# เสาร์ 5 เม.ษ. 2025บันทึกต่อจากตอนที่แล้วที่เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเพื่อเดินทางเที่ยว
https://phyblas.hinaboshi.com/20250410เป้าหมายการเที่ยวคราวนี้อยู่ที่
ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (
宮地嶽神社) ซึ่งตั้งอยู่ใน
เมืองฟุกุตสึ (
福津市)
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองฟุกุตสึในจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นสีชมพูเข้ม ตำแหน่งอยู่ทางตอนเหนือ ระหว่างเมืองฟุกุโอกะ (สีม่วงทางตะวันตก) และเมืองคิตะคิวชู (สีม่วงทางตะวันออก)


ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะนั้นเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีจุดเด่นคือเชือกชิเมนาวะ (注連縄) ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และทิวทัศน์ที่มองลงไปจากทางเข้าศาลเจ้าไปทางตะวันตกทะลุถึงชายฝั่งทะเล ซึ่งหากมาถูกช่วงจะเห็นพระอาทิตย์ตกดินลอดผ่านเสาโทริอิสวยงามเป็นพิเศษ
นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามแห่งหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายการเที่ยวของเราในครั้งนี้ที่นี่ยังมีขนมขึ้นชื่อคือ
มัตสึงาโมจิ (
松ヶ枝餅) เป็นโมจิใส่ใส้ถั่วแดงที่อบบนพิมพ์ ที่จริงแล้วขนมนี้ก็คล้ายกับ
อุเมงาเอโมจิ (
梅ヶ枝餅) ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังงูในเมืองดาไซฟุทางใต้ของจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวมีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักมากกว่า
เมืองฟุกุตสึเกิดจากการควบรวมระหว่างเมืองฟุกุมะ (福間町) กับเมืองทสึยาซากิ (津屋崎町) เกิดเป็นเมืองใหม่ในปี 2005 และชื่อเมืองก็มาจากการรวมระหว่างชื่อเมืองเก่าทั้ง ๒
ทั้งสถานีรถไฟและส่วนใจกลางเมืองหลังควบรวมอยู่ในเขตเมืองฟุกุมะเก่า แต่ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะอยู่ในเขตเมืองทสึยาซากิเก่า
สำหรับการเดินทางไปยังศาลเจ้านี้ทำได้โดยนั่งรถไฟไปลงที่
สถานีฟุกุมะ (
福間駅) จากนั้นก็อาจเดินไปได้ แต่ว่าระยะเดินไกลถึง ๒ กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินกว่าครึ่งชั่วโมง ดังนั้นนั่งรถเมล์ไปอาจจะดีกว่า ครั้งนี้เราตัดสินใจไปลงที่สถานีแล้วก็ไปถึงศาลเจ้าด้วยรถเมล์แล้วก็ค่อยเดินกลับ
รถไฟที่เรานั่งไปนั้นเป็นแบบเร็ว จอดเฉพาะสถานีที่สำคัญ หลังจากที่ออกจากเมืองฟุกุโอกะแล้วระหว่างทางก็ยังผ่าน
สถานีโคงะ (
古賀駅) ใน
เมืองโคงะ (
古賀市)

ตำแหน่งเมืองโคงะ อยู่ระหว่างเมืองฟุกุโอกะกับเมืองฟุกุตสึ

หลังจากนั้นสถานีถัดไปจึงเป็นสถานีฟุกุมะที่เป็นเป้าหมายครั้งนี้

เมื่อลงรถไฟมาก็รีบเดินออกจากสถานี มาที่ป้ายรถเมล์

ตรงนี้เป็นป้ายของมินิบัส ซึ่งก็ไปยังศาลเจ้าได้เช่นกัน แต่ว่าดูจากรอบรถแล้วยังต้องรออีกสักพักจึงไม่ได้ขึ้นอันนี้ แต่ไปขึ้นรถเมล์ของนิชิเทตสึที่ออกเร็วกว่า

ตรงหน้าป้ายรถเมล์มีจัดแสดงเสาหน้าบันไดเก่าของสถานีอยู่ด้วย


ป้ายรถเมล์ มีคนมารออยู่จำนวนหนึ่งแล้ว

แล้วรถเมล์ก็มาตามเวลา

ออกเดินทาง

แล้วก็มาลงที่ป้ายหน้าศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ


ตรงนั้นเป็นทางเข้าศาลเจ้า

แต่ก่อนจะเข้า เห็นข้างๆมีวัดเล็กๆชื่อว่า
วัดชิงโกว (
真光寺) ตั้งอยู่ก็เลยแวะสักหน่อย


ข้างในดูแล้วก็เป็นวัดเล็กๆไม่มีอะไรมาก



ข้างๆวัดมีทุ่งดอกนะโนะฮานะกำลังบานสวยอยู่


จากนั้นจึงเดินข้ามถนนไป ลอดเสาโทริอิเข้าไปยังทางเดินสู่ศาลเจ้า

ระหว่างทางเดินเข้านั้นเป็นถนนคนเดินที่มีพวกร้านค้าอยู่หลายร้าน แต่ว่าเวลานี้ดูจะยังเช้าไปจึงยังดูเงียบเหงา ไม่เปิดกันเลย จึงเดินผ่านไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยมาแวะดูอีกทีตอนขากลับ

