φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



ปราสาทวากายามะ สถานที่แรกในญี่ปุ่นที่ไปเที่ยวมา
เขียนเมื่อ 2013/01/22 23:17
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

#พฤหัส 17 ม.ค. 2013


หลังจากที่ออกจากสนามบินนานาชาติคันไซตามที่เล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20130118

รถไฟก็มุ่งหน้าสู่สถานีวากายามะชิ (和歌山市駅) (คำว่า "ชิ" แปลว่าเมือง) ในเมืองวากายามะ (和歌山市) จังหวัดวากายามะ (和歌山県)

ที่เลือกที่จะมาเที่ยวเมืองวากายามะก่อนก็เพราะอยู่ใกล้กับสนามบินมาก ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ ๔๐ นาที (ใกล้กว่าเดินทางเข้าตัวเมืองโอซากะเสียอีก แม้ว่าสนามบินจะอยู่ในจังหวัดโอซากะก็ตาม) แต่เมืองอยู่คนละทางกับเมืองอื่นๆซึ่งจะไปเที่ยว จึงสะดวกที่จะไปเที่ยวก่อนเป็นที่แรก เพราะว่าขากลับไม่ได้กลับมาขึ้นที่สนามบินนี้แล้ว

แผนที่จังหวัดวากายามะ โดยสีชมพูเข้มคือเขตเมืองวากายามะ




จังหวัดวากายามะตั้งอยู่บนคาบสมุทรคิอิ (紀伊半島) ซึ่งเป็นคาบสมุทรขนาดใหญ่ตอนใต้ของภูมิภาคคันไซ มีเมืองหลักคือเมืองวากายามะ อยู่ติดริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก สถานที่เที่ยวมาทั้งทะเลและภูเขา ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเขาโควยะ (高野山) ซึ่งเป็นเส้นทางแสวงบุญสำคัญในอดีต มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม


แต่เป้าหมายที่มาเที่ยววากายามะครั้งนี้มีแค่เที่ยวในเมือง โดยเที่ยวอยู่แค่สองที่ นั่นคือปราสาทวากายามะ (和歌山城) กับย่านวากาโนอุระ (和歌浦) ที่จริงวากายามะยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย แต่เนื่องจากต้องรีบไปหาเพื่อนที่เกียวโตตอนช่วงบ่ายจึงเลือกแวะแค่นี้



ปราสาทวากายามะ (和歌山城) เป็นปราสาทโบราณที่อยู่ในเมืองวากายามะ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1585 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ วีรบุรุษคนสำคัญคนหนึ่งแห่งยุคเซงโงกุ

ในอดีตเมืองนี้เคยถูกเรียกว่า 若山 ซึ่งก็อ่านว่าวากายามะเหมือนกับตอนนี้ แต่เขียนไม่เหมือนกัน หลังจากที่ปราสาทวากายามะถูกสร้างขึ้นเสร็จ เมืองนี้จึงเปลี่ยนมาเขียนชื่อเป็น 和歌山 อย่างที่ใช้ในปัจจุบัน

หลังจากเข้าสมัยเอโดะ ปราสาทนี้ก็ได้ตกเป็นของตระกูลโทกุงาวะ ซึ่งเป็นเชื้อสายของโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสึ

ในปี 1846 หอหลักถูกฟ้าผ่าทำให้เกิดไฟไหม้เสียหาย แล้วก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1850

แต่แล้วหลังจากนั้นก็ถูกไฟไหม้เสียหายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐฯในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง วันที่ 9 ก.ค. 1945 หอหลักปัจจุบันเป็นของใหม่ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1958

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่นถูกกองทัพสหรัฐฯโจมตีอย่างหนัก ทั้งปราสาทและสถานที่สำคัญต่างๆได้ถูกทำลายไปมาก ในจำนวนนั้นยอดปราสาทที่ถูกทำลายไปมีอยู่ถึง ๗ แห่ง ปัจจุบันมีการสร้างมาทดแทนของเก่าแล้ว ๖ แห่ง ปราสาทวากายามะก็เป็นหนึ่งในนั้น



