#เสาร์ 12 พ.ย. 2022ต่อจากตอนที่แล้วที่เดินทางมาเที่ยว
จังหวัดอิวาเตะ (岩手県) โดยเริ่มเที่ยวจาก
เกมบิเกย์ (厳美渓) ใน
เมืองอิจิโนเซกิ (一関市) https://phyblas.hinaboshi.com/20221112เราก็ขึ้นรถมุ่งมาทางเหนือ เข้าสู่เขต
เมืองฮิราอิซึมิ (平泉町) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆทางตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะ
ฮิราอิซึมินั้นเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีสิ่งก่อสร้างที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยโบราณเก็บรักษาไว้อยู่ จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2011
สิ่งก่อสร้างโบราณต่างๆที่สำคัญภายในฮิราอิซึมินั้นส่วนใหญ่แล้วต้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองฮิราอิซึมิปัจจุบัน ซึ่งมีสถานีฮิราอิซึมิ (
平泉駅) ตั้งอยู่ สามารถเดินทางไปถึงได้สะดวกโดยนั่งรถไฟไป แล้วเดินเที่ยวภายในเมืองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีรถก็ได้ แต่ก็มีสถานที่บางส่วนที่อยู่ห่างไกลจากใจกลางเมือง ทำให้เดินทางไปลำบาก ถ้าไม่มีรถ
สถานที่เที่ยวสำคัญที่สุดที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองฮิราอิซึมิก็คือ
ทักโกกุโนะอิวายะ (達谷窟) เป็นอาคารวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างฝังอยู่ใต้หินหน้าผา ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองฮิราอิซึมิไป ๖ กิโลเมตรทางตะวันตก ถ้าเดินไปก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง
ครั้งนี้เราเดินทางมาจากเกมบิเกย์ ซึ่งอยู่ค่อนไปทางตะวันตก ใกล้กับที่นี่มากว่าตัวเมืองฮิราอิซึมิ จากเกมบิเกย์มายังที่นี่มีระยะทางแค่ ๓ กิโลเมตร เราจึงแวะมาเที่ยวที่นี่ก่อน แล้วจึงค่อยเดินทางเข้าชมสถานที่อื่นๆที่อยู่ภายในตัวเมืองฮิราอิซึมิ
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองฮิราอิซึมิในจังหวัดอิวาเตะ แสดงเป็นสีเหลืองเข้มเล็กๆเกือบล่างสุด ถูกล้อมรอบโดยเมืองอิจิโนเซกิ ที่จริงแต่เดิมแล้วเมืองอิจิโนเซกิก็เกิดขึ้นจากการผนวกรวมเมืองเล็กๆข้างๆเข้าด้วยกัน แต่เมืองฮิราอิซึมินั้นยังคงเหลือรอดอยู่ ไม่ได้ถูกผนวกรวมเข้าไปด้วย เลยเหมือนเป็นติ่งเล็กๆแยกออกมาแบบนี้
ทักโกกุโนะอิวายะนั้นมีชื่อเต็มว่า "ทักโกกุโนะอิวายะบิชามนโดว" (
達谷窟毘沙門堂) เริ่มแรกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพบิชามนเตง (
毘沙門天) หรือที่ในไทยเรียกชื่อตามภาษาบาลีว่า "ท้าวเวสวัณ" (
वेस्सवण) เป็นหนึ่งในสี่จาตุมหาราชซึ่งปกครองสวรรค์ชั้นแรกตามความเชื่อในศาสนาพุทธ
ประวัติศาสตร์ของที่นี่ย้อนไปได้ไกลถึงต้นยุคเฮย์อัง ปี 801 ซากาโนะอุเอะ โนะ ทามุรามาโระ (
坂上 田村麻呂, ปี 758-811) โชกุนในสมัยนั้นได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิเทมมุ (
桓武天皇, ปี 737-806) ให้เดินทางมาปราบอากุโระโอว (
悪路王) ซึ่งเป็นโจรที่ตั้งฐานอยู่ในพื้นที่แถบนี้ และได้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน หลังจากปราบอากุโรวโอวเสร็จแล้วจึงได้สร้างอาคารบิชามนโดวขึ้นมาที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก
แต่ว่าหลังจากนั้นที่นี่ก็ได้เคยถูกทำลายและสร้างใหม่ขึ้นมาอีกหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากอัคคีภัย อาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1961 ไม่ใช่ของเก่าแก่ดั้งเดิม
หลังออกจากเกมบิเกย์ เราก็นั่งรถมุ่งไปทางเหนือ ไปตามถนนเส้นฮิราอิซึมิเกมบิเกย์ (
平泉厳美渓線)
ระหว่างทางผ่าน
วัดโจวเกย์ (長慶寺) ซึ่งข้างๆนั้นเป็นสุสานสวยดี เลยถ่ายรูประหว่างที่นั่งรถผ่าน
หลังจากนั้นก็ออกจากเขตของเมืองอิจิโนเซกิ เข้าสู่เขตของเมืองฮิราอิซึมิ
แล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงทักโกกุโนะอิวายะ จอดรถตรงที่จอดรถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน จากนั้นก็เดินข้ามไปเข้าชม
ตรงนี้เป็นปากทางเข้า ก่อนอื่นต้องซื้อบัตรเข้าชมตรงนี้จึงจะเข้าไปชมด้านในได้
บัตรเข้าชม ราคา ๕๐๐ เยน
จากนั้นก็เดินเข้ามาด้านใน
แล้วก็เข้ามาถึงตัวอาคารบิชามนโดว (
毘沙門堂) ซึ่งฝังอยู่ใต้หน้าผา
สามารถเดินเข้าไปชมด้านในตัวอาคารได้ แต่ว่าด้านในห้ามถ่ายรูป ทำได้แต่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มองออกไปจากบนอาคารนี้
ที่ด้านหน้าตัวอาคารบิชามนโดวนั้นมีอาคารเบนเตนโดว (
辯天堂) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางบ่อน้ำกามะงะอิเกะ (
蝦蟆ヶ池)
จากนั้นเราก็เดินออกจากบิชามนโดวมาอีกฝั่ง ทางตะวันตก
จากตรงนี้ถ่ายภาพบิชามนโดวคู่กับเบนเตนโดว
เข้ามาเดินชมรอบๆเบนเตนโดวและบ่อน้ำกามะงะอิเกะ
ถัดไปจากตรงนี้ทางตะวันตกมีหน้าพระพุทธรูปที่แกะสลักลงบนหน้าผา เรียกว่า กัมเมงไดบุตสึ (
岩面大佛) ประวัติการสร้างไม่แน่ชัด แต่ถูกเล่าว่าสร้างขึ้นโดยมินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ (
源 義家, ปี 1039-1106) เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับผู้ที่ตายในสงครามปี 1051-1062
เดิมทีพระพุทธรูปนี้ไม่ได้มีแต่ส่วนหน้าแต่ถูกสลักไว้ทั้งตัว แต่ว่าในปี 1896 ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทำให้ส่วนอื่นๆถล่มไปหมด เหลือแต่ส่วนหน้าที่ยังพอเห็นได้จนถึงปัจจุบัน
รอยแกะสลักนี้เก่าแก่และค่อนข้างเลือนราง มองยากนิดนึง แต่ก็พอจะเห็นส่วนหน้าที่ยังพอจะเหลืออยู่ได้
หลังจากนั้นก็เดินไปทางตะวันออก เข้าชมส่วนสุดท้าย
ที่อยู่ด้านในนี้คืออาคารคนโดว (
金堂) ซึ่งภายในบูชาพระยากุชิเนียวไร (
薬師如来) หรือที่เรียกในภาษาสันสกฤตว่า "ไภษัชยคุรุ" (
भैषज्यगुरु) เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรคตามความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายมหายาน
ข้างๆอาคารคนโดวมีต้นไดอกโกว (
大オッコウ) เป็นต้นไม้อายุ ๕๐๐ ปี
ส่วนภายในอาคารก็สามารถเข้าชมได้ โดยต้องถอดรองเท้าเข้าไป และไม่สามารถถ่ายรูปภายในได้ จึงไม่ได้เก็บภาพด้านในเอามาลงในนี้ ได้แต่ถ่ายภาพบริเวณหน้าอาคาร
แล้วก็ชมภายในนี้เสร็จ ใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นเราก็กลับมายังที่จอดรถเพื่อขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันออก เข้าสู่ตัวเมืองฮิราอิซึมิ เพื่อชมสถานที่เที่ยวที่เหลือของที่นี่ต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20221114