φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



เมืองโบราณอูเจิ้น เที่ยวนี้มาแบบทุลักทุเล
เขียนเมื่อ 2012/06/13 16:38
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42


#จันทร์ 30 ม.ค. 2012

หลังจากที่ได้ไปเที่ยวเมืองโบราณซีถาง (西塘) มา https://phyblas.hinaboshi.com/20120609

เราก็เดินทางมาเที่ยวเมืองโบราณอีกแห่งซึ่งใหญ่กว่าและมีชื่อเสียงมากกว่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก นั่นคืออูเจิ้น (乌镇)

อูเจิ้นเป็นหนึ่งในหกเมืองโบราณหลักแห่งเจียงหนาน (江南, ชื่อเรียกรวมๆดินแดนที่อยู่ตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี ซึ่งก็คือถึงตอนใต้ของมณฑลเจียงซู ตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียง รวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้) ซึ่งได้แก่ โจวจวาง (周庄), ถงหลี่ (同里), ลู่จื๋อ(甪直), ซีถาง (西塘), อูเจิ้น (乌镇), หนานสวิน(南浔) โดยที่สามที่แรกอยู่ในมณฑลเจียงซู ส่วนสามที่หลังอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง (ส่วนเมืองโบราณหลงเหมินที่เคยไปมานั้นไม่ได้นับอยู่ในกลุ่มนี้)

ในจำนวนนั้นมีเพียงโจวจวางกับอูเจิ้นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ส่วนที่เหลือเป็นระดับ AAAA สำหรับโจวจวางนั้นก็มีชื่อเสียงพอๆกับอูเจิ้น แต่ว่าอยู่ในมณฑลเจียงซูซึ่งไกลออกไปก็เลยไม่ได้แวะไปเที่ยวด้วย

และอูเจิ้นยังเป็นเมืองโบราณที่ค่าบัตรผ่านแพงที่สุดด้วย

สถานที่เที่ยวในอู้เจิ้นนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนคือเขตตะวันออกเรียกว่าตงจ้า (东栅) และเขตตะวันตกเรียกว่าซีจ้า (西栅) สองฝั่งนี้อยู่ห่างกันพอสมควร สามารถเดินไปได้ หรือจะใช้รถบริการรับส่งก็ได้

ค่าเข้าเขตตะวันออก ๑๐๐ หยวน เขตตะวันตก ๑๒๐ แต่ถ้าซื้อตั๋วสำหรับเข้าทั้งสองที่ทีเดียวก็ราคา ๑๕๐ ดูแล้วจะคุ้มกว่ามาก ที่นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่หนึ่งที่ค่าบัตรผ่านประตูแพงสุดๆ

น่าเสียดายว่าตอนที่ไปถึงอูเจิ้นก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ซึ่งถือว่าช้ามากกว่าที่คาดไว้มาก เนื่องจากการเดินทางในระหว่างทางนั้นลำบากกว่าที่คิด ไม่ได้สะดวกเลย และมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนกันเรื่องข้อมูลการเดินทางด้วยเลยยิ่งวุ่น

ในขณะที่ไปถึงนั้น เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากจนกลัวว่าถ้าเข้าไปก็คงเที่ยวไม่คุ้ม ก็เลยลังเลทีเดียว ที่จริงเมืองโบราณนี้สามารถเที่ยวค้างคืนได้ด้วย ทิวทัศน์ตอนกลางคืนก็สวยงามเช่นกัน แต่เพราะวันนั้นนัดพวกเพื่อนที่ ม. เจ้อเจียง เอาไว้ว่าจะทานกับข้าวทำเองด้วยกัน จึงต้องรีบกลับภายในราวๆช่วงเย็น ถามคนที่นั่นดูเขาก็บอกว่าถ้าเข้าแค่เขตตะวันตกอย่างเดียวก็น่าจะเที่ยวเสร็จทันก่อนเย็น แต่มันจะเย็นเกินไปซึ่งจะไม่ทันเวลาที่นัด

