#เสาร์ 19 พ.ย. 2022วันนี้เดินทางมาเที่ยวเมืองชิโรอิชิทางใต้ของจังหวัดมิยางิดังที่เล่าไปใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221119เราได้เดินมาจนถึงเป้าหมายแรกในการเที่ยววันนี้ นั่นก็คือ
ปราสาทชิโรอิชิ (白石城) ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่โดยใครนั้นไม่แน่ชัดเพราะไม่มีบันทึกไว้แน่นอน รู้แต่ว่าในช่วงตั้งแต่ก่อนยุคเซงโงกุถูกปกครองโดยตระกูลชิโรอิชิ หลังจากนั้นที่นี่ก็ถูกยึดครองโดยดาเตะ มาซามุเนะ (
伊達 政宗, ปี 1567-1636) พอถึงยุคเอโดะที่นี่ก็เข้ามาอยู่ในอาณาเขตของเซนไดฮัง (
仙台藩) โดยได้ยกให้คาตากุระ คาเงตสึนะ (
片倉 景綱, ปี 1157-1615) ซึ่งเป็นคนสนิทของมาซามุเนะ เป็นผู้ปกครองปราสาทนี้ต่อไป หลังจากนั้นปราสาทนี้ก็ถูกปกครองโดยตระกูลคาตากุระสืบทอดต่อไป
ในช่วงยุคเอโดะนั้นปกติแล้วในแต่ละแคว้นจะสร้างปราสาทได้เพียงแห่งเดียวตามนโยบายภายใต้คำสั่งหนึ่งแคว้นหนึ่งปราสาท (
一国一城令) ส่วนปราสาทที่เหลือจะถูกรื้อทิ้งหรือลดขั้นลง แต่ว่าปราสาทชิโรอิชินี้ได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ ทำให้เซนไดฮังมีปราสาทอยู่ ๒ แห่ง
พอหมดยุคเอโดะ เข้าสู่ยุคเมย์จิ ปี 1874 ปราสาทชิโรอิชิก็ได้ถูกรื้อทิ้ง เช่นเดียวกับปราสาทหลายแห่งในญี่ปุ่น จึงไม่ได้หลงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในปี 1995 ได้มีการสร้างตัวปราสาทขึ้นมาใหม่แทนที่ให้เหมือนของเก่าดั้งเดิม
ปราสาทชิโรอิชิยังมีอีกชื่อว่า
ปราสาทมาสึโอกะ (益岡城) ปัจจุบันบริเวณรอบๆปราสาทกลายเป็นสวนสาธารณะ เรียกว่าสวน
สาธารณะมาสึโอกะ (益岡公園) ภายในบริเวณยังมีทั้งพิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า สนามกีฬา
ปราสาทชิโรอิชิก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองชิโรอิชิ สามารถเข้าชมภายในอาคารปราสาท รวมทั้งบริเวณรอบๆได้ ในส่วนของตัวอาคารปราสาทนั้นมีค่าเข้าชม ๔๐๐ เยน เปิดเวลา 9:00-16:00 ส่วนบริเวณรอบๆนั้นเป็นสวนสาธารณะ เข้ามาเดินเล่นหรือชมได้อิสระไม่เสียตังค์
เมื่อเดือนมีนาคม 2022 ได้เกิดแผ่นดินไหวทำให้ปราสาทชิโรอิชิเสียหายจนต้องซ่อมแซม ระหว่างนั้นตัวปราสาทถูกปิดไม่สามารถเข้าชมได้ แต่ก็กลับมาเปิดใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2022
