# เสาร์ 8 เม.ย. 2023
บันทึกการเที่ยวอิชิโนมากิตอนสุดท้าย ต่อจาก
https://phyblas.hinaboshi.com/20230413เป้าหมายสุดท้ายของการเที่ยวครั้งนี้อยู่ที่
พิพิธภัณฑ์มังงะอิชิโนโมริ (石ノ森萬画館)ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานของอาจารย์อิชิโนโมริ โชวตาโรว (
石ノ
森 章太郎, ปี 1938-1998) นักวาดมังงะชื่อดังของญี่ปุ่น
เขามีนามสกุลจริงว่าโอโนเดระ (
小野寺) ส่วนนามสกุลอิชิโนโมรินั้นมาจากชื่อบ้านเกิดของเขา คือ
เมืองอิชิโนโมริ (石森町) ซึ่งอยู่ตอนเหนือของจังหวัดมิยางิ แต่ปัจจุบันเมืองนี้ไม่มีอยู่แล้ว เพราะถูกยุบรวมไป ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ
เมืองโทเมะ (登米市)เมืองอิชิโนมากินั้นอยู่ไม่ไกลนักจากเมืองอิชิโนโมริซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา และสมัยเด็กเขาก็มักจะมาเข้าชมโรงละครโอกาดะ (
岡田劇場) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนากาเซะ (
中瀬) ที่เป็นเกาะเล็กๆบนแม่น้ำคิตากามิเก่า (
旧北上川) ซึ่งไหลแยกทางตรงใกล้ปากอ่าวอิชิโนมากิ เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเขา
ด้วยความที่เขามีความผูกพันกับเมืองนี้ โดยเฉพาะเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำแห่งนี้ ก็เลยทำให้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์มังงะของเขาเอาไว้ที่เกาะนี้ ใกล้กับโรงละครโอกาดะ เพื่อเป็นการระลึกถึงผลงานของเขา หลังการเสียชีวิตของเขาในปี 1998 โดยพิพิธภัณฑ์เปิดในปี 2001
อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 เกิดคลื่นสึนามิถล่มเมืองนี้ พิพิธภัณฑ์มังงะแห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายหนักจนต้องปิดทำการไปเป็นเวลาปีครึ่ง ส่วนโรงละครโอกาดะนั้นก็ถูกทำลายทิ้งหายไปเลย ปัจจุบันจึงไม่ได้หลงเหลืออยู่แล้ว
การที่มีพิพิธภัณฑ์มังงะตั้งอยู่ที่นี่ก็เลยทำให้นี่กลายเป็นจุดขายของเมืองนีไป ภายในเมืองนี้เลยมีภาพวาดหรือรูปปั้นของตัวละครจากผลงานของเขาอยู่มากมาย กลายเป็นตัวสนับสนุนการท่องเที่ยวของเมืองไป
หลังลงจากเขาฮิโยริมา เราก็เดินต่อไปทางเหนืออีกหน่อย
ข้ามตรงนี้ไปก็จะเป็นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ
ริมแม่น้ำเป็นทางให้เดินเล่นริมน้ำ และมองข้ามไปก็คือเกาะนากาเซะ ซึ่งเห็นพิพิธภัณฑ์มังงะตั้งเด่นอยู่นั่นเอง
แถวนี้มีพวกร้านอาหาร
แล้วก็มีคนมาจัดแสดงงานฝีมืออยู่ด้วย
ระหว่างที่เดินเลียบริมแม่น้ำไปทางเหนือเรื่อยๆก็มองข้ามไปยังฝั่งโน้น ทิวทัศน์ตัวอาคารนี้ริมแม่น้ำช่างดูลงตัวสวยงาม
ข้ามสะพานที่เชื่อมไปยังเกาะ
แล้วก็มาถึง
ด้านหน้าทางเข้าตัวอาคาร
เข้ามาด้านใน ชั้นแรกเป็นสถานที่ขายของ มีพวกสินค้าต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานของอาจารย์มากมาย เราเดินดูผ่านๆ ไม่ได้ซื้ออะไร
