φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



โนบิรุ ซากสถานีรถไฟเก่าและสวนอธิษฐานฟื้นฟูภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ
เขียนเมื่อ 2024/02/19 19:46
แก้ไขล่าสุด 2024/02/20 08:36
# เสาร์ 17 ก.พ. 2023

ต่อจากตอนที่แล้วที่เที่ยวเมืองโอนางาวะจนเสร็จแล้วนั่งรถไฟย้อนกลับมา https://phyblas.hinaboshi.com/20240218

เป้าหมายต่อไปที่เราจะไปเที่ยวคือที่สวนอธิษฐานฟื้นฟูภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (東松島市東日本大震災復興祈念公園ひがしまつしましにほんだいしんさいふっこうきねんこうえん) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีโนบิรุ (野蒜駅のびるえき) ในเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (東松島市ひがしまつしまし)

ตำแหน่งเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะในจังหวัดมิยางิ แสดงเป็นสีชมพูเข้ม อยู่ริมชายฝั่ง




เมืองฮิงาชิมัตสึชิมะนั้นตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อครั้งภัยพิบัติทสึนามิปี 2011 จึงเป็นเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยในเมืองนี้มีสถานีรถไฟอยู่ทั้งหมด ๘ สถานี ทุกสถานีอยู่ไม่ห่างจากทะเลจึงได้รับความเสียหายทั้งหมด หนึ่งนั้นก็คือสถานีโนบิรุ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราครั้งนี้

ตัวสถานีโนบิรุเก่านั้นเสียหายจากคลื่นทสึนามิถล่มและปิดตัวลง แล้วมีการสร้างสถานีใหม่ขึ้นมาแทนโดยลึกเข้าไปในแผ่นดิน ๕๐๐ เมตรและอยู่บนพื้นที่สูง ซึ่งก็คือตัวอาคารปัจจุบันที่เรานั่งรถไฟไปลงคราวนี้

ส่วนตัวอาคารเก่าและชานชลาซึ่งได้รับความเสียหายแต่ยังพอซ่อมแซมได้จึงได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายมาเป็นหอที่ระลึกฟื้นฟูภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (東松島市震災復興伝承館ひがしまつしまししんさいふっこうでんしょうかん) ซึ่งจัดแสดงระลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์คราวนั้น และบริเวณรอบๆอาคารสถานีเก่านี้ก็ได้ถูกเปิดเป็นสวนอธิษฐานฟื้นฟูดังกล่าว

อนึ่ง เมืองฮิงาชิมัตสึชิมะนี้เป็นเมืองเกิดใหม่ในปี 2005 จากการควบรวมกันระหว่าง ๒ เมืองเล็กคือเมืองยาโมโตะ (矢本町やもとちょう) กับเมืองนารุเสะ (鳴瀬町なるせちょう) โดยที่เมืองนารุเสะนี้เองก็เกิดขึ้นมาในปี 1955 จากการควบรวมระหว่างหมู่บ้านโนบิรุ (野蒜村のびるむら) ซึ่งเป็นบริเวณที่สถานีโนบิรุนี้ตั้งอยู่ กับอีก ๒ หมู่บ้านคือหมู่บ้านโอโนะ (小野村おのむら) และหมู่บ้านมิยาโตะ (宮戸村みやとむら)



จากสถานีโอนางาวะ เรานั่งรถไฟย้อนกลับมาตามสายอิชิโนมากิถึงสถานีอิชิโนมากิเวลา 11:34 จากตรงนี้ต้องรอขึ้นรถไฟไปตามสายเซนเซกิเวลา 11:55 ต้องรออยู่ในสถานี ๒๑ นาที



ระหว่างนั้นพอดีมีคนสวมชุดเป็นตัวละครสนับสนุนการท่องเที่ยวของเมืองนี้ อิชิเปียวง์ (いしぴょん) ก็เลยเดินดูและถ่ายภาพเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอ




ดูอยู่สักพักก็มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาอีก




พวกเขามารอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มากับรถไฟทางโน้นนั่นเอง




ระหว่างที่รออยู่ก็มีรถไฟขบวนที่ตกแต่งเป็นตัวละครฮีโร่เข้ามาจอด ในนั้นมีผู้โดยสารแน่นเต็ม




