วัดต้าจง พิพิธภัณฑ์ระฆังโบราณ
เขียนเมื่อ 2015/03/18 09:57
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#อังคาร 17 มี.ค. 2015
ช่วงนี้กำลังปั่นวิทยานิพนธ์ ตอนนี้ถือว่าใกล้จะเสร็จแล้วก็เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย ออกไปเที่ยวที่ใกล้ๆเป็นการผ่อนคลายสักหน่อย
ครั้งนี้แวะมาที่วัดต้าจง (大钟寺) ซึ่งเป็นวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในปักกิ่งจึงเดินทางมาได้ง่าย
ความจริงแล้วที่นี่แม้จะเรียกว่าเป็นวัดแต่ว่าปัจจุบันนี้ไม่ได้มีลักษณะเป็นวัดในความหมายจริงๆ แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ระฆังโบราณ (古钟博物馆) ภายในจัดแสดงระฆังมากมาย แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือระฆังใหญ่หย่งเล่อ (永乐大钟)
ระฆังใหญ่หย่งเล่อ ขนาด ๖.๗๕ เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๓.๓ เมตร หนัก ๔๖.๕ ตัน ตัวระฆังทำจากสำริด มีขนาดเล็กกว่าระฆังที่แท่นบูชาศตวรรษแห่งจีน (中华世纪坛) ที่เคยไปมาอยู่เล็กน้อย https://phyblas.hinaboshi.com/20111111
คำว่าต้าจงซึ่งเป็นชื่อของวัดนี้ก็แปลว่า "ระฆังใหญ่" เป็นชื่อที่คนนิยมเรียกเนื่องจากวัดนี้มีระฆังขนาดใหญ่ แต่ว่าแรกเริ่มวัดนี้มีชื่อเดิมว่าวัดเจวี๋ยเซิง (觉生寺)
วัดเจวี๋ยเซิงสร้างขึ้นเมื่อปี 1733 ซึ่งเป็นสมัยของจักรพรรดิยงเจิ้ง (ปี 1723 - 1735) แห่งราชวงศ์ชิง อย่างไรก็ตามตัวระฆังถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1420 - 1424 ซึ่งเป็นสมัยของจักรพรรดหย่งเล่อ (ปี 1403 - 1424) แห่งราชวงศ์หมิง ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าระฆังหย่งเล่อ เดิมทีตั้งแต่ปี 1607 ระฆังนี้ถูกตั้งอยู่ที่วัดว่านโซ่ว (万寿寺) ต่อมาหลังจากที่วัดเจวี๋ยเซิงสร้างเสร็จระฆังจึงถูกย้ายมาไว้ที่วัดเจวี๋ยเซิงในปี 1751
การเดินทางมาวัดต้าจงสามารถมาได้โดยนั่งรถเมล์มาลงที่ป้ายต้าจงซื่อ (大钟寺) หากจะนั่งรถไฟฟ้ามาก็ทำได้ แต่ว่าวัดนี้ไม่ได้อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าต้าจงซื่อ (城铁大钟寺站) แม้มันจะชื่อว่าสถานีต้าจงซื่อแต่จริงๆมันอยู่ห่างออกไปจากตัววัดอีกหน่อยนึง หากนั่งรถไฟฟ้ามาลงเพื่อมาที่นี่ก็ต้องเดินอีกไปอีกระยะนึง ถ้าไม่ขยันเดินก็สามารถนั่งรถเมล์มาได้จากสถานี ระยะห่าง ๑ ป้ายรถเมล์
หากนั่งรถเมล์มาจากทางฝั่งสถานีรถไฟฟ้าก็จะมาลงตรงใกล้หน้าประตูทางเข้าวัด ก่อนเข้าต้องซื้อตั๋วซึ่งอยู่ตรงหน้าก่อน ค่าเข้าชมสถานที่คือ ๒๐ หยวน แต่เรามีบัตรนักเรียนจึงลดครึ่งราคาเหลือ ๑๐ หยวน ถือว่าถูกดีและคุ้มทีเดียว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi01.jpg)
อาคารป้อมประตูด้านหน้าสุดซึ่งเรียกว่าซานเหมิน (山门) เป็นทางเข้าด้านในวัด แต่ว่าประตูตรงนี้ปิดไว้ ทางเข้าที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าจริงๆอยู่ด้านข้าง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi02.jpg)
เมื่อเข้ามาด้านในจะเห็นตัวอาคารอยู่มากมาย มีทั้งอาคารย่อยที่อยู่ตรงกลางบริเวณ แวะอาคารด้านข้างซึ่งวางตัวเรียงยาวด้านซ้ายขวา (ตะวันตกกับตะวันออก) นี่คืออาคารเล็กที่เจอเป็นหลังแรก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi03.jpg)
