φυβλαςのβλογ
phyblas的博客



เที่ยวโบสถ์ ๘ แห่งในปักกิ่ง
เขียนเมื่อ 2014/12/30 12:35
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#จันทร์ 29 ธ.ค. 2014

ถ้าเป็นที่ไทยคนจะนิยมเที่ยวไหว้พระ ๙ วัดกัน ส่วนในปักกิ่งเองก็มีวัดเป็นจำนวนมากพอให้ทำงั้นเหมือนกันถึงจะไม่ค่อยมีใครทำ แต่คราวนี้เราลองทำในสิ่งที่น่าจะยิ่งไม่มีใครทำก็คือลองเที่ยวโบสถ์คริสต์ดูแทน

แรงบันดาลใจของการเที่ยวตะลอนครั้งนี้มาจากการที่เมื่อกลางปีได้ไปเที่ยวสวีเดนและได้ชมโบสถ์สวยๆหลายแห่ง โบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามน่าชม แม้จะไม่ได้นับถือคริสต์แต่ก็ชอบที่ได้เที่ยวชม

สำหรับในจีนเนื่องจากไม่ใช่เมืองคริสต์ดังนั้นโบสถ์สวยๆจึงมีน้อยและก็ไม่ได้ใหญ่โต ไม่ได้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสักเท่าไหร่ แต่หากลองหาดูก็พอจะเจออยู่บ้าง

จากการหาข้อมูลก็ตัดสินใจที่จะลองไปชมโบสถ์ทั้งหมด ๘ แห่งซึ่งกระจายอยู่ในเมืองปักกิ่ง

1. โบสถ์ไห่เตี้ยน (海淀堂)
2. โบสถ์คาธอลิกซีสือคู่ (西什库天主堂)
3. โบสถ์กางหว่าซื่อ (缸瓦市教堂)
4. โบสถ์คาธอลิกเซวียนอู่เหมิน (宣武门天主堂)
5. โบสถ์จูซื่อโข่ว (珠市口教堂)
6. โบสถ์ฉงเหวินเหมิน (崇文门堂)
7. โบสถ์คาธอลิกหวางฝูจิ่ง (王府井天主堂)
8. โบสถ์ควานเจีย (宽街教堂)

แผนที่แสดงตำแหน่งโบสถ์ตามหมายเลข เส้นสีม่วงแสดงถึงเส้นทางการเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถเมล์ เส้นสีเขียวคือเดิน




เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. รถไฟฟ้าปักกิ่งต่อเติมเพิ่มสายใหม่ขึ้นมาและยังขยายสายเก่าให้ยาวขึ้นด้วย

สายที่เพิ่มขึ้นมาในครั้งนี้คือสาย ๗ ซึ่งเป็นสายที่ลากผ่านโบสถ์แห่งหนึ่งที่ตั้งใจจะแวะไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเปิดในช่วงที่พอเหมาะ

แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่ตามมาด้วยในการต่อขยายครั้งนี้ นั่นก็คือการขึ้นค่าโดยสาร! จากเดิมที่รถไฟฟ้าขึ้นได้ในราคา ๒ หยวนตลอดสาย ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคิดราคาตามระยะทางโดยขั้นต่ำที่ ๓ หยวนและแพงสุดที่ ๗ หยวน

การขึ้นครั้งนี้เหมือนจะดูเป็นข่าวร้าย แต่ที่จริงมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แต่ไหนแต่ไรต้องเรียกว่ารถไฟฟ้าในปักกิ่งถูกเกินไปด้วยซ้ำ เมืองอื่นไม่ถูกแบบนี้และคิดตามราคาทั้งหมด ปักกิ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่การคมนาคมค่อนข้างถูก

ตอนนี้แม้จะเพิ่มค่าโดยสารแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถูกกว่ารถไฟฟ้าของไทยอยู่ดี ในขณะที่มันสามารถไปได้ระยะไกลและทั่วถึงกว่ามาก

โบสถ์ที่ไปทั้งหมด ๘ แห่งนั้นสามารถไปง่ายด้วยรถไฟฟ้าทุกที่ ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้ที่นี่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก



การเที่ยวครั้งนี้เริ่มต้นที่โบสถ์ไห่เตี้ยน (海淀堂) ซึ่งอยู่แถวจงกวานชุน การไปต้องนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีจงกวานชุน (中关村站) ซึ่งอยู่บนสาย ๔ เทียบกับโบสถ์แห่งอื่นที่เป็นเป้าหมายแล้วที่นี่อยู่ไกลจากใจกลางเมืองมากที่สุด



