# พุธ 1 พ.ย. 2023กลุ่มวิจัยที่มหาวิทยาลัยโทวโฮกุได้ชวนกันไปเที่ยวเดินเขาในฤดูใบไม้ร่วง เช่นเดียวกัยที่เคยไปเที่ยวกันเมื่อปีที่แล้วดังที่เขียนถึงไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221103เป้าหมายคราวนี้อยู่ที่หุบเขาแม่น้ำโมมิจิ (
紅葉川渓谷) บนเขาโอโมชิโระ (
面白山) ในจังหวัดยามางาตะ
ที่จริงแล้วเราเคยแวะมาปีนเขาโอโมชิโระแล้วเมื่อปีที่แล้ว เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221016แต่ว่าในครั้งนั้นเรามาปีนขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งเส้นทางยากลำบากมาก ในขณะที่ครั้งนี้ที่จะไปคือเส้นทางเดินตามหุบเขาริมธารน้ำ มีจุดเริ่มต้นเดียวเป็นคนละเส้นทางกัน
แม่น้ำที่ไหลผ่านบริเวณนี้เรียกว่าแม่น้ำโมมิจิ โดยโมมิจิหมายถึงเมเปิล ซึ่งเป็นพืชที่เปลี่ยนสีสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง บริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นโมมิจิสมดังชื่อ ทำให้มีจุดขายอยู่ที่ทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ร่วง
อย่างไรก็ตาม การเดินเที่ยวที่นี่ถือว่าค่อนข้างอันตราย เพราะเป็นการเดินเลียบริมลำธารในหุบเขา โดยทางเดินก็แคบและส่วนใหญ่ไม่มีรั้วกั้น ถ้าหากพลัดตกลงไปก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องใช้ความระมัดระวังสูง
ฉะนั้นแม้ทิวทัศน์จะสวยแต่ก็ต้องให้ความสนใจมองข้างล่างมากกว่า ถ้ามัวแต่เพลินกับความสวยงามแล้วก้าวเท้าพลาดก็ร่วงได้ ไม่ค่อยน่าแนะนำให้ไปเที่ยวที่นี่ถ้าอยากเที่ยวเพลิดเพลินแบบสบายๆ
สำหรับการเที่ยวที่นี่สามารถไปได้โดยนั่งรถไฟไปลงที่สถานีโอโมชิโระยามะโควเงง (
面白山高原駅) ซึ่งอยู่ในทางรถไฟสายเซนซัง (
仙山線) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองเซนไดกับเมืองยามางาตะ ค่าเดินทางจากเซนไดไป ๗๗๐ เยน รถไฟรอบที่นั่งไปนั้นออกจากเซนไดเวลา 8:18 และถึงที่หมายเวลา 9:17 ใช้เวลาประมาณชั่วโมง
ภาพนี้ถ่ายเมื่อถึงสถานีแล้วลงรถไฟมาแล้วรถไฟกำลังวิ่งออกไป แค่ทิวทัศน์ตรงสถานีนี้ก็เห็นเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามแล้ว
ที่ข้างสถานีมีพวกสิ่งก่อสร้างอำนวยความสะดวกอยู่เล็กน้อย เช่นห้องน้ำ ก่อนไปเดินก็แวะเข้าที่นี่ก่อน ที่จริงมีร้านอาหารด้วยแต่ตอนนี้ไม่เปิด ดังนั้นไม่สามารถหาของกินที่นี่ได้ จำเป็นต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าเอง
ตรงนี้คือทางปีนขึ้นเขาซึ่งเราปีนขึ้นไปครั้งก่อน เป็นเส้นทางที่ลำบากมาก แต่ครั้งนี้เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่นี่