ผู้คนลงจากรถไฟนั้นกันเต็ม



หลังจากที่ดูอยู่สักพักเราก็ขึ้นรถไฟที่จะนั่งเพื่อย้อนกลับแล้วก็รอจนเวลา 11:55 รถไฟออก เดินทางย้อนกลับสู่ทางเซนได

แล้วเวลา 12:15 ก็มาถึงสถานีโนบิรุที่เป็นเป้าหมาย



แต่ก็เจอปัญหาที่ไม่คาดคิด คือตอนที่เราลงจากรถไฟเราก็พบว่าทำการ์ดคีย์สำหรับหอพักหาย น่าจะหล่นหายระหว่างที่เดินเที่ยวอยู่ในเมืองโอนางาวะหรือไม่ก็บนรถไฟ ทำให้กังวลว่าถ้ากลับไปถึงหอจะทำยังไง สามารถเข้าได้หรือเปล่า ซึ่งตอนหลังลองค้นข้อมูลดูก็พบว่าไม่เป็นไร ไปคุยกับเจ้าหน้าที่หอพัก ยืนยันตัวตนได้เขาก็ช่วยเราได้ รอดไป แต่ว่าก็ทำให้ระหว่างที่เที่ยวที่นี่อยู่รู้สึกใจไม่ดี พะวงไป ไม่สามารถจดจ่อกับการเที่ยวได้เต็มที่เท่าที่ควร

ตอนแรกยังคิดว่าจะรีบนั่งรถไฟกลับเซนไดไปเลยเพื่อจัดการเรื่อง แต่คิดว่าไหนๆเดินทางมาแล้วก็ขอเที่ยวให้ถึงที่สุดตามแผนดีกว่า อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว

ยังไงก็ตาม การเที่ยวก็ดำเนินต่อไป เราเดินออกจากสถานีโนบิรุออกมา



หน้าสถานีมีฝาท่อรูปตัวละครสวยดี



และถัดมาอีกหน่อยก็เจอฝาท่อโปเกมอน ซึ่งที่จริงแล้วนี่เป็นเป้าหมายหลักจริงๆที่เราแวะมาสถานีนี้ทั้งทีจริงๆที่นี่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ต้องการแวะมาเก็บฝาท่อนี้เท่านั้นเอง



โปเกมอนของเมืองนี้คือลาปลาส (ラプラス) และลาทีออส (ラティオス) ดูรายละเอียดได้ในนี้ https://local.pokemon.jp/manhole/desc/48/




ภาพฝาท่อคู่กับอาคารสถานี



ส่วนข้างๆสถานีนั้นเป็นอาคารโอกุมัตสึชิมะอีตพลาซา (奥松島おくまつしまイートプラザ) เป็นศูนย์แนะนำการท่องเที่ยว




ภายในนี้มีพวกแผนที่แนะนำการท่องเที่ยว เห็นแผ่นที่เขียนถึงการเที่ยวตามล่าฝาท่อโปเกมอนในเมืองตามชายฝั่งจังหวัดมิยางิด้วย ซึ่งเราก็ได้ไปตามเก็บมาแล้วหลายที่ และล่าสุดก็คือเมืองนี้



ภายในนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินออกมา ระหว่างเดินอยู่ข้างๆอาคารก็เห็นแปลงตรงนี้



มีต้นสวยงามโดดเด่นอยู่ เลยถ่ายภาพเก็บไว้แล้วลองไปค้นดูแล้วพบว่าน่าจะเป็นต้นฮาโบตัง (葉牡丹ハボタン, Brassica oleracea var. acephala f. tricolor) เป็นกะหล่ำปลีพันธุ์หนึ่ง ที่เห็นสวยงามไม่ใช่ดอก แต่เป็นใบที่มีสีสันสวยงาม



ข้างๆนั้นเป็นศูนย์ชาวเมืองโนบิรุ (野蒜市民のびるしみんセンター)



เดินถัดมาเป็นสวนซาโตะโนะโควเองฮิงาชิ (さと公園東こうえんひがし)



จากตรงนี้มีทางเดินลงไป ซึ่งสามารถลอดใต้ทางรถไฟเพื่อไปยังฝั่งใต้ของสถานี ซึ่งมีอาคารสถานีเก่าและสวนอธิษฐานอยู่



ลอดใต้ทางรถไฟ



แล้วเดินต่อมา




ผ่านบริเวณนี้ซึ่งเรียกว่าโอกุมัตสึชิมะคลับเฮาส์ (奥松島おくまつしまクラブハウス) เป็นสวนที่มีพวกร้านอาหารและหอศิลป์