เมื่อเดินเข้ามาจากถนนทางตะวันออก ก่อนอื่นก็เจอ
พิพิธภัณฑ์สืบค้นประวัติศาสตร์ปราสาทชิโรอิชิ (白石城歴史探訪ミュージアム) ซึ่งเป็นที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของที่นี่ และมีที่ฉายหนังสามมิติให้ชมได้ด้วย
แต่เนื่องจากมาเช้าเกินไป ตอนนี้ยังไม่ถึงเก้าโมง ยังไม่เปิด จึงยังสามารถเข้าไปชมด้านในได้ เดี๋ยวค่อยแวะมาทีหลัง
จากนั้นเดินผ่านเข้ามาก็เห็นตัวอาคารปราสาทชิโรอิชิจากด้านนอก บริเวณนี้เป็นฝั่งเหนือของปราสาท
ที่ข้างๆกำแพงนั้นมีบ่อน้ำตั้งอยู่ และข้างๆกันนั้นก็มีฝาท่อระบายน้ำรูปโปเกมอน
นี่เป็นฝาท่อโปเกมอนประจำเมืองชิโรอิชิ ซึ่งประกอบด้วยลาปลาส (ラプラス)
โปเกมอนสนับสนุนจังหวัดมิยางิ และคุสึเนะ (クスネ)
โปเกมอนจิ้งจอก
รายละเอียดฝาท่อของที่นี่
https://local.pokemon.jp/tc/manhole/desc/120/ที่โปเกมอนจิ้งจอกได้รับเลือกให้วาดบนฝาประจำเมืองนี้ก็คงเป็นเพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของ
หมู่บ้านจิ้งจอกมิยางิซาโอว (宮城蔵王キツネ村) นั่นเอง แม้ว่าปราสาทชิโรอิชิจะไม่ได้เมีความเกี่ยวข้องอะไรกับจิ้งจอกก็ตาม
ทางตะวันออกของฝาท่อนี้เป็นทางเข้าบริเวณด้านในตัวปราสาท
เดินผ่านประตูเข้ามาชมบริเวณด้านใน
ผ่านประตูโอเตะอิจิโนะโกมง (
大手一ノ
御門)
เข้ามาก็จะเห็นตัวปราสาทคู่กับประตูโอเตะอิจิโนะโกมง
ภาพตัวปราสาทกับแผ่นหินที่เขียนชื่อปราสาท
ตรงนี้มีแผ่นป้ายบูชาคาตากุระ คาเงตสึนะ ผู้นำของตระกูลคาตากุระที่เริ่มปกครองปราสาทนี้ตั้งแต่ต้นยุคเอโดะ
ข้างๆปราสาทมีซากบ่อน้ำ
ตัวปราสาทนั้นยังเข้าไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา 9:00 ดังนั้นก่อนอื่นจึงได้ไปเดินชมในบริเวณแล้วค่อยกลับมาเข้าชม
บริเวณรอบๆนี้เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งกำลังมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
ทางใต้ของปราสาทเป็นสนามเบสบอล
เดินลงมายังถนนทางใต้ของปราสาท
แล้วเลียบถนนไปทางตะวันตก
กลับมาเข้าสู่ตัวบริเวณปราสาทจากทางฝั่งตะวันตก
จากตรงนี้เดินเลียบสนามเบสบอล
แล้วขึ้นบันไดไป
ก็มาถึงบริเวณลานทางตะวันตกของปราสาท
ตรงนี้มีรูปปั้นของโอซึตสึ มังเอมง (
大砲 万右エ門, ปี 1869-1918) นักซูโม่ชื่อดังที่เกิดที่เมืองชิโรอิชิ มีรูปร่างใหญ่โตมาก สูงถึง ๑๙๔ ซม. รูปปั้นนี้ทำเป็นขนาดเท่าตัวจริงส สร้างขึ้นในปี 1999 เป็นที่ระลึกครบรอบวันเกิด ๑๓๐ ปีของเขา
