ช่วงนี้เชื่อว่าหลายคนคงกำลังจับตาดูสุริยุปราคาในวันที่ 9 มีนาคมที่จะถึงนี้กันอยู่ วันนี้ขอถือโอกาสนี้แนะนำหนังเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสุริยุปราคาสักหน่อย
หนังเรื่องนี้ชื่อ
tenchi meisatsu (天地明察) แปลว่า "รู้แจ้งฟ้าดินอย่างแม่นยำ" นอกจากนี้ก็มีชื่อภาษาอังกฤษว่า tenchi samurai
ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าถ้ามีเวลาจะมาเขียนเล่าเรื่องอย่างละเอียด เพราะมีรายละเอียดทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจแทรกอยู่มากมาย แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีเวลาสักทีก็เลยจะแค่ขอเขียนแนะนำสั้นๆสักหน่อย หากมีเวลาอาจจะมาขยายความเนื้อหาดาราศาสตร์และประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอีกที
ดูพากย์ไทยได้ในเว็บนี้ พร้อมมีซับอังกฤษประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม มีส่วนที่พากย์ผิดอยู่
http://www.seriesoho.com/ดูหนังญี่ปุ่น-tenchi-meisatsu-นักดารา/
ส่วนใครอยากดูต้นฉบับพากย์ญี่ปุ่นก็ดูได้ในนี้ มีซับญี่ปุ่นตามคำพูด พร้อมซับจีนด้วย
http://www.tudou.com/programs/view/RKIq0WjajD8
เรื่องนี้เป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ที่ทำออกมาได้ดีเรื่องหนึ่ง ฉายตั้งแต่ปี 2012 โดยมีที่มาจากนิยายซึ่งตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2009 แต่งโดย
อุบุกาตะ โทว (冲方 丁) นอกจากนี้ยังถูกสร้างเป็นมังงะด้วย
ฉากของเรื่องเป็นสมัยเอโดะ เรื่องราวเกี่ยวกับนักดาราศาสตร์คนสำคัญคนหนึ่งของญี่ปุ่น ชื่อ
ชิบุกาวะ ฮารุมิ (渋川 春海, ปี 1639 - 1715) หรือชื่อเดิมคือ
ยาสึอิ ซันเทตสึ (安井 算哲)
**(ในเรื่องใช้ชื่อยาสึอิ ซันเทตสึเป็นหลัก ส่วนชื่อชิบุกาวะ ฮารุมิ เป็นชื่อที่ได้รับแต่งตั้งตอนหลัง)
ยาสึอิ ซันเทตสึ แสดงโดย
โอกาดะ จุนอิจิ (岡田 准一) นักร้องนักแสดง สมาชิกกลุ่มไอดอล V6
***ข้อความต่อจากนี้เป็นเรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้เห็นเค้าโครง แม้ไม่ได้เล่าละเอียดในจุดสำคัญเพื่อให้ไปตามลุ้นดูเอาเอง แต่ก็อาจถือเป็นสปอยล์สำหรับบางคนได้
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1661 ซันเทตสึในตอนนั้นอายุ 22 ปี เป็นนักเล่นโกะมืออาชีพ เขาได้รับเชิญให้ไปเล่นโกะต่อหน้าโชกุน
โทกุงาวะ อิเอตสึนะ (徳川 家綱, ปี 1641 - 1680, โชกุนโทกุงาวะรุ่นที่ 4)
แต่เล่นไปได้สักพักก็เกิดสุริยุปราคาขึ้นซึ่งคนสมัยนั้นถือว่าไม่เป็นมงคล ทำให้กิจกรรมทุกอย่างถูกสั่งยกเลิก หมากกระดานนี้ก็ต้องยุติลง
หลังจากนั้นซันเทตสึได้ถูกเรียกให้ไปเข้าพบ
โฮชินะ มาซายุกิ (保科正之, ปี 1611 - 1673) ไดเมียวแห่งไอซึมัตสึไดระ ซึ่งได้มาชมโกะตานั้นพร้อมกับโชกุน
โฮชินะรู้ว่าซันเทตสึเป็นผู้มีฝีมือด้านคณิตศาสตร์จึงมอบหมายหน้าที่ให้ออกเดินทางไกลไปตามที่ต่างๆในแผ่นดินญี่ปุ่นเพื่อวัดตำแหน่งดาวเหนือเพื่อระบุที่ตั้ง นั่นเพราะตำแหน่งดาวเหนือบนท้องจะเปลี่ยนแปลงไปตามละติจูดของจุดที่ผู้สังเกตยืนอยู่
ระหว่างที่เดินทางซันเทตสึได้เรียนรู้อะไรต่างๆและ ทำให้เริ่มตระหนักถึงความจริงที่ว่าปฏิทินที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้นไม่แม่นยำ ไม่สามารถทำนายสุริยุปราคาและจันทรุปราคาที่เกิดขึ้นได้เลย การที่เกิดสุริยุปราคาในวันที่เขาเล่นโกะโดยไม่ได้ถูกทำนายล่วงหน้าก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด
ปฏิทินหลักที่ใช้ในญี่ปุ่นขณะนั้นเรียกว่า
ปฏิทินเซมเมียว (宣明暦) ซึ่งเป็นปฏิทินจีน (เรียกตามภาษาจีนว่า "เซวียนหมิง") ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 823 ซึ่งเป็นสมัยราชวงศ์ถังแล้ว พอมาถึงยุคของซันเทตสึก็ผ่านมาแปดร้อยกว่าปี แม้จะมีการปรับปรุงก็ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่
"หากว่าวันนี้เป็นวันมะรืนจะเป็นยังไง?" คำพูดของ
ทาเกเบะ (建部) ผู้ร่วมเดินทางของซันเทตสึ สั้นๆแต่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่หนักอึ้งเกินกว่าที่ใครคาด
สาเหตุที่ไม่มีการเปลี่ยนปฏิทินก็เป็นเพราะทางราชสำนักเป็นผู้มีอำนาจใจการกำหนดปฏิทิน แต่กลับไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลง
ญี่ปุ่นในสมัยนั้นผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศคือโชกุนโทกุงาวะซึ่งอยู่ที่ โตเกียว (เอโดะ) แต่ก็ยังต้องยำเกรงบารมีของราชสำนักที่เกียวโตอยู่เช่นกันจึงไม่ใช่ว่าจะใช้อำนาจได้เต็มที่เสียทีเดียว ดังนั้นปัญหาของเรื่องนี้คือทำอย่างไรทางราชสำนักจึงจะยินยอม
เมื่อกลับมาถึงซันเทตสึจึงได้รับมอบหมายจากโฮชินะให้ทำการวิจัยเรื่องปฏิทิน ในที่สุดซันเทตสึก็ตัดสินใจเลือกใช้
ปฏิทินจุจิ (授時暦) ซึ่งเป็นปฏิทินจีน (เรียกตามภาษาจีนว่า "โซ่วสือ") ที่สร้างโดยนักดาราศาสตร์ชื่อดังของจีน
กัวโส่วจิ้ง (郭守敬) และใช้ในจีนช่วงราชวงศ์หยวน (จักรวรรดิมองโกล)
ซันเทตสึได้ใช้ปฏิทินจุจิทำนายสุริยุปราคาโดยเทียบกับปฏิทินอื่น และพบว่าปฏิทินนี้ทายได้แม่นยำที่สุด แต่แล้วก็มาพบข้อผิดพลาด ซึ่งทำให้เขาทำนายสุริยุปราคาบางส่วนปี 1675 พลาดไป
ซันเทตสึถึงกับหมดอาลัยตายอยากไปพักหนึ่ง แต่เขาก็กลับมาสู้ต่ออีกครั้ง เขาได้ค้นหาสาเหตุของความผิดพลาด จนสรุปได้ว่าเกิดจากความแตกต่างของเวลา นั่นเพราะปฏิทินทั้งหมดที่ญี่ปุ่นใช้อยู่นั้นรับมาจากจีน แต่ญี่ปุ่นรับมาใช้โดยไม่ได้ปรับแก้เรื่องความต่างของเวลาจึงเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ญี่ปุ่นจะต้องสร้างปฏิทินของตัวเองขึ้นมา
หลังจากรู้สาเหตุแล้วซันเทตสึจึงได้พยายามจนสามารถสร้างปฏิทินของตัวเองขึ้นมาได้ เป็นปฏิทินอันแรกที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นใช้เองไม่ได้นำจากจีน ดังนั้นจึงถูกตั้งชื่อว่า
ปฏิทินยามาโตะ (大和暦)
แต่พอยื่นเรื่องไปถึงทางราชสำนักกลับถูกปฏิเสธ ทางราชสำนักกลับตัดสินใจที่จะเลือกใช้
ปฏิทินไทโตว (大統暦) ซึ่งเป็นปฏิทินจีน (เรียกตามภาษาจีนว่า "ต้าถ่ง") ที่ใช้ในยุคราชวงศ์หมิง ซึ่งที่จริงแล้วก็แค่ดัดแปลงจากปฏิทินจุจิมานิดหน่อยเท่านั้น
ซันเทตสึได้ทำนายว่าจะเกิดสุริยุปราคาขึ้นจากปฏิทินยามาโตะของเขา ในขณะที่ปฏิทินไทโตวไม่ได้ทำนายเอาไว้ หากเกิดสุริยุปราคาขึ้นจริงจะเป็นการยืนยันความถูกต้องของปฏิทินยามาโตะ
ทางราชสำนักได้ท้าให้ซันเทตสึเดิมพันด้วยชีวิต ถ้าหากปฏิทินทำนายสุริยุปราคาครั้งนี้ผิดพลาดจะต้องคว้านท้องตัวเองตาย ซันเทตสึรับคำท้า
และพอถึงเวลาสุริยุปราคาก็เกิดขึ้นจริงๆ เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่สวยงาม
จากความสำเร็จในการทำนายครั้งนี้ทำให้ปฏิทินยามาโตะได้รับการยอมรับในที่สุด โดยตอนหลังเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น
ปฏิทินโจวเกียว (貞享暦) เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1685 เป็นต้นมา
