φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



เที่ยวปีนเขาหั่วหยานในเหมียวลี่
เขียนเมื่อ 2018/10/21 10:41
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# เสาร์ 20 ต.ค. 2018

เมื่อวานไปปีนเขากับเพื่อนมาอีกแล้ว เขาที่เลือกไปครั้งนี้คือเขาหั่วหยาน (火炎山, หั่วหยานซาน) อยู่ตรงรอยต่อระหว่างตำบลซานอี้ (三義) และตำบลย่วนหลี่ (苑裡) ทางตอนใต้ของจังหวัดเหมียวลี่ (苗栗) บริเวณที่ติดกับเมืองไถจง (台中)

แผนที่แสดงตำแหน่งของจังหวัดเหมียวลี่และการแบ่งเขตภายในจังหวัด



ซานอี้และย่วนหลี่อยู่ทางซ้ายล่าง ติดกับไถจง

ที่นี่เป็นเขาที่มีภูมิประเทศที่น่าสนใจ มีบริเวณที่โดนลมและฝนกัดกร่อนจนเขามีหน้าตัดเรียบโล้นแหลม จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ซึ่งทำให้ผู้คนสนใจอยากมาปีนเพื่อชม

นอกจากนี้จากบนเขายังสามารถเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำต้าอานซี (大安溪) เป็นแม่น้ำที่กั้นระหว่างเหมียวลี่และไถจง และมองเห็นเมืองไถจงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เขานี้มียอดสูงสุดที่เดินไปถึงได้สูงจากระดับน้ำทะเล ๖๐๒​ เมตร อย่างไรก็ตามจุดชมทิวทัศน์สวยงามที่เป็นเป้าหมายสำคัญนั้นอยู่บนครึ่งทางที่จะไปยอดเขา และถึงไปจนถึงยอด จุดนั้นก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น จึงอาจแค่มาเพื่อชมจุดที่มีทิวทัศน์สวยสุดแล้วก็กลับ



การเดินทางไปคือมีเพื่อนขับรถ เช่นเดียวกับตอนที่ไปเขาเซียน (仙山) ซึ่งอยู่ในเหมียวลี่เหมือนกัน https://phyblas.hinaboshi.com/20180923

จังหวัดนี้การเดินทางไม่ค่อยง่าย การมีรถขับไปเองจึงเป็นอะไรที่สะดวกมาก ถ้านั่งรถเมล์มาที่นี่จะไม่ได้สะดวกนัก

เราออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยชิงหัวในเมืองซินจู๋ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าจึงมาถึงหน้าทางขึ้นเขา

ที่หน้าทางขึ้นเขานี้มีที่จอดรถ ค่าจอด ๕๐ จอดได้ทั้งวัน



จากที่จอดรอเดินเลี้ยวซ้ายไปก็ไปถึงทางขึ้นเขาได้ทันที แต่เนื่องจากยังมีบางคนไม่ได้กินเข้าเช้ามาจึงแวะร้านที่อยู่ข้างๆก่อน



ไก่ร้านนี้อร่อยดี



กินเสร็จก็เดินย้อนมาตรงทางขึ้นเขา



นี่เป็นแผนที่ การจะไปถึงจุดยอดได้ต้องเดิน ๓.๓ กม. จากนั้นจะมีทางเดินกลับลงอีกทาง แต่จะไม่เดินไปถึงยอดแล้วก็เดินย้อนลงมาทางเดิมก็ได้



ทางเดินขึ้นเขาช่วงต้นๆ เดินไม่ยาก ทางลาดขึ้นทีละนิดความชันไม่มาก บางส่วนที่ดูเหมือนจะตกได้ง่ายก็จะมีเชือกกั้น






ขึ้นมาสักระยะก็มีจุดที่มองลงไปแล้วเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้ ที่เห็นตรงนี้เป็นฝั่งใต้ของภูเขา ซึ่งก็คือหันไปทางเมืองไถจง มีแม่น้ำสายใหญ่ที่ส่วนใหญ่เหือดแห้งอยู่คือแม่น้ำต้าอานซี



ถัดจากตรงนั้นมาหน่อยก็เจอเสาหลักที่ใช้บอกว่าเราเดินมาแล้ว ๕๐๐ เมตร เราเดินมาถึงตรงนี้โดยใช้เวลาไป ๑๕ นาที ส่วนที่เห็นด้านบนเครื่องหมาย + ไม่ใช่โอเคแต่เป็นศูนย์เค หมายถึงศูนย์กิโลเมตร



เดินต่อมาก็เจอจุดที่เห็นทิวทัศน์สวยๆได้ประปราย




บางบริเวณเป็นทางเดินแคบอันตรายแต่มีเชือกกั้นอยู่จึงไม่ต้องเป็นห่วง





ตรงนี้เริ่มมองเห็นบริเวณเขาส่วนที่เรียบแหลมที่เป็นเป้าหมายหลักที่อยากจะมาดู แต่ยังไม่ใช่มุมที่เห็นชัดดีนัก