ส่วนข้างๆนั้นเป็นแผ่นหินที่สลักชื่อของเขาไว้
จากตรงนี้เดินผ่านทางฝั่งตะวันตกของปราสาท
ก็เจอทางเข้าสู่ศาลเจ้าชิมเมย์ชะ (
神明社)
เดินผ่านเข้ามาด้านใน
รูปปั้นโคมาอินุ (
狛犬)
ตัวอาคารหลักด้านในสุด
ส่วนอื่นๆภายในบริเวณศาลเจ้า
ในนี้ยังมีนาฬิกาแดดตั้งอยู่ด้วย
หลังจากนั้นก็ใกล้เวลาเก้าโมง เดินกลับมายังตัวอาคารปราสาท
ก่อนอื่นต้องมาซื้อตั๋วเข้าชมตรงนี้ก่อน
ตั๋วซื้อได้ด้วยเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ
หยอด ๔๐๐ เยนลงเครื่องแล้วก็ได้บัตรเข้าชมมา
จากนั้นถือบัตรแล้วเข้าไปชมด้านใน
ภายในชั้นแรกของอาคารปราสาท
ตรงนี้แสดงชิโรอิชิวาชิ (
白石和紙) ซึ่งเป็นงานพับกระดาษที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้
ตรงนี้มีขวดเหล้าเต็มไปหมด
ชุดเกราะ
ข้างๆนั้นมีแบบจำลองตัวอาคารปราสาทนี้
ตรงนี้แสดงส่วนโครงสร้างด้านในผนังที่ทำจากดิน
ช่องโยนหินลงไปโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ด้านล่าง
จากนั้นขึ้นไปยังชั้น ๒
บันไดชันมาก เวลาปีนต้องระวัง
ชั้น ๒ นี้แสดงพวกภาพวาดปราสาทนี้ฝีมือเด็กๆ
จากนั้นขึ้นไปชั้น ๓ ซึ่งเป็นชั้นบนสุด
ชั้นนี้ไม่มีอะไรอยู่เลย แค่เป็นจุดชมทิวทัศน์
ออกไปดูที่ระเบียงทางฝั่งเหนือเห็นทางเข้าที่เราเข้ามาตอนแรก
รวมถึงฝาโปเกมอนที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อกี้ด้วย จากตรงนี้สามารถมองจากมุมสูงได้ด้วย
ทิวทัศน์เมื่อมองไปทางทิศเหนือ
ทิวทัศน์ทิศตะวันตก
ทิวทัศน์ทิศใต้
ทิวทัศน์ทิศตะวันออก มองเห็นประตูโอเตะอิจิโนะโกมงที่เดินเข้ามา
ลองขยายดูตรงยอดประตู มีประดับด้วยปลาชาจิ (
鯱) อยู่ด้วย
การชมภายในปราสาทก็จบเท่านี้ ใช้เวลาไปประมาณ ๑๕ นาที จากนั้นก็เดินลงมา
แล้วก็เดินย้อนไปที่พิพิธภัณฑ์สืบค้นประวัติศาสตร์ปราสาทชิโรอิชิซึ่งเดินผ่านตอนแรก ตอนนี้เปิดให้เข้าได้แล้วเช่นกัน
ภายในชั้นแรกเป็นร้านขายของ
มีตู้ถ่ายสติกเกอร์ด้วย
ทางขึ้นไปชั้น ๒
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาชั้น ๒ เห็นตรงนี้มีวีดีโอฉายตอนที่ทำการบูรณะปราสาทชิโรอิชิขึ้นมาใหม่
ข้างๆนั้นวางตะเกียงฟุกุมารุ (
福丸ランプ)
ห้องจัดแสดงพวกของเก่า
รูปสลักไม้จำลองคาตากุระ คาเงตสึนะ และปืนคาบชุด (
火縄銃) ยาว ๙๗.๕ ซม.
