φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ตามรอยกลาสลิปในเมืองมิกุนิ เมืองท่าเล็กๆและชายหาดริมฝั่งทะเลฟุกุอิ
เขียนเมื่อ 2018/11/17 23:47
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# พุธ 31 ต.ค. 2018

จากตอนที่แล้วที่ไปเที่ยวโทวจิมโบวมา https://phyblas.hinaboshi.com/20181112

เสร็จแล้วก็นั่งรถเมล์ต่อเข้ามายังตัวเมืองมิกุนิเพื่อจะเที่ยวในตัวเมืองต่อไป

เมืองมิกุนิ (三国町) เป็นเมืองท่าเล็กๆริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่สำคัญของจังหวัดฟุกุอิ คือท่าเรือมิกุนิ (三国港) หรือบางทีก็เรียกว่าท่าเรือฟุกุอิ (福井港) ตามชื่อจังหวัด

ปัจจุบันเมืองมิกุนิถูกยุบรวมเข้ากับเมืองข้างเคียงกลายเป็นเมืองซากาอิ (坂井市)

ที่สำคัญคือเมืองนี้เป็นฉากของอนิเมะเรื่องกลาสลิป (グラスリップ) ซึ่งฉายเมื่อปี 2014 เป็นอนิเมะสบายๆ



วลีเด็ดจากเรื่องกลาสลิปได้รวบรวมไว้ที่นี่ https://hinaboshi.com/anime/グラスリップ

ภายในอนิเมะใช้ชื่อเมืองว่าฮิโนเดะฮามะ (日乃出浜) แต่ว่าภาพสถานที่ต่างๆที่ปรากฏในเรื่องตรงกับสถานี่ในเมืองมิกุนิแทบจะพอดี แค่อาจมีเปลี่ยนชื่อต่างๆไป

ภาพแถวๆย่านท่าเรือของเมืองมิกุนิที่ปรากฏในอนิเมะ ถ่ายจากมุมสูง



ภายในเรื่องไม่ได้มีตรงไหนที่พูดถึงว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ไหน แต่มีปรากฏพยากรณ์อากาศในตอนสุดท้ายขึ้นรูปจังหวัดฟุกุอิ



สมัยที่ได้ดูเรื่องนี้แล้วได้เห็นบรรยากาศและวิถีชีวิตของเมืองนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่าอยากมาสัมผัสด้วยตัวเองให้ได้

เมืองนี้เป็นเป้าหมายหลักที่แท้จริงในการมาเที่ยวจังหวัดฟุกุอิครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะดูอนิเมะเรื่องนี้ก็คงไม่ตัดสินใจกลับมาเที่ยวจังหวัดที่เคยเที่ยวแล้วซ้ำ เรียกได้ว่าแผนเที่ยวฟุกุอิหนึ่งวันนี้เกิดขึ้นเพราะตอนแรกตั้งใจจะมาเมืองนี้ ทั้งโทวจิมโบวและโอชิมะก็เหมือนเป็นแค่ของแถม

เรียกได้ว่าอนิเมะได้วาดภาพบรรยากาศของเมืองมิกุนิออกมาได้น่าหลงใหลดึงดูดให้คนมาเที่ยวได้มากจริงๆ



เรานั่งรถเมล์จากโทวจิมโบวมาลงที่สถานีมิกุนิมินาโตะ (三国港駅) คำว่ามินาโตะแปลว่าท่าเรือ เพราะแถวนี้เป็นย่านที่เรือของเมืองนี้ ที่นี่เป็นสถานีสุดปลายสายมิกุนิอาวาระ (三国芦原線) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองนี้กับเมืองฟุกุอิ ถ้าเดินทางจากฟุกุอิมาที่นี่จะใช้เวลาราวๆ ๔๕ นาที



