φυβλαςのβλογ
phyblasのブログ



เที่ยวชมหมู่วัดทางตะวันตกของมัณฑะเลย์
เขียนเมื่อ 2015/08/29 19:57
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#จันทร์ 27 ก.ค. 2015

หลังจากที่เมื่อวานไปเที่ยวหมู่วัดทางตะวันออกของเมืองมัณฑะเลย์แล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150827

เข้าสู่วันที่ ๓ ของการเที่ยวพม่า เป้าหมายของวันนี้คือการเที่ยวหมู่วัดทางตะวันตกของเมือง ซึ่งได้แก่
- วัดมะฮามูนี (
မဟာမုနိဘုရားကြီးmahamuni buyar kyi)
- เจดีย์มะฮาธะจะธีฮะ (မဟာသကျသီဟဘုရားmahar thakya thiha buyar
)
- เจดีย์เอนดอยา (
အိမ်တော်ရာဘုရားeindawya buyar)
- เจดีย์ชเวจีมยิน (
ရွှေကြီးမြင့်စေတီshwekyimyint zedi)



เช้านี้ตื่นเช้ามาตอนตีห้าครึ่ง พอหกโมงก็ขึ้นไปทานอาหารชั้น ๖ อาหารวันนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อวานนิดหน่อย



ชมทิวทัศน์รอบโรงแรม ตรงนี้มองออกไปสวยดี




MOE โรงแรมโมเอะ?



พอทานเสร็จก็ลงมาเตรียมตัวออกเดินทาง รถแท็กซีมารับตอนเจ็ดโมงเช้า ขณะที่แแกนั้นฝนไม่ตกแล้วแต่ยังมีร่องรอยของฝนอยู่ และตอนสายๆฝนก็เริ่มตกลงมาปรอยๆอีกแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยว

วันนี้มีเวลาเที่ยวแค่ครึ่งเช้าเท่านั้นเอง เป้าหมายของวัดนี้อยู่ที่วัดที่อยู่ทางตะวันตกของเมือง และสถานที่อื่นๆในระแวกนั้น

ที่แรกคือวัดมะฮามูนี อยู่ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มาก ถูกสร้างขึ้นในปี 1784 - 1785 สมัยพระเจ้าโบดอบูยา (
ဘိုးတော်ဘုရားbodaw bhuyar) หรือที่คนไทยเรียกว่าพระเจ้าปดุง แต่ก็ถูกไฟไหม้ในปี 1884 จึงมีการสร้างใหม่

ภายในประดิษฐานพระมหามัยยมุนี พระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ และเป็นที่มาของชื่อวัด พระนี้ถูกนำมาจากยะไข่ในปี 1784  หลังจากที่กองทัพพม่าภายใต้การนำทัพของลูกชายของพระเจ้าปดุง เจ้าชายธะโดมีนซอ (သတိုးမင်းစောthado minsaw
) สามารถตีเมืองยะไข่แตกได้

วัดนี้มีชื่อเสียงเรื่องพิธีล้างพระพักต์ล้างหน้าพระมหามัยยมุนี ซึ่งทำทุกวันเวลาตีสี่ เราไม่ได้ไปชมเพราะมันเช้าเกินไป ขอแค่ไปชมแบบสบายๆก็พอ

ทางเข้าหน้าวัด



ทางเดินเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยร้านค้า




มีขายแผ่นเพลงด้วย



สองฝั่งของวัดมีน้ำพุสวยๆอยู่




แต่ที่จริงตอนแรกคนขับไม่ได้พาเราไปเข้าทางประตูหน้า แต่เป็นประตูด้านข้างซึ่งค่อนข้างเล็กและเงียบกว่า





ที่นี่ต้องจ่าย ๑๐๐๐ จ๊าดสำหรับคนที่ถือกล้องถ่ายรูปด้วย

อาคารวิหารเจดีย์ใจกลางวัด



บริเวณใต้วิหารเจดีย์ใจกลาง




ทางเข้าห้องใจกลางซึ่งมีพระมหามยมุนีอยู่



โฉมหน้าพระมหามยมุนี



นี่คือภาพของพระมหามยมุนีเปรียบเทียบปี 1901 กับปี 1935 คนมาปิดทองเรื่อยๆพอเวลาผ่านไปก็เต็มไปด้วยทอง



เดินดูภายในบริเวณวัดส่วนอาคารรอบๆวิหารใจกลาง










นี่คือรูปหล่อสำริดที่ถูกนำมาจากไทยโดยพรุะเจ้าบุเรงนองตอนที่ตีกรุงศรีอยุธยาในปี 1563 แต่มีบันทึกว่ารูปหล่อพวกนี้เอามาจากนครวัดในกัมพูชาอีกที