ปลาชาจิ
แบบจำลองบริเวณตัวปราสาทชิโรอิชิในสมัยก่อน
แบบจำลองแสดงบริเวณตัวเมืองที่ล้อมรอบปราสาทชิโรอิชิ
จากนั้นขึ้นไปชั้น ๓
ที่นี่มีห้องฉายหนังสามมิติ
แต่ว่ารอบฉายเริ่มตั้งแต่ 10:00 ตอนนี้ยังไม่เปิด
การเที่ยวภายในตัวปราสาทก็จบลงเท่านี้ แล้วเราก็ออกจากที่เพื่อเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไป นั่นคือหมู่บ้านจิ้งจอก ซึงอยู่นอกตัวเมือง ต้องเดินทางไปด้วยรถ โดยต้องไปขึ้นรถที่
สถานีชิโรอิชิ (白石駅) ซึ่งเป็นสถานีหลักใจกลางเมือง คนละสถานีกับ
สถานีชิโรอิชิซาโอว (白石蔵王駅) ที่เป็นสถานีชิงกันเซง ที่เรานั่งมาลงตอนขามา
ระหว่างทางเดินผ่านที่ว่าการเมืองชิโรอิชิ (
白石市役所)
แล้วเดินถัดมาก็เจอวัดเมียวเกง (
妙見寺) เป็นวัดในนิกายนิจิเรนชู (
日蓮宗)
ตัวอาคารหลักของวัด
แวะเข้ามาเดินดูภายในบริเวณวัดสักหน่อย
ในนี้มีรูปปั้นพระนิจิเรง (ปี 1222-1282) ผู้เป็นศาสดาของนิกาย
แล้วก็เดินต่อมาจนถึงสถานีชิโรอิชิ
ด้านหน้าสถานีมีหอระฆัง
หน้าตัวอาคารสถานีมีแผนที่แสดงสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองชิโรอิชิ ดูแล้วก็มีไม่น้อยเลย แต่ที่เราแวะไปเที่ยวในคราวนี้มีแค่ ๒ ที่เท่านั้น
แผนที่แนะนำเส้นทางเดินเที่ยวภายในตัวเมือง ซึ่งผ่านปราสาทชิโรอิชิและที่อื่นๆด้วย ดูมีอะไรมากกว่าที่คิด แต่เราไม่ได้แวะที่อื่นนอกจากปราสาทเลย
มีตู้ไปรษณีย์ที่ทำเป็นรูปปราสาทชิโรอิชิอยู่ด้วย
ด้านในตัวสถานี มีรอบรถไฟทั้งที่ไปยังสถานีเซนไดและฟุกุชิมะ
ภายในสถานีมีร้านสะดวกซื้อ
ภายในร้านมีขายชิโรอิชิอูเมง (
白石温麺) ของเฉพาะถิ่นของที่นี่
แต่ว่าตอนนี้เราไม่ได้กำลังจะมาขึ้นรถไฟ แค่จะมาขึ้นรถเมล์เท่านั้น ที่จริงแล้วจึงไม่ได้มีธุระอะไรในตัวสถานี แค่เวลาเหลือเลยเดินเล่นฆ่าเวลาเท่านั้น
ที่หน้าสถานีมีป้ายรถเมล์ แต่ลองมองหาดูแล้วก็พบว่ารถเมล์ที่เราจะขึ้นนั้นไม่ได้ขึ้นจากตรงป้ายนี้
รถเมล์ที่จะไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกนั้นอยู่ที่ฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นด้านหลังของสถานี ต้องเดินข้ามสะพานไป
จากบนนี้มองรางรถไฟข้างๆสถานี
แล้วก็ลงจากสะพาน มายังด้านฝั่งตะวันออกของสถานี
ป้ายรถเมล์ที่จะนั่งไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกตั้งอยู่ตรงนี้เอง
ตัวป้าย เขียนบอกเวลา เที่ยวรถมีแค่เวลา 10:14 กับ 13:14 เท่านั้น ระหว่างรอก็มีคนอื่นมารอรถอยู่ที่ป้ายนี้ด้วย รวมเราแล้วก็เป็น ๕ คน แต่ละคนมีเป้าหมายเดียวกันคือไปเที่ยวที่หมู่บ้าจิ้งจอก
พอถึงเวลา 10:14 รถเมล์ก็มา แล้วเราก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหมู่บ้านจิ้งจอก
บันทึกการเที่ยวในหมู่บ้านจิ้งจอกจะเขียนในหน้าต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20221121