φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



หยวนหมิงหยวน พระราชวังฤดูร้อนเก่าที่รกร้าง
เขียนเมื่อ 2011/12/21 01:53
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42


#จันทร์ 21 พ.ย. 2011

หยวนหมิงหยวน (圆明园) หรือพระราชวังฤดูร้อนเก่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของปักกิ่ง

ปัจจุบันพูดถึงพระราชวังฤดูร้อนก็จะหมายถึงอี๋เหอหยวน (颐和园) แต่สมัยก่อนพระราชวังฤดูร้อนตั้งอยู่ที่หยวนหมิงหยวนมาก่อน แต่หลังจากถูกเผาทำลาย พระราชวังฤดูร้อนจึงถูกสร้างใหม่ที่อี๋เหอหยวน

พระราชวังฤดูร้อนที่หยวนหมิงหยวนถูกสร้างขึ้นในปี 1707 สมัยจักรพรรดิคางซี (康熙帝) และถูกเผาทำลายลงในปี 1860 จากการบุกของกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามฝิ่นครั้งที่สอง

ปัจจุบันหยวนหมิงหยวนเหลือเพียงซากปรักหักพังที่เป็นร่องรอยของพระราชวังเก่า โดยซากที่เหลือนั้นมีแต่พระราชวังส่วนที่สร้างเป็นแบบยุโรปซึ่งใช้หินสร้างเท่านั้น ส่วนอาคารแบบจีนดั้งเดิมซึ่งใช้ไม้สร้างนั้นไม่เหลือซากเลย จนทำให้คนคิดว่าพระราชวังที่นี่แต่เดิมเป็นแบบยุโรป ทั้งที่จริงๆส่วนนี้เป็นเพียงส่วนน้อย

แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่กว้างใหญ่ และหลายส่วนก็โล่งร้าง ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้ถูกตกแต่งให้สวยงามอย่างพระราชวังฤดุร้อนที่อี๋เหอหยวน

รัฐบาลจีนเคยมีแผนที่จะสร้างพระราชวังในหยวนหมิงหยวนขึ้นมาใหม่เหมือนกับที่ทำกับสิ่งก่อสร้างหลายแห่งในปักกิ่ง แต่สุดท้ายก้ตัดสินใจเหลือซากเอาไว้

บริเวณที่เรียกรวมๆว่าสวนสาธารณะหยวนหมิงหยวนนี้ที่จริงแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือหยวนหมิงหยวน ฉี่ชุนหยวน (绮春园) และ ฉางชุนหยวน (长春园) ปัจจุบันทางเข้าหลักของที่นี่อยู่ที่ฉี่ชุนหยวน มีสถานีรถไฟฟ้าส่งถึงหน้าประตู

มีคนพูดถึงหยวนหมิงหยวนกันไปต่างๆนาๆ บางคนก็ว่าเป็นที่ที่ไม่น่าเข้า ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ มีแต่ซากปรักหักพังไม่มีอะไรสวยงามเท่าไหร่

แต่บางคนก็ถือว่านี่เป็นสถานที่ที่มาปักกิ่งแล้วต้องแวะมาสักครั้ง ยิ่งตั้งอยู่ใกล้พระราชวังฤดูร้อน อี๋เหอหยวน  ซึ่งไม่ว่าใครมาปักกิ่งก็ต้องแวะมาอยู่แล้วนั้นด้วย จึงถือโอกาสแวะมาเที่ยวได้ไม่เสียเวลา

พระราชวังฤดูร้อนเราเคยไปเที่ยวมาแล้วเมื่อตอนมาปักกิ่งใหม่ๆ ตอนนั้นเป็นปลายฤดูร้อน อากาศกำลังเย็นสบาย

ส่วนหยวนหมิงหยวนนี้เรามาเมื่อเดือนก่อน เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศหนาวมาก ต้นไม้ใบไม้ร่างร่วงโรยหมดแล้ว



สถานีรถไฟฟ้าหยวนหมิงหยวน (地铁圆明园站)



ภายในสถานีรถไฟฟ้าที่สถานีนี้มีผนังแกะสลักสวยงามเป็นข้อความเกี่ยวกับหยวนหมิงหยวน ดูโดดเด่นกว่าสถานีอื่นๆส่วนใหญ่ แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ไม่น้อย



เห็นเขาถ่ายกันเราก็ถ่ายด้วย



เมื่อขึ้นมาด้านนอกสถานีรถไฟฟ้า มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นอาคารของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) ด้วย มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับที่นี่เลย ถ้าเรียนที่นี่ละก็ คงไม่ต้องนั่งอะไรมา เดินมาเที่ยวหยวนหมิงหยวนได้สบาย



ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วเข้า ราคาเข้าประตูคือ ๑๐ หยวน ถือว่าไม่แพงเลย เห็นเขาเขียนว่าบัตรนักศึกษาสามารถลดครึ่งราคาได้เหลือ ๕ หยวน แต่พอเอาบัตรไปยื่นเขาก็บอกว่าไม่รวมนักศึกษาต่างชาติ ก็เลยอด ต้องจ่ายเต็มราคาไป



ประตูทางเข้า



มีแผนที่ตั้งอยู่ เมื่อมองก็น่าตกใจเลยเพราะบริเวณสีเขียวคือบริเวณที่เขาก่อสร้างอยู่ มันมีเยอะขนาดนี้เชียว เลยรู้สึกว่าไม่คุ้มเลยที่มาแต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะมาถึงที่แล้ว อย่างน้อยส่วนสำคัญมันก็ไม่ได้ปิดอยู่



หน้าประตูทันทีที่เข้ามา ตอนนี้เราอยู่ในบริเวณส่วนหน้าที่เรียกว่า ฉี่ชุนหยวน (绮春园)





ศาลากลางน้ำ เจี้ยนปี้ถิง (鉴碧亭)



ด้านใน



ทิวทัศน์ริมน้ำที่นี่ก็สวยไม่ต่างจากสวนสาธารณะอื่นที่ไปมา




ภาพวาดแผนที่หยวนหมิงหยวนสมัยอดีตที่รุ่งเรือง



เดินต่อไปเรื่อยๆภายในบริเวณของฉี่ชุนหยวน









ชอบทิวทัศน์ริมน้ำจริงๆ














เดินไปเรื่อยๆเพื่อไปส่วนบริเวณฉางชุนหยวน




ตรงนี้เป็นถนนรอยต่อระหว่างสว่นหยวนหมิงหยวนทางซ้ายกับส่วนฉางชุนหยวนทางขวา





จากนั้นเราเลี้ยวไปทางขวา ก็เข้าสู่บริเวณของฉางชุนหยวน ซึ่งตรงนี้ที่จริงเป็นบริเวณที่ปิดซ่อมอยู่ แต่ก็สามารถเข้าได้ไม่มีปัญหา แค่ว่าสภาพมันอาจดูไม่ค่อยน่าดูเท่าที่ควรจะเป็น






ตรงนี้เรียกว่า ไห่เยวี่ยไคจิน (海岳开襟) เป็นเกาะอยู่กลางทะเลสาบ แต่เนื่องจากเขากำลังปิดอยู่ก็เลยเข้าไม่ได้ น่าเสียดาย




จากนั้นเราเดินไปทางเหนือเรื่อยๆก็จะมาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของหยวนหมิงหยวนซึ่งเป็นเป้าหมายของคนส่วนใหญ่ที่มาเดินที่นี่ นั่นคือซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างแนวยุโรปซึ่งตั้งอยู่ส่วนเหนือสุดของที่นี่ เรียกว่าซีหยางโหลว (西洋楼)





เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญการเข้าที่นี่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก ๑๕ หยวน แต่ใช้บัตรนักเรียนเข้าก็ลดให้เหลือ ๕ หยวน ตรงนี้ต่างจากหน้าประตูตรงที่บัตรนักศึกษาต่างชาติก็ใช้เข้าได้ด้วย



