรมกลับบ้านต่อก็จะเข้าสู่ฉากจบที่แท้จริง ถ้าเลือกที่จะหักหลังไปเข้ากับนักดนตรีก็จะเป็นฉากจบอีกแบบ คือ bad end
ถ้าปฏิเสธตรงนี้ bad end ก็จะหายไป แต่ก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ข้อมูลในส่วนของฝั่งนักดนตรีอีก
ในที่นี้เลือกที่จะตามธอร์นไปเพื่อที่จะได้ดำเนินเนื้อเรื่องฝั่งนักดนตรีได้
โลกเบื้องหลังประตูเมื่อเราตอบตกลงที่จะตามธอร์นเข้าประตูมาก็พบว่าเป็นห้วงที่มืดมิด ซึ่งที่นั่นก็ได้พบมิว
แล้วมิวก็พามายังห้องที่เป็นฐานที่กบดานของพวกนักดนตรีออสตินาโต
เพื่อปิดบังตัวตนจึงให้เปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์ล่องหนเมื่ออยู่กับฝั่งนักดนตรี และใช้ชื่อว่า
lucid โดยที่คนที่รู้ความลับนี้จะมีแค่ตัวเรากับมิวกับธอร์น ๓ คนเท่านั้น แม้แต่สมาชิกนักดนตรีคนอื่นก็จะไม่รู้ว่า lucid คือใคร
แล้วมิวก็แปลงกายเป็นรูปร่างเหมือนภูตเหมือนอย่างอาเรียคอยติดตามในขณะที่เราอยู่กับฝั่งนี้ในฐานะ lucid
เมื่อจะเข้ามาเป็นพวกนักดนตรีก็ต้องแต่งเพลง แล้วมิวก็ช่วยให้แต่งเพลงออกมาจนเสร็จได้ แม้แต่ธอร์นก็ชมว่าทำเพลงออกมาได้ดี ไม่ผิดหวังที่ชวนมาเป็นพวก
หลังจากนั้นธอร์นก็บอกให้กลับคิดดูให้ดีว่าจะตัดสินใจมาอยู่ฝั่งนี้จริงๆหรือเปล่า หากอยากกลับไปอยู่กับพวกชมรมกลับบ้านก็จะกลับไปเมื่อไหร่ก็ได้
จากนี้ไปจะต้องไปกลับระหว่างสองฝั่งนี้เรื่อยๆเพื่อจะตัดสินใจอีกทีในภายหลังว่าสุดท้ายจะเลือกอยู่ฝ่ายไหน
เบาะแสจากท่านประธานบริษัทหลังจากนั้นก็กลับมาหาข้อมูลเบาะแสเรื่องหางตั๋วต่อไป แล้วก็ได้มาเจอกับบิวาซากะ เอย์จิ นักเรียนดีเด่นชั้น ม.๖ ซึ่งได้เจอกันไปแล้วตอนที่ตามหาคางิพีอยู่ ตอนนั้นเขาเป็นคนให้เบาะแสทำให้ตามคางิพีจนเจอ
พอลองถามเกี่ยวกับเรื่องหางตั๋วเขาก็ช่วยไปตามหาร้านที่น่าจะเป็นแหล่งที่ขายตั๋วนี้ ระหว่างทางก็เจอโคโตโนะด้วยเลยไปด้วยกัน
แล้วในที่สุดก็เจอร้านที่ให้เบาะแสได้ว่านี่คือตั๋วของ
มิยาบิอนเซงโมโนงาตาริ (宮比温泉物語) ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนแช่อนเซงของเมืองนี้
จากนั้นเอย์จิก็เลยขอเข้าร่วมกลุ่มชมรมกลับบ้านด้วย เพราะเขาเองก็รู้ถึงความผิดปกติของโลกนี้มาตั้งนานแล้ว และบอกว่าในโลกจริงนั้นตัวเองเป็นประธานบริษัท อยากรีบกลับไปเพราะเป็นห่วงลูกน้องและคนในครอบครัวที่ต้องดูแล
ส่วนโคโตโนะเองก็เห็นด้วยที่จะให้เอย์จิเข้าร่วมกลุ่มด้วย เพราะดูเป็นคนหัวดี สามารถช่วยจนตามหาที่มาของตั๋วจนเจอได้ แถมยังเป็นถึงประธานบริษัทด้วย น่าจะเป็นที่พึ่งได้ดี
หลังจากนั้นก็กลับมาที่ห้องชมรมเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ถึงเบาะแสที่ได้และต้อนรับสมาชิกใหม่ แม้ว่าโชวโงะจะดูไม่เต็มใจเพราะยังคงไม่ไว้ในเอย์จิ แต่คนอื่นเห็นด้วยจึงต้องจำยอมรับเข้ามาเป็นพวกด้วย
ชมรมกลับบ้านมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น ๙ คนแล้ว
เรื่องกังวลใจของแต่ละคน