ไปต่อ




แล้วก็มาถึงเสาที่บอกว่าเดินมา ๑ กม. แล้ว ขณะนั้นผ่านไปแล้วกว่า ๓๕ นาทีหลังจากเริ่มเดิน



ไปต่ออีกสักหน่อย



ก็เจอจุดที่มีเก้าอี้ให้นั่งพัก จึงหยุดพักสักครู่ค่อยไปต่อ




ที่ตรงนี้มีทางแยกแต่ด้านขวาโดนปิดแล้วมีป้ายเขียนให้ไปทางซ้ายคือ 小峽谷 (เสี่ยวเสียกู่) แปลว่าทางร่องเขาแคบๆ



ทิวทัศน์ที่มองลงไปเห็นได้ระหว่างทาง




ป้ายนี้บอกว่าห้ามเด็ดดอกไม้ต้นไม้ใบหญ้าใดๆจากที่นี่ไป มีป้ายคล้ายๆแบบนี้อยู่ประปรายตลอดทาง



เดินต่อมาอีกก็ถึงหลัก ๑.๕ กม. หลังเดินมาแล้ว ๑ ชั่วโมงกับอีก ๕ นาที



ถัดจากตรงนั้นก็ได้เจอจุดที่เห็นผาสวยๆได้




แต่ว่านั่นก็ยังไม่ใช่จุดที่มองเห็นได้สวยที่สุด ยังต้องเดินต่อไปอีก



ระหว่างทางเจอทางแยกที่มีเขียนว่าทางซ้ายเป็น 輕鬆 (ชิงซง) สบายๆ ทางขวาเป็น 挑戰 (เถี่ยวจ้าน) แปลว่าท้าทาย หมายความว่าเส้นทางมีความลำบากในการเดินไปต่างกัน พวกเราเลือกไปทางซ้าย



แล้วเดินต่อมาอีกในที่สุดก็ถึงจุดที่ชมทิวทัศน์ได้สวยที่สุด ตรงนี้มีคนเบียดเสียดมากมายแย่งกันหาจุดถ่ายรูป เราใช้เวลาไป ๑ ชั่วโมงกับ ๒๕ นาทีในการมาถึงตรงนี้



ภาพทิวทัศน์ที่ถ่ายได้ตรงนี้สวยงามมาก เห็นเขาแหลมโล้นทางโน้น



และยังเห็นช่องเขาระหว่างเขานี้กับเขานี้




บางบริเวณมีสีแดงสดดูแล้วสวย




ลักษณะเขาบริเวณนี้เองที่เป็นที่มาของชื่อเขาหั่วหยาน โดยหั่ว (火) แปลว่า "ไฟ" และหยาน (炎) แปลว่า "เปลวไฟ"




เราอยู่ตรงนี้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ตัดสินใจจะไม่เดินต่อ เพราะระหว่างทางก็มีคนที่เดินย้อนกลับลงมาบอกว่าจุดนี้สวยสุดแล้ว ถึงไปต่อก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่านี้ให้ดู และก็ใช้เวลาไปเยอะแล้ว นี่ยังถือเป็นแค่ครึ่งทางเท่านั้นถ้าจะไปให้ถึงตรงยอด จึงจบการเที่ยวปีนเขาเพียงเท่านี้

ขากลับเดินลงข้างล่างใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้น คือประมาณชั่วโมงนึงพอดี

ระหว่างทางเดินกลับลงเจอต้นไม้ที่กำลังออกผลสีม่วงสดใสซึ่งก็ดูไม่ออกว่าเป็นอะไรเหมือนกัน





ปีนเขาเสร็จก็นั่งรถเข้าแถวกลางชุมชนตำบลซานอี้ ที่จริงแถวนี้มีพิพิธภัณฑ์รูปสลักไม้ซานอี้ (三義木雕博物館) เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่ง แต่ไม่ได้แวะ



ตรงนี้มี hi-life ขนาดใหญ่ซึ่งมีที่จอดรถ จึงแวะเข้าไปซื้ออะไรรองท้องกินเป็นมื้อเที่ยงกัน




การเที่ยวในวันนี้ยังไม่จบลงเท่านี้ เพราะลงจากเขาแล้วยังมีเวลาเหลือ จึงตัดสินใจไปเที่ยวสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้ๆนั้นต่อ นั่นคือหอวัฒนธรรมฮากกาไต้หวัน (台灣客家文化館) ซึ่งจะขอแยกไปเล่าในตอนหน้า https://phyblas.hinaboshi.com/20181022



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศจีน >> ไต้หวัน >> เหมียวลี่
-- ท่องเที่ยว >> ภูเขา

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