# จันทร์ 21 ก.ค. 2025วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม ถือเป็นวันแห่งทะเล
อุมิโนะฮิ (
海の
日) ซึ่งเป็นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น ดังนั้นเราก็เลยอยากไปเดินเล่นริมทะเลสักหน่อย
เป้าหมายคราวนี้อยู่ที่ย่าน
โอโดะ (
小戸) และ
อิกิโนะมัตสึบาระ (
生の
松原) ในเขตนิชิทางตะวันตกของเมืองฟุกุโอกะ แถวนี้มีซากกำแพงป้องกันชายฝั่งเก่าที่ใช้เมื่อสมัยที่กองทัพเรือมองโกลบุกญี่ปุ่น
มองโกลบุกญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 1274 แล้วก็แพ้ย่อยยับกลับไป บริเวณที่บุกเข้ามานั้นก็คือแถวชายฝั่งทางเหนือของฟุกุโอกะนี้เอง หลังจากนั้นรัฐบาลบากุฟุของญี่ปุ่นจึงได้ตระหนักถึงภายทางทะเล ทำให้ในปี 1276 ได้เริ่มมีการสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งเพื่อกันทัพมองโกล และได้ใช้ประโยชน์จริงๆในการป้องกันทัพเรือมองโกลจากการบุกครั้งที่สองในปี 1281
ซากกำแพงนั้นมีอยู่หลายแห่งตามชายฝั่งของฟุกุโอกะ และที่เราแวะไปครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
นอกจากนี้แล้วในย่านนี้ยังมี
ศาลเจ้าอิกิ (
壱岐神社) ซึ่งเป็นแค่ศาลเจ้าเล็กๆ แต่มีการสร้างเสาโทริอิไว้ในป่าสนริมฝั่งทะเลเป็นทางเดินจากทะเลสู่ศาลเจ้า ก็เป็นจุดสนใจหนึ่งที่ทำให้อยากมาเดินดูเหมือนกัน
การมาแถวนี้สามารถมาได้โดยนั่งรถไฟมาลงที่
สถานีชิโมยามาโตะ (
下山門駅) แต่ว่า
สถานีเมย์โนฮามะ (
姪浜駅) ก็อยู่ห่างไปไม่มาก ในขณะที่รอบรถไฟจากใจกลางเมืองฟุกุโอกะนั้นจะมาสุดสายที่สถานีเมย์โนฮามะเป็นส่วนใหญ่ และที่ผ่านไปถึงสถานีชิโมยามาโตะที่อยู่ถัดไปมีน้อยกว่า ทำให้การเดินทางไปสถานีเมย์โนฮามะสะดวกกว่าแม้ว่าจะเดินไกลกว่าก็ตาม
นอกจากนี้แล้วหากเดินจากสถานีเมย์โนฮามะไปก็สามารถผ่านร้าน
อิเดะจัมปง (
井手ちゃんぽん) ซึ่งเป็นร้านจัมปงแห่งหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากจังหวัดซางะและเปิดหลายสาขาภายในเกาะคิวชู สาขาในเมืองฟุกุโอกะของร้านนี้ตั้งอยู่ตรงย่านโอโดะนี้
ดังนั้นครั้งนี้เราจึงเริ่มด้วยการมาลงที่สถานีเมย์โนฮามะ แล้วก็แวะไปกินจัมปง จากนั้นจึงค่อยไปเที่ยว แล้วก็เดินทางกลับจากสถานีชิโมยามาโตะ
เริ่มจากเดินทางด้วยรถไฟมาที่สถานีเมย์โนฮามะ

จากนั้นก็เดินไปทางตะวันตก เส้นทางเลียบรางรถไฟซึ่งยกระดับ ทำให้ระหว่างเดินสามารถอยู่ใต้ร่มเงาของรางรถไฟได้ จึงไม่ต้องตากแดดร้อนทรมาน

ตรงนี้มีสะพานข้าม
แม่น้ำนางาระ (
名柄川)


