φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



อาเตอลีเยของอาช่า ตอนที่ ๑ : นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งผืนแผ่นดินสายัณห์
เขียนเมื่อ 2015/08/13 21:07
แก้ไขล่าสุด 2024/02/23 18:44


ห่างหายไปนานเลยหลังจากที่เมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสเริ่มลองเล่นเกมตระกูลอาเตอลีเย (アトリエ)

ตอนแรกเริ่มเล่นจาก อาเตอลีเยของโรโรนา ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งอาร์แลนด์~ (ロロナのアトリエ 〜アーランドの錬金術士〜, rorona no atelier ~Arland no renkinjutsushi~) https://phyblas.hinaboshi.com/20140721

แล้วต่อมาก็ได้เล่น อาเตอลีเยของโทโทริ ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งอาร์แลนด์ 2~ (トトリのアトリエ 〜アーランドの錬金術士2〜, totori no atelier ~Arland no renkinjutsushi 2~) ซึ่งเป็นเกมภาคต่อ https://phyblas.hinaboshi.com/20140729

ภาคโรโรนากับโทโทรินั้นเป็นเนื้อเรื่องต่อเนื่องกันคือเป็นเรื่องราวในดินแดนที่ชื่อว่าอาร์แลนด์ (アーランド) นอกจากนี้ยังมีภาคต่อไปอีกคือ อาเตอลีเยของเมรุรุ ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งอาร์แลนด์ 2~ (メルルのアトリエ 〜アーランドの錬金術士3〜, meruru no atelier ~Arland no renkinjutsushi 3~)

อย่างไรก็ตามเราไม่ได้หยิบภาคนั้นมาเล่นต่อเพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ได้น่าสนใจมากนัก แล้วหลังจากนั้นก็ยุ่งๆจึงเงียบหายไปเลย

แต่ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาสได้กลับมาเล่นอีก แต่ภาคที่หยิบมาเล่นก็ไม่ใช่ภาคเมรุรุ แต่เป็น อาเตอลีเยของอาช่า ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งผืนแผ่นดินสายัณห์~ (アーシャのアトリエ 〜黄昏の大地の錬金術士〜, ayesha no atelier ~Tasogare no daichi no renkinjutsushi~)

ภาคอาช่านี้เป็นภาคที่ออกต่อจากภาคของเมรุรุ แต่ก็เป็นเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เป็นเนื้อเรื่องใหม่โดยสมบูรณ์ ไม่ได้ต่อกัน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเล่นภาคเมรุรุก่อน

อย่างไรก็ตามระบบของเกมก็ยังคงคล้ายๆเดิมเพราะเป็นเกมตระกูลเดียวกันที่สร้างต่อเนื่องกันมา และแน่นอนว่ามีเพิ่มเติมอะไรขึ้นมาพอสมควร ซึ่งทำให้มีความสนุกในแบบที่ต่างกันออกไปจากเดิม

เกมภาคนี้ออกวางขายครั้งแรกในเครื่อง ps3 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2012 และภายหลังก็ออกใน ps vita วันที่ 27 มี.ค. 2014 ข้อแตกต่างระหว่างสองภาคนี้มีเพียงเล็กน้อย เช่นใน ps3 มีตัวละครร่วมสู้ที่ต้องใช้เงินซื้อจึงจะได้มาเป็นพวก แต่ในภาค ps vita สามารถใช้เป็นพวกได้ทันทีเมื่อเนื้อเรื่องไปถึง

เพลงเปิดของเกม





เรื่องราวในภาคอาช่านี้เกิดขึ้นในดินแดนที่เรียกว่าทาโซงาเระ (黄昏) ซึ่งอาจแปลไทยว่า "พลบค่ำ" หรือเรียกให้เพราะหน่อยก็เป็น "สายัณห์" เรื่องราวของแดนสายัณห์นี้แบ่งออกเป็นทั้งหมด ๓ ภาค โดยภาคอาช่านี้เป็นภาคแรก