นี่เป็นแผนผังรถไฟฟ้าขนาดนี้ พร้อมบอกราคาค่าโดยสาร จะเห็นว่ามันระโยงระยางยั้วเยี้ยไปหมด เห็นแล้วน่าปวดหัวทีเดียว



ย่านจงกวานชุนเป็นย่านแหล่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับคอมที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง ผู้คนนิยมมาซื้อของกันที่นี่ แต่ก็ต้องระวังว่ามีพวกหลอกลวงอยู่เยอะ

เมื่อออกจากสถานีก็เดินไปทางตะวันตกตามถนนไห่เตี้ยนเป่ย์อี (海淀北一街) ทะลุผ่านใต้ตึกนี้ไป



แถวนี้เป็นย่านที่มีแต่ตึกสูงๆลักษณะแบบนี้เต็มไปหมด



เดินไปตามถนนเรื่อยๆจากนั้นเลี้ยวซ้ายไปทางใต้ก็จะเจอกับโบสถ์คริสเตียนอันเป็นเป้าหมาย



หน้าตาของโบสถ์เป็นแบบนี้ ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนโบสถ์ทั่วไปเท่าไหร่เลย ถือว่าแปลกตาดี



ชั้นล่างเป็นร้านกาแฟเกาะบาหลี



ทางเข้า แต่ว่าเขาปิดอยู่ก็เลยไม่ได้เข้าไป





จากนั้นก็กลับไปยังสถานีจงกวานชุนแล้วก็ขึ้นรถไฟฟ้าต่อไปเพื่อไปโบสถ์คาธอลิกซีสือคู่ (西什库天主堂) ซึ่งอยู่ที่สถานีซีซื่อ (西四站) ซึ่งอยู่บนสาย ๔ เช่นกัน ห่างจากจงกวานชุนไป ๙ สถานี



แถวนี้เมื่อก่อนเคยมาเมื่อวันที่หิมะตกเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นมาแวะเที่ยววัดกว่างจี้ https://phyblas.hinaboshi.com/20111207


เมื่อลงแล้วก็เดินไปทางใต้นิดหน่อยตามถนนซีซื่อหนาน (西四南大街) แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปทางตะวันออกไปตามถนนซีอานเหมิน (西安门大街)



จากนั้นเดินไปสักครู่จนถึงถนนซีสือคู่ (西什库大街) เลี้ยวซ้ายเดินไปทางเหนือตามถนนนี้



ก็จะถึงโบสถ์คาธอลิก ประตูด้านนอกเปิดอยู่สามารถเข้าได้ตามปกติ



เข้ามาด้านในบริเวณ



โบสถ์ที่นี่สวยดีเหมือนกัน จะเห็นว่านอกจากอาคารโบสถ์แล้วอาคารรอบๆเป็นแบบจีนหมด แต่ดูเข้ากันได้อย่างดีเหมือนกัน



ในศาลามีเต่าปี่ซี่ (赑屃) เหมือนอย่างที่พบได้ตามวัดในจีนโดยทั่วไปด้วย



ช่วงนี้ยังไม่นานหลังจากคริสต์มาสจึงมีซานตาครอสอยู่ด้วย



ประตูด้านหน้าปิดอยู่ไม่สามารถเข้าได้ แต่สามารถเข้าได้จากประตูด้านข้าง



ด้านใน





หลังจากเสร็จจากโบสถ์นี้แล้ว เพื่อจะไปโบสถ์ต่อไปคือโบสถ์กางหว่าซื่อ (缸瓦市教堂) สามารถนั่งรถเมล์สาย ๓๘ ไปได้ โดยไปลงที่ป้ายกางหว่าซื่อ (缸瓦市) แต่ว่าตอนที่ไปถึงป้ายรถเมล์สาย ๓๘ ได้ออกไปพอดีก็เลยตัดสินใจเดินไป ที่จริงก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ระยะแค่ ๒ ป้าย สามารถเดินไปได้



เดินย้อนกลับมายังถนนซีซื่อหนานแล้วก็เดินลงไปทางใต้ต่อก็จะมาถึงโบสถ์กางหว่าซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีซีซื่อกับสถานีหลิงจิ้งหูท่ง (灵境胡同站) จากสถานีไหนก็สามารถเดินมาได้ แต่จะค่อนไปทางใกล้กับสถานีซีซื่อมากกว่า