ภายในโล่งๆ แค่ที่ผนังด้านหนึ่งมีติดคำอธิบายเกริ่นนำสั้นๆเกี่ยวกับระฆังจีน และมีเสียงบรรยาย เหมือนเป็นห้องให้นั่งเล่นๆก่อนจะเริ่มไปชมอะไรๆในห้องต่อๆไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi04.jpg)
ส่วนที่พื้นมีแผนที่แสดงว่าถ้าเอาวัดต้าจงแห่งนี้เป็นศูนย์กลาง สถานที่สำคัญต่างๆของปักกิ่งมีอะไรอยู่รอบๆบ้าง จะเห็นว่าที่นี่ห่างจากพระราชวังต้องห้าม (故宫) ไป ๗.๕ กม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi05.jpg)
มาดูที่อาคารด้านตะวันตก ตรงนี้เป็นที่ขัดแสดงประวัติของวัดแห่งนี้ มีแบบจำลองขนาดเล็กๆให้ดู ในภาพนี้เป็นแบบจำลองขณะที่จักรพรรดิเฉียนหลงเข้ามาทำพิธีขอฝน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi06.jpg)
วัตถุโบราณบางส่วนภายในวัด
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi07.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi08.jpg)
หน้าต่างหินแกะสลักลายสวยงาม
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi09.jpg)
ภาพวาดฝาผนัง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi10.jpg)
เสมาของวัดนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi11.jpg)
หน้าจอตรงนี้อธิบายเกี่ยวกับการหล่อระฆังหย่งเล่อ![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi12.jpg)
เสร็จจากตรงนี้แล้วออกมา ข้ามไปอาคารฝั่งตะวันออก ที่นี่อธิบายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระฆัง บรรยายส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน มีภาษาอังกฤษเขียนแปลไว้ด้วยแต่ว่าแปลไม่หมด เนื้อหาค่อนข้างรวบรัดไม่ละเอียด ถ้าอยากรู้ละเอียดจริงๆยังไงก็ต้องอ่านเป็นภาษาจีน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi13.jpg)
ภาพระฆังหรือกระดิ่งดินเผาโบราณเก่าแก่มาก ประมาณ 2000-5000 ปีก่อน ค.ศ. ที่เก่าแก่ที่สุดในนี้คือกระดิ่งดินเผาวัฒนธรรมหย่างเสา (仰韶文化陶玲) ปัจจุบันเก็บอยู่พิพิธภัณฑ์มณฑลเหอหนาน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi14.jpg)
แบบจำลองขนาดเท่าของจริง อันซ้ายเป็นระฆังดินเผาโต่วเหมินเจิ้น (斗门镇陶钟) สูง ๑๒.๕ ซม. อันขวาคือระฆังดินเผาเมี่ยวตี่โกว (庙底沟陶钟) ขนาด ๙.๓ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi15.jpg)
กระดิ่งสำริดเอ้อร์หลี่โถว (二里头铜铃) เป็นตัวอย่างของระฆังสมัยราชวงศ์เซี่ย (夏朝, 2100 - 1700 ปีก่อน ค.ศ.)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi16.jpg)
ปั๋วจง (镈钟) เป็นระฆังขนาดใหญ่ที่ส่วนยอดมีลักษณะแบน นิยมใช้ในช่วงยุคราชวงศ์โจวตะวันตก (西周1046 - 771 ปีก่อน ค.ศ.) ตอนปลายถึงยุคจ้านกั๋ว (战国, 476 - 221 ปีก่อน ค.ศ.)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi18.jpg)
นี่คือระฆังที่เรียกว่าหนิ่วจง (钮钟) เป็นระฆังชุดที่ประกอบด้วยหลายขนาดซึ่งให้เสียงต่างกัน เป็นที่นิยมในยุคชุนชิว (春秋, 770 - 476 ปีก่อน ค.ศ.) และยุคจ้านกั๋ว เอาไว้ใช้ในงานพิธีสำคัญหรือเป็นเครื่องดนตรี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi17.jpg)