มาถึงสถานีวากายามะชิแล้ว รถไฟที่เรานั่งมานั้นจากตอนแรกออกจากสนามบินคันไซตอน 8:20 แล้วถึงสถานีอิซึมิซาโนะตอน 8:28 จากนั้นรอเปลี่ยนรถซึ่งออกตอน 8:34 สุดท้ายก็มาถึงสถานีวากายามะชิตอน 9:02




ออกมาด้านนอกสถานี ภาพตัวสถานี



จากนั้นก็มาขึ้นรถเมล์ที่หน้าสถานี ขึ้นสาย 116 ซึ่งออกตอน 9:08



รถเมล์ที่นี่ทุกคนจะต้องขึ้นทางประตูหลังแล้วออกทางประตูหน้า เพื่อให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ

ข้างในใช้ระบบที่ทันสมัยมาก คือใช้เครื่องตรวจตั๋ว สำหรับคนที่มีบัตรแบบเหมาจ่ายหรือพวกพาสต่างๆก็ให้หยอดเข้าเครื่อง แล้วตอนออกก็หยอดอีกรอบก็เรียบร้อย



ส่วนใครที่ไม่มีก็ให้รับบัตรคิดราคา เป็นแค่เศษกระดาษเล็กๆที่ไว้จดบันทึกว่าเราขึ้นที่สถานีไหน แล้วพอตอนลงก็เอากระดาษแผ่นนั้นหยอดที่เครื่องหน้าทางออกอีกที มันก็จะบอกราคาว่าเราต้องจ่ายเท่าไหร่ เราก็หยอดเหรียญจ่ายไปเท่านั้น เวลาหยอดต้องให้คนขับเขาเห็นชัดๆด้วยจะได้แน่ใจว่าเราไม่ได้โกงค่าโดยสาร แต่ส่วนใหญ่เขาก็ไว้ใจกัน

ที่สำคัญคือถ้าใครไม่มีเศษเหรียญ เขามีเครื่องแลกเงินอัตโนมัติเตรียมไว้ให้ด้วย แบงก์พันสามารถแลกเป็นเหรียนหนึ่งร้อย เหรียญหนึ่งร้อยสามารถแลกเป็นเหรียญสิบ สะดวกจริงๆ

เราใช้ Kansai thru pass ก็หยอดเข้าเครื่องสบาย ไม่ต้องเสียตังเลยในการนั่งรถเมล์ตลอดวันนี้ ค่ารถเมล์ในญี่ปุ่นไม่ใช่ถูกๆเลย ขึ้นไปทีก็หลักร้อย

บรรยากาศในรถเมล์ คนโล่งมากเลย คงเพราะยังเช้าๆ และเมืองนี้ก็ไม่ใช่เมืองใหญ่อะไรมาก



ระหว่างทางเราถ่ายรูปไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน ด้วยความตื่นเต้นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นสภาพบ้านเมืองญี่ปุ่น




จากนั้นก็มาลงที่ป้ายโควเองมาเอะ (公園前) ซึ่งแปลว่าหน้าสวนสาธารณะ ซึ่งหมายถึงสวนสาธารณะวากายามะ (和歌山公園) ซึ่งปราสาทก็อยู่ในนี้ บริเวณนี้ล้อมด้วยคู และมีกำแพงหินกั้นอยู่รอบด้านในคูอย่างที่เห็น ประตูทางเข้าด้านนี้มีชื่อว่าโอเทะมง (大手門) เป็นประตูด้านหน้า ประตูนี้ก็เคยถูกทำลายไปแล้วถูกสร้างขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆอีกหลายแห่ง ไม่ใช่ของเก่าดั้งเดิม