ส่วนภาคสองคือ อาเตอลีเยของเอสกาและโลจี ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งท้องฟ้าสายัณห์~ (エスカ&ロジーのアトリエ 〜黄昏の空の錬金術士〜) ซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดเพราะเป็นภาคเดียวที่ได้ทำเป็นอนิเมะ และก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักเกมตระกูลนี้ด้วย

ภาคอาช่านี้ก็เป็นภาคเนื้อเรื่องก่อนจะถึงเนื้อเรื่องของเอสกาและโลจี เพื่อที่จะเข้าใจเนื้อเรื่องที่ได้เห็นในอนิเมะแล้วจึงคิดว่าควรลองเล่นภาคนี้ดู

เนื้อเรื่องของแดนสายัณห์ปิดท้ายด้วย อาเตอลีเยของชาลี ~นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งท้องทะเลสายัณห์~ (シャリーのアトリエ 〜黄昏の海の錬金術士〜, shallie no atelier ~Tasogare no umi no renkinjutsushi~)

ทั้ง ๓ ภาคนั้นมีหัวข้อหลักที่ต่างกันออกไป โดยในภาคของอาช่านั้นเป็น "ผืนแผ่นดิน" ส่วนเอสกาและโลจีเป็น "ท้องฟ้า" และของชาลีเป็น "ท้องทะเล"

หากนับรวมเกมตระกูลอาเตอลีเยที่เล่นในเครื่อง ps3 และ ps vita คือภาคอาร์แลนด์และสายัณห์ก็จะรวมเป็น ๖ ภาคแล้วที่ออกมาทั้งหมดตอนนี้

ภาคอาช่านี้เริ่มเล่นเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เมื่อตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน เหมือนกับภาคโทโทริที่เริ่มเล่นตอนไปเที่ยวในปีที่แล้ว ps vita เหมาะสำหรับใช้เล่นฆ่าเวลาขณะเที่ยวดังนั้นการเล่นเกมก็เลยมักจะเกี่ยวพันกับการเที่ยว และด้วยความที่เป็นแนว RPG ผจญภัยถ้าเที่ยวไปด้วยเล่นไปด้วยก็ดูจะได้อารมณ์เหมือนกับว่าเราก็เดินทางไปพร้อมกับเนื้อเรื่องในเกม




ต่างจากตอนที่เล่นภาคโทโทริ ครั้งนี้เราซื้อออนไลน์แล้วโหลดมาจาก Ps Store เหมือนกับตอนที่เล่นโรโรนา ไม่ได้ซื้อตลับเกม ตอนนี้ภายใน ps vita เครื่องนี้ซึ่งไม่ได้เล่นมาเกือบปียังคงมีบันทึกตอนที่ติดตั้งภาคโทโทริ แล้วก็ตอนที่เก็บโทรฟีครบ เห็นแล้วก็คิดถึงความหลังเหมือนกัน



พอโหลดเสร็จแล้วก็อินสตอลเกม



แล้วก็ได้เวลาเริ่มต้น ณ บัดนี้





เนื้อเรื่องเริ่มต้นขึ้นในอาษาจักรที่เคยเต็มไปด้วยอารยธรรมที่สร้างขึ้นจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุแต่จู่ๆก็ล่มสลายไป เหลือเพียงซากโบราณสถานจำนวนมากไว้

จนถึงตอนนี้ผู้คนเริ่มทำการสำรวจเพื่อค้นหาความจริงในอดีต รวมถึงวิชาเล่นแร่แปรธาตุซึ่งผู้คนต่างลืมเลือนไปนาน

ภายในกลางป่าซึ่งรายล้อมไปด้วยซากโบราณสถาน สาวน้อยคนหนึ่ง อาช่า (アーシャ, Ayesha) อาศัยอยู่โดดเดี่ยวภายใน "อาเตอลีเย" หลังหนึ่งซึ่งห่างไกลเมือง และยังชีพด้วยการปรุงยาขาย