สภาพซากปรักหักพังในบริเวณนี้






ข้่างหน้านี้เป็นเขาวงกต



เราต้องเดินผ่านทางวกวนซับซ้อนนี้เพื่อเข้าไปยังปราสาทตรงกลาง



และแล้วก็เข้ามาถึง



มองลงไปแล้วรู้สึกว่ามันวงกตจริงๆ



ออกมาดูซากปรักหักพังส่วนต่อไป







แล้วก็มาโผล่ทางแถวประตูตะวันออก เป็นทางออกเล็กๆ



เรากลับเข้ามาเดินยังบริเวณฉางชุนหยวนต่อ ซึ่งรกร้างมาก






จากนั้นก็ออกจากบริเวณฉางชุนหยวน มุ่งสู่บริเวณของหยวนหมิงหยวน

ทะเลสาบฝูไห่ (福海) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ แต่สภาพตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเท่าไหร่เพราะมันกำลังก่อสร้างอยู่





เกาะกลางทะเลสาบ เกาะนี้ไม่มีสะพานข้าม มีทางเดียวคือต้องนั่งเรือไปเท่านั้น



ตอนที่เดินเลียบทะเลสาบไปนี่พบว่าคนน้อยมากเลย ดูรกร้างจริงๆ รู้สึกว้าเหว่มากมาย

หลังจากเดินเลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆก็มาถึงบริเวณส่วนตะวันตกของหยวนหมิงหยวน ซึ่งมันรกร้างมากกว่าที่จินตนาการไว้มากทีเดียว



เนื่องจากมองไปข้างหน้าไม่เห็นมีอะไรที่น่าดูเลย เราเลยตัดสินใจถามคุณลุงที่นั่งอยู่ตรงนั้นซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นคนทำงานที่นั่น ว่าเดินต่อไปมีอะไร คุณลุงตอบว่าไม่มีอะไรเลยเราก็เลยตัดสินใจไม่เดินต่อ

ที่จริงหากเดินต่อไปบริเวณนั้นคือส่วนที่เรียกว่าจิ่วโจว (九州) สมัยก่อนเป็นส่วนหลักของหยวนหมิงหยวน เพราะเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ฮ่องเต้อยู่ รวมทั้งที่ทำการต่างๆ แต่ปัจจุบันก็อย่างที่รู้ว่าถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว และตัวอาคารแถบนี้ทำจากไม้ทั้งนั้นจึงไม่เหลือร่องรอย ผิดกับอาคารแบบยุโรปที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสร้างด้่วยหินจนเหลือซากปรักหักพังให้ชม

นี่คือแผนที่แสดงบริเวณต่างๆในจิ่วโจว และก็จะเห็นภาพปัจจุบันด้วย ซึ่งมันดูไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆนอกจากซากส่วนที่เห็นหินเพียงเล็กน้อย



ก่อนกลับเราแวะอีกส่วนหนึ่งของฉี่ชุนหยวนซึ่งตอนแรกไม่ได้แวะ มีวัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่นั่นคือวัดเจิ้งเจวี๋ย (正觉寺)



ภายในบริเวณวัด






ตรงนี้เป็นทางออก สามารถออกจากตรงนี้ได้เช่นกัน ก็ไม่ไกลจากประตูที่เข้ามาตอนแรกสุด ใกล้รถไฟฟ้าเหมือนกัน ภาพนี้คือออกมาข้างนอกแล้วถ่าย



เมื่อออกมาก็เป็นเวลาที่ตะวันคล้อยเต็มที



สรุปแล้วที่คนบอกว่าหยวนหมิงหยวนเป็นสถานที่ที่ไม่น่ามานั้นก็อาจถือว่าถูกอยู่ส่วนหนึ่ง คือถ้าจะมาเพื่อดูโบราณสถานที่สวยงามละก็มันก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น มีแค่ซากปรักหักพังซึ่งเหลือร่องรอยอยู่ไม่มากเมื่อเทียบกับบริเวณที่กว้างใหญ่

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งบริเวณนี้ก็ถือเป็นสวนสาธารณะที่สวยเหมือนกัน แถมกว้างกว่าที่อื่นใดในปักกิ่งด้วย เสียดายที่ตอนที่ไปเขาปิดบำรุงอยู่หลายส่วน เลยดูไม่ค่วยสวยเท่าที่ควร



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> ปักกิ่ง
-- ประวัติศาสตร์ >> ประวัติศาสตร์จีน
-- ท่องเที่ยว >> ทะเลสาบ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