ข้ามมาตรงนี้จะเจอกับระฆังในสมัยหลังจากที่ศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าเริ่มเข้ามามีบทบาทในจีน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi19.jpg)
เบื้องหน้าเต็มไปด้วยระฆังโบราณสวยๆมากมายเรียงรายอยู่ เริ่มจากอันแรกทางซ้ายคือระฆังวัดเป่าซื่อ (宝室寺钟) สร้างในยุคราชวงศ์ถัง (唐朝, ปี 618 - 907) ความสูง ๑๕๖ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๑๓๖ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi20.jpg)
บนตัวระฆังมีอักษรสลักอยู่เต็ม
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi21.jpg)
ระฆังวัดเก๋อย่วน (阁院寺钟) สร้างในยุคราชวงศ์เหลียว (辽朝, 916 - 1125) สูง ๑๖๐ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๑๖๐ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi22.jpg)
ระฆังเหล็กยวี่เซี่ยน (蔚县铁钟) สร้างในยุคราชวงศ์หยวน (元朝, 1271 - 1368) สูง ๗๖ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๖๔.๘ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi23.jpg)
ท่ามกลางหมู่ระฆังขนาดใหญ่จำนวนมากมายมีระฆังเล็กอยู่แค่อันเดียววางอยู่ ระฆังสำริดดอกบัวแปดหน้าขนาดเล็ก (八方莲花小铜钟) สร้างในยุคราชวงศ์หยวน สูง ๑๖.๖ ซม. เส้นผ่านศุนย์กลางที่ฐาน ๑๒.๑
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi24.jpg)
ระฆังที่สลักตัวอักษรเต็มแน่นไปหมดนี่คือระฆังเต๋าหงจื้อ (弘治道钟) สร้างในปี 1492 สมัยจักรพรรดิหงจื้อ (弘治, ปี 1488 - 1505) แห่งราชวงศ์หมิง สูง ๑๒๔.๕ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๘๙.๕ ซม. ส่วนหลักของระฆังเป็นอักษรจีนปัจจุบัน แต่ด้านล่างเป็นอักษรแบบโบราณ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi25.jpg)
ระฆังหมีเล่ออาน (弥勒庵钟) สร้างในปี 1618 สมัยจักรพรรดิว่านลี่ (万历, ปี 1572 - 1620) แห่งราชวงศ์หมิง สูง ๑๖๔ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๑๐๔ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi26.jpg)
ระฆังวัดว่านซ่าน (万善寺钟) สร้างในปี 1702 สมัยจักรพรรดิคางซี (康熙, 1661 - 1722) แห่งราชวงศ์ชิง สูง ๑๑๐ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๗๘.๗ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi27.jpg)
ระฆังหอสมาคมฉินจิ้น (秦晋会馆铜钟) สร้างในปี 1828 สูง ๑๑๐.๔ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๙๔ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi28.jpg)
ระฆังสลักอักษรทิเบต (藏文铜钟) สร้างในช่วงยุคราชวงศืชิง สูง ๗๘.๒ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๕๔.๖ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi29.jpg)
จากนั้นไปอาคารเล็กตรงกลางซึ่งอยู่เป็นหลังถัดมา เป็นที่จัดแสดงระฆังที่ใช้ตามพิธีต่างๆ นี่คือแบบจำลองของระฆังชุดของอี่ (乙) เจ้าครองแคว้นเจิง (曾) ในสมัยก่อน ของจริงขุดเจอที่มณฑลหูเป่ย์
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi30.jpg)
