# ศุกร์ 16 ส.ค. 2019หลังจากที่มาเยือนจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลา ๕ วันและเสร็จจากธุระที่เมืองอูหลู่มู่ฉีและต้องเดินทางกลับไทเปโดยบินมาต่อเครื่องที่
เมืองเจิ้งโจว (郑州市) https://phyblas.hinaboshi.com/20190823เนื่องจากมีเวลา ๕ ชั่วโมงที่เจิ้งโจวระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง จึงตัดสินใจหาที่เที่ยว
เจิ้งโจวนั้นเป็นเมืองขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางแห่งมณฑลเหอหนานซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญของจีนมาหลายพันปี เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงมากมาย
เกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองเจิ้งโจว อ่านได้ในบทความนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20190824ที่ย่านใจกลางเมืองเจิ้งโจวนั้นมีโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญอยู่ คือซากกำแพงเมืองสมัยราชวงศ์ซางซึ่งคาดว่าเก่าแก่ถึงสมัย 1500 ปีก่อน ค.ศ. เรียกว่า
เจิ้งโจวซางเฉิงอี๋จื่อ (郑州商城遗址)ก่อนหน้านี้เคยไปชมซากเมืองหลวงเก่าสมัยราชวงศ์ซางที่
เมืองอานหยาง (安阳市) ซึ่งอยู่ในมณฑลเหอหนานเช่นกัน เล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20120915หากเทียบกับของที่เมืองอานหยางแล้ว ซากเมืองเก่าที่เมืองเจิ้งโจวนั้นอยู่ในยุคที่เก่าแก่กว่า แต่ก็มีขนาดเล็กกว่าจึงไม่ได้เป็นที่รู้จักเท่า ไม่ได้เป็นสถานที่เที่ยวชื่อดังที่ใครๆพูดถึงกันนัก
ข้างๆซากกำแพงเมืองนั้นมีวัดขงจื๊อ
เจิ้งโจวเหวินเมี่ยว (郑州文庙) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นกัน สร้างในรัชสมัยจักรพรรดิฮั่นหมิงตี้ (
汉明帝, ปี ค.ศ. 58-75) ต้นยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (
东汉, ปี ค.ศ. 25-220)
แต่ว่าหลังจากนั้นก็มีการสร้างใหม่ซ้ำเดิมหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเจออัคคีภัยในปี 1896 ก็ถูก หลังจากนั้นจึงถูกสร้างใหม่แล้วก็เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ จนมีสภาพเป็นอย่างในปัจจุบัน ดังนั้นร่องรอยเดิมสมัยยุคแรกเริ่มจึงไม่ได้หลงเหลืออยู่ เหลือไว้เพียงประวัติศาสตร์
ทั้งซากกำแพงเมืองเก่าและวัดขงจื๊อนี้เป็นที่หมายของการเที่ยวในครั้งนี้
เวลาแค่ ๕ ชั่งโมงนั้นถือว่าน้อยมาก อีกทั้งสนามบินก็อยู่ห่างไกลตัวเมือง จึงไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่ก็เพียงพอที่จะเที่ยวแบบรีบๆได้
การเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองนั้นสะดวกมาก เพราะมีรถไฟฟ้าเชื่อมจากสนามบิน