แต่ก็โชคดีว่าคุยกับคุณลุงขับรถรับจ้างที่เจอตรงนั้นแล้วเขาก็มีรายการแนะนำอีกอย่างสำหรับคนที่เวลาน้อยและไม่อยากเสียบัตรค่าเข้า นั่นคือไปเที่ยวส่วนที่เขายังไม่ได้บำรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบดีนักก็เลยไม่ต้องใช้บัตรผ่านประตู บริเวณนั้นคือเขตใต้ซึ่งเรียกว่าหนานจ้า (南栅) เขาบอกว่าส่วนนี้ในอีกไม่ช้าก็จะปรับปรุงให้กลายเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เที่ยวได้และก็จะต้องเก็บตังเช่นเดียวกับเขตตะวันออกและเขตตะวันตก

คนขับเขาก็เสนอว่าเป็นคนพาเราขับรถเที่ยวบริเวณเขตใต้นั้น ด้วยราคา ๖๐ หยวน ระหว่างนั้นเขาจะคอยบอกว่าอะไรเป็นอะไร คอยแนะนำส่วนต่างๆจนกว่าจะเที่ยวทั่วหมด

เราก็คิดในใจว่า ไอ้ส่วนนั้นมันไม่ต้องใช้บัตรผ่านประตู เราจะเข้าฟรีก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอุตส่าห์มาเสีย ๖๐ แต่ปัญหาคือเราไม่รู้จักทาง อีกอย่างคือสถานที่ที่ว่านั้นอยู่ไกลจากท่าขึ้นรถที่เรานั่งมาจากตัวเมืองไปพอควร จะเดินไปก็ได้แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร เราซิ่งมีเวลาน้อยอยู่แล้วไม่มีทางเลือก และอีกอย่างคือจ่ายแค่ ๖๐ ก็ยังดีกว่าจ่าย ๑๒๐ หรือ ๑๕๐ แล้วไม่สามารถเที่ยวได้คุ้ม ไว้โอกาสหน้าเราอาจค่อยมาใหม่เมื่อเวลาพร้อมกว่านี้ก็ได้

ดังนั้นที่จะเล่าถึงต่อไปนี้เป็นการเที่ยวในบริเวณหนานจ้า และบริเวณส่วนที่ไม่ต้องเสียตังค่าบัตรผ่านเข้าไป ดังนั้นจะไม่มีภาพสวยๆงามๆของอูเจิ้นอย่างที่ใครๆที่ไปควรจะได้เห็น ที่จริงเคยเห็นภาพของอูเจิ้นตามภาพที่ใครไปมาแล้วถ่ายมาให้ดู มันก็สวยจริงๆ ไม่แพ้หมู่บ้านโบราณซีถางเลย

แม้จะน่าเสียดายแต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพราะเวลาและงบทุนจำกัดทำให้ต้องมาวางแผนเที่ยวสองที่ในวันเดียวกันเพื่อความคุ้ม (ที่จริงพลาดที่ดันไปในวันที่นัดกินข้าวตอนเย็นด้วย ไม่งั้นจะอยู่ถึงเย็นแล้วกลับถึงตอนค่ำคืนก็ยังได้)



จากตอนที่แล้วเรานั่งรถเมล์กลับจากซีถางมายังตัวเมืองเจียซิง (嘉兴) จากนั้นเราก็นั่งรถเมล์ต่อไปลงที่ตัวเมืองถงเซียง (桐乡)
ป้ายรถเมล์นี้ ทางขวาสุดสายก็คืออูเจิ้น



จากตัวเมืองถงเซียงจุดที่เราไปต่อรถ ไปถึงอูเจิ้นยังต้องเดินทางอีกไกลถึง ๑๗ กิโลเมตร



นั่งรถเมล์ประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงท่ารถเมล์ของอูเจิ้น ตรงนี้มีรถสามล้อถีบเพื่อพาไปส่งที่ตัวสถานที่ท่องเที่ยวเตรียมรอให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด เนื่องจากจากท่ารถไปจุดที่เที่ยวอยู่ห่างกันอีกนิดหน่อย เดินไปได้แต่ก็ใช้เวลา



แผนที่ในบริเวณ



จากนั้นเราก็คุยกับคนขับรถสามล้อคนหนึ่ง แล้วก็ขึ้นรถเขาเพื่อให้เขานำเที่ยวในเขตใต้ซึ่งไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู




ร้านค้าต่างๆก็มากมาย








ร้านนี้คนขับเขาจอดและแนะนำสินค้า โฆษณาให้ร้านตามระเบียบ แล้วก็แพงมากตามคาด มันเป็นพวกผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น