เวลาขณะที่ถึงคือ 11:30 และมีรถเมล์สำหรับเดินทางกลับจากที่นี่ตอนเวลา 13:40 ตั้งใจจะขึ้นรถเมล์รอบนั้นเพื่อจะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่นต่อ ดังนั้นจึงมีเวลาเดินชมเมืองเพียง ๒ ชั่วโมงกว่า ซึ่งถือว่าไม่ค่อยพอนัก จึงได้แค่เดินบางส่วน แล้วก็ไม่มีแม่้แต่เวลาที่จะแวะกินข้าวเที่ยง

ที่เมืองมิกุนิมีสถานีรถไฟอยู่ ๔ สถานี สถานีถัดไปอีก ๓ สถานีคือ สถานีมิกุนิ (三国駅), สถานีมิกุนิจินจะ (三国神社駅) และ สถานีมิซึอิ (水居駅)

การเดินทางมาที่นี่อาจมาจากฟุกุอิโดยทางรถไฟสายนี้ก็ได้ แต่ถ้ามาจากฝั่งอิชิกาวะนั่งรถไฟลงที่สถานีอาวาระอนเซงแล้วต่อรถเมล์มาที่นี่เลยจะเร็วกว่าที่จะต้องเลยไปถึงเมืองฟุกุอิแล้วค่อยย้อนมา

สถานีมิกุนิมินาโตะนี้อยู่ในย่านท่าเรือทางตะวันตกสุดของเมือง ในขณะที่สถานีมิกุนิ (ไม่มีคำต่อท้าย) คือสถานีที่อยู่ใจกลางเมืองมากกว่า แต่ว่าในอนิเมะเลือกใช้สถานีมิกุนิมินาโตะเป็นสถานีหลักที่พวกตัวละครหลักใช้ขึ้นรถไฟเพื่อไปมา

เทียบรูปสถานีนี้ที่ไปถ่ายมาจริงกับฉากที่ปรากฏในเรื่อง







รถไฟที่วิ่งในสายนี้ก็หน้าตาเหมือนของจริงเลย




เนื่องจากเป็นสถานีปลายทางจึงมักมีรถไฟมาจอดค้างรอเวลาออกวิ่งรอบถัดไป

ฉากรถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์ตรงสถานีนี้ก็ปรากฏบ่อยมาก




นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฉากที่อยู่ในมุมที่ต้องถ่ายจากด้านในสถานี แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะไม่ได้ขึ้นรถไฟที่นี่ เลยถ่ายจากมุมที่ต่างไป




ส่วนอันนี้เป็นป้ายสถานี ปรากฏในตอนที่ ๑๒ ดูแล้วหน้าตาไม่เหมือนกันเลย และจะเห็นว่าชื่อสถานีถูกเปลี่ยนเป็น สถานีฮิโนเดะฮามะมินาโตะ (日乃出浜港駅) ตามชื่อเมือง






ดูบริเวณสถานีเสร็จก็เดินต่อมาทางตะวันตก เลียบชายฝั่งไป





ชายฝั่งตรงนี้เป็นอ่าว มองไปเห็นอีกฝั่ง



ทำนบยาวสำหรับกั้นปกป้องชายฝั่งบริเวณท่าเรือนี้ก็ปรากฏในอนิเมะด้วย ที่นี่มีชื่อว่าทำนบเอสเชอร์ (エッセル堤) สร้างในปี 1880 ออกแบบโดยจอร์จ อาร์โนลด์ เอสเชอร์ (George Arnold Escher) ชาวฮอลันดา



ภาพในอนิเมะ ภาพนี้จะถ่ายได้ต้องเดินไปไกลแล้วมองกลับมาทางชายฝั่ง



เราได้ลองเดินไปตามแนวนี้ดู ที่จริงอยากเดินไปต่อให้ถึงตรงที่มีประภาคาร เพื่อจะได้มองมุมเดียวกับที่ปรากฏในอนิเมะ แต่พอเห็นคลื่นที่ซัดขึ้นสูงจนข้ามเขื่อนมาก็รู้แล้วว่าถ้าจะเดินผ่านตรงนี้ไปต้องเปียกแน่นอน จึงต้องตัดใจ