วันหนึ่งมีชายแก่คนหนึ่งเดินทางมาสำรวจโบราณสถานบริเวณนี้ เขาชื่อคีธกริฟ (キースグリフ, Keithgrif) เรียกตัวเองว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ คนที่เป็นคนขับรถม้าพาคีธกรีฟสำรวจก็คือเออร์นี (アーニー, Ernie) เพื่อนสนิทของอาช่าซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพี่ชาย เขาเป็นพ่อค้าที่เดินทางไปที่ต่างๆมากมายและมักจะมารับยาจากอาช่าไปขาย

คีธกริฟต้องการสำรวจโบราณสถานซึ่งอยู่ใกล้อาเตอลีเยของอาช่า เออร์นีส่งเขาลงกลางทางและตัวเองก็แวะเข้าไปหาอาช่า ซึ่งขณะนั้นเธอกำลังยุ่งกับการปรุงยาอยู่พอดี



เออร์นีบอกอาช่าเรื่องที่มีคนมาสำรวจซากโบราณสถานแถวนี้ ซึ่งวันนี้อาช่าก็ต้องไปที่นั่นอยู่แล้วพอดีเพราะที่นั่นเป็นที่ที่นิโอ (ニオ, Nio) น้องสาวของอาช่าได้หายสาบสูญไปเมื่อ ๓ ปีก่อนขณะที่ไปช่วยเก็บวัตถุดิบสำหรับปรุงยามาให้ เพื่อเป็นที่ระลึกอาช่าจึงตั้งสุสานของเธอไว้ที่นี่และมักจะมาที่นี่เสมอ


เมื่อช่วยปรุงยาที่เออร์นีต้องการเสร็จแล้วอาช่าจึงเดินทางมายังโบราณสถานและเข้าไปเยี่ยมสุสานของนิโอ



แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อจู่ๆนิโอก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าหลุมศพ แต่เป็นเพียงภาพลางๆไม่นานก็หายไป อาช่าตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้เริ่มรู้สึกมีความหวังที่ว่านิโออาจจะยังมีชีวิตอยู่



คีธกริฟเข้ามาสำรวจซากโบราณสถานอยู่ในเวลานั้นพอดีและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาพูดเหมือนรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุและดูออกว่าอาช่าเองก็ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุเป็นเหมือนกัน แต่เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำมาตลอดนั้นเรียกว่าเล่นแร่แปรธาตุ รู้เพียงแต่ว่ามันสามารถปรุงยาได้เท่านั้น และคิดว่าตัวเองเป็นแค่นักปรุงยาธรรมดาคนหนึ่งมาโดยตลอด



แต่พออาช่าถามมากกว่านี้เขาก็ไม่ยอมบอก พูดเพียงว่า "สัจธรรมไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาจากคนอื่น แต่เป็นสิ่งที่ต้องตามหาและไขว่คว้ามาได้ด้วยตัวเอง" แต่ก็บอกใบ้ให้ว่าถ้าอยากจะเข้าใจละก็มีสองสิ่งที่ควรจะตามหา นั่นคือ "วิชาเล่นแร่แปรธาตุ" กับ "ดอกไม้เปล่งแสง"

อาช่ากลับมาที่อาเตอลีเยและคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงตามคำแนะนำของคีธกริฟ เรื่องราวการเดินทางของอาช่าจึงเริ่มขึ้น



อาช่าพยายามจดเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาไว้ในสมุดบันทึก จากนี้ไปเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรสำคัญเธอก็จะเขียนบันทึกไว้เสมอ

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากการผจญภัยคนเดียวตามลำพัง



เป้าหมายแรกของอาช่าก็คือเมืองรีเซินกัง (リーゼンガング, Riesengang) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่บนหุบผา



