φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



[E×E] ตอนที่ ๑๐ ย่ำแย่ (陥る)
เขียนเมื่อ 2009/11/14 18:45
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

[E×E] Empty×Embryo ~ ตอนที่ ๑๐ ย่ำแย่ (陥る)

>> กลับไปตอนที่ ๙
>> อ่านต่อตอนที่ ๑๑
>> กลับไปหน้าแนะนำเรื่อง
>> กลับไปหน้าสารบัญ

 

 

 

นี่ ขอถามอะไรหน่อย สมมุติว่าได้เจอกับคนคนนั้นจริงๆแล้ว อยากจะพูดอะไรก่อนงั้นเหรอ?

โนมิยะซังถามขึ้นมา จะว่าไปแล้วผมก็มัวแต่คิดจะตามมาเรื่อยๆจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยเหมือนกัน

จะพูดเรื่องอะไรก่อนงั้นเหรอ... อืม.. จะว่าไปก็ไม่ได้คิดไว้หรอกนะ แค่อยากจะดูให้แน่ใจเท่านั้นเอง

ยังทำใจยอมรับเรื่องการตายของคุณแม่ไม่ได้งั้นเหรอ

ที่จริงก็เข้าใจดีอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่ว่า...

พอเห็นเงาของคุณแม่แบบนั้น ตัวเองก็กลับไล่ตามมาเฉยๆโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลย

เอาเถอะ เราเข้าใจดี

แล้วโนมิยะซังล่ะ ถ้าเกิดสมมุติว่าได้เจอกับคุณพ่อขึ้นมา อยากจะพูดอะไรก่อนงั้นเหรอ?

เราน่ะเหรอ...... อ๊ะ ตรงโน้นมีคนอยู่

ยังไม่ทันพูดจบ โนมิยะซังก็ตัดบทขึ้นมา พอผมมองไปยังตรงที่เธอชี้ก็สังเกตเห็นเงาคนอยู่ตรงโน้น พอเข้าไปใกล้ๆ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ...

ในที่สุดก็เจอตัวจนได้ เล่นเอาซะหัวปั่นกันแทบแย่เลยนะ

หญิงสาวคนหนึ่งดูเหมือนจะกำลังคุยกับแมวอยู่

อยากให้รีบกลับไปโดยเร็วน่ะ ถ้าขาดตัวอย่างทดลองที่แสนจะสำคัญไปแล้วละก็ การทดลองจะเดินต่อไปไม่ได้น่ะสิ เข้าใจดีใช่มั้ย เอาล่ะ กลับไปที่โรงพยาบาลกันเถอะ

แมวส่งเสียงขู่ใส่หญิงสาว

เพราะฉะนั้น การหนีออกจากบ้านก็คงจะจบลงแค่นี้ล่ะนะ ยังไงก็ไม่มีที่ไหนจะไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าอยากจะตายอย่างแมวข้างถนนล่ะ จะเลือกแบบนั้นเหรอ?

พอผมเข้าไปใกล้ในระยะที่พอจะเห็นได้ชัด ใบหน้าที่เห็นนั้น ดูยังไงก็เป็นหน้าของคุณแม่ ภาพความทรงจำที่เคยเห็นเมื่อสมัยเด็ก ไม่ผิดแน่

แม่...

ผมส่งเสียงเรียกออกไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้ยินเสียงผม ทั้งคุณแม่และแมวตัวนั้นต่างก็หันมาทางนี้พร้อมกัน

...ฮะๆๆ เยี่ยมไปเลย เยี่ยมไปเลย ดูท่าชักจะเจออะไรน่าสนใจเข้าให้แล้วสินะ ช่างบังเอิญจริงๆ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ โทวยะ นี่แม่เองไงล่ะ

...แม่...?

