ตำแหน่งเขตคิตะในโตเกียว แสดงด้วยสีม่วงเข้ม
ร้านตั้งอยู่ระหว่าง
สถานีทาบาตะ (田端駅) กับ
สถานีนิชินิปโปริ (西日暮里駅) แต่จากสถานีทาบาตะดูจะใกล้กว่าหน่อย เราจึงเลือกไปลงสถานีทาบาตะ
เส้นทางเดินทางเป็นไปตามนี้ คือนั่งรถเมล์จากหน้าหอดูดาวแห่งชาติไปลงที่สถานีมิตากะ แล้วก็นั่งรถไฟจากมิตากะไปตาม
สายจูโอว (中央線) ไปลงที่สถานีชินจุกุแล้วต่อไปตาม
สายยามาโนเตะ (山手線) ไปยังสถานีทาบาตะ
แต่พอจะออกเดินทางจริงกลับขึ้นรถเมล์ผิด ไปขึ้นรถเมล์สายที่จะมุ่งหน้าไปยัง
สถานีมุซาชิโคงาเนอิ (武蔵小金井駅) ที่อยู่ใน
เมืองโคงาเนอิ (小金井市)เมืองโคงาเนอิเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองมิตากะและเมืองมุซาชิโนะ สถานีมุซาชิโคงาเนอิอยู่ห่างจากสถานีมิตากะไปทางตะวันตก ๓ สถานี ทำให้เสียเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้น และค่ารถก็แพงขึ้นเล็กน้อยด้วย
สีชมพูเข้มแสดงตำแหน่งของเมืองโคงาเนอิในจังหวัดโตเกียว
รถเมล์ที่นี่บางทีแม้จะเลขเหมือนกันแต่ก็ไปคนละที่ บางทีก็ต้องระวังให้ดี
สถานีโคงาเนอิ
เปลี่ยนรถที่สถานีชินจุกุ
แล้วก็ต่อสายยามาโนเตะ มาถึงสถานีทาบาตะ
ระหว่างทางเดินไปยังร้านที่เป็นเป้าหมาย
ถึงที่หมายแล้ว หน้าร้านเป็นแบบนี้
เข้าไปภายในร้าน ดูแล้วตกแต่งตามแบบมองโกล เปิดเพลงมองโกล พนักงานในร้านพูดคุยกันเป็นภาษามองโกล น่าจะเป็นคนมองโกล แต่ก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ดี
อาหารที่สั่งไปครั้งนี้มีทั้งหมด ๔ อย่าง
อย่างแรก
โชยวัง (цуйван, ツイウァン) บะหมี่เนื้อแกะ ๘๘๐ เยน
อย่างต่อมา
โบซ (бууз, ボーズ) เกี๊ยวเนื้อแกะ ๘๕๐ เยน
ดูเนื้อแกะด้านใน
แล้วก็
นอกอทอย ชล (ногоотой шөл, 肉野菜スープ) แกงผักเนื้อวัว ๘๐๐ เยน
ถ่ายรวมทั้ง ๓ อย่าง
อาหารอย่างสุดท้าย
เทฟเทล (тефтель, テフテール) ข้าวก้อนเนื้อแกะ ๘๘๐ เยน อันนี้มาช้าสุดตอนที่กินอย่างอื่นไปจะหมดแล้ว
ใบเสร็จก็ถูกเขียนเป็นภาษามองโกล อ่านไม่ออก ราคารวม ๓๔๑๐ แต่บวกภาษีอีก ๘% ด้วย ก็กลายเป็น ๓๖๘๒ เยน หารกัน ๒ คนก็เป็นคนละ ๑๘๔๑ เยน ถือว่าแพงทีเดียว แต่ก็ถือว่าได้มาลองของแปลก
ที่จริงนอกจากร้านอาหารมองโกลแล้วยังมีร้านอาหารชาติอื่นๆแปลกๆอยู่อีกหลายชาติอยู่ในโตเกียว ซึ่งจะยิ่งแพงกว่านี้อีก
กินเสร็จก็กลับไปที่สถานีทาบาตะ เพื่อจะไปเดินแถวอิเกบุกุโระ โดยขึ้นรถไฟสายยามาโนเตะไปลงที่
สถานีอิเกบุกุโระ (池袋駅)แต่ตอนที่ขึ้นรถไฟเผลอขึ้นผิดทาง ทำให้ต้องไปลงที่สถานีถัดไปคือนิชินิปโปริ แล้วจึงค่อยขึ้นรถไฟย้อนกลับมาอีกที
ในที่สุดจึงมาถึงอิเกบุกุโระได้
เป้าหมายที่มาที่นี่ก็คือตั้งใจมาเดินดูหนังสือที่
ร้านหนังสือจุงกุโดว (ジュンク堂書店) ซึ่งเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่เป็นตึกหลายชั้น