ถึงย่านตรงริมน้ำ ตรงนี้ก็ไม่ได้สวยเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับภาพเมืองโบราณอูเจิ้นที่เคยเห็นก่อนที่จะมา ซึ่งส่วนนั้นเป็นบริเวณที่ต้องเสียเงินเข้าไป






เราก็บอกลาลุงคนขับรถสามล้อแค่นี้ ระยะเวลาที่เขาขับรถชมเขตนี้ก็เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่กินเวลามากนัก

ปัญหาคือสำเนียงของเขาแย่มาก ระหว่างเขานำเที่ยวเขาเล่าอะไรมากมาย แต่ฟังยากมาก บางทีก็ได้แต่เออออตามทั้งที่จริงๆไม่เข้าใจเลยพูดอะไรมาก็ไม่รู้ เลยได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริเวณนั้นน้อยมาก กลายเป็นชมวิวอย่างเดียว แบบนี้ไม่ต่างอะไรจากเดินเองเลย

แล้วเขาก็ชี้ทางเพื่อไปยังด้านหน้าส่วนสถานท่องเที่ยวหลักคือส่วนเขตตะวันตก เราเดินไปทางนั้น




แล้วก็มาโผล่หน้าทางเข้าเขตตะวันตก แน่นอนต้องเสียค่าเข้า ๑๒๐ หยวน ซึ่งเข้าไปตอนนี้ก็คงไม่ทันอะไรแล้ว เราก็ได้แต่เดินอยู่ด้านหน้าทางเข้าแถวๆนั้น



มองลึกเข้าไป ทางเดินด้านขวานั่น คนที่เดินอยู่คือคนที่จ่ายเงินผ่านเข้าไปแล้ว และพอเดินลึกเข้าไปอีกก็คงได้เจออะไรสวยงามภายในอีกต่อไป คนที่ไม่เข้าก็ได้แค่มองจากตรงนี้



แล้วก็เดินเล่นตรงด้านหน้า ซึ่งก็สวยมากเหมือนกัน





มีคนแสดงอะไรอยู่ให้ดูด้วย



ถัดออกมาเป็นย่านที่มีร้านค้าเต็มทาง







ระหว่างนั้นก็หาอะไรกินรองท้องไปด้วย



สุดท้ายก็ได้เวลาเดินออกจากบริเวณจุดท่องเที่ยวเพื่อกลับไปยังท่ารถ เพราะตอนนั้น ๔ โมงแล้ว ขากลับเดินรู้สึกว่าไกลเหมือนกัน ตอนขามาสามล้อเป็นคนมาส่งเลยค่อนข้างสบายๆ



ทิวทัศน์ตามทางระหว่างเดินก็สวยเหมือนกัน




แล้วก็ถึงท่ารถ



รอรถเพื่อไปยังสถานีรถไฟถงเซียง (桐乡火车站)



ถึงสถานีรถไฟถงเซียง



มาทันรถไฟความเร็วสูงเที่ยว G7387 ที่จะไปหังโจวพอดี ออกตอน 17:51 แต่เรามาถึงสถานีตอนห้าโมงครึ่ง



แล้วก็ออกเดินทางกลับ ลาก่อนอูเจิ้น ลาก่อนถงเซียง ลาก่อนเจียซิง ลาก่อนการผจญภัยที่แสนเหนื่อยอีกวัน

เมื่อกลับมาถึงพวกเพื่อนที่ ม.เจ้อเจียง ทำกับข้าวเสร็จกินกันไปจนจะหมดแล้ว แต่ก็ยังเหลือไว้ให้เล็กน้อย



หลังจากเหนื่อยเดินทางมาทั้งวันกลับมาได้กลับมากินข้าวด้วยกันแบบนั้นแล้วก็รู้สึกว่าเป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นความทรงจำที่ดีเหมือนกัน แม้ว่าจะมีอะไรผิดแผนไปบ้าง




อูเจิ้น... ไม่รู้จะมีโอกาสครั้งหน้าได้กลับไปอีกหรือเปล่า ถ้าได้กลับไปอีกจะได้เที่ยวด้านในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวส่วนหลักจริงๆบ้างล่ะ



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> เจ้อเจียง

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文