อื้อ ใช่แล้ว นี่แม่เองไงล่ะ

คุณแม่พูดดังนั้นแล้วก็หัวเราะขึ้น

อุ๊บ ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณแม่มองมาที่ผมกับโนมิยะซังด้วยท่าทีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ดูเหมือนกับจะเริ่มคิดอะไรออกขึ้นมา

ยังไงก็เถอะ ถูกเห็นในจังหวะที่ไม่ควรเข้าแล้วสิ... ยอมให้จับซะดีๆเถอะนะ

หา?

จากนั้นคุณแม่ก็หันกลับไปพูดกับแมว

นี่ รู้มั้ย? นี่ก็เป็นเพราะว่าเธอหนีมาไงล่ะ เพราะเธอหนีมา เด็กพวกนี้ถึงต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ไงล่ะ ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องโดนจับตัวไปด้วย น่าสงสารเนอะ

นี่มันอะไรกันน่ะ ทั้งเสียง ทั้งใบหน้า ทั้งรูปร่าง ดูยังไงก็เป็นคุณแม่ไม่ผิดแน่ แต่ความรู้สึกกลับเหมือนว่าต่างกันออกไป ไม่รู้จะอธิบายว่ายังไงดี แต่พอจะรู้สึกได้ว่าตอนนี้ท่าจะไม่ค่อยดีซะแล้วสิ

เราว่ามันชักจะอันตรายแล้วล่ะ

โนมิยะซังเข้ามาใกล้ๆแล้วพูดขึ้นเบาๆ

เอ๋?

อย่ามัวเฉยสิ รีบหนีเร็วเข้า

แต่ว่า...

ในตอนนั้นเอง...

แหม คุยอะไรกันอยู่เหรอ?

จู่ๆคุณแม่ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า แล้วก็เข้ามาบีบคอผมด้วยมือข้างเดียว ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มลอยขึ้น บ้าน่ะ ถึงจะไม่ได้อ้วนอะไรแต่ก็หนักมากว่า ๖๐ กิโลอยู่นะ ทำไมคุณแม่ถึงมีแรงขนาดนี้ได้กันนะ ด้วยแขนเล็กๆขนาดนี้ แถมยังข้างเดียว

ฟุชิมิคุง!”

อย่าขยับ!”

โนมิยะซังพยายามจะเข้ามาช่วย แต่แล้วก็กลับโดนบีบคออยู่ในสภาพเช่นเดียวกันกับผมด้วยมือเล็กๆของคุณแม่อีกข้าง

เป็นเด็กดีเชื่อฟังอย่างว่าง่ายหน่อยเถอะ เอาล่ะ ทีนี้จะเอาไงต่อล่ะ

คุณแม่ค่อยๆหันไปทางแมวตัวนั้น มันจ้องมาด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ว่าไง? จะยอมกลับไปแต่โดยดีมั้ย?

ในที่สุดแมวก็ยอมเดินเข้ามาหาคุณแม่แต่โดยดี

ปล่อยพวกเราซะ

แต่ในตอนนั้น โนมิยะซังหันไปทางคุณแม่แล้วพูดขึ้น

คุณแม่ของฟุชิมิคุงจริงๆแน่เหรอ?

ใช่สิ ไม่ว่าจะดูตรงไหนก็ใช่ไม่ใช่เหรอ

จริงอยู่ว่าดูภายนอกยังไงก็เป็นคุณแม่ไม่ผิดแน่ แต่ว่าสายตาที่ดูน่าสยดสยองนั่น เท่าที่รู้จัก คุณแม่ไม่เคยทำสายตาแบบนั้น

“ปล่อยพวกเราซะ ไม่เช่นนั้นละก็... ตายซะ”

“ฮะๆ ดูเป็นเด็กที่กล้าดีนะ สภาพแบบนั้นจะไปทำอะไรได้?”

“ถือว่าเตือนแล้วนะ”

โนมิยะซังจ้องคุณแม่ด้วยสายตาที่เสียดแทง

แค่จ้องอย่างเดียวจะไปทำอะไรได้ล่ะ

อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!!

