หลังจากที่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไต้หวันเจอโควิดระบาดหนัก และต่อเนื่องจนตลอดเดือนมิถุนายน ดังที่เคยเล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20210630พอถึงเดือนกรกฎาคม สถานการณ์ก็เริ่มจะดีขึ้น จนในที่สุด 27 ก.ค. ก็สามารถผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ลดระดับการเตือนภัยลงมา ดังนั้นวันนี้เลยจะมาขอเล่าถึงเหตุการในช่วงเดือนนี้จนถึงวันนี้ที่คนไต้หวันรอคอยกันมานาน
ช่วงต้นเดือนนั้นยังคงอยู่ในช่วงป้องกันโควิดอย่างเข้มงวด จึงทำให้ร้านอาหารต่างๆไม่เปิดให้นั่งกิน ต้องซื้อกลับไปตลอด
โรงอาหารในมหาวิทยาลัยชิงหัวเองก็เช่นกัน และบ่อยครั้งก็เลยต้องซื้ออาหารแช่แข็งอุ่นร้อนใน 7-11 หรือ family mart ง่ายกว่าไปซื้อตามร้านอาหารข้างนอกหรือในโรงอาหาร เพราะยังไงก็นั่นกินตรงนั้นไม่ได้ ต้องถือกลับไปกินอยู่ดี
แต่พอถึง 1 ก.ค. อาคารสุ่ยมู่ (水木) ชั้น ๑ ปิดปรับปรุง ร้าน family mart ที่อยู่ในนี้ก็ปิดตัวลง และโรงอาหารในนี้ก็ปิดตัวตามไปอีก
ที่เหลือยังเปิดอยู่ก็คือร้าน 7-11
ทำให้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส่วนใหญ่ได้แต่กินอาหารแช่แข็งอุ่นร้อนจาก 7-11 เป็นประจำ
ส่วนโรงอาหารเสี่ยวชือปู้ (小吃部) ถูกปิดปรับปรุงมาเป็นเวลานาน จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม
ในภาพนี้คือวันที่ 6 ก.ค. ซื่อใกล้จะปรับปรุงเสร็จ
แล้วพอถึงวันที่ 9 ก.ค. โรงอาหารก็เปิด เริ่มมีการจัดโต๊ะ
แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงระวังโควิดอยู่ โรงอาหารก็ยังไม่เปิดให้นั่งกินได้อยู่ดี ตรงบริเวณโต๊ะอาหารเลยถูกปิดเอาไว้
แต่ร้านส่วนหนึ่งที่นี่ค่อยๆทยอยเปิด จึงสามารถไปซื้อเพื่อเอากลับไปกินได้
วันที่ 14 ก.ค. ได้ลองเดินออกมาซื้ออาหารข้างนอกมหาวิทยาลัยบ้าง
แวะมาสั่งอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เมื่อก่อนเคยแวะกินอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้ไม่เปิดให้กิน ได้แต่ซื้อกลับไปกิน บรรยากาศในร้านก็จะเห็นว่าโต๊ะเก้าอี้ถูกเก็บหมด เหลือแต่เคาน์เตอร์สั่งอาหาร
วันที่ 18 ก.ค. แวะไปดูร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้าน ก็อยู่ในสภาพเดียวกัน คือเข้าไปนั่งกินไม่ได้ ได้แต่ซื้อกลับไปกิน
ช่วงนี้ภายในมหาวิทยาลัยควบคุมคนเข้าออก โดยเวลาเข้าออกต้องแสดงบัตรนักศึกษา และนอกจากนี้ประตูที่กั้นระหว่างมหาวิทยาลัยชิงหัวกับมหาวิทยาลัยเจียวทงก็ถูกปิดไป
วันที่ 24-25 เจอพายุไต้ฝุ่นเข้าซัดไต้หวัน ทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ แถวเมืองซินจู๋ที่อยู่นี้ก็เจอฝนตกหนักแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงมาก พายุก็ผ่านไปได้ด้วยดี
แล้วก็มาถึงวันที่ 27 ซึ่งทางรัฐบาลได้หวันประกาศให้คลายลดระดับมาตรการควบคุมโลกลง โรงอาหารจึงเริ่มเปิดให้นั่งกินได้ในที่สุด เพียงแต่ว่าเก้าอี้ต้องวางห่างๆกัน และยังต้องมีแผงกั้นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนนั่งกินด้วยกัน ทำให้การนั่งกินในร้านยังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก และเท่าที่ดูคนที่มานั่งกินก็ยังคงมีไม่มาก ส่วนใหญ่ยังคงซื้อกลับไป
แม้ว่าจะเปิดให้นั่งกินในโรงอาหารได้แล้ว แต่อาหารที่ซื้อในโรงอาการก็ยังเป็นแบบใส่กล่องกระดาษ ไม่ต่างจากเวลาที่ซื้อกลับไปกิน คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกสักพัก แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้แค่เริ่มนั่งกินในโรงอาหารได้ก็ถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญ จากนี้ก็คงจะค่อยๆดีขึ้น
อันนี้เป็นภาพจากข่าวของวันนี้ ซึ่งเผยภาพบรรยากาศตามร้านอาหารในไต้หวัน ซึ่งเปิดให้คนนั่งกินได้แล้ว แต่เนื่องจากมีข้อกำหนดให้ห้ามนั่งติดกัน และยังต้องวางแผ่นกั้นระหว่างคน ทำให้ดูทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย
ต่อจากนี้ไปก็หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตกันแบบปกติได้ในที่สุด