นี่เป็นตู้ขายตั๋วสำหรับเข้าชมส่วนจัดแสดงในชั้น ๒ ซึ่งมีค่าเข้าชม แต่เราไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าไป
เดินขึ้นมาตรงชั้นลอย ถ่ายภาพรวมของส่วนขายของที่ชั้น ๑
ที่ตรงนี้แสดงประวัติของอาจารย์
ตรงนี้ให้นั่งถ่ายรูปกับตัวละครได้
ตรงนี้เป็นทางไปยังชั้น ๒
ทางเดินระหว่างขึ้นไป
พอถึงชั้น ๒ ก็มีทางให้เข้าไปยังห้องจัดแสดงที่ต้องซื้อตั๋วเข้า แต่เราไม่ได้เข้า เลยเดินขึ้นต่อมาที่ชั้น ๓
ที่ชั้น ๓ มีห้องสมุดอยู่
ตรงนี้เป็นภาพวาดและลายเซ็นของนักเขียนมังงะท่านต่างๆรวบรวมอยู่
ในนี้ยังมีร้านอาหารด้วย ขายพวกของว่าง
จากนั้นกลับลงมายังชั้น ๒ มีประตูทางออกด้านหลังอยู่
เมื่อออกมาแล้วก็มาโผล่คนละด้านกับที่เข้ามาตอนแรก
มองไปเห็นส่วนทางใต้ของเกาะนี้ซึ่งเป็นสวนสาธารณะ
จากสวนทางทิศใต้ มองกลับมายังอาคารพิพิธภัณฑ์ เห็นดอกซากุระที่กำลังบานอยู่ด้วย
มีมุมให้ถ่ายอาคารคู่กับดอกซากุระได้แบบนี้ก็สวยดี
การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์มังงะก็จบลงแล้ว จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยขากลับนั้นเราตัดสินใจกลับด้วยรถเมล์ แทนที่จะนั่งรถไฟเหมือนขามา เพราะรถเมล์มีจุดที่ให้ขึ้นได้หลายที่กว่า จะได้ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟ
ก่อนอื่นเดินข้ามสะพานย้อนกลับจากเกาะ
แล้วก็เดินไปทางตะวันตกเรื่อยๆตามถนนที่มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ ระหว่างทางเจอฝาท่อที่มีวาดรูปพิพิธภัณฑ์มังงะวางอยู่หลายฝา
ส่วนตรงนี้มีรูปปั้นคาเมนไรเดอร์ BLACK (
仮面ライダーBLACK) ตั้งเด่นอยู่
แล้วก็เดินมาจนถึงศูนย์สุขภาพอิชิโนมากิ (
石巻健康センター) ซึ่งเป็นที่ตั้งของป้ายรถเมล์ที่สามารถขึ้นเพื่อเดินทานกลับเซนไดได้
ป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ตรงนี้เอง
ดูจากป้ายตารางเวลาแล้วจะเห็นว่าเที่ยวรถมีประมาณชั่วโมงละคัน
แล้วรถเมล์ก็มาตามเวลาคือ 16:35 ได้เวลาเดินทางกลับเซนได
และเนื่องจากรถเมล์สามารถลงได้หลายที่ ไม่จำเป็นต้องลงที่สถานีเซนได ครั้งนี้เราเลยเลือกลงที่สถานีโรกุโจวโนเมะ (
六丁の
目駅) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่ตั้งอยู่ตอนตะวันออกของเมืองเซนได รถเมล์ต้องผ่านก่อนสถานีเซนได เห็นว่ายังไม่เคยมาก็เลยแวะสักหน่อย โดยตั้งใจจะแวะหาอะไรกินแถวนี้ก่อนแล้วค่อยนั่งรถไฟใต้ดินกลับ แล้วก็มาเจอร้านราเมงเนงิกโกะ (ラーメンねぎっこ)
เราสั่งทสึเกเมง (つけ
麺) ที่ร้านนีกินก่อนกลับ
กินเสร็จฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
หลังจากนั้นก็เข้าสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางกลับ
ก็เป็นอันจบสิ้นการเที่ยวในวันหนึ่งที่ยาวนาน ได้ไปเที่ยวหลายแห่งมาก โดยส่วนใหญ่แล้วคือได้ชมซากุระ ถือว่าเป็นการเที่ยวครั้งหนึ่งที่คุ้มค่ามากทีเดียว