สิ้นคำของโนมิยะซังจู่ๆประกายไฟเจิดจ้าก็ลุกโชนขึ้นตรงหน้า ในตอนนั้นพวกเราก็หลุดออกจากมือของคุณแม่มาได้

ฟุชิมิคุง รีบยืนขึ้นเร็ว!”

โนมิยะซัง นี่มันอะไรกัน!?

ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว! ยังไงก็เถอะ รีบหนีไปซะ!”

บ้าเอ๊ย! เจ้าแมว! อย่ามาทำเป็นได้ใจไปนัก!”

จู่ๆเปลวไฟก็หายไป จากนั้นมือของคุณแม่ก็พุ่งเข้ามาทางโนมิยะซัง

โนมิยะซัง!”

ผมรีบเอาตัวเข้ารับไว้ ทำให้โดนหมัดนั้นเข้าอย่างจัง

อ๊อก!”

จากนั้นผมก็ล้มลงไปกองกับพื้น

น่าสนใจดีนี่นา พลังนั่นน่ะ

หยุดพล่ามได้แล้ว!”

สิ้นเสียงของโนมิยะซัง เปลวเพลงก็ลุกโชนขึ้นอีก แต่คุณแม่ก็รับเอาไว้ได้

ฮึ่ม...

เสียงโนมิยะซังที่ได้ยินนั้นฟังดูทรมาน เหงื่อก็ไหลเต็มหน้า แถมยังหายใจหอบมากด้วย

โนมิยะซัง เป็นอะไรหรือเปล่า?

โนมิยะ? หรือว่าเธอจะเป็นโนมิยะ ยู?

พอผมเรียกชื่อโนมิยะซังออกไป คุณแม่ก็หันมามองที่เธอด้วยสายตาสนใจ

ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ?

โนมิยะถามกลับด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนกำลังทรมานอยู่

หืม... งั้นเองเหรอ แบบนี้ยิ่งจะปล่อยให้หนีไปไม่ได้ซะแล้วสิ

คุณแม่...

แหม ป่านนี้ยังเรียนชั้นว่าแม่อยู่อีกเหรอนี่

คนคนนี้ใช่คุณแม่จริงๆเหรอนี่ ไม่สิตอนนี้ที่สำคัญคือโนมิยะซัง...

โนมิยะซัง ยังพอวิ่งไหวมั้ย?

ถ้าแค่นิดหน่อยก็พอจะไหวล่ะ

งั้น...

จากนั้นผมก็รีบกอดโนมิยะซังไว้แล้วพยายามพาวิ่งออกไป

เฮ้ย เดี๋ยวสิ!”

จะให้เราหนีไปคนเดียวได้ไงกันล่ะ

ก็บอกแล้วไง...

โนมิยะซังมีท่าทีเขินขึ้นมา แต่ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาคิดอะไรทั้งสิ้นแล้ว

“ช่วยยอมง่ายๆเสียแต่โดยดีซะเถอะ ไม่เห็นต้องทำท่ากลัวแบบนั้นเลยนี่ ถ้ายอมขอโทษตอนนี้ละก็จะยกโทษให้ก็ได้นะ”

“ใครจะยอมกันล่ะ”

“ท่าทีขัดขืนแบบนั้นล่ะ ชอบนัก ยิ่งสั่งสอนกันสนุกเข้าไปใหญ่เลย เอาเถอะ จะให้เจ็บปวดเพียงแค่ไม่ถึงตายก็แล้วกัน”

พูดจบคุณแม่ก็รีบวิ่งตามมาทางนี้ด้วยความเร็วที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป จะขัดขืนตอนนี้ก็คงไม่ไหวแล้วด้วยสิ

มือของคุณแม่ค่อยๆยื่นเข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วในจังหวะนั้นเอง...

อ๊ะ!”

อะไรบางอย่างพุ่งแหวกอากาศเข้ามา พร้อมกับได้ยินเสียงสูงเสียงต่ำดังขึ้น จู่ๆร่างของคุณแม่ก็หายไป เห็นเพียงแต่ฝุ่นตลบอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเสียงกระแสอากาศดังก้องไปมาอย่างต่อเนื่อง

นี่มันอะไรกันน่ะ?

