# อาทิตย์ 6 ส.ค. 2023
บันทึกการเที่ยวอากิตะวันที่ ๒ ต่อจากตอนที่แล้วที่ได้ได้มาถึงอากิตะแล้วเข้าชมเทศกาลอากิตะคันโตวไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20230814วันนี้เป็นวันเดินทางกลับ โดยจะกลับเซนไดโดยนั่งชิงกันเซงไปตอนบ่าย แต่ช่วงเช้ายังมีเวลาอีกหน่อยจึงไปเที่ยวที่อื่นภายในเมืองอากิตะต่อ
เป้าหมายแรกที่เลือกไปเที่ยววันนี้ก็คือ
ปราสาทอากิตะ (秋田城) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอากิตะ
ปราสาทอากิตะเป็นปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยนาระ (ปี 710-794) ซึ่งถือเป็นปราสาทยุคโบราณกว่าปราสาทญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักส่วนใหญ่ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยหลังจากนั้น ปราสาทแบบนี้เรียกว่าโจวซากุ (
城柵)
โจวซากุนั้นถูกสร้างขึ้นหลายแห่งในภูมิภาคโทวโฮกุ มีจุดประสงค์เพื่อการบุกเบิกและปกครอง และต่อสู้กับชนกลุ่มน้อยทางตอนเหนือซึ่งสมัยก่อนเป็นแดนห่างไกลมีประชากรน้อย
ในจำนวนโจวซากุทั้งหมด ปราสาทอากิตะถือว่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือที่สุด ไม่มีโจวซากุที่ถูกสร้างค่อนไปทางเหนือมากกว่านี้อีกแล้ว
อนึ่ง
ปราสาทคุโบตะ (久保田城) ที่ใจกลางเมืองอากิตะซึ่งได้แวะไปมาเมื่อวาน (
https://phyblas.hinaboshi.com/20230811) บางทีก็ถูกเรียกว่าเป็นปราสาทอากิตะเช่นกัน ดังนั้นต้องระวังสับสน ปราสาทคุโบตะนั้นเป็นปราสาทยุคเอโดะเช่นเดียวกับปราสาทส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกันดี
ตัวปราสาทอากิตะนั้นปัจจุบันเหลือแต่เพียงซาก และมีบางส่วนที่ถูกจำลองขึ้นมาใหม่ สามารถเข้าชมได้ นอกจากนี้ข้างๆยังมีการสร้าง
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซากปราสาทอากิตะ (秋田城跡歴史資料館) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทนี้ ค่าเข้าชม ๒๑๐ เยน
การเดินทางนั้นไปได้โดยนั่งรถเมล์จากสถานีอากิตะไป ซึ่งก็มีหลายสายที่สามารถไปได้ ใช้เวลา ๒๐ นาที ค่าโดยสาร ๓๗๐ เยน
เริ่มแรกเราตื่นมาตอนเช้า กินอาหารที่ชั้น ๑ ของโรงแรมอัลฟาวันอากิตะที่พักอยู่ สามารถเข้ากินได้ตั้งแต่ ุ6:30 ค่าอาหารไม่ได้แถมมากับค่าพักโรงแรม แต่สามารถกินได้โดยจ่ายเพิ่ม ๑๐๐๐ เยน
อาหารเช้ามีมากมายให้เลือกหยิบ มีที่เป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดอากิตะด้วย
มุมเครื่องดื่ม
บรรยากาศภายในร้าน
หยิบเอามานั่งกิน
ทางขวานี่คือเส้นอินานิวะอุดง (
稲庭うどん) ของขึ้นชื่อจากเมืองอินานิวะ (
稲庭町) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองยุซาวะ (
湯沢市) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดอากิตะ
หลังจากกินเสร็จก็กลับขึ้นห้องไปนั่งอยู่หน้าจอคอมหาข้อมูลเรื่องที่เที่ยวไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 8 โมงครึ่งก็เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมไปเพื่อเริ่มการเที่ยวในวันนี้
ก่อนอื่นต้องเดินไปยังสถานีอากิตะเพื่อขึ้นรถเมล์
จุดขึ้นรถเมล์หน้าสถานีอยู่ตรงโน้น
แต่ว่าไม่สามารถข้ามถนนไปโดยตรงได้ ต้องเดินขึ้นทางลอย
ภาพบริเวณจุดขึ้นรถเมล์ ถ่ายจากด้านบนทางลอย
แล้วก็เดินลงมาตรงนี้
จุดขึ้นรถเมล์มีรถเมล์มาจอดเยอะ ต้องมาหาว่ารถที่จะขึ้นนั้นออกจากป้ายไหน ต้องใช้เวลาในการตามหาอยู่ ในที่สุดก็เจอ รถเมล์ที่จะขึ้นนั้นมีปลายทางอยู่ที่
สถานีทสึจิซากิ (土崎駅) ทางตอนเหนือของเมืองอากิตะ ขึ้นจากป้ายหมายเลข ๕
รถเมล์ที่เราขึ้นนั้นเป็นรอบ 9:00 พอใกล้เวลารถเมล์ก็มาจอดก่อน
ภายในรถ คนโล่งมาก ที่ขึ้นมานอกจากเราแล้วก็มีคุณยายที่นั่งด้านหน้าอีกคน
แล้วรถก็ออก ระหว่างทางเส้นทางก็ผ่านสระบัวหน้า
สวนสาธารณะเซนชู (千秋公園) ซึ่งเมื่อวานก็เพิ่งได้เที่ยวไปแล้ว
เนื่องจากกระจกรถเมล์มีคราบเกาะอยู่เต็ม ภาพที่ถ่ายผ่านกระจกจึงออกมาพร่ามัวไม่ชัดเจน
และทางซ้ายก็เป็นลานกว้างนิงิวาอิ (にぎわい
広場) ที่เป็นที่จัดงานแข่งขันในเทศกาลอากิตะคันโตว แต่ตอนนี้เงียบเหงาอยู่
จากนั้นก็ผ่านถนนใหญ่คันโตวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานตอนกลางคืน ตอนนี้เป็นเวลากลางวันจึงดูเงียงเหงาหน่อย
แล้วก็มาผ่านอาคาร
ที่ว่าการเมืองอากิตะ (秋田市役所) ส่วนฝั่งตรงข้ามกันนั้นเป็น
ที่ว่าการจังหวัดอากิตะ (秋田県庁舎) ผ่านอาคารศูนย์การศึกษาชั่วชีวิตจังหวัดอากิตะ (
秋田県生涯学習センター)
แล้วในที่สุดก็มาถึงที่หมายคือป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซากปราสาทอากิตะ
ป้ายรถเมล์ฝั่งที่ลงนั้นอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ แต่เราตั้งใจจะไปชมตัวซากปราสาทก่อนแล้วค่อยมาเดินชมพิพิธภัณฑ์ ก็เดินข้ามถนนไปทางตะวันอก
ฝั่งนี้มีป้ายรถเมล์ขากลับ มีตารางรถเมล์บอกด้วย รอรถเมล์รอบ 10:05 น่าจะกำลังดี
จากนั้นก็เดินขึ้นไปตรงนี้
แล้วก็มาถึงบริเวณภายในปราสาทอากิตะแล้ว ที่เห็นเป็นพื้นที่มีท่อนไม้ปักอยู่คือโครงตัวอาคารที่ถูกทำไว้ให้รู้ว่าเมื่อก่อนมีการสร้างอาคารไว้ตรงนี้ แต่ไม่ได้มีการสร้างจำลองอาคารขึ้นมาใหม่จริงๆ
ส่วนตรงนี้คือประตูตะวันออกของตัวป้อมด้านใน ตอนนี้เราอยู่ด้านในปราสาท ดังนั้นถ้าผ่านประตูนี้ไปก็คือเป็นบริเวณด้านนอกของส่วนชั้นในปราสาท เพียงแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในส่วนชั้นนอกของปราสาทอยู่