ที่นั่นอาช่าได้เจอกับเรจีนา (レジナ, Regina) ซึ่งเป็นเพื่อนคนหนึ่งของอาช่า เธอมีอายุมากกว่าอยู่หน่อยจึงเหมือนเป็นพี่สาวคนหนึ่ง ตอนนี้ทำงานเป็นนักสำรวจโบราณสถานอยู่ อาช่าได้เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังเธอจึงให้ยืมบ้านของเธอในเมืองนี้ไว้เป็นที่สำหรับปรุงยา



เรจีนายังแนะนำว่าให้ไปที่เมืองฟิร์ซแบร์ก (フィルツベルク, Veirzeberg) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแถบนี้ เธอมีคนที่รู้จักอยู่คนนึงที่อาจจะรู้เกี่ยวกับสิ่งที่อาช่าตามหาอยู่ โดยเธอยังเสนอตัวขอร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อคอยช่วยเหลือ

ระหว่างทางต้องเดินผ่านซากอุโมงค์เก่า (隧道跡) ซึ่งดูเหมือนเป็นของโบราณสถานที่คนสมัยก่อนทำเอาไว้ อยู่ในสภาพไม่ดีทำให้ต้องเดินระวังแต่ก็สามารถใช้สัญจรผ่านไปได้



แล้วในที่สุดก็เดินทางมาถึงฟิร์ซแบร์ก เมืองนี้มีขนาดใหญ่และดูน่าอยู่มาก



เรจีนาบอกว่าให้ไปเดินในเมืองเอาเองก่อนเพราะเธอมีธุระ แล้วนัดเจอกันที่ลานกว้างชั้นบน (高台の広場)

ระหว่างที่อาช่าเดินหลงทางอยู่ในเมืองก็ได้เจอกับเด็กสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวประหลาดและเรียกตัวเองว่าเป็นแม่มด เธอชื่อวิลเบล (ウィルベル, Wilbell) เธอบอกว่ามองออกว่าอาช่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็เลยอยากรู้จักด้วย แต่ก็บอกว่าวิชาเล่นแร่แปรธาตุก็เป็นแค่ศาสตร์ที่เลียนแบบเวทมนตร์เท่านั้นเอง



อาช่าเดินมาจนถึงลานกว้างชั้นบนและเจอกับเรจีนา เธอแนะนำให้รู้จักกับเมริเอ็ตตา (メリエッタ, Merietta) ซึ่งทำงานอยู่ในร้านขายของ ยาที่อาช่าปรุงก็ถูกวางขายอยู่ที่ร้านนี้ด้วยเหมือนกัน แต่จากนี้ไปเธอจะไม่ได้ทำยาขายอีกแล้วเพราะอยู่ระหว่างการผจญภัยตามหาน้องสาว ดังนั้นจึงทำให้รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย



แล้วเรจีนาก็แนะนำให้รู้จักกับคนที่เธอบอกว่าอาจช่วยเธอได้ เขาชื่อแฮรี (ハリー, Harry) เป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวยประจำเมืองนี้และชอบสะสมของแปลกๆ ดังนั้นจึงอาจจะรู้เกี่ยวกับดอกไม้ที่อาช่าตามหาอยู่ก็เป็นได้ อาช่ายื่นดอกไม้ให้เขาดูเขาก็ทำท่านึกอยู่สักพักก่อนจะบอกว่าดูเหมือนคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะนึกออก แต่ต้องขอเวลานึกก่อน



แล้วแฮรีก็บอกว่าให้รอไปเรื่อยๆจนกว่าจะนึกออก ระหว่างนี้ก็จะให้ยืมบ้านหลังหนึ่งของตัวเองเป็นมาให้อาช่าใช้เป็น
อาเตอลีเยปรุงยาไปก่อนได้ ทำให้อาช่าสามารถใช้เมืองนี้เป็นฐานเพื่อออกผจญภัยได้



อาช่าเดินออกมาที่ลานกว้างอีกครั้งแล้วก็พบว่าตัวเองทำกระเป๋าตังค์หายแล้วก็เจอกับวิลเบลเข้าเธอช่วยเก็บกระเป๋าตังค์ที่ทำหายไว้ให้