สักพักเสียงแหวกอากาศก็ได้หยุดลง ในตอนนั้นก็ได้ปรากฏภาพของผู้ที่คุณแม่กำลังรับมือด้วยอยู่ในตอนนี้ เป็นหญิงสาวผมแดงถือดาบญี่ปุ่น คนที่อยู่ท่ามกลางพายุเมื่อตะกี้ดูเหมือนจะเป็นเธอไม่ผิดแน่

“ไม่ไหวๆ วันนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญเยอะจริงๆ”

“ในที่สุดก็เจอตัวแล้ว จะขอถามอย่างตรงไปตรงมานะ คนที่กำลังวางแผนการร้ายอยู่น่ะ คือคุณงั้นสินะ”

“แผนการร้าย? ล้อเล่นน่ะ ชั้นก็เป็นแค่ผู้เสียหายคนหนึ่งเท่านั้นเอง”

“งั้นเหรอ แบบนี้ถ้ารู้อะไรก็คงจะยอมบอกมาแต่โดยดีสินะ”

“เรื่องนั้นคงต้องขอปฏิเสธล่ะนะ”

“ชั้นไม่ชอบที่จะฝืนใจใครด้วยสิ แต่ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ”

สิ้นคำพูด ร่างของหญิงสาวก็ได้หายไปเหลือเพียงเงาและแสงระยิบระยับแหวกผ่านราตรี ดูอะไรไม่ออกเลย

เล่นของมีคมแบบนี้มันอันตรายนะ

คุณแม่ซึ่งรับการโจมตีเข้าไปกลับมีท่าทียิ้มอย่างไม่รู้สึกอะไรอยู่ท่ามกลางความมืด

ชั้นรู้วิธีการใช้ดาบดีน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง

ทั้งสองเข้าปะทะกันอีกครั้ง ดาบถูกแกว่งไปมาอย่างแรง ราวกับจะแหวกท้องฟ้าให้ขาดออกก็มิปาน

นี่ รู้มั้ย แมกนีเซียมน่ะติดไฟได้นะ แถมยังติดเป็นประกายเจิดจ้ามากด้วยล่ะ

จู่ๆคุณแม่ก็หยิบผงอะไรบางอย่างขึ้นมา

“แบบนี้ไงล่ะ”

“อ๊ะ!”

ชั่วพริบตานั้น ก็เกิดประกายแสงเจิดจ้าขึ้นราวกับจะเผาเปลือกตาให้ไหม้ลงได้ พร้อมกับกระแสลมจากการระเบิดได้เข้าปะทะผ่านแก้มไป แล้วภาพตรงหน้านั้นก็เต็มไปด้วยสีขาว

อะไรกันน่ะ!”

สักพักทัศนวิสัยก็เริ่มกลับมา ภาพที่เห็นนั้นมีเพียงแค่โนมิยะซังกับหญิงสาวคนนั้น ส่วนคุณแม่ซึ่งน่าจะยืนอยู่ตรงนั้นได้หายไปแล้ว

หนีไปซะแล้ว

หญิงสาวบ่นด้วยความเจ็บใจ

แม่...

อย่าขยับนะ

ในตอนนั้นเธอก็หันดาบที่สะท้อนแสงจันทร์แวววาวนั้นมาทางผมกับโนมิยะซัง

หา?

“ถ้าขยับละก็ชั้นไม่ปล่อยไว้แน่”

“ไม่ปล่อยไว้แล้วยังไง? จะฆ่าพวกเราด้วยดาบนั่นงั้นเหรอ?”