~ว่าด้วยเรื่องของเนื้อเรื่องเสริม~
ในเกมนี้มีส่วนเนื้อเรื่องเสริมของตัวละครต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเข้าไปคุยเมื่อเห็นเครื่องหมายตกใจกรอบสีเขียวอยู่บนหัว
เนื้อเรื่องจะแบ่งออกเป็นคนละ ๙ ตอน โดยจะเข้าสู่เนื้อเรื่องขั้นไหนได้ในช่วงไหนขึ้นอยู่กับว่าเรื่องหลักดำเนินไปถึงไหนแล้ว รวมถึงทางเลือกในการตอบคำถามที่ผ่านมา และค่าความสนิทกับตัวละครนั้นด้วย
ส่วนตรงนี้เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของแต่ละคน ทำให้รู้จักเกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครต่างๆมากขึ้น
เนื้อเรื่องตรงนี้จริงๆแล้วหากไม่สนใจจะปล่อยผ่านไปโดยไม่สนใจแล้วตั้งใจดำเนินแต่เนื้อเรื่องหลักก็ได้ ไม่มีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องหลัก
แต่เรื่องในอดีตของตัวละครส่วนใหญ่นอกจากแค่บางคนแล้วไม่มีใครที่เกี่ยงข้องกับเนื้อเรื่องหลักโดยตรง ถึงเกี่ยวข้องก็ไม่ได้เปิดเผยทั้งหมด ถ้าหากไม่ได้ดำเนินเนื้อเรื่องในส่วนนี้ก็จะไม่ได้รู้ถึงอดีตและปัญหาที่แต่ละคนเจอมา
นอกจากนี้บางส่วนยังมีผลต่อรายละเอียดทางแยกตอนจบในภาค overdose นี้ด้วย
เนื้อหาในตอนนี้จากตรงนี้ไปจะเป็นส่วนของเรื่องเสริมของตัวละครต่างๆที่สามารถดำเนินไปได้ในขณะนี้ ก่อนที่จะไปดำเนินเนื้อเรื่องหลักส่วนถัดไป
เคนสึเกะได้มาปรึกษาปัญหาที่ว่าช่วงนี้รู้สึกหดหู่หลังจากก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นนักดนตรี มีแฟนเพลงชื่นชมมากมาย แต่หลังจากเข้ามาเป็นสมาชิกชมรมกลับบ้านแล้วก็ไม่เหลืออะไร จนเริ่มรู้สึกเสียใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดว่าตัดสินใจผิด เพราะยังไงสิ่งที่ได้มาที่นี้ก็ไม่ใช่ของจริง ยังไงก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้ดี
โคโตโนะบอกว่าช่วงนี้มีคนส่งจดหมายแปลกๆที่ดูเหมือนจดหมายรักให้แต่ไม่รู้ว่ามาจากใคร สงสัยจะเจอคนแอบซุ่มมองอยู่ อยากให้ช่วยตามหาเบาะแสเรื่องนี้
โคตาโรวนั้นยั้งคงผูกใจเจ็บที่เราได้เป็นประธานขมรมแทนที่ตัวเองจะได้เป็น แล้วเล่าถึงความใฝ่ฝันของตัวเองว่าอยากเป็นหน่วยกู้ภัย เพราะว่าพ่อตัวเองก็เป็น เห็นแล้วรู้สึกว่าการได้ช่วยเหลือคนเป็นเรื่องที่ดีมาก
สึซึนะได้มาปรึกษาว่ามิฟุเอะดูเหมือนมีเรื่องกังวลใจอะไรอยู่ อยากให้ลองไปดูท่าที
แล้ววันหนึ่งพอลองแอบตามมิฟุเอะไปก็พบว่าเธอไปจ้องมองอาหารในร้านแห่งหนึ่งด้วยท่าทางอยากกิน แต่พอเข้าไปชวนกินเธอก็กลับบอกว่าไม่ได้อยากกิน
โชวโงะได้ชวนออกมาเดินเล่นแถวหน้าสถานี แต่พอเพลงของมิวที่ธอร์นเป็นคนแต่งดังขึ้นโชวโงะก็มีอาการคลื่นไส้ขึ้นมา
แล้วโชวโงะก็เผลอไปชนเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งเข้าจนโทรศัพท์มือถือตกพังและเรียกร้องให้ชดใช้
เรื่องราวต่างๆที่จะโยงไปสู่อดีตของแต่ละคนเพิ่งจะแค่เริ่มต้นขึ้นเท่านั้น จากนี้ไปยังจะได้เจออะไรอีกมากมาย
>> ตอนถัดไป