ร้านมีทั้งหมด ๑๐ ชั้น ชั้น ๑-๙ และมีชั้นใต้ดิน ป้ายหน้าร้านบอกว่าชั้นไหนมีหนังสือประเภทไหนบ้าง
ตอนที่เรามาถึงนั้นเป็นเวลา 21:30 แล้ว แต่ร้านปิด 22:00 หมายความว่ามีเวลาดูแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ต้องรีบพอสมควร
ที่จริงมีหนังสือที่เล็งไว้แล้ว คือหนังสือหมวดภาษา อยู่ชั้น ๘
หนังสือภาษาต่างประเทศทั้งหลายถูกวางขายอยู่เต็มหลายชั้น
ตรงแถบนี้เป็นภาษาทางยุโรปต่างๆมากมายที่หาคนเรียนยาก เช่น ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ฮอลันดา เช็ก โรมาเนีย ยูเครน เบลารุส ฯลฯ
ส่วนตรงนี้เป็นพวกภาษาทางเอเชีย มีมากมาย
สำหรับหนังสือเรียนภาษาไทย วางเต็มทั้งชั้นหนังสือ
นี่เป็นหนังสือเรียนภาษามองโกลในจุดหนังสือนิวเอ็กซ์เพรส (ニューエクスプレス)
หนังสือชุดนี้เป็นหนังสือเรียนพื้นฐานภาษาต่างๆมากมายซึ่งรวมไปถึงภาษาที่หาเรียนยากด้วย ดูรายชื่อต่างๆได้ที่นี่
https://www.hakusuisha.co.jp/search/s6990.htmlส่วนนี่เป็นหนังสือเรียนภาษาทิเบตจากหนังสือชุดเดียวกัน ราคา ๓๒๐๐ เยน บวกภาษีไปด้วย ๘% กลายเป็น ๓๔๕๖ เยน เลขสวย
สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อหนังสือภาษาทิเบตเล่มนี้ไป เพราะว่าสนใจภาษานี้อยู่แล้วด้วยความที่มีตัวอักษรที่สวยโดดเด่น เล่มนี้มีสอนตั้งแต่การอ่านตัวอักษรไปจนถึงไวยากรณ์เบื้องต้น
เท่าที่ลองเอามาอ่านดูคร่าวๆแล้วถือว่าดีทีเดียว เริ่มจากสอนอ่านตัวอักษร แล้วก็ตามด้วยประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นตัวอย่าง ในเล่มมีแถมซีดีเพื่อฟังการอ่านออกเสียงด้วย
หนังสือแต่ละภาษาในชุดนี้จะราคาไม่ค่อยเท่ากัน จะถูกหรือแพงน่าจะขึ้นอยู่กับความนิยมของภาษา ภาษาที่คนเรียนเยอะมีแนวโน้มจะราคาถูกกว่า สำหรับภาษาทิเบตและมองโกลนี้ค่อนข้างแพงเพราะไม่ค่อยมีคนเรียน
ซื้อเสร็จก็ลงมาดูที่ชั้น ๗ ดูหนังสือดาราศาสตร์สักหน่อย ดูแล้วมีมากทีเดียว แต่ก็ได้แค่ดูผ่านๆแป๊บเดียวเพราะร้านจะปิดแล้ว
จากนั้นเดินกลับไปยังสถานีอิเกบุกุโระเพื่อขึ้นรถไฟไปลงที่สถานีชินจุกุเพื่อต่อรถไฟไปยังสถานีฟุจูเพื่อกลับโรงแรม
กลับถึงสถานีฟุจูตอน 22:56
เดินจากสถานีกลับไปยังโรงแรมธุรกิจซันไลต์ (ビジネスホテルサンライト) ที่เป็นโรงแรมที่จองไว้
เมื่อเช้าได้เข้ามาแล้วแค่ก่อนถึงเวลาเช็กอินจึงได้แค่ฝากของ แต่คราวนี้จึงได้เข้าห้อง
สภาพในห้อง ถ่ายไว้ก่อนเข้าพัก ดูแล้วดีทีเดียว
จบวันแรกในญี่ปุ่นครั้งนี้ลงเท่านี้ เป็นวันที่ใช้เวลาเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ วันรุ่งขึ้นจึงจะเริ่มจุดประสงค์ที่แท้จริงที่มาที่นี่ในครั้งนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20190316