เจิ้งโจวตี้เถี่ย (郑州地铁) เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่ปี 2013 ขณะนี้มี ๓ สายเปิดใช้แล้ว คือสาย ๑, ๒, ๕ และกำลังสร้างขยายต่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สายที่เชื่อมระหว่างสนามบินกับใจกลางเมืองคือสาย ๒ เป็นสายที่ลากยาวตามแนวเหนือใต้ ปลายใต้สุดอยู่ที่สนามบิน ส่วนปลายเหนือไปไกลถึงใกล้แม่น้ำหวงเหอ
สถานที่เที่ยวที่ต้องการแวะไปคราวนี้อยู่ที่
สถานีตงต้าเจีย (东大街站) ซึ่งอยู่บนสาย ๒ นี้เอง จึงไม่ต้องเปลี่ยนรถ แต่ว่าระยะไกลมากจึงทำให้ต้องใช้เวลานั่งนานถึงชั่วโมงกว่าจะถึง
ทางขึ้นรถไฟใต้ดินอยู่ชั้นใต้ดินของสนามบิน เดินลงไป
ไปทางนี้
ที่ขายตั๋วตรงนี้สามารถใช้โทรศัพท์มือถือจ่ายด้วยเวย์ซิ่น (
微信) ได้ สะดวกดี ค่าเดินทางจากสนามบินไปยังตงต้าเจียคือ ๗ หยวน ถือว่าถูกมาก ทั้งที่ระยะไกลถึงขนาดนี้
มารอขึ้นรถไฟฟ้า ที่สถานีสนามบินนี้มีรถไฟฟ้าค่อนข้างน้อย แค่ ๑๕ นาทีต่อขบวนเท่านั้น แต่ตอนที่ไปถึงจังหวะดี รอแค่ ๓ นาทีก็ได้ขึ้น
ภายในขบวน ตอนต้นทางคนยังโล่งๆ แต่พอยิ่งเข้าใกล้ใจกลางเมืองคนก็ยิ่งแน่น
แผงแสดงชื่อสถานี
พอมาถึงกลางทาง มีช่วงหนึ่งที่ขบวนรถขึ้นมาอยู่ข้างบน เริ่มเห็นทิวทัศน์ข้างนอกได้
แต่ว่าไม่นานนักก็กลับลงใต้ดินอีกเมื่อใกล้เข้าตัวเมือง จึงไม่ได้เห็นอะไรอีก
แล้วก็มาถึงสถานีตงต้าเจีย
เดินออกมานอกสถานี
บริเวณรอบๆ
จากนั้นเดินไปทางตะวันออก ถนนตรงนี้คือถนนตงต้าเจีย (
东大街) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสถานี
เส้นทางตรงนี้ดูจะกำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าเกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าสายใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างสร้าง
แล้วก็มาถึงวัดขงจื๊อที่เป็นเป้าหมาย อยู่ฝั่งตรงข้ามโน่น
ข้ามฝั่งมาเป็นลานกว้างหน้าวัด มีประตูหลิงซิงเหมิน (
棂星门) อยู่ด้านหน้า
เดินเข้ามาเจอบ่อน้ำที่มีสะพานพาดอยู่ แล้วมองลึกเข้าไปเห็นประตูต้าเฉิงเหมิน (
大成门) เป็นประตูทางผ่านสำหรับเข้าไปด้านใน
จากตรงนี้มองข้ามกำแพงไปจะเห็นซากกำแพงเก่าสมัยราชวงศ์ซาง ซึ่งเดี๋ยวจะไปชมต่อจากนี้
แต่ก่อนอื่นเริ่มจากเข้าชมด้านในวัดก่อน
ผ่านต้าเฉิงเหมินเข้ามา
เจออาคารแรกสวยเด่นอยู่เบื้องหน้า คือต้าเฉิงเตี้ยน (
大成殿)
บันไดลายมังกร
ด้านข้างมีทางให้ลงไปได้ แต่มีป้ายเตือนว่าพื้นลื่น
ด้านล่างก็ไม่มีอะไร นอกจากพื้นลื่นๆ ต้องเดินระวังมากจริงๆ
ส่วนทางขวาคือตงเซียงฝาง (
东厢房)
ด้านในเป็นที่จัดแสดงของโบราณ
ทางซ้ายคือซีเซียงฝาง (
西厢房)
ด้านในแสดงภาพเขียนและงานพู่กัน
จากนั้นเดินอ้อมผ่านอาคารต้าเฉิงเตี้ยนเข้ามาด้านในต่อ
ก็จะมาเจออาคารด้านในสุด จุนจิงเก๋อ (
尊经阁)
ตรงลานระหว่างต้าเฉิงเตี้ยนกับจุนจิงเก๋อนี้มีบ่อน้ำอยู่
จากนั้นเดินต่อเข้ามาด้านหลังอาคารจุนจิงเก๋อ
ก็เจอป่าไผ่
ก็สุดเท่านี้ ไม่มีอะไรแล้ว เดินออกมา
ผ่านต้าเฉิงเตี้ยน มองจากด้านหลัง
เดินออกมาจากวัด แล้วไปทางตะวันออกต่อ เพื่อไปชมซากกำแพงเมืองเก่า ระหว่างทางก็อยู่ในสภาพกำลังก่อสร้างเลยเดินลำบากหน่อย