ก่อนจะกลับก็ได้มองกลับมายังชายฝั่ง เห็นย่านตัวเมือง



พอลองขยายภาพดูก็เห็นเห็นมิกุนิริวโชวกัง (みくに龍翔館) ตั้งเด่นอยู่ด้านบน อาคารนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง



อาคารนี้ปรากฏในอนิเมะด้วยโดยถือเป็นฉากสำคัญ พวกตัวเอกนัดมาเจอกันที่นี่บ่อย แต่ในเรื่องใช้ชื่อว่าคิริงกัง (麒麟館)

อันนี้เป็นภาพจากอนิเมะซึ่งคาดว่าน่าจะมองจากบริเวณเขื่อนนี้กลับมายังตัวเมืองแล้วขยายมายังบริเวณริวโชวกัง แต่จะเห็นภาพแบบนี้ได้ต้องเดินไปไกลกว่านี้



มองออกไปเห็นสภาพคลื่นลมแรงนัก เกลียวคลื่นยังกระทบฝั่งเป็นอาจินต์~♪♫



ขยายตรงประภาคาร



ภาพจากตอน ๕ ที่โทวโกะโทรศัพท์หาคาเกรุ






ถัดจากทำนบนี้เป็นหาดทราย เรียกว่ามิกุนิซันเซ็ตบีช (三国サンセットビーチ) ปรากฏในอนิเมะเช่นกัน บรรยากาศดูเงียบสงบเพราะไม่ใช่ฤดูที่จะมีใครมาเที่ยวทะเลเล่นน้ำ



เทียบภาพกับในอนิเมะ ตอน ๕ มุมไม่ตรงกัน จริงๆควรถอยออกไปไกลกว่านี้




ตอน ๑๐ อันนี้ก็ได้แค่มุมพอใกล้เคียง




เดินกลับออกมาจากบริเวณชายหาดกลับเข้าตัวเมือง แล้วไปทางเหนือต่ออีกนิดเพื่อจะไปยังสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ใช้เป็นฉากในอนิเมะ คือศาลเจ้าฮากุซัง (白山神社) เป็นที่ที่ปรากฏในอนิเมะหลายครั้ง






หน้าบันไดทางเดินขึ้นสู่ศาลเจ้า



เดินขึ้นมาถึงหน้าศาลเจ้า



เทียบกับภาพที่ปรากฏในเพลงเปิด เป็นคนละมุมกัน ได้แค่ใกล้เคียง



ลองเทียบภาพฉากต่างๆในบริเวณศาลเจ้าดู เริ่มจากภาพในฉากเพลงจบ บันไดทางขึ้นไปยังศาลเจ้า



ภาพจากตอน ๑ ช่วงเริ่มต้นที่มีงานเทศกาลดอกไม้ไฟ




มุมนี้พยายามยังไงก็ยากจะให้เหมือนพอดีเพราะต้องมองจากมุมต่ำกว่า




ส่วนภาพนี้ยิ่งแล้วใหญ่ มองจากมุมสูง ยังไงก็คงไปถ่ายไม่ได้



ภาพขณะที่คาเกรุเดินขึ้นมา










ภาพจากตอน ๕ ที่คาเกรุคุยกับยานางิ







โทวโกะเดินผ่านจากด้านบน แต่กลับไม่เห็นสองคนนี้




ตอนที่ ๖ ที่คาเกรุคุยกับยุกิหน้าศาลเจ้า







เสร็จแล้วก็ต่อยกันตรงนี้ แต่ว่ามุมนี้ไม่ได้ถ่ายมา



หลังจากโดนต่อยก็มาเจอกับโทวโกะ
















ตอน ๑๐ คาเกรุมากับซาจิ







ใช้เวลาไปพอสมควรกับที่นี่ ทำให้ได้ภาพในมุมต่างๆที่เปรียบเทียบออกมาค่อนข้างตรงหลายภาพ

