φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



เที่ยวเนินเขามัณฑะเลย์และชมหมู่วัดทางตะวันออก
เขียนเมื่อ 2015/08/27 14:41
แก้ไขล่าสุด 2024/02/04 06:10
#อาทิตย์ 26 ก.ค. 2015

หลังจากตอนที่แล้วที่ได้ไปงานบรรยายดาราศาสตร์และชมภายในมหาวิทยาลัยมัณฑะเลย์ https://phyblas.hinaboshi.com/20150825

ต่อไปก็ได้เวลาเที่ยวชมโบราณสถานกันแล้ว โดยเป้าหมายวันนี้คือเนินเขามัณฑะเลย์ (မန္တလေးတောင်mandalay taung
) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแล้วก็วัดที่อยู่ใกล้ๆ

เนินเขามัณฑะเลย์สูง ๒๔๐ เมตร มีชื่อเสียงเพราะเป็นเขาที่เต็มไปด้วยวัดและเจดีย์ ที่สำคัญที่สุดคือเจดีย์ซูตองปยี (
ဆုတောင်းပြည့်စေတီsu taung pyae zedi) ซึ่งอยู่ตรงยอด

ที่นี่หากเทียบกันแล้วก็คล้ายกับดอยสุเทพของเชียงใหม่ คือเป็นโบราณสถานบนเขาที่มีความสำคัญต่อเมือง แต่ไม่ได้มีความสูงมากเท่า สามารถเดินด้วยเท้าขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตามเราเลือกที่จะนั่งรถเพื่อประหยัดแรงและเวลา

จากตอนที่แล้วพวกเราเรียกรถแท็กซีเพื่อให้เขาขับรถพาจากมหาวิทยาลัยมาเที่ยวที่นี่ รถพาเราขึ้นมาถึงจุดขึ้นลิฟต์ไปยังเจดีย์ซูตองปยีซึ่งอยู่ที่ยอด จากตรงนี้ไปต้องถอดรองเท้า ซึ่งตอนแรกเราก็ลังเลมากเพราะพื้นมันเปียกอยู่ แต่ว่าทุกคนก็ถอดกันหมด เห็นคนมากมายเดินเท้าเปล่าบนพื้นหินเขาก็เดินกันได้ ก็เลยแข็งใจยอมถอดรองเท้าเดิน ส่วนรองเท้าก็ใส่ถุงเก็บไว้บนรถแท็กซี



ขึ้นลิฟต์มาด้านบนก็มาถึงตัววิหารเจดีย์




นี่คือหน้าตาของลิฟต์ที่เราขึ้นมา



เมื่อเข้ามาถึงเขาจะขอเก็บค่าถ่ายรูปสำหรับคนที่หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา ต้องจ่าย ๑๐๐๐ จ๊าด



บรรยากาศบนนี้








ตรงนี้เป็นเส้นทางที่คนใช้เดินขึ้นเขามาจากด้านล่าง




และเป็นทางไปเข้าห้องน้ำ



ด้านนอกนั้นเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดี



มองลงไปไกลออกไป




เห็นพระราชวังมัณฑะเลย์ที่ไปมาเมื่อวานด้วย





เมื่อชมเจดีย์ซูเตองปยีเสร็จแล้วเราก็กลับมาขึ้นรถแล้วก็ลงจากเขาไปเลย ไม่ได้แวะเจดีย์ย่อยๆตามทาง นอกจากเจดีย์ซูตองปยีแล้ววิหารหรือเจดีย์ที่สำคัญจริงๆนั้นไม่ได้อยู่บนเขาแต่อยู่ด้านล่างแถวตีนเขา

ซึ่งมีอยู่ ๕ วัด ได้แก่
- เจดีย์เจาะตอจี (
ကျောက်တော်ကြီးဘုရားkyauktawgyi buyar)
- เจดีย์ซานดามูนี (
စန္ဒာမုနိစေတီsandamani zedi)
- เจดีย์กูโธดอ (ကုသိုလ်တော်‌ဘုရားkuthodaw buyar
)
- วิหารอะตูมะชี (
အတုမရှိကျောင်းatumashi kyaung)
- วิหารชเวนานดอ (
ရွှေနန်းတော်ကျောင်းshwenandaw kyaung)

