# ศุกร์ 14 พ.ย. 2025เนื่องจากครอบครัวแวะมาเที่ยวญี่ปุ่นโดยมากับทัวร์แล้วเขาปล่อยเที่ยวอิสระวันนึงวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน เราจึงตัดสินใจลางานทั้งวันมาเพื่อพาเที่ยว โดยครั้งนี้ตัดสินใจพาไปเที่ยว
เมืองทากาซากิ (
高崎市) ซึ่งอยู่ในจังหวัดกุมมะ
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองทากาซากิในจังหวัดกุมมะ เป็นสีชมพูเข้ม


จังหวัดกุมมะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ค่อนข้างจะกลางเกาะฮนชูเลย โดยอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือ มีจังหวัดไซตามะคั่นอยู่ การเดินทางไปสามารถไปได้ด้วยชินกันเซงจากสถานีโตเกียวโดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง โดยสถานีหลักของจังหวัดก็คือ
สถานีทากาซากิ (
高崎駅) ในเมืองทากาซากิ
เมืองทากาซากิไม่ใช่เมืองที่มีที่ว่าการจังหวัดตั้งอยู่ แต่ก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกุมมะ มีความสำคัญมากกว่าเพราะอยู่บนเส้นทางรถไฟสำคัญหลายสาย รวมถึงชิงกันเซง จึงถือเป็นประตูสู่จังหวัดกุมมะ เพราะคนที่เดินทางจากจังหวัดไกลก็ต้องนั่งชิงกันเซงมาแล้วต้องมาลงที่นี่ก่อนจะต่อรถไปที่อื่น
เมืองทากาซากินี้ที่จริงเราเคยมาเที่ยวแล้วครั้งนึง เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20181209ตอนนั้นแวะมาแล้วก็คือโอกาสตามรอยอนิเมะเรื่อง
ยามะโนะสึสึเมะ (ヤマノススメ) และ
ชมรมคนไร้เพื่อน (
僕は
友達が
少ない) ซึ่งมีการใช้ฉากอยู่ตรงแถวสถานีทากาซากินิดหน่อย
แต่ว่าทั้ง ๒ เรื่องนั้นไม่ได้ใช้ทากาซากิเป็นฉากหลักของเรื่อง สำหรับชมรมคนไร้เพื่อนนั้นมีฉากหลักอยู่ที่จังหวัดกิฟุ ส่วนยามะโนะสึสึเมะอยู่ในจังหวัดไซตามะเป็นหลัก
แต่ว่าหลังจากนั้นก็มีอนิเมะที่ใช้เมืองทากาซากิเป็นฉากหลักจริงๆออกฉายในปี 2024 ทำให้เกิดอยากไปเมืองนี้อีกทีเพื่อตามรอย
อนิเมะเรื่องนั้นก็คือ
นะนาเระฮานะนาเระ (
菜なれ
花なれ)

เรื่องนี้พวกตัวเอกใช้ชีวิตประจำวันอยู่ใน ๒ เมืองเป็นหลัก คือเมืองทากาซากิ และอีกเมืองคือ
เมืองนุมาตะ (
沼田市) ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีก นอกจากนี้ก็ยังมีเมืองอื่นอีกหลายแห่งในจังหวัดกุมมะที่ปรากฏมาสั้นๆ
ครั้งนี้เป้าหมายหลักไม่ใช่การมาเที่ยวตามรอย เพราะว่าไม่ได้มาคนเดียว ดังนั้นจึงไปแค่ที่หลักๆที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วไปแวะไปอยู่แล้ว และไม่ได้มาเล็งถ่ายภาพให้ตรงกับที่ปรากฏในฉาก การตามรอยจึงเหมือนเป็นแค่ของแถมเท่านั้น ไว้ถ้าเราอยากตามรอยอย่างจริงจังอาจจะค่อยแวะมาคนเดียวอีกที ถึงตอนนั้นคงไปถึงเมืองนุมาตะด้วย
สำหรับการเดินทางครั้งนี้เนื่องจากว่าครอบครัวพักอยู่โรงแรมในเมืองนาริตะใกล้สนามบิน ก็เลยนัดเจอกันที่
สถานีอุเอโนะ (
上野駅) ซึ่งเป็นปลายทางของรถไฟสายที่เชื่อมกับสนามบินนาริตะ และก็เป็นสถานีชิงกันเซงด้วย สำหรับชิงกันเซงที่จะไปทางเหนือสามารถขึ้นจากสถานีอุเอโนะได้เหมือนกัน
ดังนั้นก่อนอื่นเราต้องเดินทางไปยังสถานีอุเอโนะ ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีในการเดินทางจากเมืองยามาโตะจังหวัดคานางาวะที่อาศัยอยู่นี้
สำหรับเส้นทางที่เลือกไปคราวนี้นั้น ก่อนอื่นมาที่
สถานียามาโตะ (
大和駅) นั่งรถไฟสายโซวเทตสึซึ่งเชื่อมโดยตรงกับทางรถไฟของ JR มีปลายทางอยู่ที่สถานีชินจุกุ