ทิวทัศน์ที่มองลงมาจากศาลเจ้า





หลังจากเทียบฉากที่ศาลเจ้าเสร็จก็เดินเลียบริมทะเลย้อนกลับตามทางเดิมเรื่อยๆ





จนมาถึงแถวบริเวณท่าเรือฝนก็ซัดสาดลงมาอย่างหนัก



ทำให้ต้องหลบฝนชั่วคราวตรงนี้ ดูเหมือนจะเป็นโกดังว่างๆ



แต่เรามีเวลาไม่มากนัก จึงพักครู่เดียวก็กางร่มออกลุยต่อท่ามกลางสายฝนแม้จะลำบากก็ตาม

บริเวณท่าเรือนี้เองก็มีปรากฏอยู่ในอนิเมะด้วย ตอนเดินก็พยายามเทียบภาพแล้วถ่ายฉากที่ใกล้เคียง แต่ฝนตกทำให้ต้องรีบ อีกทั้งมีจุดที่คล้ายๆกันเยอะ จึงไม่ได้หาจุดที่พอดีนัก







ในเพลงเปิด






เดินเลียบชายฝั่งไปสักพักจากนั้นก็เดินเข้าย่านที่อยู่อาศัย แต่ระหว่างที่อยู่ตรงนี้กล้องก็อยู่ในสภาพเปียกฝนจนทำให้ภาพเบลอไปหมด แต่ก็สวยไปอีกแบบ











ภาพกลางย่านที่อยู่อาศัยในเมืองแถวๆนี้ถูกใช้ในอนิเมะด้วย แต่ตอนที่เดินผ่านๆก็รีบๆเพราะต้องฝ่าฝนจึงไม่ได้ลองเปิดภาพเทียบเพื่อหาฉากที่ตรงกัน

ตัวอย่างภาพที่ปรากฏในเรื่อง ถ้าตั้งใจหาจริงๆก็คงจะเจอ มาจากของจริงทั้งนั้น








เดินต่อมาก็เจอจุดที่สามารถเห็นริวโชวกังได้ชัด นี่เป็นเป้าหมายต่อไปที่จะไป



ลองเทียบกับภาพที่ปรากฏในอนิเมะ ภาพนี้มาจากตอน ๒



ก่อนอื่นต้องเดินผ่านไปทางสถานีมิกุนิแล้วข้ามรางรถไฟไป





ถึงหน้าสถานีมิกุนิ



บันไดข้ามรางรถไฟตรงสถานี



แต่เราไม่ได้ข้ามทางบันไดแต่เดินเลยมาหน่อยเจอจุดข้ามทางเล็กๆตรงนี้



ข้ามฝั่งมาด้านเหนือ



มองตัวสถานีจากฝั่งนี้




ทุ่งดอกไม้ข้างสถานี




ตรงนี้เป็นทางข้ามทางรถไฟที่ปรากฏในอนิเมะ แต่ตอนที่มาถึงไม่รู้เลยไม่ได้ถ่ายเทียบภาพ



ภาพที่ปรากฏในอนิเมะมองจากคนละฝั่ง



หันไปฝั่งเดียวกับภาพในอนิเมะก็จะเห็นอาคารแบบเดียวกัน เพียงแต่เรามองจากฝั่งเดียวกันจึงไม่เห็นจุดข้ามรางรถไฟ



ถนนสายนี้มุ่งไปสู่ริวโชวกัง






มองกลับมาเห็นฉากที่ตรงกับที่ปรากฏในอนิเมะด้วย




ภาพริวโชวกังท่ามกลางสายฝน บังเอิญฝนก็ตกอยู่ด้วย ตลอดทั้งเรื่องนี้มีฝนตกแค่ครั้งเดียวคือในฉากนี้ น่าเสียดายที่หามุมที่ตรงกันเป๊ะไม่ได้ สถานที่ตรงนี้น่าจะถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว




บริเวณรอบๆริวโชวกัง





ภายในบริเวณสวนรอบริวโชวกัง




มาถึงที่แล้วจึงได้รู้ว่าที่นี่กำลังปิดอยู่ จริงๆแล้วก็คือที่นี่ปิดวันพุธ ซึ่งต่างจากพิพิธภัณฑ์ทั่วไปที่ปิดวันจันทร์ ก็เลยไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า แต่ก็ไม่ถือว่าโชคร้ายนัก เพราะเดิมทีกว่าจะเดินมาถึงที่ก็เหลือเวลาไม่พอที่จะเข้าไปชมด้านในแล้ว หากเข้าชมในนี้ก็คงต้องตกรถเมล์รอบที่ตั้งใจจะขึ้น






การเที่ยวชมฉากของอนิเมะก็จบลงเพียงเท่านี้ ที่จริงยังขาดอยู่อีกหลายจุดที่อยากไป แต่ไม่มีเวลาแล้ว ได้เวลาที่จะต้องเดินทางออกจากเมืองนี้เพื่อไปยังที่หมายต่อไปแล้ว

รถเมล์ที่ต้องการนั่งเพื่อไปนั้นมีต้นทางอยู่ที่ป้ายหน้าโรงแรมท่องเที่ยวมิกุนิ (三国観光ホテル前)

ดังนั้นเราจึงเดินตามหาโรงแรมท่องเที่ยวมิกุนิ (三国観光ホテル) ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับริวโชวกัง ห่างออกไปหน่อย



แต่พอเจอโรงแรมที่ว่านั่นแล้วก็กลับหาป้ายรถเมล์ไม่เจอ




หาไปหามาก็มาพบว่าจริงๆรถเมล์จอดอยู่หน้าทางเข้าริวโชวกัง ป้ายรถเมล์อยู่หน้าริวโชวกังทั้งๆที่ชื่อว่าป้ายหน้าโรงแรมท่องเที่ยวมิกุนิ จริงๆน่าจะเปลี่ยนชื่อ




ตอนที่ไปถึงนั้นคนขับยืนอยู่หน้ารถ เตรียมจะขับออกไปเมื่อถึงเวลา เมื่อขึ้นไปบนรถก็ไม่เห็นผู้โดยสารคนอื่น แม้นี่จะเป็นต้นทางแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่จุดที่คนนิยมขึ้น รอสักพักรถก็ออกตามเวลา พอรถผ่านหน้าสถานีมิกุนิจึงเริ่มมีคนขึ้นมา



รถค่อยๆแล่นออกจากเมืองมิกุนิ มุ่งหน้าย้อนพาเรากลับไปยังเป้าหมายต่อไป คือปราสาทมารุโอกะ (丸岡城) https://phyblas.hinaboshi.com/20181119



โดยรวมแล้วก็ประทับใจกับการได้เที่ยวชมเมืองครั้งนี้ไม่น้อย มิกุนิเป็นเมืองที่สวยงาม ตลอดสองชั่วโมงที่ได้ชมเมืองไปหมกมุ่นกับการถ่ายภาพและเทียบกับในอนิเมะไปนั้นหมดลงอย่างรวดเร็วมาก

การได้เดินในเมืองที่ไม่เคยรู้จักคุ้นเคยมาก่อนนั้นเป็นเรื่องสนุก ยิ่งถ้าเป็นที่ที่เป็นฉากของอนิเมะแล้วยิ่งเหมือนมาเดินในแดนศักดิ์สิทธิ์

สายฝนที่กระหน่ำลงมาก็เป็นอุปสรรคในการเที่ยวไปบ้าง ไม่เช่นนั้นคงประหยัดเวลาได้มากขึ้น เห็นอะไรได้มากขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้นสายฝนเองก็ช่วยเติมรสชาติให้กับการเดินทางครั้งนี้ไม่น้อย คงกลายเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนเลยทีเดียว



------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "กลาสลิป" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "
กลาสลิป"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「グラスリップ」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて
ラスリップの製作者に帰属します。



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ตามรอย
-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฟุกุอิ
-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> ศาลเจ้า
-- ท่องเที่ยว >> ทะเล

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文