เริ่มจากที่แรกคือวัดเจาะตอจี เป็นวิหารเจดีย์ที่เริ่มสร้างในปี 1853 โดยพระเจ้ามินดง แต่การสร้างล่าช้าเนื่องจากปัญหาภายใน กว่าจะเสร็จก็คือปี 1878



เช่นเดียวกับเจดีย์ซูตองปยี ต้องถอดรองเท้าเพื่อเข้าไปเดิน ภายในสวยงามมาก





ยักษ์



เพดานสวย



ตามทางเดินมีขายของมากมาย




วิหารด้านในซึ่งประดับด้วยสีเขียวสวย





ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อน



วัดนี้ค่อนข้างกว้างมากและยังมีส่วนที่ยังไม่ได้เดินอยู่อีก ซึ่งต้องผ่านบริเวณด้านนอกวัดที่พื้นค่อนข้างแย่ แต่ว่าเราไม่มีรองเท้าแตะใส่ก็เลยไม่ได้ไป พอแค่นี้





ถัดมาไปต่อกันที่เจดีย์ซานดามูนี ที่นี่สร้างในปี 1874 โดยพระเจ้ามินดงเพื่อเป็นที่ระลึกให้กับเจ้าชายกะนองมีนธา (ကနောင်မင်းသားkanaung mintha
) น้องชายของเขาที่ถูกสังหารในจลาจลปี 1866



ภายในมีเจดีย์ที่มีพระไตรปิฎกบันทึกอยู่มากมาย




เจดีย์ตรงกลางสีทองสวยงามโดดเด่นสร้างเลียนแบบมาจากเจดีย์ชเวซีโกนที่พุกามซึ่งเดี๋ยวเราก็จะไปเที่ยวที่นั่นด้วยเช่นกัน



มองฝ่าหมู่เจดีย์ขึ้นไปยังสามารถเห็นเจดีย์บนเนินเขามัณฑะเลย์ได้ด้วย



พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารใต้เจดีย์





จากนั้นถัดมาก็ต่อกันที่เจดีย์กูโธดอ ที่นี่สร้างในปี 1859 โดยพระเจ้ามินดง โดยสร้างเป็นที่ระลึกการสังคายนาพระไตรปิฎก โดยบรรจุพระไตรปิฎกลงในเจดีย์ ๗๒๙ หลัง ถือเป็นพระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดในโลก



เจดีย์บรรจุพระไตรปิฎกมากมายในวัดนี้




ภายในอาคาร



แมวน่ารัก



แบบจำลองขนาดย่อของที่นี่



เจดีย์ใจกลางเป็นสีทองข้างในนี้คล้ายกับเจดีย์ซานดามูนี



เดินเล่นบริเวณลานรอบเจดีย์ ฝนเริ่มปรอยทำให้บางทีก็ไม่ต้องกางร่ม แต่พื้นลื่นต้องระวัง






ถัดมาก็ไปชมวิหารอะตูมะชี ที่นี่สร้างในปี 1857 โดยพระเจ้ามินดง แต่ก็ถูกไฟไหม้ในปี 1890 จนส่วนยอดพังเหลือแต่ฐาน จากนั้นพอปี 1996 จึงสร้างขึ้นมาใหม่โดยเปลี่ยนเป็นใช้ปูนสร้าง ดังนั้นที่เห็นอยู่ปัจจุบันจึงเป็นแค่ของที่สร้างใหม่ อาคารดั้งเดิมใช้ไม้สักแต่ว่าของใหม่ใช้ปูนจึงต่างไปจากเดิมมาก




ภายในหลังคาประดับสวยงามมาก





จากนั้นฝั่งตรงข้ามเป็นวิหารชเวนานดอ แต่ว่าเราเดินเท้าเปล่าไม่ไหวแล้วก็เลยตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่เข้าไป แต่ว่าคนขับรถก็ใจดีมาก ให้ยืมรองเท้าแตะ ส่วนเขาก็เดินเท้าเปล่าแทนทำให้เราสามารถไปชมที่นี่ได้