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์น่ะนะ ยังไงก็เถอะ รู้อะไรบ้างคายออกมาให้หมด”

“แล้วอยากจะรู้อะไรล่ะ”

“พวกเธอมีความเกี่ยวข้องยังไงกับยายคนที่หนีไปนั่น เท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนที่มาติดต่อธุระด้วยก็จริงอยู่ แต่ว่าทำไมถึงได้ถูกเล่นงานล่ะ”

“ก็แค่เดินผ่านมาน่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องมาเล่นงานเรา ที่จริงทางนี้ต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายถาม”

“เป้าหมายของยายนั่น เรื่องขององค์กร รู้อะไรบ้างหรือเปล่า?”

“ไม่รู้ บอกแล้วไงว่าแค่บังเอิญถูกเล่นงานเข้าก็เท่านั้น”

โนมิยะซังพูดโต้ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่น่าจะกำลังเจ็บปวดอยู่แท้ๆแต่กลับไม่แสดงออกให้เห็นทางสีหน้าเลย ต้องเรียกว่าสมกับที่มีทักษะในการเล่นละครเป็นอย่างดีจริงๆ

แล้วหนุ่มน้อยทางนั้นล่ะ

...ผมก็ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน

พอโกหกตอบออกไปเธอก็จ้องมองมาด้วยสายตาเคลือบแคลงสงสัย คงไม่ใช่ว่าปรากฏออกมาทางสีหน้าหรอกนะ พอมีดาบจ่ออยู่ตรงหน้าแบบนี้แล้วทำให้ไม่อาจกล้าทำอะไรได้อย่างที่ควรจะเป็นเลย

“ยังไงก็ตาม คงต้องขอให้ช่วยมาด้วยกันหน่อยล่ะ”

“ทำไมอีกล่ะ? ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้เรื่องอะไร”

“เรื่องนั้นคนที่จะตัดสินก็คือชั้น”

โนมิยะซังยังคงพยายามรับมือด้วยคำพูดต่อไป ถึงอย่างนั้นหญิงสาวคนนั้นดูท่าจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆแน่ ยังไงก็เถอะ...

เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่? คุณกับผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และกำลังทำอะไรอยู่กันน่ะ ถ้ารู้อะไรช่วยบอกมาที

ฟุชิมิคุง

ผมถามสิ่งที่สงสัยออกไป โนมิยะซังดูเหมือนพยายามที่จะห้าม แต่ถึงยังไงผมก็คงไม่อาจปล่อยให้เรื่องผ่านไปโดยที่ไม่รู้อะไรได้หรอก ไม่มีทางแน่ๆ

หนุ่มน้อย เธอชื่ออะไร?

ฟุชิมิ โทวยะ

“อืม เป็นชื่อที่ไม่รู้จักแฮะ แล้วสาวน้อยคนนั้นล่ะ”

“โนมิยะ ยู แล้วคุณล่ะ?”

“ชั้นชื่อคิฟุเนะ มิโอะ พอจะเคยได้ยินมั้ยล่ะ?”

“ไม่เลย”

“นั่นสินะ ดูท่าทั้งสองคนจะไม่รู้อะไรจริงๆสินะ

“ก็บอกแล้วตั้งแต่แรกไงล่ะ”

“แต่ว่าทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แต่ทำไมหนุ่มน้อยนี่ถึงได้ดูสนใจขนาดนี้ล่ะนี่”

เรื่องนั้น...

ก่อนที่ผมจะทันพูดอะไร ร่างของคิฟุเนะ มิโอะซึ่งน่าจะอยู่ตรงหน้าก็ได้หายไปเสียแล้ว ชั่วจังหวะนั้นก็เห็นเหมือนแสงเป็นลำพุ่งเข้ามา พื้นที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่ก็เกิดระเบิดกระจายออก

หวา!”

โนมิยะซัง!”

ผมรีบคว้าแขนโนมิยะซังไว้แล้วช่วยพยุงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

คราวนี้อะไรอีกล่ะนี่!?