เดินขึ้นบันไดไป

ตรงนี้มีแผนที่แสดงสถานที่เที่ยวของเมือง วาดไว้ซะสวย

ขึ้นบันไดมาก็เริ่มเห็นม้าและซากุระบาน


ผ่านเข้าไปต่อก็เจอรูปปั้นสัตว์อีกหลายตัว



ตรงนี้เป็นทางสำหรับรถขึ้นมาได้ และมีที่จอดรถ

เดินเข้าไปส่วนด้านในต่อ



ผ่านตรงนี้ไปก็เป็นส่วนอาคารหลัก

นี่คืออาคารหลักของศาลเจ้า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเชือกชิเมนาวะซึ่งผูกห้อยอยู่หน้าอาคาร เชือกชิเมนาวะนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ดูแล้วก็ใหญ่มากจริงๆดูเป็นจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้เลย

เดินดูบริเวณรอบๆอาคารหลัก แถวนี้ไม่มีซากุระอยู่



มีช่องที่มองออกไปเห็นด้านนอก เห็นซากุระนิดหน่อย

จากนั้นยังมีทางเดินลึกเข้าไปด้านในต่อ


ตรงส่วนด้านในนี้เรียกว่าเป็นโอกุโนะมิยะ (
奥之宮) เต็มไปด้วยเสาโทริอิทั้งสีขาวและสีแดง และต้นซากุระประปราย ดูสวยงาม
















ตรงนี้เป็นส่วนที่เรียกว่าศาลเจ้าฟุโดว (
不動神社)





ตรงนี้มีป้ายที่บอกว่าในนี้มีมิยาจิดาเกะโคฟุง (
宮地嶽古墳) สุสานโบราณที่ภายในเป็นโพรงที่ทำเป็นห้องหินยาว ๒๓ เมตร มีการขุดเจอสมบัติเครื่องใช้ต่างๆเป็นจำนวนมากภายในนั้น แต่ว่าไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมข้างในได้

จากนั้นเดินต่อมา

ตรงนี้เป็นสวนสัตว์เล็กๆ มีนกอีมู


แล้วก็มีแพะอยู่ด้วย

บริเวณนี้ก็เต็มไปด้วยซากุระ


ข้างๆสวนสัตว์เป็นบ้านพื้นเมืองตามชนบทของจังหวัดฟุกุโอกะและจังหวัดคุมาโมโตะที่ย้ายมาวางไว้ที่นี่


จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปยังบริเวณแถวด้านหน้าของศาลเจ้าที่เราเข้ามาตอนแรก โดยผ่านส่วนด้านข้าง คนละทางกับตอนแรกที่เดินผ่านทางโอกุโนมิยะ ระหว่างทางตรงนี้ก็เต็มไปด้วยต้นซากุระ

เห็นมีคนมานั่งเล่นกันมากมาย มีทั้งปูเสื่อด้วย

จากเวทีตรงนี้เห็นเปิดเพลงดังอยู่ตลอด

มีพวกรถขายขนมด้วย


แล้วก็ย้อนมาถึงตรงบันไดทางเข้าศาลเจ้า มองกลับลงไปเห็นทิวทัศน์ที่ทอดยาวไปถึงทะเลสวยงาม

ที่จริงพยายามจะถ่ายตอนที่คนน้อยที่สุด แต่รอยังไงก็มีคนตลอด และยิ่งรอไปก็ยิ่งเจอคนเยอะ นักท่องเที่ยวโผล่มากันเต็มไปหมดดูเหมือนจะมีคณะทัวร์เข้า ก็เลยเริ่มแน่น


ลองใช้กล้องขยายเข้าไปเรื่อยๆให้เห็นถนนสู่ทะเล


หน้าทะเลมีเสาโทริอิอยู่ด้วย

ที่จริงเห็นแล้วก็คิดอยากเดินไปตามถนนนี้จนถึงทะเลเหมือนกัน แต่ว่าเห็นแบบนี้ระยะก็ไกลกว่ากิโล ซึ่งก็ไม่ใช่ระยะที่เดินไม่ไหว แต่ว่าทางโน้นเป็นคนละทางกับสถานีรถไฟเลย เราไปแล้วก็ยังต้องเดินกลับมาอีก แล้วก็ต้องเดินไปสถานีรถไฟอีก ๒ กิโลเมตร เลยตัดสินใจไม่ไป วันนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเดินเที่ยวหนักมากนัก