แล้วก็เห็นซากกำแพง ถูกกั้นเอาไว้อย่างดี สามารถมองจากลานข้างๆได้
บนลานกว้างข้างๆมีเต่าแบกเสาหิน
ฝั่งตรงข้ามถนน (ฝั่งใต้) มีซากกำแพงอีกส่วน
เดินข้ามมา
ตรงนี้มีป้ายชื่อสถานที่
郑州商代遗址หลังแผ่นป้ายมีข้อความอธิบายสถานที่
ถ้าเดินเข้าไปด้านในจะเป็นสวนสาธารณะ และมีอะไรให้ดูอีกหน่อย แต่น่าเสียดายว่าเราไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบกลับไปขึ้นเครื่องบิน ไม่เช่นนั้นอาจตกเครื่องแล้วไม่ได้กลับได้
พวกเรารีบเดินกลับมายังสถานีตงต้าเจีย เพื่อจะขึ้นรถไฟใต้ดินกลับไปยังสนามบิน
ตอนที่ลงมาถือว่าจังหวะดี รออีกแค่ ๓ นาทีขบวนต่อไปที่จะไปได้ก็มา 16:28
ที่จริงแล้วขบวนรถที่ผ่านสถานีนี้มีค่อนข้างถี่เพราะเป็นย่านใจกลางเมือง แต่ว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปถึงสนามบิน แต่ไปสุดถึงแค่
สถานีหนานซื่อหวน (南四环站) ซึ่งอยู่ระหว่างทาง ส่วนที่ไปถึงสนามบินจะมาประมาณ ๑๕ นาทีต่อขบวนเท่านั้น โชคดีที่จังหวะที่มาถึงเจอขบวนที่สามารถไปถึงสนามบินได้เลย
แล้วเราก็นั่งกลับมายังสนามบิน ใช้เวลาไปอีกชั่วโมง ถึงประมาณห้าโมงครึ่ง เหลืออีกเพียงชั่วโมงเดียวก็คือ 18:35 ถือเป็นเวลาที่กระชั้นชิดมาก ถ้าช้ากว่านี้อีกสักหน่อยอาจไม่ได้ขึ้นเครื่องแล้ว
รีบเข้ามาหยิบกระเป๋าสัมภาระที่ฝากไว้ แล้วก็เอาไปเช็กอิน
เดินเข้าไปยังจุดขึ้นเครื่องสำหรับต่างประเทศและฮ่องกงมาเก๊าไต้หวัน
เข้ามาด้านในตรงโถงสำหรับรอขึ้นเครื่อง ดูแล้วขนาดใหญ่ไม่น้อย แต่นี่เฉพาะสายการบินระหว่างประเทศและฮ่องกงมาเก๊าไต้หวันเท่านั้น ส่วนของสายการบินในประเทศคงจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกมาก เพราะที่นี่มีเที่ยวบินในประเทศเยอะกว่ามาก
ร้านค้ามีไม่มาก แถมบางแห่งก็ปิดอยู่
ระหว่างนั้นคอแห้งอยากหาซื้อน้ำ แต่ร้านน้ำก็ปิดอยู่ ยังดีที่เจอตู้ขายน้ำ
ตู้ขายน้ำนี่ก็ใช้เวย์ซิ่นจ่ายได้ ไม่ต้องใช้เงินสดหยอด
รอสักพักเขาก็กลับประกาศว่าเครื่องบินมาถึงช้ากว่าเวลา จึงออกเดินทางช้ากว่ากำหนด
ทิวทัศน์ข้างนอก ระหว่างรอ
ในที่สุดก็ประกาศให้ขึ้นเครื่องได้ ช้ากว่าเวลาที่กำหนดเดิมไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง
ขึ้นเครื่อง
อาหารบนเครื่อง
บนเครื่องมีหน้าจอที่บอกตำแหน่งและแผนที่การบิน
ในที่สุดก็กลับถึงสนามบินเถาหยวนที่ไต้หวันเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง
ก็เป็นอันสิ้นสุดการเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งนี้ เป็นการไปแค่ ๕ วันที่มีจุดประสงค์แค่ไปประชุมวิชาการ และไม่ได้เที่ยวอะไรมาก แต่ก็ยังหาเรื่องเที่ยวตอนเปลี่ยนเครื่องจนได้
เจิ้งโจวเป็นเมืองใหญ่ จริงๆแล้วมีอะไรให้เที่ยวมากกว่านี้ หวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้แวะมาเที่ยวอีก