อาคารเล็กตรงกลางหลังถัดมาจัดแสดงระฆังประเภทที่เรียกว่าฝานจง (梵钟) หมายถึงระฆังขนาดใหญ่สลักลายสวยงามที่มักวางไว้ตามวัดหรือสถานที่สำคัญเอาไว้คอยเคาะบอกเวลา กล่าวกันว่าทุกวันต้องมีระฆัง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi31.jpg)
ต่อมาอาคารฝั่งตะวันตกส่วนที่อยู่ถัดจากอาคารที่แสดงประวัติศาสตร์ของวัดซึ่งเข้าไปตอนแรก ตรงนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการหล่อระฆังโลหะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi32.jpg)
ขั้นตอนการหล่อระฆังนั้นต้องปั้นดินนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ต้องเอาดินมาปั้นเป็นแบบทั้งส่วนนอกและใน จากนั้นจึงเทโลหะเหลวลงไปในแบบแล้วรอให้แข็งตัวจากนั้นก็เอาดินที่เป็นแบบออกไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi33.jpg)
นอกจากวิธีการใช้ดินเหนียวแล้ว อาจใช้วิธีเอาขี้ผึ้งมาปั้นเป็นรูปเหมือนระฆังที่ต้องการทำ จากนั้นเอาดินเลนมาคลุม แล้วใช้ความร้อนละลายขี้ผึ้งออกไป เท่านี้ก็จะได้แบบหล่อสำหรับมาใช้ใส่โลหะเหลวเพื่อหล่อระฆังโลหะต่อไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi34.jpg)
วัตถุดิบที่ใช้ในการหล่อระฆัง โลหะผสมชนิดต่างๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi35.jpg)
เบ้าหลอมระฆังโบราณที่ขุดเจอแถวเมืองเจิ้งโจว (郑州) มณฑลหูหนาน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi36.jpg)
ผนังตรงนี้แสดงเกี่ยวกับเทคนิกการหลอมโลหะสมัยโบราณ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi37.jpg)
เครื่องมือทางดาราศาสตร์โบราณที่อยู่ในหอสังเกตการณ์โบราณของปักกิ่ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi38.jpg)
หัวพระพุทธรูปทำจากสำริด
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi39.jpg)
ฐานดอกบัว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi40.jpg)
ตรงสุดทางมีพระพุทธรูปพระไวโรจนพุทธะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi41.jpg)
ตัดกลับมาทางอาคารฝั่งตะวันออกส่วนถัดไป ตรงนี้เป็นส่วนที่จัดแสดงระฆังของต่างประเทศ
นี่คือระฆังชุดที่เรียกว่าการียง (carillon) เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส เอาไว้ใช้ดีดเหมือนพวกเปียโนหรือคีย์บอร์ดเพื่อเล่นเป็นดนตรี ในภาษาจีนเรียกมันว่าจงฉิน (钟琴) แปลตรงๆว่าพิณระฆัง บนตัวระฆังแต่ละอันในนี้มีสลักข้อความเป็นภาษาละตินอยู่ด้วย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi42.jpg)
ระฆังมิตรภาพจีน-นอร์เวย์ (中挪友谊钟)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi43.jpg)
ระฆังโบสถ์ฟินแลนด์
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi44.jpg)
ระฆังสำริดรัสเซีย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi45.jpg)
ระฆังมิตรภาพจากอิตาลี (意大利友谊钟)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi46.jpg)
ส่วนนี่เป็นแบบจำลองขนาดย่อของระฆังญี่ปุ่น มาจากวัดเมียวชินจิ (妙心寺) ในเกียวโต เป็นระฆังพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างในปี 698 สูง ๑๕๐.๕ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๘๖ ซม.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi47.jpg)