วิลเบลยังแนะนำอาช่าว่าระหว่างนี้น่าจะลองไปทำงานโดยอาสาช่วยคนอื่นหาของที่เขาต้องการเพื่อรับเงินเป็นค่าตอบแทน วิชาเล่นแร่แปรธาตุของอาช่าสามารถสร้างอะไรต่างๆได้ไม่ยาก ตอนนี้จึงสามารถทำแบบนี้เพื่อสะสมเงินไประหว่างที่อยู่ที่นี่

เช่นคนนี้เขาต้องการถุงเก็บกลิ่น (匂い袋) ๓ อัน พอทำมาให้เขาได้แล้วก็จะได้ค่าตอบแทน ๔๕๐ โกล พร้อมกับขนปีกเหยี่ยวยักษ์ (大ワシの羽根)



วันหนึ่งเมื่ออาช่าไปที่สะพานทางออกจากเมืองก็เจอวิลเบลเข้ามาทัก ครั้งนี้ทั้งคู่เพิ่งจะแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ วิลเบลบอกว่าถ้าอยากจะออกเดินทางละก็พาเธอไปด้วยก็ได้เพราะเธอก็ต้องการฝึกฝนตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนนั้นเลยสามารถให้วิลเบลมาร่วมเดินทางและต่อสู้ด้วยได้


เมื่อพอจะเก็บเงินได้แล้วอาช่าก็แวะมาที่ร้านของเมริเอ็ตตา ระหว่างนั้นก็เจอเออร์นีอยู่ที่นั่นด้วยพอดี เขาแปลกใจที่อาช่าอยู่ดีๆก็หายไปจากอาเตอลีเยแล้วหยุดปรุงยาดื้อๆ อาช่าจึงต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนเขายอมรับและเข้าใจ



ที่ร้านของเมริเอ็ตตาสามารถซื้อพวกวัตถุดิบต่างๆที่สามารถนำมาใช้ปรุงไอเท็มต่างๆ แล้วก็มีอาวุธหรือเสื้อผ้า รวมทั้งยังมีตำราผสมไอเท็มซึ่งเมื่อซื้อไปอ่านอาช่าก็จะสามารถสร้างไอเท็มได้หลากหลายยิ่งขึ้น



ไม่นานนักในเมืองก็มีจัดตลาดนัด มีคนมาขายของอยู่ที่ลานกว้างเต็มไปหมด คนที่จัดให้มีตลาดนี้ขึ้นก็คือแฮรีนั่นเอง แม้แต่วิลเบลและเรจีนาก็มาขายของด้วย



เมื่ออาช่ากำลังจะออกไปผจญภัยนอกเมืองโดยพาวิลเบลไปด้วยเป็นครั้งแรกเธอก็พูดว่าเรื่องที่เธอเป็นแม่มดนั้นห้ามบอกใครเป็นอันขาดเลย แต่อาช่ากลับคิดในใจว่าเห็นแต่งตัวแบบนี้เหมือนตั้งใจเปิดเผยเต็มที่เลย ไม่เห็นจะดูเป็นความลับตรงไหน



จากนั้นเมื่ออาช่าออกเดินทางไปยังทางหลวงในป่า (森の街道) ก็ได้เจอกับหญิงสาว ๒ คนซึ่งกำลังเดินสำรวจบริเวณแถวนั้นอยู่พอดี พวกเธอคือมาริออน (マリオン, Marion) กับลินคา (リンカ, Linca) มาริออนเป็นข้าราชการที่ถูกส่งมาจากแดนตะวันตกไกลให้มาสำรวจแถวนี้ ส่วนลินคาเป็นองครักษ์ที่ตามมาคอยคุ้มกัน มาริออนบอกอาช่าว่าอยากสำรวจโบราณสถานที่อยู่ทางตะวันออกของที่นี่ ซึ่งก็คือโบราณสถานใกล้อาเตอลีเยของอาช่านั่นเอง อาช่าจึงอาสาเป็นคนช่วยนำทางไป แต่เนื่องจากตอนนี้เธอยังไม่สะดวกจะไปมาริออนจึงบอกว่ารอเวลาที่สะดวกก็ได้