นั่งยาวมาลงที่
สถานีนิชิโออิ (
西大井駅) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชินางาวะ เพื่อมาเปลี่ยนรถที่นี่

ที่จริงแล้วการเปลี่ยนรถที่นี่ไม่จำเป็นต้องออกมานอกสถานีก็ได้ แต่พอดีว่าอยากเข้าห้องน้ำ และห้องน้ำของสถานีนี้อยู่นอกที่ตรวจตั๋วเลยจำเป็นต้องออกมา ก็เลยถือโอกาสเดินดูรอบสถานีนิดหน่อย

มองไปยังรางรถไฟด้านบน ที่นี่มีรถไฟชิงกันเซงผ่านด้วย แต่ไม่ใช่สถานีที่จอด

มองดูบริเวณรอบๆหน้าสถานี


จากนั้นก็กลับเข้าสถานีมาเพื่อขึ้นรถไฟไปต่อ


ที่จริงแล้วตามแผนเดิมที่ควรคือน่าจะนั่งไปเปลี่ยนรถไปลงที่
สถานีชิมบาชิ (
新橋駅) แต่เราพลาดขึ้นรถไฟผิดสาย ก็เลยต้องไปลงที่
สถานีโอซากิ (
大崎駅) แทน ซึ่งจากสถานีนี้ก็ไปยังอุเอโนะได้เหมือนกันแต่ว่าใช้เวลามากกว่า เลยทำให้ต้องเสียเวลาเพิ่ม แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงทั้งหมดก็อยู่บนสายยามาโนเตะเหมือนกัน

การเปลี่ยนไปยังสายยามาโนเตะที่สถานีโอซากิต้องเดินภายในสถานีไกลอยู่เหมือนกัน



แล้วก็มาขึ้นรถไฟได้ ระหว่างทางก็มีผ่านสถานีโตเกียวเลยถ่ายภาพมานิดหน่อยแม้จะไม่ได้ลง

แล้วก็มาถึงสถานีอุเอดะ

เดินฝ่าฝูงชนออกจากสถานีไป

บรรยากาศหน้าสถานี แม้จะรู้สึกว่าสิ่งก่อสร้างสวยและมีสวนอยู่ข้างๆแต่ความแออัดของผู้คนก็ทำให้รู้สึกไม่น่าอยู่นัก

สถานีอุเอโนะนี้ที่จริงแล้วถ้าจะไปขึ้นรถไฟชิงกันเซงเราสามารถซื้อตั๋วจากด้านในได้โดยไม่ต้องออกมาก็ได้ แต่ว่าเนื่องจากต้องมารับครอบครัวที่เดินทางมาจากทางนาริตะซึ่งจะมาลงที่
สถานีเคย์เซย์อุเอโนะ (
京成上野駅) ซึ่งเป็นคนละสถานี อยู่ใกล้กันแต่ว่าไม่ได้เชื่อมกันโดยตรง ต้องเดินไปหน่อย

เนื่องจากยังมีเวลาก็เลยลองใช้เส้นทางเดินผ่านสวนอุเอโนะที่อยู่ข้างๆสักหน่อย



ภายในสวนนี้มี
หอศิลป์อุเอโนะโนะโมริ (
上野の
森美術館) แต่ว่าตอนที่ไปนี้กำลังปิดอยู่



เดินลงจากตรงนี้ไป


ก็เจอสถานีเคย์เซย์อุเอโนะอยู่ตรงนี้


เข้ามารอเจอตรงหน้าที่ตรวจตั๋วออกมาจากสถานี

พอออกมากันก็รีบเดินย้อนกลับไปยังสถานีอุเอโนะด้วยกัน

คราวนี้เข้าสถานีอุเอโนะจากด้านนี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีเคย์เซย์อุเอโนะมากกว่า ที่จริงถ้าตอนแรกเราออกมาจากทางนี้ก็จะเดินใกล้กว่ามาก แต่ตอนแรกที่ออกนั้นเป็นอีกฝั่งซึ่งอยู่ไกล ก็เลยทำให้ได้ไปเดินอ้อมผ่านสวนอุเอโนะ

เข้ามาซื้อตั๋วสำหรับขึ้นชิงกันเซงจากอุเอโนะไปยังสถานีทากาซากิ ราคาคนละ ๔๒๘๐ เยน เสร็จแล้วก็รีบเดินผ่านที่ตรวจตั๋วเข้าไป เข้ามาแล้วก็ยังต้องเดินอีกไกลพอสมควรจนเกือบจะตกรถไฟชิงกันเซงรอบ 10:47 ซึ่งถ้าพลาดก็จะทำให้ต้องรอต่อไปอีกนานถึงเวลา 11:10 เลย ยังดีที่ทัน