เดินเลียบทางรถไฟต่อไป

จนมาถึงตรงนี้ต้องเลี้ยวขวาไปทางเหนือ ไม่มีร่ม ต้องตากแดดแล้ว


แล้วก็เดินมาจนถึงร้านอิเดะจัมปง

ภายในร้าน ดูแล้วกว้างขวางมากทีเดียว มีคนอยู่เต็มเลยทั้งๆที่ยังเป็นเวลาก่อนเที่ยงและไม่ใช่สถานที่ที่เดินทางมาได้สะดวกเลย คนแถวนี้น่าจะแวะมากินกันเยอะ

เรามานั่งตรงที่นั่งเคาน์เตอร์

เมนูของร้าน

สั่งโทกุเซย์จัมปง (
特製ちゃんぽん) ขนาดธรรมดา มีใส่ไข่และเห็ดหูหนูเต็ม ราคา ๑๐๘๐ เยน ตอนแรกเห็นชามใหญ่ก็ตกใจกลัวว่าจะกินไม่หมด แต่พอกินแล้วก็กลับกินหมดได้ รสชาติก็อร่อยดีทีเดียว แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยเป็นพิเศษ ถ้าเทียบกับบางร้านที่เคยแวะไปมาแล้วในฟุกุโอกะ

กินเสร็จก็ออกจากร้านมา อากาศยังคงร้อน

เดินต่อไปทางตะวันตก

ตรงนี้เป็นส่วนปากแม่น้ำจูโรว (
十郎川)

ที่นี่มี
ฮากาตะโอริโควเงย์กัง (
博多織工芸館) เป็นพิพิธภัณฑ์และร้านขายฮากาตะโอริ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พวกผ้าท้องถิ่นที่ผลิตในฟุกุโอกะ ตอนแรกที่นี่ไม่ได้อยู่ในแผน แต่เห็นในแผนที่ใกล้ทางผ่านก็เลยแวะมาเข้าชมดูสักหน่อย

ภายในเข้ามาห้องแรกก็มีจัดแสดงพวกผลิตภัณฑ์จากผ้า


มีตู้คีบ คล้ายตู้คีบตุ๊กตา แต่ว่าเป็นคีบกระเป๋าผ้า ที่ญี่ป่นนี่อะไรๆก็ทำเป็นตู้คีบหมด

ส่วนด้านในเป็นร้านขาย



ส่วนข้างๆกันนั้นเป็นอาคารโรงงาน แต่ก็ไม่ได้เปิดให้เข้าไป

มองไปทางเหนือจากตรงนี้ก็เป็นปากแม่น้ำที่ออกสู่ทะเลอ่าวฮากาตะ ไม่มีอะไรแล้ว

เราก็เดินกลับมาข้ามสะพานไปทางตะวันตก



จากตรงนี้มีเส้นทางให้ไปเดินเลียบริมแม่น้ำไปจนถึงทางออกทะเล



จากตรงนี้ไปก็เป็นทะเลแล้ว

เดินเลียบริมทะเลไป



บริเวณนี้ต้นไม้เยอะทำให้ส่วนใหญ่เดินหลบใต้เงาได้สบาย



เดินมาถึงตรงนี้ก็เห็นบริเวณซากกำแพงเก่าอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ว่าถ้าเดินตามทางต่อไปก็ไม่มีร่มเงาไม้ ต้องตากแดด

แต่ตรงนี้มีทางให้เลี้ยวเข้าไปยังป่าสนก็เลยเข้าไปเดินตรงนี้จะได้หลบแดด

แต่ตรงนี้มีป้ายบอกว่าทางตัน

ส่วนตรงนี้ไม่มีป้ายห้าม และดูมีทางเดินจึงไปต่อได้

เดินมาตามทางใต้ร่มเงาสน มองไปทางขวาก็เห็นกำแพงหิน

ตรงนี้มีป้ายที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องการบุกของทัพมองโกลในปี 1281 ที่ฝ่ากำแพงนี้ไม่สำเร็จแล้วก็ต้องยอมถอยกลับไป

ตรงนี้มีป้ายที่ระลึก สร้างขึ้นในปี 1968



บริเวณซากกำแพงหมดลงแค่ตรงนี้

ตรงนี้มีป้ายอธิบายอีกนิดหน่อย


จากนั้นก็เดินไปทางตะวันตกต่อ

ยิ่งเดินไปยิ่งเห็นคนเยอะขึ้น จากที่ตอนแรกไม่ค่อยเห็นใคร คงเพราะบริเวณนี้ใกล้สถานีชิโมยามาโตะมากกว่า คงจะมีน้อยคนที่เดินไกลจากสถานีเมย์โนฮามะมาถึงนี่


และนี่ก็คือเสาโทริอิของศาลเจ้าอิกิ ตั่งโดดเด่นอยู่ริมทะเล

มองจากด้านในออกไป จึงเห็นเสาอยู่หน้าทะเล

ที่จริงอยากถ่ายภาพเสานี้ให้ชัดกว่านี้ แต่เสียดายว่ามีคนมายืนตั้งกล้องถ่ายอยู่ตรงนี้ อยู่ตั้งนานไม่รู้ตั้งใจทำอะไร

จากนั้นก็หันหลังให้เสาโทริอิ เดินเข้ามาด้านในตามทาง เส้นทางนี้จะพาไปยังตัวศาลเจ้าที่อยู่ลึกเข้าไป


จากตรงนี้มีถนนตัดผ่าน และมีรถวิ่งถี่ด้วย แต่ไม่มีทางม้าลายอยู่ก็เลยไม่อาจข้ามไปโดยตรงได้

ก็เลยเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเพื่อหาทางข้าม ก็เจอร้านยากิโซบะ
โซวฟุเรง (
想夫恋) เป็นร้านจากจังหวัดโออิตะ มีสาขาหลายแห่งในจังหวัดฟุกุโอกะด้วย

แล้วถัดมาก็มีร้าน
อิกกิวราเมง (
一九ラーメン) ซึ่งก็เป็นร้านราเมงชื่อดังแห่งหนึ่งของฟุกุโอกะที่มีหลายสาขา โดยสาขาหลักอยู่ที่ย่านโอฮาชิ

จากนั้นเดินข้ามถนนแล้วก็ย้อนมาเดินไปตามทางสู่ศาลเจ้าต่อ


แล้วก็เริ่มเห็นเสาโทริอิทางเข้าส่วนตัวอาคารหลักศาลเจ้า

ป้ายอธิบายเกี่ยวกับศาลเจ้าแห่งนี้

เดินผ่านเสาโทริอิตรงนี้เข้าไปก็เป็นบริเวณอาคารหลักศาลเจ้า ซึ่งก็มีอยู่แค่นี้


บ่อตักน้ำตรงนี้มีเขียนไว้ว่าห้ามให้อาหารนกพิราบเพราะจะทำให้เกิดปัญหาอึนกได้

จากในศาลเจ้ามองลอดเสาโทริอิเข้าไปก็มองเห็นไปถึงทะเลและเสาโทริอิริมทะเลด้วย แต่ไม่ได้เอากล้องมาจึงไม่ได้ซูมเข้าไป

เป้าหมายการเที่ยวคราวนี้ก็หมดลงเท่านี้แล้ว จากนี้ไปก็แค่เดินไปยังสถานีชิโมยามาโตะเพื่อเดินทางกลับ


ข้ามทางรถไฟไป


มาถึงสถานี

ตรงข้ามสถานีมีร้านสะดวกซื้อ ก็แวะไปซื้อเครื่องดื่มมาดื่มแก้กระหายสักหน่อย

แล้วก็แตะบัตรเข้าชานชลาไป

ขึ้นบันไดข้ามไปฝั่งตรงข้าม

แผ่นป้ายสถานี

แล้วรถไฟก็มาถึง เป็นรอบเวลา 12:49 แต่รถไฟมาจริงเวลา 12:51 ช้ากว่าเวลาไปนิด

ได้เวลาเดินทางกลับ ก็จบการเดินเที่ยวริมทะเลในวันแห่งทะเลลงเท่านี้