พวกอาช่าเริ่มการสำรวจเพื่อค้นหาวัตถุดิบทำยา แล้วก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์ ระหว่างสู้ได้เห็นวิลเบลแสดงฝีมือออกมาก็ตกใจว่าเธอใช้เวทมนตร์ได้จริงๆเพราะตอนแรกนึกว่าแค่ล้อเล่น



เมื่อกลับมาที่เมืองฟิร์ซแบร์กอีกครั้งแล้วไปที่ร้านของเมริเอ็ตตาก็พบว่าแฮรีกำลังวางแผนจัดงานประกวดของแปลกขึ้น แล้วอาช่าก็เดินเข้ามาพอดีจึงถูกชักชวนแกมบังคับให้เข้าร่วมด้วยโดยให้หาของแปลกอะไรก็ได้มาแสดงแล้วจะมีคนมาตัดสินว่าของที่ใครนำมาจะชนะเลิศ



แต่งานนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบเริ่มทันที สามารถเริ่มตอนไหนก็ได้แล้วแต่อาช่าสะดวก ดังนั้นระหว่างนี้จึงรอไปก่อน วันหนึ่งวิลเบลมาหาที่อาเตอลีเยขณะที่อาช่ากำลังปรุงไอเท็มอยู่ อาช่าก็เลยลองถามวิลเบลว่ารู้อะไรเกี่ยวกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุบ้างเพราะตัวเธอเองไม่ค่อยรู้อะไรเลยนอกจากใช้ปรุงยาเท่านั้น วิลเบลก็เลยให้ตำราเล่มนึงมาเกี่ยวกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุ



อาช่าก็เอามาอ่านแล้วก็ลองสร้างของที่เรียกว่าคราฟต์ (クラフト) ขึ้นมาตามสูตรที่เขียนในหนังสือ แต่พอสร้างมาเสร็จแล้วจึงมาอ่านแล้วพบว่ามันคืออาวุธ



เมื่ออาช่าไปที่ร้านขายของเมริเอ็ตตาก็บอกว่าช่วงนี้มีของที่ไม่รู้จะขายให้ใคร เป็นหนังสือที่มีภาษาโบราณ แต่อาช่าบอกว่าตัวเองสามารถอ่านภาษาโบราณได้เพราะตำราที่เธอเรียนก็ใช้ภาษาแบบเดียวกัน เมริเอ็ตตาก็เลยขายหนังสือให้อาช่า หนังสือพวกนี้เป็นตำราเล่นแร่แปรธาตุที่ถ้าอ่านแล้วก็จะปรุงไอเท็มได้หลากหลายขึ้นอีก



วันต่อมาเมื่ออาช่ามาที่ร้านอีกทีก็พบคีธกริฟมาซื้อของที่ร้าน แต่ไม่ทันได้ทักอะไรเขาก็ออกจากร้านไป เมริเอ็ตตาบอกว่าคีธกริฟต้องการซื้อพวกหินแร่เยอะๆ ไม่รู้เขาจะเอาไปทำอะไรเหมือนกัน



ช่วงนี้อาช่าได้ออกเดินทางสำรวจบริเวณใกล้ๆเมืองไปเรื่อยๆพร้อมทั้งหาวัตถุดิบและสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเก็บประสบการณ์ โดยมีวิลเบลและเรจีนาคอยสู้อยู่เคียงข้าง



วันหนึ่งเมื่อกลับมาที่เมืองแล้วเข้าไปที่ร้านขายของก็พบลูกค้ากำลังให้เมริเอ็ตตาอธิบายเกี่ยวกับยาอยู่ อาช่าเข้ามาพอดีก็เลยให้เธอช่วยอธิบายให้แทนเพราะนี่เป็นยาที่เธอปรุงเอง แต่เมริเอ็ตตาก็บอกว่ายานี้กำลังจะขายหมดแล้วเพราะอาช่าเลิกปรุงยาขายไปแล้วเพื่อออกผจญภัย