ด้านในเป็นสวนสาธารณะ พอเข้ามาแล้วก็เดินตามทางเรื่อยๆ มีป้ายบอกทางอยู่ว่าจะขึ้นปราสาทต้องไปทางไหน



แล้วก็จะเริ่มเห็นบันไดหินทางขึ้น



ก็ค่อยๆปีนขึ้นไป วันแรกมาใหม่ๆยังแข็งแรงเต็มที่อยู่เดินแค่นี้สบายมาก



พอขึ้นไปแล้วมองดูข้างล่างก็เห็นว่ามีสวนสัตว์อยู่ด้วย แต่ก็เล็กๆไม่ได้มีอะไรมาก



เดินขึ้นไปสักพักก็เริ่มเห็นตัวปราสาทแล้ว มันอยู่ตรงหน้านี้แล้ว




และแล้วก็ขึ้นมาถึงตัวปราสาท



ข้างๆก็มีม้านั่งให้พักเหนื่อยก่อนสักพัก



ทิวทัศน์จากตรงนี้มองลงไปก็เริ่มเห็นตัวเมืองจากมุมสูงได้สวย



ก่อนจะเข้าตัวปราสาทต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วค่าเข้าก่อน ซึ่งราคา ๔๐๐ เยน แต่เรามีบัตร Kansai thru pass อยู่ จึงลดได้เหลือ ๓๐๐ เยน นี่เป็นข้อดีอย่างมากของการใช้บัตร Kansai thru pass



ตั๋วเข้าชมปราสาท



ทางเข้าบริเวณตัวปราสาท



เข้ามาแล้วก็มองเห็นยอดอาคารหลักของปราสาทได้ชัด



ข้างๆก็เห็นยอดปราสาทเล็ก



ทางเข้าภายในอาคาร ปราสาทนี้ภายในห้ามถ่ายรูป ดังนั้นจึงไม่ได้ถ่ายมาเลย ด้านในจัดแสดงพวกวัตถุโบราณต่างๆ ที่จริงก็คงไม่ใช่จุดสนใจอะไรของคนทั่วไปมากนัก



ที่สำคัญคือการได้ขึ้นไปบนยอดปราสาท แล้วมองลงมาสู่ด้านล่าง





มุมนี้เห็นบริเวณภายในปราสาท



ปราสาทนี้นอกจากจะสูงสามชั้นแล้วยังมีชั้นใต้ดินด้วย แต่เขาห้ามเข้า



จบการชมตัวปราสาทแค่นี้ จากนั้นเราก็เดินออกมา และไปยังทางออกอีกด้านหนึ่ง

จากมุมนี้ก็เห็นยอดปราสาทได้เหมือนกัน



บริเวณอื่นภายในสวนสาธารณะนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นสวนสวยๆ แต่พอดีว่าไม่มีเวลามากก็เลยรีบเดินไปยังทางออก





แล้วเราก็เดินออกประตูซึ่งต่างจากตอนแรกที่เข้ามา



เพราะวางแผนไว้แล้วว่าพอออกมาตรงนี้ก็จะมาโผล่ยังป้ายรถเมล์ที่เราต้องการขึ้นเพื่อไปยังสถานที่เที่ยวจุดต่อไป ตรงนี้เรียกว่าป้ายเคนโจวมาเอะ (県庁前) ซึ่งแปลว่าหน้าที่ทำการจังหวัด



รถเมล์ที่นี่ตรงป้ายจะมีบอกเวลาไว้แน่นอน และมาค่อนข้างตรงเวลาด้วย



เรานั่งรถเมล์สาย 4 ซึ่งออกจากป้ายนี้ 10:06 พอถึงเวลารถก็มาตามเวลาเป๊ะ แล้วเราก็ขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางสู่ที่หมายต่อไป

ติดตามชมกันได้ตอนต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20130130

 



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> วากายามะ
-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น
-- ประวัติศาสตร์ >> ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