ที่นี่เป็นแค่โบสถ์เล็กๆ แค่ดูจากด้านนอกเฉยๆไม่ได้เข้าไปข้างใน





หลังจากดูเสร็จเพื่อที่จะไปโบสถ์ต่อไปก็เดินต่อลงไปทางใต้เพื่อจะไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีหลิงจิ้งหูท่ง แต่ในตอนนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป้าหมายต่อไปอยู่ใกล้ๆนั่งรถเมล์ไปน่าจะสะดวกกว่าก็เลยเปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์แทน



โบสถ์คาธอลิกเซวียนอู่เหมิน (宣武门天主堂) อยู่ที่สถานีเซวียนอู่เหมิน (宣武门站) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างสาย ๒ กับสาย ๔



เพราะนั่งรถเมล์มา รถเมล์มาจอดที่ฝั่งตรงข้ามโบสถ์



ที่นี่ก็มีต้นคริสต์มาส



ทางเข้า สามารถเข้าไปได้ตามสบาย



ด้านหน้าโบสถ์




ด้านในตัวอาคาร





จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือโบสถ์จูซื่อโข่ว (珠市口教堂) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีจูซื่อโข่ว (珠市口站) ซึ่งเป็นสถานีใหม่ที่เพิ่งเปิดใหม่ ตั้งอยู่บนสาย ๗


การไปนั้นถ้านั่งรถไฟฟ้าจากสถานีเซวียนอู่เหมินต้องไปเปลี่ยนสายที่สถานีสถานีไช่ซื่อโข่ว (菜市口站) เมื่อนั่งสาย ๔ มาลงที่สถานีนี้ก็เจอจุดเปลี่ยนไปยังสาย ๗



ตัวสถานียังดูใหม่ๆอยู่เลย มีกลิ่นสีด้วย พอขึ้นรถไฟฟ้ามาก็เห็นผู้คนค่อนข้างน้อย คงเพราะเพิ่งเปิดแถมยังมาเปิดพร้อมกับการขึ้นค่าโดยสารด้วย เดี๋ยวคนก็คงจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเอง



ถึงสถานีจูซื่อโข่ว



โบสถ์จูซื่อโข่วนี้เล็กนิดเดียวไม่ได้ดูเด่นอะไร มีอยู่แค่เท่าที่เห็น



ทางเข้าโบสถ์ มีลองเข้าไปแล้ว พบว่าไม่มีอะไรมาก มีแค่ห้องเล็กๆ



หากมองไปจากตรงนี้ก็จะเป็นถนนเฉียนเหมิน ซึ่งเราก็เคยแวะมาเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง https://phyblas.hinaboshi.com/20120403

ถ้าเดินถนนเฉียนเหมินจนสุดก็จะมาถึงที่นี่ ดังนั้นที่จริงโบสถ์แห่งนี้เราน่าจะเคยผ่านมาแล้ว เพียงแต่ไม่ได้สนใจเท่านั้นเอง



เป้าหมายต่อไปคือโบสถ์ฉงเหวินเหมิน (崇文门堂) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีฉงเหวินเหมิน (崇文门站) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างสาย ๒ และสาย ๕


จากสถานีจูซื่อโข่วนี้ต้องนั่งไปตามสาย ๗ ต่อไปและไปต่อสาย ๕ ที่สถานีสือชี่โข่ว (磁器口站)



แล้วก็มาถึงสถานีฉงเหวินเหมิน



ที่จริงแถวนี้เมื่อก่อนเคยมาแล้วเหมือนกันตอนที่ไปชมดอกบ๊วยสวยแถวซากกำแพงเมืองเก่า https://phyblas.hinaboshi.com/20120406

เดินเข้าไปในซอยโฮ่วโกวหูท่ง (后沟胡同) ซึ่งอยู่ทางเหนือข้างๆสถานี




เดินเข้าไปไม่ลึกก็เจอทางเข้าโบสถ์ แล้วก็พบปัญหาว่ามันปิดอยู่ ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณได้ ทำยังไงก็ไม่สามารถเห็นตัวโบสถ์ซึ่งอยู่ด้านในเลย น่าเสียดาย




จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือโบสถ์คาธอลิกหวางฝูจิ่ง (王府井天主堂) ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีเติงซื่อโข่ว (灯市口站) ซึ่งอยู่บนสาย ๕ แต่ก็สามารถไปจากสถานีหวางฝูจิ่ง (王府井站) ซึ่งอยู่บนสาย ๑ ซึ่งใกล้รองลงมาได้เช่นกัน

เนื่องจากตอนนั้นก็เที่ยงกว่าแล้ว เริ่มหิวก็เลยคิดว่าจะแวะหวางฝูจิ่งเพื่อไปหาอะไรกิน เลยเลือกลงสถานีหวางฝูจิ่ง ที่นี่เป็นย่านร้านค้าถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงซึ่งไม่ว่าใครมาปักกิ่งก็ต้องแวะมา เคยเล่าถึงไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20120424