พอมองไปรอบๆ ก็เห็นคิฟุเนะ มิโอะกำลังอยู่ในท่าระวังกวาดสายตามองออกไปรอบๆ

มือใหม่เหรอ? ยุ่งยากจริงนะ

พอจับเป้าหมายได้แล้วคิฟุเนะ มิโอะก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เธอฟาดดาบลงไปในชั่วจังหวะเหมาะรวดเดียว แต่คู่ต่อสู้ก็หลบได้อย่างสบาย และเหมือนจะปล่อยเส้นลำอะไรบางอย่างเป็นแสงประกายพุ่งโจมตีตอบกลับมา พร้อมแผดเสียงกังวาน ราวกับร่ายรำอยู่ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน

ชิ!”

การโจมตีที่ราวกับจะสามารถบดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างลงนั้นถูกรับเอาไว้ได้ สักพักจึงมองเห็นวัตถุซึ่งสูญเสียเป้าหมายและส่ายไปมาอยู่กลางอากาศ ซึ่งนั่นก็คือโซ่นั่นเอง

เมื่อฝุ่นดินที่ปกคลุมอยู่จางลงก็ได้มองเห็นคู่ต่อสู้ที่คิฟุเนะ มิโอะกำลังรับมือด้วยอยู่ เป็นเด็กสาวคนหนึ่งซึ่ง-...

ทำไมโคโนะถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ!?

...เดินเล่น

โกหก!”

ผมตอบกลับไปอย่างมั่นใจ สถานการณ์แบบนี้ยังไงก็คงจะไม่ใช่เดินเล่นแล้วล่ะ

รู้จักกันด้วยเหรอ?

โนมิยะซังถามขึ้น

เพื่อนร่วมชั้นไง จำไม่ได้เหรอ?

ไม่จริงน่ะ? ไม่เห็นจะเคยเห็นหน้าเลย

จริง ทุกทีจะเอาแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงที่นั่งของตัวเองก็เลยอาจไม่ค่อยได้สังเกตเห็นเท่าไหร่ แต่ยังไงก็อยู่ห้องเดียวกันนี่แหละ

เหรอ เอาเถอะ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือตอนนี้...

โนมิยะซังมองไปทางคิฟุเนะ มิโอะที่กำลังจ้องมองโคโนะที่ดูไม่ได้ระวังตัวเลย

รู้จักกันเหรอ? ดูท่าทางจะเป็นคนประเภทไม่ค่อยพูดงั้นสิ แต่ดูท่าว่าถามเด็กคนนี้คงจะได้เรื่องมากกว่าสินะ

เดี๋ยวสิ ยายนี่น่ะ...

เปล่าประโยชน์น่ะ ไม่ว่าจะทางไหนก็ดูท่าว่าคงไม่คิดจะไม่ปล่อยให้พวกเรากลับไปได้ง่ายๆแล้วล่ะ

ผมพยายามจะพูดแทรกขึ้น แต่โนมิยะซังก็มาห้ามเอาไว้

หมอบลง

โคโนะพูดขึ้น

หา?

เกะกะ

ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ

ยอมทำตามไปก่อนจะดีกว่านะ

เมื่อเห็นผมยังคงมีท่าทีลังเล โนมิยะซังจึงเตือนขึ้น

แต่ว่าจะให้ปล่อยโคโนะไปแบบนี้

น่าจะเข้าใจความหมายที่พูดดีไม่ใช่เหรอ?

......!”

โคโนะจ้องมองไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร ทั้งสายตาและสมาธิรวบรวมไปอยู่ที่คิฟุเนะ มิโอะที่อยู่ตรงหน้า แล้วย่อเอวลงเล็กน้อย ภาพที่เห็นนั้นช่างต่างจากภาพตอนที่เธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ทุกที ต่างจากตอนที่เล่นกับฮิซาชิด้วย บรรยากาศที่ตึงเครียดจนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้

แต่ว่าจะดีเหรอ ถ้าปล่อยให้โคโนะจัดการแล้วตัวเองก็หนีไปแบบนี้ แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนนั้นเลยสิ ผมนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองหนีออกมาจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่สามารถกลับไปช่วยอะไรคุณแม่ที่ยังอยู่ข้างในได้เลย ได้แต่เพียงนั่งดูอยู่เท่านั้น แม้แต่ครู่นี้เองผมก็ยังต้องคอยหลบอยู่ข้างหลังโนมิยะซังตลอด และครั้งนี้มันก็เป็นเรื่องของคุณแม่ตัวเองด้วย ถ้าจะต้องให้คนอื่นมาลำบากแทนแบบนี้...