แล้วตอนนี้อาช่าก็พร้อมสำหรับงานประกวดของแปลกของแฮรีแล้วก็เลยได้เวลาเริ่มต้นขึ้น



แต่สุดท้ายคนที่ชนะก็คือแฮรี ด้วยคะแนนที่ท่วมท้นด้วย ตัวเองเป็นคนจัดเองและเข้าร่วมเองไม่น่าแปลกใจ ส่วนอาช่าได้รางวัลที่สอง




หลังจบงานอาช่ากลับมาที่ร้านก็พบว่าของที่ถูกนำมาประกวดได้กลายเป็นของขายในร้านไป เมริเอ็ตตาจึงอธิบายว่าที่จริงวัตถุประสงค์ของงานนี้คืออยากหาของแปลกๆมาวางขายเพิ่มเท่านั้นเอง



อาช่าออกผจญภัยอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจว่าจะกลับไปที่โบราณสถานใกล้อาเตอลีเยเพื่อนำทางให้มาริออน ระหว่างทางคราวนี้เจอกับเออร์นี เขาบอกว่าเขาก็เร่ขายของไปทั่วคงมีโอกาสได้เจอกันกลางทางเรื่อยๆ ถ้าเจอกันก็สามารถซื้ออะไรกับเขาได้



จากนั้นเดินผ่านรีเซินกัง ระหว่างเข้าไปพักในเมืองก็เจอพ่อของเรจีนา เขาบอกว่าช่วงนี้พวกมอนสเตอร์ที่ชื่อว่าสลัก (スラグ) ในอุโมงค์หมู่นี้เพิ่มมากขึ้นอยากให้ช่วยปราบ



การปราบสลักได้เริ่มต้นขึ้นโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ พ่อของเรจีนาบอกว่าถ้าใครชนะจะเลี้ยงเล่าทำให้เรจีนาดูฮึกเหิมเต็มที่



เมื่อเข้ามาเรื่อยๆจนถึงด้านในก็พบโบราณสถานจำนวนมาก เรจีนาบอกว่าพวกสลักเนี่ยมักปรากฏตามโบราณสถาน เธอสงสัยว่าจริงๆแล้วคนที่สร้างโบราณสถานพวกนี้ขึ้นอาจไม่ใช่คนสมัยโบราณแต่เป็นพวกสลักเองก็เป็นได้



การปราบสลักจบลง อาช่าก็เดินทางต่อมาจนกลับมาถึงโบราณสถานใกล้อาเตอลีเยแล้วก็แนะนำเส้นทางให้มาริออนเพื่อสำรวจด้านใน มาริออนเห็นสุสานของนิโอก็เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ อาช่าจึงเล่าเรื่องราวของเธอทั้งหมดให้



การสำรวจจบลงอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร เสร็จแล้วมาริออนก็ขอตัวเดินทางกลับฟิร์ซแบร์กไปก่อน เธอบอกว่ายังมีอะไรที่ต้องสำรวจอีกมากมาย โดยช่วงนี้จะประจำอยู่ที่สำนักงานในเมืองฟิร์ซแบร์กตลอด มีอะไรก็ให้ไปหาได้

อาช่าเองเมื่อเสร็จธุระที่นี่แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับฟิร์ซแบร์กอีกครั้ง แต่ในการเดินทางกลับมาครั้งนี้ทั้งเรื่องยุ่งๆและข่าวดีๆบางอย่างกำลังรอเธออยู่

เรื่องราวของอาช่าเพิ่งจะแค่เริ่มต้นขึ้นเท่านั้นจากนี้ไปยังต้องเจออะไรอีกมากมาย



>> อ่านตอนต่อไป


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> อาเตอลีเย

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文