และนี่เป็นแบบจำลองขนาดย่อของระฆังเกาหลี ระฆังพระเจ้าซ็องด็อกมหาราช (성덕대왕신종, 圣德大王神钟) สร้างขึ้นเสร็จในปี 771 ผู้สั่งให้สร้างคือพระเจ้าคย็องด็อก (경덕왕, ปี 742 - 765) แห่งอาณาจักรซิลลา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พ่อของเขา คือพระเจ้าซ้องด็อกมหาราช (ปี 702 - 737) ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi48.jpg)
จากนั้นมาดูต่อที่อาคารเล็กส่วนตรงกลางอีกหลัง นี่เป็นอาคารที่จัดแสดงระฆังของวัดต่างๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi49.jpg)
ระฆังวัดถานเจ้อ (潭柘寺) ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของปักกิ่ง ระฆังสร้างเมื่อปี 1679 สูง ๑๔๐.๙ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางที่ฐาน ๙๓ ซม. หนัก ๔๒๔ กก.
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi50.jpg)
วัดถานเจ้อ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi51.jpg)
และนอกจากนี้ก็ยังมีระฆังของวัดอื่นอีกหลายแห่ง
อาคารสุดท้ายปลายทาง เป็นอาคารที่บรรจุระฆังหย่งเล่อซึ่งเป็นระฆังสำคัญอันหลักของที่นี่นั่นเอง กว่าจะได้เห็นของที่สำคัญที่สุดก็ต้องเข้ามาถึงด้านในสุดเลย อดใจรออยู่นาน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi52.jpg)
ระฆังหย่งเล่อ มีขนาดใหญ่อลังการแต่รูปแบบเรียบๆไม่สะดุดตา
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi53.jpg)
หากสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีตัวอักษรสลักไว้มากมายบนตัวระฆัง มีทั้งภาษาจีนและภาษาสันสกฤต รวมแล้วอักษรมากกว่าสองแสนตัว มีอยู่ทั้งด้านนอกและด้านในตัวระฆัง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi54.jpg)
ดูระฆังหย่งเล่อเสร็จก็ยังไม่จบแค่นี้ เดินถัดมาทางตะวันออกอีกก็จะเจอสวนที่มีหอระฆังอยู่เต็มไปหมด สวนนี้ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1994 แต่ระฆังที่ประดับอยู่ตรงนี้เป็นระฆังโบราณ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi55.jpg)
ระฆังที่ใหญ่และเด่นที่สุดอยู่ตรงกลางนี้คือระฆังที่เคยอยู่ในหอระฆังปักกิ่ง สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/zhongguo/beijing/dazhongsi/dazhongsi56.jpg)
หมดแค่นี้ ใช้เวลาอยู่ในนั้นราวๆ ๒ ชั่วโมงกว่าเลย ที่จริงบริเวณข้างในไม่ได้กว้างอะไรมากมายแต่ครั้งนี้เดินแบบค่อนข้างเก็บรายละเอียดพอสมควรเพราะมาคนเดียวแล้วก็เพราะเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้มาง่ายเลยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา หากเป็นการเที่ยวต่างแดนหรือแม้แต่ต่างเมืองเองก็ตาม เวลาเที่ยวสถานที่ที่เป็นพวกพิพิธภัณฑ์คนเรามักจะไม่มีเวลาได้เก็บรายละเอียดอะไรมาก ดังนั้นการมีโอกาสได้มาอยู่และมีเวลาดูเรื่อยเปื่อยแบบนี้ถือเป็นเรื่องดีจริงๆ
หลังจากนี้ปักกิ่งก็จะย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว หวังว่าจะมีเวลาไปเที่ยวไหนเพื่อมาเล่าอีก ยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป ไม่เคยนำมากล่าวถึงในนี้
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