ผลงานนี้ทำให้ซันเทตสึได้รับชื่อใหม่เป็นชิบุกาวะ ฮารุมิ และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ก่อตั้งหน่วยงานดาราศาสตร์
เทมมงกาตะ (天文方) ขึ้น
โดยรวมแล้วถือว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเรื่องนี้ โดยเฉพาะดาราศาสตร์ของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้เห็นอุปกรณ์ดาราศาสตร์โบราณหลายชิ้น อีกทั้งวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนั้น
ในเรื่องนี้ยังสามารถเห็นอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์โบราณหลายชิ้นด้วย
เช่นนี่คือลูกโลกกระดาษลูกแรกซึ่งสร้างโดยซันเทตสึเอง
อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์จริงลูกโลกลูกแรกของญี่ปุ่นซึ่งซันเทตสึสร้างเองจากกระดาษนั้นต้องถูกสร้างในปี 1690 ซึ่งเป็นตอนที่ซันเทตสึอายุ 52 ปีแล้ว และได้เลยช่วงเวลาของเนื้อเรื่องในหนังไปหลายปี
แล้วก็ยังได้เห็นอุปกรณ์คิดเลขที่คนญี่ปุ่นใช้ในสมัยนั้นด้วย เรียกว่า
ซังงิ (算木)
แผ่นป้าย
เอมะ (絵馬) สำหรับเขียนคำถามตอบในศาลเจ้า
บุคคลส่วนใหญ่ที่ปรากฏในเรื่องนี้มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ แม้ว่าการปรากฏตัวในเรื่องจะดูแตกต่างไปจากข้อมูลในประวัติศาสตร์อยู่บ้าง
เช่น
เซกิ ทากากาซึ (関 孝和, ปี 1642 - 1708) นักคณิตศาสตร์คนสำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนที่วิจัยปฏิทินจุจิซึ่งซันเทตสึใช้ในตอนแรก เขายังมีส่วนช่วยในเรื่องการสร้างปฏิทินของซันเทตสึ
แล้วก็
ฮนอิมโบว โดวซากุ (本因坊道策, ปี 1645 - 1702) คู่แข่งโกะของซันเทตสึในเรื่อง ก็เป็นนักเล่นโกะที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของญี่ปุ่น
ในเรื่องของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์นั้นที่จริงต้องบอกว่าเรื่องนี้มีการแต่งเติมไปจากเรื่องจริงพอสมควร เช่นที่ตอนจบของเรื่องซันเทตสึได้ทำนายสุริยุปราคาเต็มดวงโดยเดิมพันด้วยชีวิตนั้นเป็นเรื่องแต่ง
เพราะในความเป็นจริงแล้วตลอดชีวิตของซันเทตสึนั้นไม่มีสุริยุปราคาเต็มดวงหรือสุริยุปราคาวงแหวนเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเลย ส่วนเรื่องการที่ปฏิทินยามาโตะของซันเทตสึได้รับการยอมรับหลังจากที่ถูกปฏิเสธไปแล้วครั้งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างราบรื่นกว่านั้นมาก ไม่ได้มีเหตุการณ์ให้ต้องลุ้นระทึกหนักเหมือนอย่างในเรื่อง
แม้ว่าเรื่องจะมีส่วนแตกต่างไปจากประวัติศาสตร์จึงพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของหนังแนวอิงประวัติศาสตร์ ถือว่าทำออกมาได้ดี การที่เลือกสุริยุปราคาเต็มดวงมาเป็นฉากสุดท้ายของหนังก็ช่วยดึงอารมณ์ได้ดี ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นฉากจบที่สมบูรณ์ เพราะถ้าตามประวัติศาสตร์จริงก็จะดูน่าเบื่อไม่มีอะไรตื่นเต้น การจะนำประวัติศาสตร์มาเป็นหนังหรือนิยายนั้นเขาต้องคิดดีแล้วว่าส่วนไหนที่ดัดแปลงเชื่อมโยงผูกกันแล้วทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้น
สรุปโดยรวมแล้วจึงคิดว่าเป็นหนังที่น่าแนะนำเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
หวังว่าหนังนี้จะมีส่วนเป็นแรงบันดาลใจให้คนสนใจดาราศาสตร์ขึ้นมาไม่มากก็น้อย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง