φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas

#พุธ 25 ม.ค. 2012

หลังจากที่ไปชมสุสานพระเจ้าหยวี่ (大禹陵) เสร็จ https://phyblas.hinaboshi.com/20120718

เราก็เดินทางกลับเข้ามาในเมืองเพื่อชมสถานที่เที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมือง นั่นคือบ้านเกิดของหลู่ซวิ่น (鲁迅故里)

หลู่ซวิ่น (鲁迅) เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากจนถูกยกย่องเป็นปรมาจารย์วรรณคดีจีนยุคใหม่ เขามีชื่อจริงว่า โจวซู่เหริน (周树人) มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1881 - 1936 เขาเคยศึกษาด้านวรรณคดีที่ญี่ปุ่นเป็นเวลานาน

บ้านเกิดของเขาอยู่ที่เมืองเซ่าซิง ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง บ้านเกิดของหลู่ซวิ่นนี้ต่างจากสถานที่เที่ยวอื่นในเมืองตรงที่ว่าไม่เก็บตังค่าเข้าชม ทำให้ผู้คนมากมายแห่แหนกันมาเที่ยวชม

โดยส่วนตัวแล้วต้องบอกว่าในส่วนของตัวบ้านนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายนอกจากชมสภาพบ้านเก่าของเขา ดูอะไรต่างๆที่ระลึกเกี่ยวกับหลู่ซวิ่น สำหรับคนที่รู้จักและชื่นชอบเขาก็คงรู้สึกติดใจที่นี่ แต่สำหรับคนต่างชาติที่ไม่รู้จักเขาแล้วอาจจะออกเบื่อนิดหน่อย

แต่ที่น่าชมก็คือบริเวณรอบๆสถานที่นี้ซึ่งบ้านส่วนใหญ่ยังดูเป็นแบบโบราณ ทั้งบริเวณเป็นถนนคนเดินที่ดูแล้วสวยดีน่าเดิน แถมยังมีคลองซึ่งนั่งเรือผ่านได้ด้วย



ด้านหน้าบริเวณทางเข้า รูปหลู่ซวิ่นตัวเบ้อเริ่ม



บริเวณตัวบ้านหลังหนึ่งที่ให้เข้าชม คนเยอะจนไม่สนุกเท่าไหร่เลยจริงๆ






คลอง ดูสวยร่มรื่นดี



อีกหลังที่เปิดให้เข้าชม








คนนี้เขานั่งอยู่อย่างนี้ ตอนแรกนึกว่าเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่เขาจัดแสดงซะอีกนะนี่



ส่วนตรงนี้เป็นอนุสรณ์สถานของหลู่ซวิ่น



ด้านใน






บริเวณขายของที่ระลึกด้านใน



ส่วนของถนนคนเดินด้านนอก มีของขายมากมาย











เดินมาจนสุดถนนแล้ว



เลี้ยวไปข้างๆก็ยังเห็นถนนคนเดินสายเล็กๆอีกสาย

หลังจากออกจากถนนคนเดินแล้วก็ยังเดินต่อไป



ก็มาเจอกับพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมรัฐเยวี่ยเซ่าซิง (绍兴越国文化博物馆, เซ่าซิงเยวี่ยกั๋วเหวินฮว่าปั๋วอู้กว่าน) รัฐเยวี่ยเป็นรัฐที่เกิดขึ้นในยุคโบราณก่อนคริสต์ศักราช มีเมืองหลวงอยู่ที่เซ่าซิง



ภายในจัดแสดงพวกของโบราณต่างๆมากมาย







ก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ต่อไปจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ข้างๆกันซึ่งเป็นที่สุดท้ายในการเที่ยววันนั้น คือสวนเสิ่น (沈园) https://phyblas.hinaboshi.com/20120813

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