ทางที่จะไปเดินคราวนี้อยู่ทางโน้น ก่อนอื่นต้องข้ามสะพานข้ามทางรถไฟไป
ทิวทัศน์จากบนสะพานนี้มองไปสวยงามมาก
เมื่อข้ามไปแล้วถ้าเดินต่อไปตามถนนก็จะเป็นทางรถวิ่งซึ่งไม่ใช่เป้าหมาย แต่ตอนแรกเผลอเดินผิดไปตามทางนี้สักพัก เพราะหาปากทางเข้าเส้นทางไม่เจอ
จนต้องเดินย้อนมาจึงได้เจอปากทางเข้าไปสู่เส้นทางเดินเลียบริมธารน้ำ
เมื่อเดินลงมา เส้นทางก็เป็นอย่างที่เห็น เดินไปตามทางเดินแคบๆที่ไม่มีรั้วกั้น ด้านล่างเป็นธารน้ำสวยงาม แต่ถ้าตกลงไปก็เรื่องใหญ่ มีหลายครั้งที่ต้องข้ามสะพานซึ่งหวาดเสียวมาก สะพานแกว่งไปมา แถมผุพังมีรูหลายที่ ไม่ว่าจะเดินตรงไหนที่นี่ก็ต้องระวังเต็มที่
ระหว่างทางมีน้ำตกสวย ตรงนี้มีชื่อเรียกว่าน้ำตกเส้นไหม (
絹糸の
滝)
ป้ายเขียนว่ามัตสึโอะบุจิ (
松尾淵)
เส้นทางเดินที่สวยงามแต่ยากลำบากก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็มาถึงสุดทาง เดินกลับขึ้นไป
แล้วก็ลอดอุโมงค์
ก็มาโผล่ตรงถนน ตรงนี้เรียกว่าเป็นปากทางเข้าออกอีกทางของหุบเขาแม่น้ำโมมิจิ เป็นปลายทางของการเดินครั้งนี้ กว่าจะเดินทางมาถึงนี่ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า
แผนที่แสดงเส้นทางที่เดินมา
ป้ายบอกว่าจากตรงนี้ถ้าเดินตามทางถนนกลับไปถึงสถานีโอโมชิโระยามะโควเงงคือ ๑.๗ กม. หรือถ้าจะเดินต่อไปจนถึงสถานียามาเดระซึ่งอยู่ถัดไปก็อีก ๕.๘ กม.
ขากลับเราก็เดินกลับเส้นทางเดิมอีก ระหว่างทางก็ยังถ่ายรูปเพิ่มอีก
แล้วก็กลับมาถึงจุดเริ่มต้น
หลังจากนั้นก็กลับมาที่สถานี เดินกลับลงไปที่ชานชลา
จากตรงชานชลานี้มีเส้นทางเดินไปอีกสั้นๆ เป้าหมายคือน้ำตกอาราเระ (
霰滝)
แล้วก็มาถึง เป็นน้ำตกสวยๆอีกแห่ง ตรงนี้มีที่ให้นั่งพักกินข้าวที่เตรียมมา แต่ว่าเราไม่ได้เตรียมอะไรมากินก็เลยแค่นั่งเล่นรออยู่เฉยๆ
หลังจากนั้นก็กลับมายังสถานีเพื่อรอรถไฟ โดยที่ตามแผนแล้วต่อไปทุกคนจะนั่งรถไฟไปยังสถานียามาเดระ เพื่อเที่ยวที่ยามาเดระกันต่อ แต่ว่าเรากับเพื่อนอีกคนตัดสินใจไม่ไปด้วย เพราะว่าเคยไปมาแล้ว (เขียนไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20220925) จึงขอตัวกลับก่อน
รถไฟที่ไปทางยามาเดระนั้นมาตอน 12:59 ส่วนรถเมล์ที่กลับเซนไดนั้นมาตอน 13:19 และถึงเซนไดเวลา 14:17
แล้วเราก็กลับมาถึงเซนได หาอะไรกินที่ร้านในสถานี มื้อนี้เป็นโอจาซึเกะ (お
茶漬け) ปลาโอแถบ
ก็จบการเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงไปอีกวัน สถานที่เที่ยวคราวนี้ถือว่าอันตรายเป็นพิเศษ แต่ก็ได้ชมทิวทัศน์สวยงาม เป็นอีกวันที่สนุก