แล้วก็นั่งชิงกันเซงมาถึงทากาซากิเวลา 11:32

เทียบกับสถานีอุเอโนะแล้วสถานีนี้ถือว่าเล็กนิดเดียว เดินนิดหน่อยก็ออกมาจากสถานีได้แล้ว


ประตูทางออกประตูตะวันตกของสถานี ตรงนี้มีตุ๊กตาดารุมะตั้งอยู่ ๒ ตัว

โดยตัวทางซ้ายนี้มีปรากฏในอนิเมะนะนาเระฮานะนาเระ เราได้ถ่ายภาพเก็บมาด้วยเลยนำมาเทียบได้ ภาพนี้คือฉากแรกสุดของอนิเมะตอนที่ ๑ เลย มาถึงก็โผล่รูปปั้นดารุมะอันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองทากาซากิ


ฉากต่อมายังปรากฏภาพด้านหน้าสถานี แต่ว่าเสียดายที่เราไม่ได้ไปถ่ายมุมเดียวกับภาพนี้มาเลยไม่มีให้เทียบ

แต่ว่าในตอนที่ ๑๒ ตอนสุดท้ายนั้นมีฉากที่แสดงภาพสถานีจากมุมนี้ ซึ่งเราก็มีถ่ายมุมนี้ไว้ด้วยก็เลยเอามาเทียบได้


นอกจากนั้นแล้วในอนิเมะตอนที่ ๔ ก็มีฉากที่คุยกันอยู่บนทางลอยฟ้าหน้าสถานี แต่ว่าตำแหน่งที่ยืนเป็นคนละที่กับที่เราเดินผ่านเลยไม่สามารถนำภาพมาเทียบได้เลย

เพียงแต่ว่าลองดูดีๆแล้วก็จะเห็นว่าตึกที่อยู่ข้างหลังนี้เป็นตึกเดียวกัน ก็พอจะเทียบได้อยู่ แต่ถ้าจะให้เหมือนเราต้องไปถ่ายจากตรงทางลอยด้านหน้าตึกโน่น

จากนั้นก็เดินลงมาด้านล่าง

ตรงนี้มีภาพที่มองสถานีจากมุมด้านล่างซึ่งมาจากตอนที่ ๔ เหมือนกัน เรามีถ่ายมุมใกล้เคียงมาเลยพอเทียบได้


ก็จบการตามรอยในบริเวณสถานีแค่นี้ แต่ยังมีไปตามรอยในบริเวณอื่นอีกหลังจากนี้ ซึ่งไว้จะเล่าต่ออีกที ส่วนตอนนี้เราเดินห่างออกจากสถานีมาทางตะวันตกเพื่อหาอะไรมื้อเที่ยงกิน

บรรยากาศในเมืองดูสวยงามน่าเดินทีเดียว


เป้าหมายที่ตั้งใจมากินก็คือร้าน
โทริไป๋ทางอาวะราเมงทามากิ (
鶏白湯泡ramenたまき) ซึ่งมีเมนูหลักเป็นราเมงที่ทำจากซุปซี่โครงไก่สีขาว

ตอนที่เราเข้ามานั้นคนนั่งเต็มอยู่ทำให้ต้องมารออยู่สักพัก

ก่อนอื่นต้องจ่ายเงินและเลือกเมนูผ่านตู้ขายบัตร ราเมงร้านนี้ดูแล้วถือว่าค่อนข้างแพงอยู่ เมนูหลักราคา ๑๔๐๐ เยน

รอสักพักก็มีที่นั่ง ก็มานั่งรอสักพักราเมงที่สั่งก็มา ซุปขาวข้นเต็มชามแบบนี้

ลองกินแล้วก็อร่อยมากทีเดียว ไม่ผิดหวังกับที่อุตส่าห์รอ และกับราคาที่แพงนิดหน่อย

ตอนที่เรากินเสร็จแล้วเดินออกมานั้นเห็นคนมายืนรอกินอยู่จนล้นออกมาหน้าร้านเลย ดีแล้วที่เรายังถือว่ามาเร็วก่อนเที่ยงหน่อย ไม่งั้นคงเห็นแถวยาวแบบนี้แล้วก็คงต้องตัดใจไม่กินแล้วไปหาร้านอื่นแทน

ก็ขอตัดจบตอนเท่านี้ก่อน ตอนต่อไปจะออกห่างจากสถานีเดินทางไปเที่ยวสถานที่เที่ยวหลักสำคัญของเมืองนี้ต่อไป