ชมเสร็จก็กลับมาขึ้นรถเพื่อไปชมวัดต่อไป



ก่อนจะไปชมวัดต่อไประหว่างทางแวะดูโบถส์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในมัณฑะเลย์โบสถ์เซ็นต์โจเซฟ (St. Joseph)



ลองเข้ามาดูในบริเวณ




ประตูปิดอยู่เลยเข้าในอาคารไม่ได้ แต่มองจากด้านนอกเข้าไปได้



ด้านข้างมีประตูเปิดอยู่



เข้ามาดูด้านในได้



ขึ้นชั้น ๒ ได้



แต่ประตูที่จะเข้าไปในห้องด้านในก็ปิดอยู่จึงไปต่อไม่ได้



จะเจอก็แต่ห้องเก็บอุปกรณ์



จากนั้นกลับมาขึ้นรถแล้วไปต่อ ข้างๆไม่ไกลจากโบสถ์นั้นมีวัดจีนด้วย แต่ไม่ได้แวะ เมืองนี้มีชาวจีนอพยพมาเยอะ โดยเฉพาะจากมณฑลยูนนาน





จากนั้นก็มาถึงเป้าหมายถัดไปคือเจดีย์มะฮาธะจะธีฮะ ที่นี่ก็เป็นวิหารเจดีย์ที่สวยมากอีกแห่ง



ภายใน





ห้องด้านในสุดใจกลางมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่




ในนี้ติดแอร์เย็นสบาย



ภายในบริเวณวัดรอบๆเจดีย์






มีพระนอนอยู่ด้วย



คนที่นี่เขานิยมแบกของไว้บนหัวแบบนี้





ถัดมาต่อกันที่เจดีย์เอนดอยา ตรงนี้เป็นทางเข้าหน้าวัด แต่ที่จริงแล้วตอนแรกคนขับเขาพาเราเข้าด้านข้างทำให้ต้องหยิบรองเท้าแล้วอ้อมมาถ่ายด้านหน้าอีกที




เจดีย์ที่นี่ก็เป็นเจดีย์สีทองสวยอีกแห่ง สร้างโดยพระเจ้าพุกามแมงในปี 1847



รอบๆเจดีย์ภายในบริเวณวัด








เสร็จแล้วก็มาต่อกันที่วัดแห่งสุดท้ายคือที่เจดีย์ชเวจีมยิน



เจดีย์ใจกลางของที่นี่อยู่หาตำแหน่งถ่ายให้ชัดค่อนข้างยาก ไม่ว่าด้านไหนก็มีตัวอาคารบังอยู่



ภายในอาคารวิหารกลาง



ในบริเวณวัดและอาคารรอบๆ










ชอบอาคารตรงนี้ที่มีมังกรประดับอยู่ตามเสาสวยดี





ชมวัดหลายแห่งมาจนหมดแล้วก็มาปิดท้ายที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมมัณฑะเลย์ (
မန္တလေးယဉ်ကျေးမှုပြတိုက်mandalay yinkyemu pyadaik) ที่นี่เป็นแค่พิพิธภัณฑ์เล็กๆที่ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก



ที่จริงดูเหมือนว่าจะมีค่าเข้าชมด้วย แต่ว่าตอนที่ไปนั้นคนเฝ้าไม่อยู่ก็เลยไม่ต้องจ่าย เข้าชมกันเองตามสบาย



ส่วนจัดแสดงในชั้น ๑ ไฟในส่วนจัดแสดงไม่ได้เปิดอยู่ก็เลยต้องเปิดเอง




ชั้น ๓ ของที่นี่เป็นห้องสมุด สามารถขึ้นไปชมได้



จากชั้น ๓ สามารถมองไปข้างนอกก็สวย



เห็นคูเมืองและกำแพงเมืองได้สวยด้วย



หลังจากนั้นเราก็กลับขึ้นรถเพื่อให้เขาไปส่งที่โรงแรมเพื่อเก็บข้าวของเตรียมออกเดินทางไปยังเมืองเนปยีดอเมืองหลวงของพม่าต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20150831



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> วัด
-- ต่างแดน >> อุษาคเนย์ >> พม่า

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目次

日本による名言集
モジュール
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
機械学習
-- ニューラル
     ネットワーク
javascript
モンゴル語
言語学
maya
確率論
日本での日記
中国での日記
-- 北京での日記
-- 香港での日記
-- 澳門での日記
台灣での日記
北欧での日記
他の国での日記
qiita
その他の記事

記事の類別



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  記事を検索

  おすすめの記事

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文