นอกจากจะมาหาอะไรกินแล้วก็จะแวะดูหนังสือด้วย ที่นี่มีร้านขายหนังสือขนาดใหญ่ซึ่งแวะมาบ่อยๆรองจากที่ซีตาน ทำให้ย่านหวางฝูจิ่งถือเป็นย่านหนึ่งที่เราค่อนข้างคุ้นเคยเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่เคยเดินไปจนถึงโบสถ์มาก่อนเลยเพราะมันอยู่ไกลจากตรงนี้ไปอีกหน่อย

บรรยากาศบนถนนใหญ่หวางฝูจิ่ง (王府井大街) ยามนี้ เดินไปตามถนนี้ไปทางเหนือเรื่อยๆ



ในที่สุดก็จะเจอโบสถ์ ที่นี่ก็เป็นโบสถ์ที่สวยแห่งหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวมานั่งอยู่ด้านหน้าโบสถ์เยอะอยู่




บริเวณลานกว้างด้านหน้า



ถ่ายจากด้านหน้าโบสถ์ ประตูด้านหน้าโบสถ์ปิดอยู่ไม่สามารถเข้าได้ เวลาจะเข้าต้องเข้าจากด้านข้าง



ภายในตัวโบสถ์ ที่นี่ปิดช่วงเที่ยง ช่วงบ่ายจะเข้าได้ตั้งแต่บ่ายสองโมง ซึ่งก็โชคดีที่เราไปเสียเวลาในร้านหนังสือที่หวางฝูจิ่งอยู่นานพอสมควรก็เลยทำให้มาถึงตอนเกือบบ่ายสองโมง นั่งรอนิดหน่อยก็ถึงเวลาเข้าไปได้



หลังจากชมโบสถ์เสร็จก็เดินไปทางตะวันออกไปตามซอยกานหยวี่หูท่ง (甘雨胡同) ก็จะไปโผล่ที่สถานีรถไฟฟ้าเติงซื่อโข่ว





จากตรงนี้ขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อไปยังเป้าหมายสุดท้ายนั่นคือโบสถ์ควานเจีย (宽街教堂) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีหนานหลัวกู่เซี่ยง (南锣鼓巷站) ซึ่งอยู่บนสาย ๖ ต้องไปเปลี่ยนที่สถานีตงตาน (东单站)



หนานหลัวกู่เซี่ยงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งเหมือนกัน เมื่อก่อนเคยมาเที่ยวแล้วโดยนั่งรถไฟฟ้าสาย ๖ นี้ซึ่งเมื่อ ๒ ปีก่อนมันเป็นสายที่เพิ่งเปิดใหม่ ตอนนั้นก็มาเที่ยวช่วงก่อนปีใหม่เช่นกัน https://phyblas.hinaboshi.com/20130102

จากตรงสถานีเดินไปทางตะวันตกแล้วเลี้ยวเข้าซอยเป่ย์เหอหูท่ง (北河胡同) ก็จะเจอกับโบสถ์ที่เป็นเป้าหมายแห่งสุดท้าย ที่นี่ก็เป็นแค่โบสถ์เล็กๆและก็ไม่เปิดให้เข้า





จบการเดินทางแต่เพียงเท่านี้ จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้ากลับ ขากลับแวะทานพิซซาที่ร้าน saizeriya~ ที่จริงไม่ค่อยเกี่ยว แต่รู้สึกอยากปิดท้ายด้วยรูปของกิน



ปีใหม่นี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนแต่ได้ตะลอนไปทั่วเมืองแบบนี้ก็ไม่เลว จะเห็นว่าปักกิ่งเองก็พอจะมีโบสถ์สวยๆให้ได้ชมกัน หากใครอยากตามรอยก็สามารถไปตามทางที่ว่ามานี้ได้ รถไฟฟ้าในปักกิ่งสะดวกมากไปโน่นนี่ได้ทั่วจริงๆ
 
 
 
 



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> โบสถ์
-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> ปักกิ่ง

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

目录

从日本来的名言
模块
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
机器学习
-- 神经网络
javascript
蒙古语
语言学
maya
概率论
与日本相关的日记
与中国相关的日记
-- 与北京相关的日记
-- 与香港相关的日记
-- 与澳门相关的日记
与台湾相关的日记
与北欧相关的日记
与其他国家相关的日记
qiita
其他日志

按类别分日志



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  查看日志

  推荐日志

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