เรื่องความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของผู้คนช่างน่าลำบากใจจริงๆ
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าหน้านี้เขียนขึ้นด้วยอาการจิตตกเล็กน้อย(ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก)
เพียงแค่รู้สึกว่าคนเราเนี่ย พอได้รู้จักกับคนมากมายหลากหลายแล้ว ก็ทำให้ต้องเจออะไรที่ยุ่งยากขึ้นตามมา
อย่างเช่นว่าคนที่เรารู้จักด้วยกันทั้งคู่เนี่ย เขาเกิดไม่ถูกกันอยู่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
เช่น เรารู้จักนาย B กับนาย C แต่นาย B กับนาย C ไม่ถูกกัน เราก็อาจต้องฟังนาย B บ่นถึงนาย C หรือนาย C บ่นถึงนาย B ให้ฟังอยู่บ่อยๆก็ได้
โดย ที่เราซึ่งรู้จักและคบกันคุยกันอยู่กับทั้งคู่ ก็แน่นอนว่าต้องย่อมเกิดความลำบากใจขึ้นมาบ้างล่ะ ก็เวลาที่นาย B บ่นถึงนาย C เราก็ต้องเออออตาม แต่พอไปคุยกับนาย C อีกที เราก็ต้องไม่บอกเขาว่าตะกี้เราฟังนาย B ว่าถึงเขามา อะไรแบบนี้
ซึ่ง แบบนี้มันก็เหมือนกับว่าต้องตีหลายหน้ายังไงอย่างนั้น ทั้งที่ไม่อยากเลย แบบนี้จะเรียกว่าหน้าไหว้หลังหลอกได้หรือเปล่านะ ซึ่งบางทีมันก็ทำให้เราไม่อาจจะสู้หน้าเขาได้อย่างสนิทเหมือนกัน
พูดกับคนนึงต้องพูดลักษณะนึง แต่พอพูดอยู่กับอีกคนนึงก็ต้องพูดอีกลักษณะนึงซึ่งต่างกัน
หรืออีกกรณีนึงก็คือ อย่างเช่นว่าเรารู้จักกับคนอยู่คนนึง สมมุติว่าชื่อนาย E แต่นาย E คนนั้นกลับถูกคนอื่นๆหลายคนมองว่าเป็นคนน่ารังเกียจ
เวลาคุยกับคนอื่น เราก็กลับต้องพยายามปิดบังเรื่องที่เรารู้จักกับนาย E หรือไม่พยายามพูดปกป้อง เพราะอาจถูกมองว่าไม่ดีตามได้ หรือเวลาที่เขาว่าอะไรมา ก็อาจต้องเออออตามอีกด้วย
ซึ่งแบบนี้มันก็คงรู้สึกไม่ดีต่อนาย E เหมือนกัน
แต่ กรณีทั้งหมดที่ว่ามานั้น ดูเหมือนมันจะเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้ต้องทำ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไม่มีความบาดหมางกับใคร
และบางทีเราก็ไม่อยากรีบตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดีจนกว่าจะรู้จักไปนานๆ
อย่าง กรณี นาย B กับนาย C ที่ต่างฝ่ายต่างก็ว่ากันเนี่ย เราก็ไม่อาจด่วนตัดสินว่าใครเป็นคนไม่ดีกันแน่ หรือจริงๆแล้วอาจจะดีทั้งคู่แค่มีแนวคิดที่แตกต่างกันก็เลยไม่ถูกกันเท่า นั้นเอง
ที่จริงบางทีเราอาจช่วยอะไรได้ มากกว่านั้นก็คือพยายามให้ทั้งสองฝ่ายดีกัน แต่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขนาดนั้นหรือเปล่า คิดว่าก็คงไม่
หรืออย่างกรณีนาย E เขาอาจจะมีคนไม่ชอบเยอะ ซึ่งโดยหลักแล้วก็มีแนวโน้มสูงว่าเขาเป็นคนไม่ดี แต่มันก็ไม่เสมอไป และยิ่งถ้าหากเรารู้จักแล้วก็รู้สึกว่าเขาเองก็มีข้อดีเหมือนกัน
บาง ครั้ง เราอาจไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของเพื่อนคนนึง แต่ก็เพราะว่าคบกันอยู่ และเห็นว่าเขาก็มีข้อดีอย่างอื่นอยู่ ก็เลยกลบความรู้สึกไม่ดีอันนั้นไป ก็มีเหมือนกันสินะ
หรือบางครั้ง เรารู้สึกว่าเราไม่ชอบไอ้คนนี้ แต่สถานการณ์บังคับให้ต้องดีด้วย เนื่องจากไม่อยากสร้างศัตรู ก็มีอยู่เหมือนกัน
ในกรณีนี้การมีเพื่อนคนอื่นเอาไว้เพื่อปรึกษา หรืออย่างน้อยก็เพื่อบ่นระบายเกี้ยวกับไอ้คนนี้ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีเหมือนกัน
(แต่ระวัง ว่าคนที่เราบ่นด้วยอาจต้องคิดคล้ายๆกัน ไม่งั้นเขาอาจจะลำบากใจได้)
เช่น สมมุติว่าเรามีเพื่อนอยู่คนนึง มันชอบดื่มเหล้าแล้วเมา เรารู้สึกรำคาญแต่ว่าว่าเท่าไหร่มันก็ไม่ฟัง เราก็ต้องไปบ่นให้เพื่อนอีกคนนึงซึ่งไม่ชอบดื่มเหมือนกันฟัง เพื่อระบาย หรืออาจได้คำปรึกษา
หรือว่ามีเพื่อนคน นึงที่นับถือไสยศาสตร์อะไรแปลกๆ ซึ่งโดยทั่วไปคงไม่มีใครกล้าพูดขัดกันโดยตรง หรือไม่ก็พูดด้วยเหตุผลแล้วมันก็ยังงมงายอยู่ เราก็คงต้องไปบ่นให้เพื่อนใกล้ๆฟังว่า เนี่ยเมื่อไหร่ไอ้นี่มันจะเลิกงมงายสักทีนะ จะช่วยมันยังไงดี
ที่ว่ามาทั้งหมดสรุปได้ว่า
คนเราเมื่ออยู่ในสัีงคมและต้องเจอกับคนหลากหลาย เราไม่อาจจะมีความคิดตรงกับคนอื่นได้หมดจริงๆ เพราะแต่ละคนก็คิดต่างกัน และอาจมีขัดแย้งกันเองเยอะด้วย
แต่สิ่งที่จะทำให้คนที่มีความคิดแตกต่างกันนั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้คืออะไรกันล่ะ คนเราจำเป็นต้องตีหลายหน้าเพื่อให้เข้าได้กับทุกคนหรือ ถึงตอนนี้ก็ยังคงสับสนอยู่
หมายเหตุ : รูปทั้งหมดที่ลงในหน้านี้ไม่ได้เกี่ยวกับข้อความเลยสักนิด
ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