วิหารชเวนานดอถูกสร้างขึ้นในปี 1880 โดยพระเจ้าธีบอ อาคารถูกสร้างโดยรื้อมาจากส่วนหนึ่งของพระราชวังมัณฑะเลย์เพื่อมาสร้างใหม่ตรงนี้ ในขณะที่พระราชวังมัณฑะเลย์ได้ถูกระเบิดพังไปแล้วแต่วิหารแห่งนี้กลับเหลือรอดอยู่ จึงถือเป็นร่องรอยที่สำคัญของสถาปัตยกรรมของพระราชวังที่ยังหลงเหลืออยู่



ที่นี่โดดเด่นตรงงานแกะสลักไม้ซึ่งวิจิตรสวยงาม



ชมในวิหารเสร็จแล้ว จากนั้นพอเดินเลยจากตรงนี้ต่อไปอีกก็เห็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ ชื่อว่ามหาวิทยาลัยปริยัตติศาสนา (
နိုင်ငံတော်ပရိယတ္တိသာသနာ့တက္ကသိုလ်nan ngan daw pariyatti tharthanar takkaso) แต่เราก็ไม่ได้เดินเข้าไปในนี้





การเที่ยวในวันนี้ก็ถือว่าจบลงเท่านี้แล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกหน่อย นั่นคือเนื่องจากการที่ต้องเดินเท้าเปล่าจนเจ็บเท้ามาเยอะทำให้เกิดความคิดว่าควรซื้อรองเท้าแตะ เพราะเที่ยววันต่อไปก็ยังมีเป้าหมายที่เป็นวัดอีกเยอะ ต้องถอดรองเท้าบ่อยๆ

ว่าแล้วจึงขอให้เขาไปช่วยหาที่แวะซื้อรองเท้าแตะ ระหว่างทางผ่านมุมตะวันออกเฉียงใต้ของคูเมืองก็แวะถ่ายรูปสักหน่อย แล้วก็ไปแวะร้านรองเท้าระหว่างทางกลับเพื่อซื้อรองเท้าแตะ ได้ซื้อมาในราคา ๑๘๐๐ จ๊าด ถูกดี



กลับมาถึงโรงแรมก็ไม่ได้ออกไปไหนแล้ว คืนนี้ไม่ทานข้าวเย็นทานแต่ขนมที่เตรียมมาจากบ้านแทน ซึ่งก็เพียงพอ อีกทั้งโรงแรมยังให้กาแฟมาชงดื่มฟรีด้วย

ในคืนนี้เราทำการซื้อตั๋วรถบัสสำหรับเดินทางไปเนปยีดอทันทีโดยซื้อผ่านทางเคาน์เตอร์โรงแรม ราคาค่าโดยสารคนละ ๕๓๐๐ จ๊าด และก็ให้เขาช่วยจัดหาแท็กซีมาสำหรับขับรถเที่ยวตอนเช้าด้วย ราคา ๓๐๐๐๐ จ๊าด ราคานี้รวมค่าที่ให้เขาไปส่งที่ท่ารถเพื่อขึ้นรถไปเนปยีดอตอนบ่ายด้วย

โดยแท็กซีจะมารับตอนเจ็ดโมงเช้าดังนั้นจึงตัดสินใจตื่นเช้า แต่ก็ไม่ได้นอนเร็วเป็นพิเศษ

ก่อนนอนเล่นเกมอาเตอลีเยของอาช่าต่ออีกหน่อย ถึงตรงทีเพิ่งได้เจอกับมาริออนที่ทางหลวงเลียบแม่น้ำ https://phyblas.hinaboshi.com/20150813



จบเรื่องราวของวันที่ ๒ ลง วันต่อไปจะย้ายเมืองแล้ว การเดินทางที่สนุกๆรออยู่

เรื่องราวของวันต่อมา https://phyblas.hinaboshi.com/20150829



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> วัด
-- ต่างแดน >> อุษาคเนย์ >> พม่า
-- ท่องเที่ยว >> ภูเขา
-- ท่องเที่ยว >> แมว

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文