อาคารนี้เป็นร้านชา



ส่วนตรงนี้เป็นหอศิลป์ GALLERY คุโรซาวะ เอย์สึเกะ (GALLERY黒澤英介くろさわえいすけ) นักถ่ายภาพเครื่องบิน แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปดูข้างใน




สวนเด็กเล่น



จากนั้นเดินผ่านต่อมาจึงมาถึงสวนอธิษฐาน



และตรงโน้นก็คือตัวสถานีเก่า ประกอบไปด้วยชานชลาและอาคารสถานี



ตรงข้างๆชานชลามีอนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่



สภาพชานชลาเก่า ดูเผินๆก็เหมือนอย่างกับสถานีรถไฟธรรมดาที่เปิดใช้การอยู่เลย แต่ว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านที่นี่



และเดินมาถึงส่วนปลายก็จะเห็นว่ารางรถไฟขาดตอนอยู่แค่นี้ เพราะรางส่วนอื่นได้ถูกรื้อทิ้งหมดแล้ว ตัวรางก็ได้ถูกย้ายลึกเข้าไปในแผ่นดิน ผ่านสถานีปัจจุบัน



ป้ายอธิบายเกี่ยวกับสวนอธิษฐานแห่งนี้



จากตรงนี้จึงมีทางให้เข้าไปเดินดูด้านในได้




ต่อมาก็มาดูตัวอาคารสถานี



ภายในเป็นส่วนจัดแสดงเล็กๆ




ทางนี้แสดงภาพที่เล่าเรื่องภัยพิบัติทสึนามิครั้งนั้น และการฟื้นฟูหลังเหตการณ์




มีห้องมืดๆที่ตั้งแสดงนกกระเรียนกระดาษ



ส่วนตรงนี้แสดงงานประติมากรรมทรายของเมืองนี้



ส่วนหินที่ตั้งอยู่นี้เรียกว่า หินโนบิรุ (野蒜石のびるいし) เห็นเขาว่าพื้นที่นี้มีหินคุณภาพดีที่ถูกนำไปใช้สำหรับการก่อสร้างต่างๆ



ตรงมุมนี้มีของที่ระลึกขายอยู่นิดหน่อย



แล้วก็เดินออกมาจากอาคารตรงฝั่งติดถนน




ฝั่งตรงข้ามเป็นสะพาน ถ้าข้ามไปทางโน้นก็จะเป็นชายฝั่งทะเล



เดินย้อนมาดูตรงชานชลาอีกหน่อย



ป้ายสถานี



จากนั้นเดินย้อนมายังส่วนโอกุมัตสึชิมะคลับเฮาส์ก็พบว่ายังมีส่วนที่ยังไม่ได้เข้าชมตอนผ่านเมื่อกี้ คือสวนบนไซ (盆栽庭園ぼんさいていえん)



ภายในเต็มไปด้วยบนไซ ดูสวยดี




แล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิม กลับไปยังสถานีโนบิรุแห่งปัจจุบัน





กลับมาถึงสถานี



ตอนย้อนกลับมาถึงหน้าสถานีเราจึงเพิ่งมาเจอทางเข้าอุโมงค์ลอดซึ่งสามารถลอดจากตรงนี้ไปยังฝั่งทางใต้ของทางรถไฟซึ่งสถานีเก่าและสวนอธิษฐานตั้งอยู่ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้ เท่ากับว่าจริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องอุตส่าห์ไปเดินอ้อมไกล แต่ก็รู้ช้าไปแล้ว เดินอ้อมไปแล้ว



เดินกลับเข้ามาในสถานี จากสถานีนี้สามารถใช้บัตร Suica ได้ จึงสะดวก ไม่ต้องซื้อตั๋ว



แล้วก็มาขึ้นรถไฟรอบเวลา 13:12 เพื่อย้อนกลับไปทางเซนได



แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้จะกลับเซนไดทันที แต่ยังมีเป้าหมายที่ตั้งใจจะแวะไปอีก ซึ่งจะเล่าถึงในตอนหน้า https://phyblas.hinaboshi.com/20240220



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> มิยางิ
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ
-- บันเทิง >> เกม >> โปเกมอน
-- ท่องเที่ยว >> ที่ระลึกภัยพิบัติ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