ฮึบ!”

โคโนะสูดลมหายใจเข้าสั้นๆและเริ่มขยับตัวขึ้นอีกครั้ง โซ่ถูกปล่อยออกพุ่งไปราวกับจะแหวกฝ่าความเงียบยามค่ำคืนพุ่งตรงและโฉบเข้าใส่คิฟุเนะ มิโอะที่ยืนอยู่ตรงหน้า

ฮึ่ย!”

เสียงคำรามแหวกอากาศได้ดังขึ้น การโจมตีที่เฉียบคมราวกับจะตัดความมืดลงได้นั้นได้ปัดโซ่ตรงหน้านั้นออกไป

เหล็กกับเหล็กกระทบกันอย่างจังจนก่อให้เกิดเสียงกังวานดังไปทั่วลานกว้างยามค่ำคืน พร้อมกับฝุ่นทรายที่พุ่งตลบอบอวนขึ้นจากแรงปะทะที่เหลือนั้น แต่ว่านั่นก็เหมือนว่าโคโนะจะคาดการณ์เอาไว้แล้ว เธอเข้าประชิดตัวคิฟุเนะ มิโอะจากตำแหน่งที่ต่ำเกือบจะติดพื้นดิน

มิโอะดึงดาบกลับแล้วฟันเข้าใส่เด็กสาวที่กำลังสาวโซ่ที่ถูกดึงออกไปกลับมา เสียงดังสนั่นกังวานขึ้นอีกครั้งพร้อมกับประกายไฟที่ลุกจ้าขึ้นท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน แล้วกระแสลมแรงจากการปะทะกันของทั้งคู่ก็ได้พัดกระหน่ำขึ้น

 

====================

 

รวมศัพท์ท้ายตอน
さもないと ไม่งั้น
太刀 たち ดาบยาว
対峙 たいじ เผชิญหน้า,ติดพันกับ
単刀直入 たんとうちょくにゅう อย่างไม่อ้อมค้อม,อย่างตรงๆ
仕組む しくむ ประกอบ,วางแผน,ผูกเรื่อง(นวนิยาย)
濁流 だくりゅう ลำน้ำขุ่น
間合い まあい จังหวะหรือเวลาที่เหมาะสม,ช่วงเว้นว่าง,ระหว่าง
目掛ける めがける เล็งเป้าไปที่
手荒 てあら รุนแรง,หยาบกระด้าง,(งาน)หยาบ ๆ
夜気 やき อากาศยามค่ำคืน,ความเงียบยามค่ำคืน
裂帛 れっぱく เสียงผ้าไหมถูกฉีก,เสียงร้องของนกตระกูลนกกาเหว่าที่มีเสียงไพเราะ
肉薄 にくはく เข้าใกล้,ท้าทาย(คู่ต่อสู้)
手繰る たぐる สาว(ด้าย เชือก),ดึง,ชักใย
火花 ひばな ประกายไฟ,ลูกไฟ

 

--------------------

 

เป็นตอนที่แปลไปอย่างยากลำบากที่สุดเท่าที่แปลมา เพราะไม่เคยบรรยายฉากต่อสู้มาก่อนเลย ค่อนข้างบรรยายลำบากเลยทีเดียว จึงใช้เวลานานมากและมีการตัดไปเยอะ ทำให้ฉากต่อสู้อาจไม่ละเอียดมากทั้งที่จริงๆสู้กันดุเดือดพอดูทีเดียว แต่ก็พยายามตัดให้ไม่ดูห้วนเกินไปเช่นเคย



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