เดินออกจากศาลเจ้า

กลับมาถึงตรงถนนคนเดินหน้าทางเข้าสาลเจ้า เห็นพวกร้านต่างๆเริ่มเปิดกันหมดแล้ว และของที่ขายกันมากที่สุดตรงนี้ก็คือมัตสึงาโมจิ ของขึ้นชื่อของศาลเจ้านี้เอง มีร้านขายมากมาย ที่จริงแล้วตอนแรกเราก็ไม่รู้จักขนมชนิดนี้มาก่อน ไม่ได้หาข้อมูลมาล่วงหน้า แต่เห็นร้านเปิดกันเยอะจึงเริ่มค้นข้อมูลจึงได้รู้ว่ามันเป็นของขึ้นชื่อ ใครแวะมาเที่ยวศาลเจ้านี้ก็มักต้องซื้อกินกันสักหน่อย



ภาพขนมมัตสึงาเอโมจิ ชิ้นละ ๒๐๐ เยน มีแบบขาวและแบบเขียว โดยแบบเขียวนั้นใส่โยโมงิ (よもぎ) เราตัดสินใจซื้อแบบเขียวมาลองกินสักชิ้น

พอสั่งแล้วเขาก็อบให้ตรงนั้นเลย โดยใช้เครื่องอบที่ทำเป็นพิมพ์ แต่ก็ต้องใช้เวลา ต้องรอสักพักจึงจะเสร็จ

แล้วก็ได้มา ร้านนี้ไม่ได้มีโต๊ะให้ แต่ก็มีเก้าอี้ให้อยู่ ก็มานั่งกินตรงนี้

ภายในมีไส้ถั่วแดง ปนกับส่วนสีเขียวคือโยโมงิ ก็อร่อยและแป้งก็กรอบดี

กินเสร็จก็เดินย้อนมาตามถนนที่รถเมล์วิ่งมาตอนแรก เพื่อกลับสถานีรถไฟ



แต่เราตัดสินใจไม่ตรงกลับสถานีรถไฟทันที แต่เดินอ้อมไปนิดเพื่อแวะไปยังที่ว่าการเมืองสักหน่อย ปกติเวลาไปเมืองไหนเรามักจะอยากแวะไปดูที่ว่าการเมืองของเมืองนั้นด้วยถ้าไปไม่ยาก แม้ว่จะไม่ใช่ที่เที่ยวอะไรก็ตาม

ตรงนี้มีร้านไทยากิ

มียาโยอิเกงด้วย

ส่วนนี่คือร้าน
ฟุกุมะราเมงโรกุเดนาชิ (
福間ラーメンろくでなし) เป็นร้านราเมงชื่อดังของที่นี่ มีเปิดหลายสาขาในจังหวัดฟุกุโอกะ รวมถึงในเมืองฟุกุโอกะด้วย แต่ที่นี่เป็นสาขาหลัก ดูแล้วก็น่ากิน แต่ไว้วันหลังเราค่อยไปแวะกินที่สาขาในเมืองฟุกุโอกะก็ได้

หน้าร้านมีตู้ขายแบบซื้อกลับไป แล้วก็ยังมีเสื้อยืดของร้านด้วย

เดินต่อไปเพื่อไปยังที่ว่าการเมือง


ระหว่างทางผ่านโรงเรียนอนุบาล

แล้วก็มาถึงที่ว่าการเมืองฟุกุตสึ ที่นี่ก็มีซากุระบานสวยอยู่

ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์


ส่วนข้างๆนั้นเป็น
หอสมุดเมืองฟุกุตสึ (
福津市立図書館)

แล้วก็เดินต่อไปทางตะวันตกเฉียงเหนือต่อเพื่อกลับไปยังสถานี

ในที่สุดกลับมาถึงสถานีฟุกุตสึ


สถานีนี้ดูแล้วไม่ใหญ่ ขนาดพอประมาณ มีร้านอาหารเปิดอยู่นิดหน่อย

ทางเข้าชานชลาอยู่ตรงชั้น ๒ ขึ้นทางนี้

ภายในมีศูนย์แนะนำการท่องเที่ยว และด้านหน้ามีตัวละครมาสคอตของเมืองนี้ เป็นนกฮูกชื่อ
ฟุกุฟุกุจัง (ふくふくちゃん)

เดินแตะบัตรเข้าไปยังชานชลา

ตอนที่เข้ามานั้นมีรถไฟ ๒ รอบที่กำลังจะออก คือแบบเร็วที่จอดเฉพาะสถานีสำคัญ ออกเวลา 11:34 และแบบธรรมดาที่จอดทุกสถานี ออกเวลา 11:38 แต่ว่าตอนที่เราไปถึงนั้นเป็นเวลา 11:33 และที่เข้ามาจอดรออยู่ก่อนแล้วคือแบบธรรมดา แต่ว่านี่ไม่ใช่ที่เราจะขึ้น

จากนั้นรถไฟแบบเร็วก็มาตามเวลา 11:34 เรานั่งรถไฟขบวนนี้กลับ

แต่การเที่ยวันนี้ยังไม่จบลงเท่านี้ หลังจากนั้นเราก็ยังได้แวะลงอีกสถานีที่รถไฟขบวนนี้จอด เพื่อเที่ยวซากุระต่ออีกที่ภายในเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งจะเขียนถึงต่อในตอนหน้า
https://phyblas.hinaboshi.com/20250412