เดินผ่านประตูออกมาก็จะพบแบบจำลองย่อส่วนของอาคารภายในปราสาทอากิตะ
หลังจากนั้นเดินขึ้นไปทางเหนือ
ก็เจอ
ศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดอากิตะ (秋田県護国神社) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวปราสาทอากิตะโดยตรง แต่ถูกสร้างขึ้นในปี 1869 ในบริเวณปราสาทนี้
ภายในศาลเจ้า
หลังจากชมศาลเจ้าเสร็จก็เดินต่อมาทางตะวันออกก็เจอประตูตะวันออกชั้นนอกของปราสาทอากิตะ ถ้าเดินออกจากประตูนี้ไปก็ถือเป็นส่วนนอกปราสาทแล้ว
หน้าประตูมีป้ายอธิบายเกี่ยวกับที่นี่ให้อ่านนิดหน่อยด้วย
จากนั้นเดินออกประตูมา
เบื้องหน้านี้ก็เป็นสวน ไม่มีอะไรมาก
ทางขวาเป็นบ่อน้ำ
เดินออกมาสักพักเห็นว่าไม่มีอะไรก็เดินกลับเข้าประตูไปตามทางเดิม
จากนั้นขากลับเปลี่ยนมาเดินขึ้นไปทางเหนือหน่อย
ก็เจอเสาโทริอิทางเข้าตัวศาลเจ้าโกโกกุซึ่งตะกี้ไมไ่ด้เดินผ่านมา
เดินผ่านเสาโทริอิเข้ามาเรื่อยๆก็จะกลับไปถึงหน้าตัวอาคารหลักของศาลเจ้า
จากนั้นก็เดินกลับเข้าประตูตะวันออกส่วนกลางปราสาทมายังด้านในที่มีโครงอาคาร
ตรงนี้มีสะพาน ซึ่งสามารถเดินเพื่อข้ามไปยังส่วนพิพิธภัณฑ์ได้ ไม่ต้องเดินลงกลับไปยังถนนด้านล่าง
ระหว่างทางมีป้ายอธิบาย ภาพทางซ้ายแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ส่วนด้านในปราสาทอากิตะนั้นในปัจจุบันโดนถนนตัดผ่าน และเราก็กำลังอยู่บนสะพานที่ข้ามถนนนั้น ปัจจุบันตัวกำแพงและประตูไม่เหลือแล้ว ที่ถูกสร้างจำลองขึ้นใหม่มีแค่ส่วนด้านตะวันออกเท่านั้น
เมื่อข้ามมาก็เจอตัวอาคารพิพิธภัณฑ์
เดินเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์
ภายในไม่ใหญ่มาก และเราก็มีเวลาเหลือไม่มากในการชมที่นี่ก่อนที่รถเมล์จะมา จึงได้แค่ดูผ่านๆแบบรีบๆ
ห้องส่วนด้านใน
ส่วนห้องตรงนี้เป็นที่ฉายหนัง
เราเดินชมในพิพิธภัณฑ์แบบรีบๆจนถึงใกล้เวลาก็จึงรีบมาที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งรถเมล์ก็มาช้าไป ๒ นาที
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถเมล์เพื่อกลับไปยังสถานีอากิตะ โดยผ่านเส้นทางเดิม ระหว่างทางก็ผ่านอาคารที่ว่าการเมืองอากิตะ ซึ่งข้างๆนั้นเป็นแผงขายอาหารในงานเทศกาล แต่ตอนที่ผ่านไปนั้นก็ดูจะยังเช้าไปจึงดูเงียบเหงา
จากนั้นก็กลับมาถึงสถานีอากิตะ
ในตอนต่อไปจะไปเที่ยวสถานที่เที่ยวอีกแห่งภายในเมืองอากิตะด้วยเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นที่เที่ยวสุดท้ายที่ได้แวะเที่ยวในการเที่ยวอากิตะครั้งนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20230817